รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 787 ศึกเทพเจ้าภูเขาว่างจี๋
บทที่ 787 ศึกเทพเจ้าภูเขาว่างจี๋
จะเป็นแดนเทพได้หรือไม่นั้น เขาก็ต้องการความแน่ชัด
เหรินอู๋ซ่างได้เคยไปหาอาจารย์ของตระกูลเจี่ยนมาแล้ว แต่อาจารย์ตระกูลเจี่ยนจำศีลสิบปี
แต่ฉินหลั่งมองว่าแดนเทพ ยังห่างจากแดนนักพรตจินตานอีกก้าวหนึ่ง นักรบแดนนักพรตจินตาน การฆ่าระดับเทพ เสมือนเหมือนเกมผู้เล่นมืออาชีพและผู้เล่นมือสมัครเล่น ต่างกันอย่างมาก
จนกระทั่งถึงการปรากฏตัวของฉินหลั่ง เหรินอู๋ซ่างเหมือนกับจะมีความหวัง แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ ต่อให้เป็นเหรินอู๋ซ่าง ก็รู้สึกได้ว่าจิตใจของฉินหลั่งไม่สงบ เขาไม่อยากให้ฉินหลั่งเสียสมาธิ แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าครั้งนี้พลาดโอกาสไปแล้ว ไม่รู้จะหาโอกาสครั้งหน้าได้ยังไง
“ฉินหนานจง ตอนนี้แกยังต่อสู้ได้มั้ย?”
เหรินอู๋ซ่างมองดูเหรินหรงหรงจับมือทั้งสองข้างของฉินหลั่ง มือของมารดาลูบที่ตรงหน้าผากของฉินหลั่งเบาๆ ความรู้สึกแม่ลูกทำให้คนต่างพากันอิจฉา และทำให้เหรินอู๋ซ่างนึกถึงหลายปีก่อนท่าทีของผู้หยิงที่เป็นแม่ลูบหน้าผากของเขา
มารดาใต้พิภพเป็นอย่างนี้นี่เอง!
เหรินอู๋ซ่างอุทานออกมา แล้วไอ
“อาจารย์!”
เหรินหรงหรงหันไปมองเหรินอู๋ซ่าง นัยน์ตามีน้ำตาคลอเบ้า แล้วเอาฉินหลั่งปกป้องไว้ด้านหลังของตัวเอง “คุณ จะกับหลั่งเอ๋อจริงๆ……”
เหรินอู๋ซ่างยิ้มแหยๆ ไม่รู้ว่าทำไม เหรินหรงหรงเป็นหลานสาวรุ่นที่สามแล้ว ถ้าพูดตามหลักการ สำหรับคนมีวิชาอย่างเหรินอู๋ซ่าง ไม่มีทางได้รับผลกระทบใดๆทางด้านอารมณ์ แต่เหรินอู๋ซ่างกลับรู้สึกผิดต่อเธอขึ้นมา
หญิงสาวคนนี้ มีศักยภาพในการฝึกฝนมาก
เสียดาย เวลาหลายปีมานี้ต้องสูญเปล่า เย่จื่อเหยา เป็นผู้นำที่ไม่เหมาะสมหรือไม่?
เหรินอู๋ซ่างมองไปยังคุณยายที่เกรี้ยวกราด ที่อยู่ข้างๆ อุทานว่า ภรรยาคนนี้ สุดท้ายก็ยังจิตใจคับแคบ!
ช่างมัน ถ้าฉันมีชีวิตกลับมาจากการต่อสู้ครั้งนี้ได้ จะเอาตระกูลเหรินกลับมาดูแลเอง แต่ถ้าไม่สามารถมีชีวิตกลับมาได้ ก็ให้ตระกูลเหรินเป็นไปตามเวรตามกรรมก็แล้วกัน!
เหรินอู๋ซ่างคิดอย่างง่ายๆ จากนั้นก็รอท่าทีของฉินหลั่ง
“ยอดภูเขาว่างจี๋ ฉันจะไปรอที่นั่น!”
ฉินหลั่งเห็นแก่เหรินอู๋ซ่างที่ไม่ขัดขวางการเจอกันระหว่างเขากับแม่ เลือกที่ๆคนน้อย
“เมื่อไหร่?”
เหรินอู๋ซ่างคิ้วกระตุก อารมณ์ซับซ้อนทั้งหมดเข้าไปอยู่ในสมอง ผู้เฒ่าที่ผอมบาง ขณะนี้กลับเหมือนกับยักษ์ที่ตัวใหญ่เท่าฟ้าก็มิปราณ บีบบังคับคน
“ตอนนี้ รีบสู้รีบจบ ครอบครัวของเรายังต้องรีบกลับไปรวมตัวพร้อมหน้าพร้อมตากันอีก!”
ฉินหลั่งพูดอย่างสบาย แล้วพูดกับเหรินหรงหรงว่า “แม่ ผมจะพาแม่ไปเอง!”
ใบหน้านี้ของฉินหลั่ง เหรินหรงหรงได้ลูบมาแล้วหลายครั้งในคลิป แต่ทุกครั้งไม่จริงแท้เหมือนครั้งนี้ แบบนี้ทำให้รู้สึกสบาย ทำให้เหรินหรงหรงคิดว่าชาตินี้มีชีวิตไม่เสียเปล่าแล้ว หลายปีมานี้ที่ทนทุกข์ทรมาน เสียเปรียบ รวมๆกันแล้วก็คุ้มค่า
“ได้! แม่เชื่อลูกทุกอย่าง!”
เหรินหรงหรงสาบานในใจ ถ้าต้องตาย ก็จะอยู่ด้านหลังของลูกตัวเอง ไม่ว่าจะยังไง ลูกก็คือทุกอย่างของเธอ!
ฉินหลั่งยิ้มมุมปาก ก้มเอวลง แบกเหรินหรงหรงไว้ แล้วหันไปมองเหรินอู๋ซ่าง “หวังว่าคุณจะเร็วสักหน่อย”
พูดจบ ฉินหลั่งก็กระทืบเท้า ร่างเหมือนเส้นรุ้ง ที่พุ่งไปในท้องฟ้า
“พระเจ้า เขาลอยได้!”
ทุกคนของตระกูลเหรินมองไปที่เหรินอู๋ซ่าง
ผู้เฒ่าคนนี้ไม่เคยแสดงฝีมือของเขาให้ใครเห็นมาก่อน ฉินหลั่งลอยไปแล้ว เขาไล่ตามทันมั้ย?
“ฮ่าฮ่า ฉินหนานจง ผู้เฒ่าฝึกฝนมาสิบปี เป็นวิชาที่คิดขึ้นมาเอง แกลองดูวิชาของฉันหน่อยเป็นไง!”
เหรินอู๋ซ่างโบกมือ มีแสงกะพริบวิบวับของคริสทัลผ่านไป สีฟ้าเป็นเส้น มังกรคริสทัลใหญ่มากที่ใสประกายปรากฏอยู่บนท้องฟ้า
มังกรคริสทัลนั้นคำรามออกมา ร่างที่เพิ่งปรากฏออกมาได้หายไป
นี่ไม่ใช่มังกรตัวจริง แต่เป็นญาณมังกร พลังวิญญาณเชื่อมกัน ความสามารถเทียบได้กับนักรบปรมาจารย์
ฉินหลั่งอยู่ข้างหน้า มังกรคริสทัลอยู่ด้านหลัง คนหนึ่งอยู่เด้านหน้าคนหนึ่งอยู่ด้านหลังผ่ากันไปเป็นภาพลวงตา เกิดเป็นความยาวกว่าพันเมตร
บนพื้นดิน ทุกคนของตระกูลเหรินมองฉากที่เหมือนกับในตำนานที่อยู่ด้านหน้าอย่างตาค้าง แต่ล่ะคนเพิ่งจะรู้ว่าพวกเขาต่างจากเทพเซียนมากขนาดไหน อะไรคือความแตกต่างระหว่างฟ้ากับเหว?
นี่แหละใช่!
ขณะนี้เย่จื่อเหยาเพิ่งจะรู้ ว่าก่อนหน้านี้เธอดื้อด้านขนาดไหน เธอมองว่า ปรมาจารย์ก็เป็นแค่มนุษย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น มากสุดก็แค่มีวิชามวยที่เก่งกว่าคนปกติก็เท่านั้น แต่ตอนนี้เธอเพิ่งจะรู้ ว่าความคิดพวกนั้นมันผิดอย่างมากมายขนาดไหน
ขี่เมฆวิเศษ สั่งการเหล่าวิญญาณ นี่สิถึงจะเป็นเทพที่แท้จริง นี่สิถึงจะเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!
เจี่ยนโล่เฉินและเจี่ยนอี้ลุงหลานก็มองอย่างไม่กะพริบ
ในทัศนคติของเจี่ยนโล่เฉิน ปรมาจารย์แล้วไง ต่อหน้าเขา ปรมาจารย์ก็เป็นแค่ดูดีแต่ภายนอก รอให้เจี่ยนโล่เฉินได้เป็นแดนปรมาจารย์ก่อน ก็สามารถจัดการปรมาจารย์ทุกคนได้แล้ว!
แต่ตอนนี้เจี่ยนโล่เฉินเกิดความเศร้าขึ้นมา ก็คือต่อให้เขาตั้งใจยี่สิบปี ก็ไล่ตามคนสองคนที่ลอยอยู่บนฟ้าไม่ได้
อะไรคือปรมาจารย์? ทำลายอีกฝ่ายผ่านอากาศ ขั้นแรก ตัดคอจากระยะไกล เป็นขั้นสูง การที่โบกมือเป็นลม ไปมาอิสระ ได้อย่างตามใจ นี่สิถึงจะเป็นปรมาจารย์ที่แท้จริง!
การต่อสู้ของปรมาจารย์แบบนี้ ไม่ดูได้หรอ?
เมื่อเจี่ยนโล่เฉินหันหลัง ก็ได้คว้ารถยนต์คันหนึ่ง ทุบหน้ารถแตก แล้วลากสายไฟสองเส้นออกมา ประจุกัน รถก็สตาร์ทติด
คนนี้ที่ดุเหมือนบ้าบอเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ท่าทีขวางโลก เสียงเตือนขโมยของรถหรูคันนั้นดังขึ้น หายไปหนึ่งประตู แล้วเขาก็ขับไปทั้งแบบนี้
เจี่ยนอี้วิ่งอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายตอนที่เจี่ยนโล่เฉินขับรถมาถึงก็ได้กระโดดขึ้นรถไป นี่ทำให้ลุงหลานตระกูลเจี่ยนเหมือนคนบ้าก็มิปราณ ขับไปที่ภูเขาว่างจี๋โดยตรง!
นี่มันสงครามเทพเจ้าเลยนะ!
อาจารย์ของตระกูลเหรินกำลังต่อสู้เอาเป็นเอาตายกับคนอื่น!
คนของตระกูลเหรินเพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้นมา แต่ล่ะคนล้วนพุ่งขึ้นรถไป เย่จื่อเหยาก็นั่งเข้าไปในรถตู้หรูคันหนึ่ง รวมตัวกันเดินทางไปที่ภูเขาว่างจี๋
“นี่ เร็วๆ มาภูเขาว่างจี๋ ไปดูอะไรมันๆกัน!”
“ดูอะไร? ไม่มาอย่ามาว่าฉันไม่บอกนะ”
“เร็วสิ ภูเขาว่างจี๋ กำลังจะต่อสู้กันแล้ว”
“อาจารย์ของตระกูลเหรินของพวกเรา เหรินอู๋ซ่างจะแสดงฝีมือแล้ว รีบมาเร็ว ภูเขาว่างจี๋!”
ตระกูลเหรินรวมๆกันแล้วหลายร้อยชีวิต ทั้งหมดล้วนขับรถไป บวกกับการส่งสารระหว่างพี่น้อง เกิดเป็นปรากฏการณ์ผลกระทบของผีเสื้อ
ตอนนี้มีคนที่อยู่ในผ้าห่มกับสาวสายกำลังเลื่อยไหวกันอยู่ก็พยายามลุกขึ้น บ้างก็กำลังเมาอยู่ในผับก็ออกมา บ้างก็กำลังชนแก้วกัน หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้ก็รีบทิ้งวงเหล้าแล้วจากไป
ตระกูลใหญ่ของเมืองหลวงทั้งหมดแว็บเดียวก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา ตระกูลเจี่ยน ตระกูลฉี ตระกูลถัง ตระกูลโก……สมาชิกต่างๆของตระกูลมากมายต่างพากันมุ่งหน้าไปที่ภูเขาว่างจี๋
แว็บเดียว การคมนาคมของเมืองหลวงได้ติดขัดขึ้นอีกครั้ง ช่วงกลางคืน ข้างในของภูเขาว่างจี๋เบียดเสียดจนจะระเบิด เบนซ์ บีเอ็มดับบลิว ออดี้ เฟอร์รารี่ ปอร์เช่ มาเซราตี หรือแม้แต่โรลส์รอยซ์ รถหรูแต่ล่ะคันปรากฏอยู่ด้านนอกของภูเขาว่างจี๋ทั้งหมด
มีบางคนยังไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ต่างถามกันและกัน บ้างก็สวมใส่ชุดทหาร กระโดดมองไปรอบๆ บ้างก็พูดไปด่าไป แต่เมื่อเห็นคนคุ้นเคยที่อยู่รอบๆ แต่ล่ะคนก็เริ่มคุยกันอย่างสงสัยกัน
“เร็ว รีบดู นั่น……”
มีคนชี้ไปที่เงาสองเงาที่อยู่บนภูเขาว่างจี๋
ในที่มืด ป้อมไฟนั่น ไฟสว่างอร่ามวิบวับอยู่บนท้องฟ้าสองดวง สะดุดทุกสายตา! เที่ยงคืน ฟ้าสว่างสลัวๆ คนทั่วไปในเมืองยังไม่ตื่น ลูกคนรวยจำนวนมาก และคนรุ่นหลังของเหล่าข้าราชการ ได้อยู่ที่ภูเขาว่างจี๋อยู่นาน
ป้อมไฟบางจุด มีแสงสองดวงวิบวับ ในแสงวิบวับนั้น มีคนยืนอยู่สองคน คนหนึ่งผมขาว โก้งโค้งเบาๆ ดูมีพลัง อีกคนอายุน้อย รูปร่างหน้าตาดี โอหังและถือดี
ทั้งสองไปที่ป้อมไฟ สูงตระหง่าน เสื้อผ้าถูกลมพัดปลิวไสว แต่ร่างกายกลับไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ระหว่างสองคนนี้มีป้อมกำบังสองสีอยู่ระหว่างเขาทั้งสองอย่างเห็นได้ชัด
ที่เหรินอู๋ซ่าง มีป้อมกำบังสีขาวโพลน เหมือนกับหิมะก็มิปราณ ตกลงเหมือนหิมะ ส่วนฝั่งของฉินหลั่ง เป็นป้อมกำบังสีเขียว กันหิมะพวกนั้นไว้
“นี่คือปราณที่คนโบราณพูดไว้ทั้งหมดนั่นใช่มั้ย?”
เหรินอู๋ซ่างชื่นชม ฉันได้ค้นคว้าจากหนังสือโบราณมานับไม่ถ้วน ได้ทำความเข้าใจเรื่องปราณ แต่ไม่มีโอกาสได้ฝึกฝนจนสำเร็จเสียที
“ใช่ นี่คือลมปราณคุ้มกาย”
ฉินหลั่งไม่ปิดบัง แต่บอกกับอีกฝั่งอย่างเปิดเผย
“แกถือว่าไม่เลว สามารถเอาหิมะที่อยู่มารวมกันที่นี่ พรสวรรค์นี้ก็ถือว่าเป็นเลิศแล้ว”
ฉินหลั่งมองไปที่หิมะกลุ่มนั้น แล้วกล่าวอย่างชื่นชม
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย หลายปีก่อนหน้านี้ ศาสดาของโลกสามารถใช้พลังเป็นป้อมกำบังได้ เทียบกันแล้ว ผมยังห่างกับเขาอีกมาก ”
เหรินอู๋ซ่างกล่าวอย่างหมดอาลัยตายอย่าง
“หรอ? เดี๋ยวชนะคุณได้ ผมจะไปท้าทายเขา! เป็นพยานให้ผมด้วย! ”
ฉินหลั่งมองไปที่เหรินอู๋ซ่างอย่างสงบ เมื่อนึกถึงสามสิ่งที่ได้มาแล้ว นางฟ้าปี้ฉองจะมาจุติยังโลกเร็วๆนี้ มารดากลับมาแล้ว ก้าวต่อไป เพียงแค่ก่อนที่หน้าฟ้าปี้ฉองจะมาจุติต้องเป็นแดนนักพรตจินตานให้ได้ก็พอแล้ว
ฉินหลั่งในชาติที่แล้วจำได้ว่าก่อนที่นางฟ้าปี้ฉองจะมาจุติ จะพาความขัดแย้งครั้งใหญ่มา มีผลกระทบต่อโลกอย่างมาก เพียงแต่ฉินหลั่งตอนนั้นยังอ่อนแอ ถูกนางฟ้าปี้ฉองหลอกพาไป เรื่องหลังจากนั้นเขาจำไม่ค่อยได้
ฉินหลั่งฝึกฝนอย่างยากลำบากอยู่หลายร้อยปี หลังจากร้อยปีแล้วกลับมาที่โลกอีกครั้ง ทุกสิ่งยังอยู่แต่คนไม่อยู่แล้ว โลกในยุคหลังๆคนที่ร่ำเรียนวิชาก็ยิ่งน้อยลง คนบนโลกก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด มีหลายประเทศได้เริ่มต้นรวมกลุ่มกันอีกครั้ง หาบรรยากาศในตอนนั้นไม่เจออีกแล้ว