รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 682 วางแผน
บทที่ 682 วางแผน
“หยูถิง แผนการของฉันตอนนี้ยังไม่จบลง คุณจำต้องช่วยเหลือฉันอีกครั้ง ฉันพูดคำไหนคำนั้น” หยางจ้างกั๋วขยับลูกตาไปมา แสดงความอ้อนวอนร้องขอ
หยูถิงสีหน้าเย็นชา: “คุณชายหยาง คุณพูดเองว่า ยื่นหมูยื่นแมวคือจ่ายเงินมาแล้วก็ให้ของไป แล้วยังจะต้องการอะไรอีก ความสามารถของฉันคงจะช่วยเหลือคุณได้เพียงเท่านี้ หรือคิดที่จะเบี้ยวเงินค่าตอบแทนเหรอ? ”
“โอ้ ไม่ใช่ ฉันหยางจ้างกั๋วไม่ได้ขาดแคลนเงินกี่ร้อยล้านนี้ หยูถิงคุณอย่าเข้าใจผิดไป อย่างนี้แล้วกัน ฉันจะโอนเงินให้คุณสามร้อยล้านก่อนจากค่าตอบแทนงวดสุดท้ายห้าร้อยล้านนั้น แล้วเพิ่มเงินค่าตอบแทนให้อีกหนึ่งร้อยล้าน แบบนี้ฉันก็จะจ่ายค่าตอบแทนให้คุณทั้งหมดแปดร้อยล้าน ซึ่งสำหรับคุณแล้ว เป็นเงินค่าตอบแทนที่จำนวนไม่น้อยเลย คุณคิดว่าอย่างไร ฉันมีความจริงใจเป็นอย่างมาก หยูถิง คุณคิดให้ดี ๆ นะ ไปทำงานอะไรที่ไหนถึงจะได้เงินมากมายขนาดนี้”
หยางจ้างกั๋วกัดฟัน มีความมั่นใจอย่างแน่วแน่
เขามีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก: “สูตรลับของยา เป็นเพียงแค่การเริ่มต้น ฉันยังต้องการดูว่าฉินหลั่งสามารถผลิตยาชนิดนี้ได้หรือไม่ คุณคิดหาวิธีให้เจ้าหน้าที่พนักงานออกใบรับรองให้หน่อย ถ้าหากว่ายานี้เป็นของปลอม หรือว่ามีปัญหาอย่างอื่น เรื่องนี้ก็อธิบายกันยากแล้ว ซึ่งนี่ก็คือเหตุผลที่ฉันยืดเวลาการจ่ายค่าตอบแทนสองร้อยล้านที่เหลือนั่นออกไปและเพิ่มเติมให้เฉพาะอีกหนึ่งร้อยล้าน”
สิ่งที่หยางจ้างกั๋วพูดไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล หยูถิงครุ่นคิด สีหน้าแสดงออกถึงความปรารถนาขึ้นแวบหนึ่ง แล้วพูดว่า: “ก็ได้ งั้นครั้งนี้ฉันจะเชื่อคุณ ภายในสามชั่วโมงช่วยโอนเงินสามร้อยล้านเข้าบัญชีของฉันด้วย ฉันจึงจะยินยอมช่วยเหลือช่วยงานคุณต่อไปอีก”
เมื่อพูดจบ หยูถิงกับหยางจ้างกั๋วก็รีบจับมือกันอย่างยินดี จากนั้นขณะที่เดินออกมาด้านนอกต่างก็อาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสังเกตหยิบทิชชู่เปียกออกมาเช็ดมือข้างที่ใช้จับมือ และก็ทิ้งลงไปในถังขยะ แล้วก็จากไป
หลังจากที่หยูถิงจากไปแล้ว หยางจ้างกั๋วก็โบกมือ คนที่อยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามาหา: “คุณชาย”
“แกไปตามหล่วนฝูมาพบข้าหน่อย”
เวลาผ่านไปประมาณสิบห้านาที หล่วนฝูก็เดินเข้ามาด้านใน คำนับแล้วพูดว่า: “คุณชาย ท่านหาฉันเหรอ? ”
หล่วนฝูคือพ่อบ้านของตระกูลหยางที่ทำงานรับใช้มาแล้วยี่สิบปี จงรักภักดีต่อตระกูลหยางมาก ดังนั้นหยางจ้างกั๋วจึงนำเรื่องที่สำคัญมอบหมายให้หล่วนฝูไปเป็นคนจัดการ
“นำสูตรยานี้ไปแล้วหาหมอผู้เชี่ยวชาญลองสกัดปรุงแต่งดู และจะต้องเก็บเป็นความลับ ลองดูสิว่าจะสามารถสกัดปรุงแต่งออกมาเป็นผงขาวหยุนเซียนได้หรือไม่”
“ของตัวอย่างจะต้องผลิตออกมาให้ได้ในเวลาอันรวดเร็วที่สุด ถ้าหากว่ามีคุณภาพที่ดีกว่าผงขาวตระกูลหยางแล้ว นายก็รีบไปยื่นเรื่อง จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อตัดหน้าโอกาสการผลิตของฉินหลั่ง”
“ตลอดทุกขั้นตอนจะต้องปกปิดเป็นความลับอย่างเด็ดขาด และจะต้องจับตาดูติดตามขั้นตอนการวิจัยและการผลิตของหน่วยงานที่เชี่ยวชาญอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง”
“รอจนเมื่อข้ายื่นจดลงทะเบียนรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าเรียบร้อยแล้ว ถ้าหากฉินหลั่งยังคงที่จะผลิตผงขาวหยุนเซียนอยู่อีกล่ะก็ พวกเราก็สามารถลงมือจัดการอีกฝ่ายได้ก่อน โดยฟ้องร้องให้เขาล้มละลาย”
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉินหลั่งเคยทำไว้กับข้า ข้าจะเอาคืนในแบบทบต้นทบดอกเลยทีเดียว”
“เข้าใจแล้ว คุณชาย”
หล่วนฝูรับช่วงต่อ ยิ้มและพูดว่า: “หลังจากชนะคดีความในชั้นศาลแล้ว พวกเราก็นำเอาคดีความนี้ไปกระจายข่าวออกสู่สังคมให้ทุกคนได้รับรู้รับทราบ แล้วก็เริ่มประชาสัมพันธ์ผงขาวหยุนเซียนอย่างกว้างขวาง และรีบจัดหาเปิดช่องทางจำหน่ายในจีนอย่างรวดเร็ว คุณชายวางใจได้ ตลาดผงขาวในจีนยังคงเป็นของพวกเราตระกูลหยาง”
ขณะที่พูดหล่วนฝูก็ได้ถ่ายรูปกระดาษแผ่นนั้นเก็บเอาไว้ จากนั้นก็ได้จุดไฟเผาสูตรลับยาทิ้ง โดยเผาไหม้อย่างไม่เหลือร่องรอย ซึ่งเป็นการทำลายหลักฐานทุกอย่างทิ้งเรียบร้อยแล้ว ฉินหลั่งจึงไม่สามารถที่จะจับผิดอะไรได้อีก
หล่วนฝูเป็นคนที่มีความคิดรอบคอบ ดังนั้นหยางจ้างกั๋วจึงไว้วางใจในตัวเขาอย่างมาก
“เมื่อข้าสามารถควบคุมและจัดการยาเทพชนิดนี้ได้แล้ว ข้าจะขับไล่ฉินหลั่งออกไปจากเย็นจีน จะต้องให้เขาชดใช้อย่างสาสมกับสิ่งที่เขาเคยดูถูกดูหมิ่นข้าเอาไว้ ทำให้เขาสูญเสียชื่อเสียง และสูญเสียทรัพย์สินเงินทองจนหมด”
หยางจ้างกั๋วมีท่าทางที่ดุดันขึ้น แน่นอนว่าคงคิดถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้นที่ตนได้ถูกฉินหลั่งตัดแขนขณะที่เปลือยเปล่าไม่ได้ใส่กางเกง
หล่วนฝูเดินเข้าไปหา สีหน้าท่าทางก็กลายเป็นจริงจังขึ้น: “คุณชายหยางวางใจ ใครที่เคยติดค้างพวกเราเอาไว้ พวกเราจะทำให้เขาชดเชยกลับคืนเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า”
“ใช่แล้ว ตอนนี้ฉินหลั่งทำอะไรอยู่เหรอ? ” หยางจ้างกั๋วที่กำลังคาดการณ์ไปถึงอนาคต ทำให้สภาพจิตใจที่หดหู่ก็ได้ผ่อนคลายลงไปบ้าง จึงได้ถามขึ้น
“เขาอยู่ที่โรงพยาบาลดูแลหลู่เหม่ยเฉินใช่หรือไม่? ”
“ฉินหลั่งไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล คุณชาย”
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาหล่วนฝูรับหน้าที่สังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของฉินหลั่ง: “วันนี้เขาไปเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วยเปี่ยนเชวี่ย ล่าสุดได้ยินว่า เขาผ่านเข้ารอบการแข่งขันแล้ว”
หยางจ้างกั๋วรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย: “การแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วยเปี่ยนเชวี่ย? ทำไมเขาจึงไปที่นั่น? ”
“เพราะว่าฉินหลั่งเพิ่งจะมาทำอาชีพแพทย์ไม่นานมานี้นี้เอง ดังนั้นเพื่อต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง จึงเข้าร่วมการแข่งขันแพทย์แผนจีนถ้วยเปี่ยนเชวี่ย และเมื่อได้รับการยอมรับจากวงการแพทย์แผนจีนแล้ว สถานะทางการแพทย์ของเขาก็จะยกระดับสูงขึ้นตามไปด้วย”
“สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองงั้นเหรอ? ”
หยางจ้างกั๋วกอดอก ถอนหายใจแล้วพูดว่า: “สร้างความยุ่งยากเสียจริง คนผู้นี้ต้องการที่จะมีส่วนร่วมส่วนเกี่ยวข้องไปเสียทุกเรื่อง เขาคงจะตั้งใจอย่างแน่วแน่เพื่อสร้างหลักปักฐานกิจการของตนเองที่เย็นจีนอย่างยืนยาวต่อไป”
“เหอะเหอะ คุณชาย ฉินหลั่งเขาหยิ่งยโสคิดการใหญ่ แต่น่าเสียดายที่เขาไร้เดียงสา มีศัตรูรอบด้าน ในไม่ช้าก็คงจะพบกับความยากลำบากและก็จบกันไป” รอยยิ้มของหล่วนฝูแฝงไปด้วยความน่าสะพรึงกลัว
“ใช่นะสิ ได้พบเจอเปิดหูเปิดตากับโลกที่สวยงามของเย็นจีนแล้ว เขายังจะยอมเป็นคนคร่ำครึล้าสมัยอยู่ทำไมอีกล่ะ? ” หยางจ้างกั๋วก็พูดด้วยสีหน้าที่เหยียดหยาม
หล่วนฝูรับคำพูดต่อ “คุณชายพูดได้ถูกต้อง สังคมระดับสูงสมัยนี้ อาศัยเบื้องหลังความเป็นมา อาศัยชาติตระกูล และเส้นสายความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อคดเคี้ยวไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด”
“ต่อให้ฉินหลั่งจะเก่งกล้าสามารถแค่ไหน ก็มีขีดจำกัด วงการแต่ละวงการ ไม่ใช่คิดอยากจะแทรกตัวเข้ามาก็สามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดายที่ไหนกัน”
“คนมีเงินจำนวนมากมาย พยายามคิดหาทุกวิถีทาง ท้ายที่สุดแล้วก็ยังไม่สามารถเข้าสู่สังคมระดับสูงได้ เกรงว่าฉินหลั่งจะไม่เข้าใจตรงจุดนี้”
“ไม่ต้องพูดโยงไปถึงตระกูลเสี้ยง เพียงแค่พูดเกี่ยวกับตัวของเขาซึ่งเมื่อวานเขาได้ฆ่าโยวโจ่ชาวกาง แม้ว่าทางตำรวจจะมีผู้มารับผิดชอบจัดการแทนแล้ว แต่ว่าสำนักหมอผีและตระกูลเสี้ยงพวกเขาคงไม่มีใครโง่เขลาขนาดนั้น”
“ตอนนี้ฉินหลั่งตกอยู่ในอันตราย แต่เขาเองก็คงยังไม่ทราบ ยังคงวาดฝันกับการเป็นหมอที่มีชื่อเสียงอยู่อีก”
“คุณชาย ตอนนี้โยวโจ่ลู่เหย่ได้เดินทางมาถึงเย็นจีนแล้ว มีลูกชายและลูกสาวติดตามมาด้วย คือโยวโจ่อันซีและโยวโจ่โจ่วเหอจื่อ”
หยางจ้างกั๋วตกตะลึงอย่างมาก: “ฉินหลั่งฆ่าโยวโจ่ชาวกางงั้นเหรอ? !”
“ใช่แล้ว คุณชาย เมื่อวานกลางคืนลงมือฆ่าที่โรงพยาบาล แต่สุดท้ายฉินหลั่งก็สามารถหลบหนีไปได้ แต่ว่าชาวญี่ปุ่นมั่นใจตั้งแต่แรกแล้วว่าเขาเป็นผู้ร้ายที่ลงมือ”
หล่วนฝูพูดถึงตรงนี้ ก็ลดระดับเสียงของตนลง: “คุณชาย เวลานี้พวกเราจำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่างหรือไม่อย่างไร? ”
“เหอะเหอะ แน่นอนว่าจะไม่เฝ้าดูอย่างนิ่งดูดายเป็นแน่! ”
หยางจ้างกั๋วหัวเราอย่างเย็นชา: “ไม่สนว่าจะเป็นฉินหลั่งที่ลงมือฆ่าหรือไม่ แต่ห้ามที่จะเบนเป้าหมายไปที่หลู่เหม่ยเฉินอย่างเด็ดขาด”
“หลู่เหม่ยเฉินไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ แต่ว่าหากสำนักหมอผีจับตัวหลู่เหม่ยเฉินไปบีบบังคับฉินหลั่ง ถ้าเป็นอย่างนั้นคงจะไม่ดีเป็นแน่”
หล่วนฝูยิ้ม พยักหน้าแล้วพูดว่า: “ตกลง คุณชาย ฉันจะไปแจ้งเตือนให้พวกเขารับทราบ……”
ขณะที่หยางจ้างกั๋วกำลังครุ่นคิดวางแผนสร้างความปั่นป่วนอยู่นั้น ฉินหลั่งก็ได้มาหาหลู่เหม่ยเฉินที่โรงพยาบาลคางเจ๋อีกครั้ง เขาไม่ค่อยวางใจกับเบื้องหลังคลื่นใต้น้ำที่จะเกิดขึ้น
เป็นไปตามนั้นจริง เมื่อมาถึงชั้นที่หลู่เหม่ยเฉินพักอยู่ จมูกของฉินหลั่ง เหมือนกับว่าได้กลิ่นอะไรบางอย่างที่ผิดแปลกไปกับกลิ่นทั่วไปของโรงพยาบาล
แต่ว่ากลิ่นนี้เบาบางมาก คนธรรมดาทั่วไปไม่สามารถดมกลิ่นได้
เป็นกลิ่นของถ่านไม้ที่กระจายออกมาจากกระถางธูป เหมือนกับว่าจะติดตามฉินหลั่งไปทุกที่ทุกเวลา ราวกับว่าฉินหลั่งถูกสะกดรอยตามตัวอย่างไรอย่างนั้น
สีหน้าของฉินหลั่งไม่มีท่าทีที่ผิดแปลก แล้วก็ส่งข้อความหนึ่งฉบับอย่างใจเย็น จากนั้นก็เคาะประตูห้องผู้ป่วยของหลู่เหม่ยเฉิน