รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 789 ฟ้าผ่า
บทที่ 789 ฟ้าผ่า
เหรินอู๋ซ่างมั่นใจมากว่าหมัดนี้จะสามารถเอาชนะฉินหลั่งได้อย่างแน่นอน ลมปราณมังกรยาวครึ่งเมตร หัวมังกรยาวครึ่งเมตร ภายในหนึ่งเมตร พลังจะถูกทบขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีที่ว่าง ทำให้ความเร็วช้าลงได้ ก็ขวางพลังของหมัดเขาไว้ไม่อยู่
แต่สิ่งที่ทำให้เหรินอู๋ซ่างไม่คาดคิดเลยก็คือ ตอนที่หมัดทั้งสองปะทะกันนั้น ในหมัดของฉินหลั่งเกิดหลุมดำขนาดใหญ่ขึ้น
ในหลุมดำนั้น มีละอองจับตัวกันอยู่ เมื่อลมปราณมังกรของเหรินอู๋ซ่างพ่นเข้าไป เหมือนกับโยนกระดาษที่ไม่ใช่แล้วลงในถังขยะ ถูกละอองเล็กๆเหล่านั้นทำให้แตกกระจาย ละลาย จากนั้นก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของหลุมดำไป
จากลมปราณมังกร ถึงหัวมังกร มีระยะทางครึ่งเมตร หลุมดำของหมัดฉินหลั่งเหมือนไม่หยุดกลืนกินทุกอย่าง ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ ที่จะไม่โดนหลุมดำสลาย
รอให้หัวมังกรนั้นมาถีง หลุมดำของหมัดฉินหลั่งก็ใหญ่ขึ้นหลายเท่าตัว เดิมทีรอบๆมีความเร็วที่ช้า จากการเปลี่ยนแปลงของหลุมดำนั้น ทันใดนั้นก็ความเร็วก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นอย่างมาก ความช้าและความเร็วปะทะกัน หมัดของเหรินอู๋ซ่างถูกหลุมดำบนหมัดของฉินหลั่งดูดเข้าไปทันใดอย่างไม่ทันตั้งตัว
‘ปัง……’
เดิมทีทุกคนคิดว่าจะเอาหมัดมังกรโมโหของเหรินอู๋ซ่างไม่อยู่ แต่กลับไม่นึกเลยว่าการโจมตีของเหรินอู๋ซ่างที่ดูเหมือนแข็งแกร่งจะกลายเป็นอ่อนได้ขนาดนี้ มังกรยักษ์หนึ่งตัว ถูกกลืนเข้าไปในหลุมดำของฉินหลั่งอย่างไม่เหลือซาก
ตอนที่มือของเหรินอู๋ซ่างถูกดูดเข้าไปในหลุมดำของฉินหลั่งนั้น เหรินอู๋ซ่างอยากดึงมือออกแต่ก็สายไปเสียแล้ว เขารับรู้ได้ถึงพลังในการดูดของหลุมดำนั้นว่ารุนแรงขนาดไหน ราวกับจะดูดตัวเขาทั้งตัวเข้าไปแล้ว
นี่เป็นพลังของจักรวาล!
ก็แค่มังกรตัวเล็กเท่านั้น จะเทียบกับพลังงานของจักรวาลได้อย่างไรกัน?
เหรินอู๋ซ่างรู้สึกสิ้นหวัง ในความสิ้นหวัง เขาก็ยังเกรี้ยวกราด ไม่ยอมแพ้
ในฐานะที่เป็นนักรบระดับเทพ จะยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้ได้ไงกัน?
“ฉันจะปล่อยพลัง! ความโมโหจากมังกร!”
ในความโกรธแค้นของเหรินอู๋ซ่าง เกล็ดทั้งหมดที่อยู่บนตัวของเขาทันใดนั้นก็เป็นกระสุน พุ่งไประเบิดรอบๆ เกล็ดจำนวนนับไม่ถ้วนของมังกรได้ระเบิดดังสนั่น ราวกับเสียงดังของประทัดพันนัด
“แม้จะแพ้ แต่ฉันก็จะพินาศไปกับแก!”
เหรินอู๋ซ่างพลีชีพปล่อยพลัง เพียงพอที่จะทำลายล้างได้ทั้งหมดแล้ว ถ้าเป็นนักรบระดับเทพธรรมดา เกรงว่าจะต้องรีบหลบหลีกการจู๋โจมแบบนี้
แต่ฉินหลั่งไม่ใช่นักรบระดับเทพอะไร เผชิญหน้ากับการโจมตีที่พลีชีพของเหรินอู๋ซ่าง ฉินหลั่งพลิกมือ แล้วกล่าว “ในเมื่อใกล้จะรุ่งเช้า มีเพียงความมืด ไม่มีแสงสว่างได้ไงกัน?”
พูดพลาง มือของฉินหลั่งก็ขยับไปมา บนท้องฟ้า จากการขยับมือไปมาของฉินหลั่งเดิมที่เป็นค่ำคืนที่มืดมิดอย่างมืดสนิท คืนที่มืดสนิทราวกับได้ถูกปกคลุมไว้ด้วยกระดาษ แล้วถูกเปิดออกอย่างช้าๆ ม้วนขึ้นไป สุดท้ายก็กลายเป็นซาก!
แว็บเดียว สว่างจ้า!
“พระเจ้า! เช้าแล้ว!”
“เชด พระอาทิตย์ดวงโตๆเลยนะนั่น!”
“แม่ง ทำแบบนี้ได้ด้วยหรอวะ? ยังเป็นคนอยู่มั้ยเนี่ย?”
คนจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ด้านล่างเห็นแสงสว่างจ้าก็รีบหลับตา แต่พวกเขายอมที่จะน้ำตาไหลแล้วเงยหน้ามอง ไม่ยอมที่จะพลาดเหตุการณ์พิเศษและช็อกครั้งนี้ได้
ในมือของฉินหลั่ง เดิมทีหลุมดำสีดำทันใดนั้นสว่างจ้า กลายเป็นสิ่งลานตาที่สว่างไสว
หมัดของเขา เกิดเป็นแรงต้านขนาดใหญ่ เอาหมัดของเหรินอู๋ซ่างที่เพิ่งปล่อยไปคายออกมา พลังนี้แข็งแกร่งมาก เหมือนกับแรงพัดของพัดลมตัวใหญ่กำลังพัดอยู่ แต่เหรินอู๋ซ่างเผชิญหน้ากับพลังมหาศาลของการโจมตีนี้ กลับเหมือนฉีกกระดาษต่อหน้าพัดลมตัวใหญ่ สุดท้ายผลลัพธ์คือ เกล็ดมังกรมากมายเหล่านี้กลับไปยังเหรินอู๋ซ่าง แต่ตอนออกมามันถูกปล่อยออกมาเอง และตอนกลับไปนั้นถูกบีบให้ปักเข้าไปในร่างกายของเขา!
‘ปู้ปู้ปู้ปู้……’
เกล็ดมังกรจำนวนนับไม่ถ้วนปักเข้าไปในร่างของเหรินอู๋ซ่าง หลังจากที่เหรินอู๋ซ่างรวมกับมังกรแล้วถือว่าเป็นร่างที่กำยำถูกเจาะด้วยเกล็ดมังกรที่มากมายเหล่านี้ เหมือนลูกบอลที่ถูกปล่อยลมออก แว็บเดียวก็ห่อเหี่ยว
พลังการโจมตีของเกล็ดมังกรนี้มหาศาล ปักเข้ากับร่างของเหรินอู๋ซ่าง จนลอยไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เหรินอู๋ซ่างหล่นลงจากป้อมไฟ แทบจะเป็นครั้งที่แย่ที่สุด เขาตกลงมาจากกำแพงโบราณที่สูงราวร้อยเมตร ร่วงไปในป่าใหญ่ เป็นตายร้ายดีอย่างไรไม่มีใครรู้
“หมดกัน หมดกัน!”
อาจารย์ของตระกูลเหรินแพ้แล้ว!
“เชด น่ากลัวจัง นี่มันชกต่อยกันที่ไหน นี่มันเป็นการต่อสู้จองเทพเซียน นี่มันเป็นนักขอฝนในโบราณกาล เทียบกับสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ยังห่างกันอีกมาก!”
“ฉินหนานจงชนะเหรินอู๋ซ่าง งั้นตระกูลเหรินก็โชคร้ายแล้วนะสิ?”
เมืองหลวงนี่ กำลังจะผลัดมือแล้ว!”
คนนับไม่ถ้วนเริ่มถกเถียงกัน แต่ตระกูลเหรินกำลังตกอยู่ในสภาวะที่เหมือนบิดามารดาเสียชีวิต จึงไม่มีอารมณ์พูดคุยกับพวกเขา
“เหรินอู๋ซ่างตายแล้วหรอ?”
“เป็นไปไม่ได้? บรรพบุรุษเป็นอมตะ จะตายได้ไงกัน?”
“ลองไปดูมั้ย?”
ทุกคนของตระกูลเหรินเริ่มถกเถียงกันด้วยเสียงเบาๆ
เย่จื่อเหยาหน้าซีด ผมสีเงินที่ดูๆแล้วราคาแพง แต่สีหน้ากลับดุร้าย
“นางมารเหรินหรงหรงอยุ่ไหน? มันต้องอยู่ใกล้ๆนี้แน่นอน ไป ไปจับมันมา ท่านอาจารย์อู๋ซ่างไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินหนานจง เพียงแค่จับเหรินหรงหรงมา ฉินหนานจงก็ไม่กล้าทำอะไรแล้ว!”
นัยน์ตาเย่จื่อเหยาเคียดแค้น ปักไม้เท้าที่อยู่ในมืออย่างกัดฟันเคียดแค้นแล้วกล่าว
“อยากจะฆ่าฉินหนานจงจริงๆมั้ย?”
ผู้เฒ่าชราข้างๆ เย่จื่อเหยาไอออกมา แล้วกล่าวอย่างเสียงต่ำ
เย่จื่อเหยายิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “มีการหลอกกันไปมาระหว่างตระกูลใหญ่ ฉันไม่ทำแบบนี้ แล้วฉินหนานจงจะปล่อยตระกูลเหรินของฉันมั้ย?” ได้ยินคำพูดของเย่จื่อเหยา นัยน์ตาของผู้เฒ่าก็เต็มไปด้วยความเป็นห่วง ทันใดนั้น ความกังวลก็เปลี่ยนเป็นความละมุมนุ่มนวลที่ถูกแอบไว้มานานหลายปี
“ฉันไม่ชอบการต่อสู้กันระหว่างตระกูลใหญ่ แต่พูดจะทำ ตามสิ่งที่คุณพูด!”
ร่างผอมบางของผู้เฒ่าเหยียดตรงขึ้นมาเหมือนไม้ไผ่ เหยียดตรงจนคนไม่กล้าเพ่งมอง
สายตาเพรฌฆาตของผู้เฒ่ามองไปรอบๆ จากนั้นก็ออกไปจากฝูงชน แล้วหายไปจากข้างๆของเย่จื่อเหยา
ตอนที่ผู้เฒ่าหายตัวไปนั้น ฉินหลั่งยังคงยืนอยู่ที่ป้อมไฟ ด้วยออร่า สือตานที่อยู่ร่างกายได้ปรากฏออกมาเป็นสีทองรอบๆ
“ไม่คาดคิดว่าการต่อสู้ในครั้งนี้ ทำให้สือตานที่อยู่ในร่างกายของฉันพัฒนาไปไม่น้อย ดูๆแล้วต้องต่อสู้แบบนี้ ให้มากๆ! เหรินอู๋ซ่างนั่นโดนไปแค่หมัดเดียว น่าจะไม่ตาย เขาไปไหนแล้ว? ”
ฉินหลั่งฟุ้งซ่าน ไม่นานก็เจอเข้ากับลมหายใจที่ยังมีชีวิตอยู่ในป่าลึก
“มีการเปลี่ยนแปลง?”
ฉินหลั่งมองไปยังจุดที่เหรินอู๋ซ่างอยู่ แล้วพูดเบาๆ
“ตูม……”
แสงสีทองสาดส่องจากพื้นขึ้นสู่ท้องฟ้า พุ่งขึ้นไป
แสงสีทองที่พุ่งขึ้นไปบนฟ้า เมฆกำค่อยๆสลายไป เมฆดำนี้ไม่ใหญ่มาก เพียงแค่ปกคลุมบางพื้นที่เท่านั้น ในเมฆดำ ฟ้าแลบฟ้าร้องดังขึ้น
กลุ่มเมฆดำฟ้าแลบฟ้าร้อง รอบๆกลับมีพระอาทิตย์ส่องแสงขึ้น กลายเป็นวิวที่ประหลาดขึ้นมา
“พระเจ้า ดูนั่น นั่นคืออะไร?”
“แสงทองส่องประกาย! ปาฏิหาริย์?”
“เหมือนจะเป็นจุดที่ท่านอาจารย์อู๋ซ่างร่วงลงไปนะ”
มีนักบู๊คนหนึ่งตะโกนออกมา “ฟ้าผ่า นั่นคือฟ้าผ่า! แสงทองส่องประกาย ทำให้เกิดฟ้าผ่า นี่มันเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นเทพเจ้าหนิ! ”