รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 69 กฎแปลกๆ
บทที่ 69 กฎแปลกๆ
“เสี่ยวเกา เห็นผู้หญิงคนนั้นรึยัง?เธอเป็นพาร์ทเนอร์ของบริษัทเรา เมื่อกี้ต่อหน้าเธอน้าขายหน้าไปมาก เธอต้องช่วยน้ากู้หน้าคืนมาให้ได้นะ หรุ่ยรุยน้าขอฝากให้เธอดูแลแล้วกัน”หลิวหงกระซิบกระซาบข้างหูของเกาหยวน พูดด้วยเสียงเบา
เกาหยวนพยุงแขนหลิวหง เดินไปด้านหน้าของผู้จัดการโจว
ตอนนี้ในใจของผู้จัดการโจวรู้สึกโล่งอกมาก ตอนแรกเขากลัวแทบตาย ว่าหลิวหงจะเรียกฉินหลั่งมา พอดูตอนนี้ กลับเรียกเกาหยวนมา ผู้จัดการโจวด่าเกาหยวนในใจไปหลายคำ
ครั้งก่อนคิดว่าตัวเองดีเด่ ปล่อยให้เขาคิดว่าเกาหยวนเป็นเพื่อนของฉินหลั่ง สุดท้ายเขาไปสืบมา กลับพบว่าเขาไม่ได้มีฐานะอะไรเลย
“นี่เป็นแฟนของลูกสาวเธออย่างนั้นเหรอ เขามีความสามารถ พี่ลี่ พี่วางใจเถอะนะคะ”หลิวหงพูดอย่างยิ้มๆกับเจียงลี่
เจียงลี่กับเกาหยวนพยักหน้าทักทาย ท่าทางดูฉลาดมีความสามารถ
“ผู้จัดการโจว คุณดูสิว่าผมก็มาแล้ว เรื่องนี้ถือว่าแล้วกันไปเถอะนะครับ……”เกาหยวนพูดอย่างยิ้มๆกับผู้จัดการโจว เขารู้สึกว่าตัวเองออกหน้า ผู้จัดการโจวจะต้องอ่อนลงแน่
“ช่างมัน?คุณล้อเล่นเก่งจริงๆเลยนะ”ผู้จัดการโจวหัวเราะอย่างเย็นชา“ในเมื่อคุณมาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็เชิญคุณรีบเช็กบิลชำระเงินเถอะครับ อย่าเสียเวลาทำมาหากินของพวกเราเลย”
เอ่อ……วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับผู้จัดการโจว?คราวก่อนเขาไม่ได้มีท่าทีแบบนี้นิ่ หรือเวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ เขาจะจำฉันไม่ได้แล้ว?
“ผู้จัดการโจว คุณจำผมไม่ได้เหรอ ผมไง เกาหยวน พ่อผมชื่อเกาเสิ้งเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างติ่งเซิง”เกาหยวนชี้จมูกตัวเองแล้วพูดไปด้วย
“อ่อ……”ผู้จัดการโจวเข้าใจรู้ได้ในทันที
“จำได้ก็ดี ถ้าอย่างงั้นการเข้าใจผิดคงจะคลี่คลายแล้วนะครับ วันนี้ความปรารถนาดีของคุณผมจะจดจำเอาไว้ คุณวางใจเถอะ หลังจากนี้ผมจะมาร้านคุณบ่อยๆ”เกาหยวนพูดไปหัวเราะไป แล้วจึงหันกลับไปทางหลิวหง “คุณน้าครับ พวกเราไปกันได้แล้วครับ”
พูดจบ เกาหยวนก็เตรียมจะพาพวกหลิวหงเดินจากไป หลิวหงกับคนอื่นๆชื่นชมเกาหยวนเป็นการใหญ่
“หยุดก่อน”ผู้จัดการโจวเรียกไปหนึ่งครั้ง “การเข้าใจผิดคลี่คลายแล้ว”กูอนุญาตให้มึงไปได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“คุณไม่ต้องส่งหรอกครับ เดี๋ยวพวกเราไปกันเอง”เกาหยวนหันกลับไปแล้วหัวเราะพูดไปหนึ่งประโยค
แม่งเอ้ย เกาหยวนโคตรหลงตัวเองเลย?ผู้จัดการโจวคว้าไหล่ของเกาหยวนไว้ จับจนเกาหยวนรู้สึกเจ็บ“โอ้ย คุณจะทำอะไรของคุณเนี่ย……”
“เช็กบิลแล้วค่อยไป ขืนยังเล่นแง่อีก ผมจะโทรแจ้งตำรวจ”ผู้จัดการโจวพูดอย่างโมโห
“ผู้จัดการโจว คุณไม่ได้กินยาผิดใช่ไหม……คุณเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ผมคือเกาหยวน คุณยังจะให้ผมเช็กบิลอะไร……”เกาหยวนถามขึ้นด้วยความตกใจ
“ผมไม่สนว่าคุณจะเป็นเกาหยวนหรืออะไร วันนี้ถ้าไม่จ่ายเงินให้พวกเรา ผมก็จะส่งตัวพวกคุณให้ตำรวจ”ผู้จัดการโจวยิ่งมองยิ่งไม่ชอบใจเกาหยวน ผู้จัดการโจวมองไปยังพวกหลิวหง“ตกลงพวกคุณจะจ่ายเงินกันไหม?ไม่จ่ายใช่ไหม ก็ได้”
ดูท่าแล้วป้าโรคจิตพวกนี้คงจะอยากชักดาบสินะ ผู้จัดการโจวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา เตรียมจะโทรหนึ่งหนึ่งศูนย์
ทำยังไงดี?ตอนนี้พวกหลิวหงรู้สึกมึนงงไปหมด ทำไมเกาหยวนมาแล้วยังช่วยอะไรไม่ได้ล่ะ?เจียงลี่ที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าเริ่มแดงขึ้นมา พักโรงแรมหรูขนาดนี้ เกิดเรื่องทำให้คนอื่นหัวเราะได้ เธอรู้สึกขายหน้ามาก
“ไม่ต้องโทรแจ้งตำรวจหรอก ฉันจ่ายแทนพวกเธอเอง”เกาหยวนมองค้อนผู้จัดการโจว ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจ เพราะอะไรผู้จัดการโจวถึงเปลี่ยนไปเยอะขนาดนี้ เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ เขาจึงทำได้เพียงควักตังค์ตัวเอง
“ครับ มีคนจ่ายเงินก็ดี”ผู้จัดการโจวรับบิลใบเสร็จจากมือของพนักงานมา แล้วส่งมอบให้เกาหยวน“ทั้งหมดหนึ่งแสนหนึ่งพันสี่ร้อยหยวน ลบศูนย์ให้คุณไป คุณจ่ายหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นก็พอ”
“หนึ่งแสนหนึ่งหมื่น!?”เกาหยวนตกใจจนต่อมทอนซิลแทบปลิวออกมา เขารีบดูบิลใบเสร็จทันที ด้านบนเขียนได้อย่างละเอียด แค่หลุยส์สิบสี่ขวดเดียวก็ปาไปสี่หมื่นแล้ว ทั้งหมดใช้เงินไปเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ ไม่น่าแปลกใจเลย
เกาหยวนกัดฟันกรอดมองไปที่หลิวหง ในใจกำลังด่า ยัยแก่เอ้ย พวกแกใช้ชีวิตสำราญกันจริงนะ เหล้าราคาสี่หมื่นพวกแกยังกล้ากินกันอีกเหรอ ไม่กลัวดื่มจนตายรึไง?
พอได้ยินว่าใช้ไปหนึ่งแสนหนึ่งหมื่น ในใจของหลิวหงก็รู้สึกหนาวสั่น มองเห็นเจียงลี่มองค้อนตัวเองอย่างหมดคำพูด หลิวหงจึงทำได้แค่ฝืนยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า“วางใจเถอะค่ะ เสี่ยวเกาจะจัดการเรื่องนี้เอง”
เจียงลี่ทำเสียงหึอย่างหมดคำพูด อย่าทำเกินไป
หลิวหงเดินไปข้างๆของเกาหยวน แล้วถามอย่างไม่มั่นใจ“ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?”
“อืม”ตอนนี้ในท้องของเกาหยวนเต็มไปด้วยไฟ ได้เพียงแต่อืมไปหนึ่งครั้ง ตอนนี้เขา มองไปที่หลิวหง แต่ก็อยากด่าหล่อนแรงๆ เพียงแต่อย่างไรก็ตามหล่อนก็เป็นแม่ของติงหรุ่ย กว่าที่เขาจะตามจีบติงหรุ่ยได้มันไม่ง่ายเลยนะ
เกาหยวนนำเงินสดของตัวเอง กับบัตรเอทีเอ็มทั้งหมดล้วงออกมา เขาเป็นแค่นักศึกษาที่มีเงินเล็กน้อยเท่านั้น เงินถูกแบ่งจัดสรรในบัตรต่างๆ หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เงินส่วนตัวของเขาอาจจะใช้จนหมดเกลี้ยงก็เป็นได้
“คุณผู้ชายค่ะ เงินในบัตรของคุณทั้งหมด บวกกับเงินสด เป็นเงินทั้งหมดแปดหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสามหยวนค่ะ ยังขาดอีกสองหมื่นสองพันสี่ร้อยสามสิบเจ็ดหยวนค่ะ คุณจะจ่ายเงินที่เหลือยังไงคะ?”พนักงานหน้าเค้าท์เตอร์นำบัตรที่เหลือคืนให้กับเกาหยวน แล้วพูดอย่างมีมารยาท
“อะไรนะ ในบัตรของฉันมีเงินแค่นั้นเนี่ยนะ?”เกาหยวนตกใจเป็นอย่างมาก ปกติเขาไม่ค่อยใส่ใจกับเรื่องพวกนี้ พอเห็นคอมพิวเตอร์ของพนักงานหน้าเค้าท์เตอร์ มีเงินแค่นั้นจริงๆค่ะ
ตอนนี้เขาไม่กล้าขอเงินกับทางบ้าน จึงทำได้เพียงแค่ใช้สายตาขอร้องอ้อนวอน ไปให้หลิวหง หล่อนมาเที่ยวเล่นที่จีนหลิง อย่างไรก็คงจะต้องพกเงินมาบ้างแหละ
“คุณน้าครับ ยังเหลือเงินสองหมื่น คุณน้าช่วยผมออกก่อนได้ไหมครับ”เกาหยวนพูดเสียงเบา แต่เขาก็ไม่ใช่ว่าจะรู้สึกเกรงใจอะไร อย่างไรเสียเขาก็ได้จ่ายเงินจำนวนมากไปแล้ว อาหารพวกหล่อนก็เป็นคนทานเอง จ่ายเงินสองหมื่น เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
“เอ่อ……”พูดตามตรง สองหมื่นสำหรับหลิวหงแล้ว ก็ไม่ใช่จำนวนเงินมากอะไร เพียงแต่หลายวันมานี้หล่อนใช้จ่ายไปห้าหกหมื่นแล้ว ถ้าใช้อีกสองหมื่นกว่า สามีหล่อนต้องสงสัยแน่นอน อาจจะตามสืบเรื่องโฮสออกมาทั้งหมด“คือ ช่วงนี้น้าช๊อตนิดหน่อยน่ะจ่ะ……”
พอได้ยินคำพูดนี้ เกาหยวนก็หน้าสีมาก แม่งเอ้ย ไม่มีเงินยังกล้าสั่งอาหารแพงขนาดนี้เลยเหรอ?
“แล้วคุณน้าสองคนล่ะครับ?”เกาหยวนใช้สายตามองไปที่เฝิงโหย่หลันกับหลี่น่า
“พวกหล่อนน่ะหรอ ไม่มีเหมือนกันน่ะสิ”หลิวหงพูดอย่างเก้อๆ ตอนนี้เธอก็เริ่มรู้สึกเครียดแล้ว สายตาของเธอจ้องมองไปบนตัวของเจียงลี่ ตอนนี้ก็มีแต่เธอเท่านั้นที่มีเงินแล้ว?
“นี่ ไม่มีเงินยังกล้ามากินข้าวร้านสะแดนโกด้วยหรอ พวกประสาท”
“คนบ้านนอกอย่างพวกเธอน่ะจริงๆเล้ย คิดว่าร้านอาหารในจีนหลิงเป็นร้านอาหารถูกๆเหมือนร้านอาหารตามบ้านนอกเหรอ?”
“ตกลงพวกเธอไปเอาความกล้าจากไหนมาเนี่ย กล้าทานอาหารในห้องจื้อจวน ฉันดูๆแล้วพวกเธอคงอยากกินฟรีตั้งแต่ต้นสินะ”
แขกที่ทานอาหารอยู่บริเวณรอบๆ หัวเราะพลางมองพวกหลิวหงไปด้วย แล้วพูดซุบซิบเสียงเบา
“พี่ลี่ ตอนนี้เงินไม่พอนิดหน่อย พี่พอจะ……”หลิวหงเดินไปยืนตรงหน้าของเจียงลี่ แล้วยิ้มอย่างแข็งกระด้าง
พอได้ยินว่าหลิวหงมาของเงินกับตัวเอง ในใจของเจียงลี่ก็เกิดลุกเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที
“เธอเลี้ยงอาหารฉันไปหนึ่งมือจริงๆ”เจียงลี่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดไปหนึ่งประโยค หลังจากนั้นก็ทำเสียงหึ เดินไปหยุดหน้าเค้าท์เตอร์ของพนักงาน ยื่นบัตรของตัวเองไปให้ รูดเงินสองหมื่นที่เหลือ
รูดเสร็จ เจียงลี่ก็ใช้มือบังหน้าบังตารีบเดินออกไปทางประตู เธอรู้สึกขายหน้ามาก พวกหลิวหงรีบตามออกไปทันที
“พี่ลี่คะ รอฉันด้วย พี่จดเลขบัญชีไว้ด้วยนะคะ เดี๋ยวกลับไปฉันจะรีบคืนเงินให้พี่ทันทีเลย”หลิวหงพูดเสียงดัง
“หึ ไม่จำเป็นหรอก”เจียงลี่หันกลับมา แล้วมองไปที่หลิวหงอย่างเย็นชา“วันนี้ฉันประสาทไปจริงๆ ถึงมากินข้าวกับพวกเธอได้ บาย”
“อย่าเลยค่ะ วันนี้เป็นอุบัติเหตุนะคะ ไว้วันหลังฉันค่อยหาเวลานัดพี่นะคะ พวกเราค่อยไปคุยกันเรื่องธุรกิจ”หลิวหงกลัวว่าเรื่องวันนี้จะมีผลกระทบต่อหารร่วมงานระหว่างพวกเธอ
“ทำธุรกิจร่วมกัน?หึๆ ฉันคิดว่าโรงพยาบาลพวกฉันคงไม่มีบุญวาสนานั้นหรอก พวกเธอไปหาคนอื่นร่วมงานเถอะ”เจียงลี่พูดจบ ก็กวักมือเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง
พอได้ยินคำพูดของเจียงลี่แบบนี้ หลิวหงก็รู้ได้ในทันที ว่าธุรกิจบ้านของตนเองจบเห่แล้ว ในเวลานี้เองหัวใจของเธอเหมือนถูกแช่แข็งอยู่ในห้องแช่แข็ง เฝิงโหย่หลันกับหลี่น่าทั้งสองคนรู้สึกผิดมากๆ
“คุณน้าครับ อย่าได้เสียใจไปเลยครับ เดี๋ยวผมส่งกลับดีไหมครับ?”เกาหยวนมองเห็นท่าทางของหลิวหงเสียใจ ในใจก็รู้สึกสมน้ำหน้า ไม่มีเงินอย่ากล้ากินอาหารแพงขนาดนี้ คราวนี้ดีเลย ธุรกิจพังไม่เป็นท่า ยังให้ฉันขายหน้าต่อหน้าคนอื่นอีก เกิดเรื่องอับอายขนาดนี้ ยังใช้เงินของเขาจนเกลี้ยงอีก
“ไม่ต้องหรอก พวกฉันจะนั่งแท็กซี่กลับกัน วันนี้ขอบใจเธอมากนะ เสี่ยวเกา”หลิวหงพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง แล้วไปโบกมือเรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง กลับไปพร้อมกับพวกเฝิงโหย่หลัน
พอกลับมาถึงจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์ หลิวหงเข้าไปพักผ่อนในห้องพักของตนเอง วันนี้ธุรกิจพังไม่เป็นท่า ยังเกิดเรื่องขายหน้าอย่างนี้อีก ในใจของเธอรู้สึกเศร้าเสียใจมาก
พอถึงเวลาหกโมงเย็น หลิวหงกับพวกเฝิงโหย่หลันก็นัดกันอีก เตรียมจะออกไปทานอาหารกันข้างนอก เพราะว่าเรื่องเมื่อตอนบ่าย พวกหล่อนไม่มีกะจิตกะใจออกไปเที่ยวข้างนอก
“ขออภัยนะคะ รบกวนคุณหน่อยนะคะ ห้องของคุณถึงเวลาคืนคีย์การ์ดแล้วนะคะ กรุณาย้ายออกจากห้องภายในเวลาเที่ยงวันด้วยนะคะ”ในเวลานี้เอง พนักงานเค้าท์เตอร์เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของพวกเธอ แล้วพูดเตือนอย่างสุภาพ
“ถึงเวลาแล้ว?”หลิวหงกับพวกเฝิงโหย่หลันพูดคุยกันครู่หนึ่ง โรงแรมนี้ถึงจะเป็นบ้านชั้นเดียว ไม่ใช่โรงแรมหรูที่พวกเธอวาดฝันไว้ แต่พูดตามตรง พักที่นี่ก็รู้สึกสบายดี พวกเธอยังอยากพักอยู่ต่อที่นี่อีกสักสองวัน
“ช่วยพวกเราจัดการเรื่องพักต่อด้วยนะ?”หลิวหงพูด
“ขออภัยด้วยนะคะ คุณไม่สามารถพักอยู่ต่อได้ค่ะ นี่เป็นกฎของพวกเรา ขออภัยด้วยค่ะ”พนักงานรีเซฟชั่นพูดอย่างสุภาพ
โรงแรมของพวกเธอเป็นโรงแรมที่เปิดเพื่อรับรองแขกระดับประเทศ เบื้องบนบอกว่าจองมากี่วัน ก็คือกี่วัน แขกขอร้องด้วยตัวเองไม่สามารถจะรับได้
“พักต่อไม่ได้ ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม?ยังมีโรงแรมที่ไม่ให้พักต่อด้วยเหรอ?เพราะอะไร?”
“ขออภัยด้วยค่ะ ถ้าหากว่าคุณยังอยากพักต่อ ต้องให้พวกคุณฉินหลั่งกับคุณท่านฉินเป็นคนเปิดให้ถึงจะสามารถทำได้ค่ะนี่เป็นกฎของทางโรงแรมค่ะ ดิฉันก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ”หนักงานรีเซฟชั่นสาวพูดอย่างลำบากใจ สำหรับเรื่องเบื้องหลังของผู้มีอิทธิพลของจื่อซวนเกสท์เฮ้าส์ ปกติแล้วพวกเธอจะไม่พูดถึง
“ต้องเป็นเขาถึงจะสามารถทำได้ค่ะ?”หลิวหงไม่อยากลดตัวไปขอร้องฉินหลั่ง กฎของโรงแรมนี้ประหลาดชะมัด ก็ว่าทำไมใกล้จะเจ๊ง เหมือนกับใครอยากอยู่ที่นี่แหละ“ก็ได้ พรุ่งนี้พวกเราจะย้ายออกไป”
อย่างมากก็แค่ให้เกาหยวนไปหาโรงแรมใหม่ให้พวกเธออีกโรงแรมก็ได้
“พวกเธอจะไปทานอาหารเย็นด้วยกันไหม?”ในเวลานี้เอง ช่ายหนงก็เดินออกมาเหมือนกัน พอเห็นพวกหลิวหงแล้ว จึงเข้าไปทักทาย
“หลายวันมานี้กินอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าไม่ค่อยย่อยเท่าไหร่ ไปกับเธอก็ได้”หลิวหงพูดจบ ก็ตามพวกเฝิงโหย่หลันกับช่ายหนงไปทานอาหารที่ตึกเจิ้งทง
“ที่นี่ไม่เลวจริงๆด้วย”ดูจากการตกแต่งของตึกเจิ้งทงแล้ว พวกหลิวหงพูดชมไม่ขาดปาก ครั้งนี้พวกเธอถามกระจ่างแล้ว ด้านในตึงเจิ้งทงอาหารแล้วเครื่องดื่มทุกอย่างฟรีหมด จึงสั่งอาหารอย่างโล่งใจมาหลายอย่าง
“คิดไม่ถึงว่าอาหารที่นี่จะอร่อยขนาดนี้”หลิวหงพวกเธอรู้สึกว่า นี่เป็นอาหารที่พวกเธอกินแล้วอร่อยที่สุดในจีนหลิง อร่อยกว่าร้านอาหารฝรั่งสะแดนโกนั่นอีก อีกทั้งไม่เพียงแค่มีเป๋าฮื้อเท่านั้นวัตถุดิบอย่างกุ้งมังกรราคาแสนแพงพวกนี้ ในใจของพวกเธอรู้สึกเสียดายมาก ที่หลายวันมานี้ไม่มาทานอาหารที่นี่กัน
แต่ว่า พวกเธอก็ปลอบใจตัวเอง ถึงแม้ว่าอาหารจะฟรี แต่ถ้าเทียบกับอาหารในร้านสะแดนโกแล้ว ห่างไกลกันมาก อย่างไรเสีย วัตถุดิบของที่นั่นก็นำเข้ามาจากหลายประเทศถึง พอถึงฝั่งแล้วต้องถูกขนส่งมาที่ร้านภายในสามชั่วโมง ดีกว่าที่นี่มาก