รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 617 พลังอันลี้ลับ
บทที่ 617 พลังอันลี้ลับ
“ฉันคิดว่าใต้เท้าเมิ่งน่าจะรู้ดีว่าเอกสารพวกนี้มีความหมายต่อตระกูลเมิ่งเพียงใด คำคมของคนจีนโบราณกล่าวไว้ว่า ความปรองดองเป็นสิ่งล้ำค่ายิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉินหลั่งมีอันตรายถึงขั้นชีวิตเช่นนี้แล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังเขาก็คงไม่ร่วมมือกันวางแผน ที่จะมาต่อต้านท่านเช่นนี้อย่างแน่นอนล่ะค่ะ” หลงเย้นพูดด้วยรอยยิ้ม
เมิ่งเย่าตงหนังตากระตุกไม่หยุดหย่อน แสร้งยิ้มอย่างไม่จริงใจ “คุณก็ลองดูสิว่า จะใช้ของพวกนี้มาทำอะไรฉันได้”
" ใช่แล้วค่ะ ได้ข่าวว่าชายคนที่ไม่ยอมเอารายงานสำนวนสอบสวนมาให้ท่าน หลังจากนั้นก็ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต”
หลงเย้นกล่าวต่อไปอย่าไม่รีบเร่ง "ลูกชายทั้งสองของเขาก็ไม่ยอมเลิกราที่จะเอาความกับท่าน เสียดายไม่มีฐานหลักฐานเพียงพอ เรื่องก็เลยจบลง''
“พอดีฉันได้พบกับคนขับรถที่ก่อเหตุ แล้วพอดีก็ยังติดต่อลูกชายทั้งสองของเขาได้ด้วยค่ะ”
" ไม่รู้ว่าท่านเมิ่งอยากจะไปพบกับพวกเขาหรือเปล่า ฉันจะช่วยจัดงานเลี้ยงทานข้าวสักมื้อให้ก็ได้นะคะ จะได้นั่งเจรจาพูดคุยด้วยกัน”
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ท่านใต้เท้าเมิ่งดูเหมือนจะชอบพอเลขาหลินในกรมการแพทย์มาก มีคนส่งรูปถ่ายของท่านที่เข้าออกในยามวิกาลหลายใบมาให้ฉันด้วยนะคะ”
“เลขาหลินเป็นลูกสะใภ้ของผู้อำนวยการเฉิน เกรงว่าหากผู้อำนวยการเฉินรู้เรื่องนี้แล้ว ไม่รู้จะยังชอบพอกับใต้เท้าเมิ่งอีกหรือเปล่า?"
“หากว่าใต้เท้าเมิ่งชอบจริงๆละก็ บอกฉันมาสักคำ ฉันจะเป็นแม่สื่อ ไปขอร้องผู้อำนวยการเฉินให้ท่านได้สมหวังนะคะ"
หลงเย้นพูดด้วยเสียงเบา ๆ นุ่มๆ เสียงไพเราะน่าฟัง แต่เมิ่งเย่าตงฝ่ามือตัวเองกลับมีเหงื่อออกไม่หยุด
เขามีความรู้สึกเหมือนกำลังถูกคนจับแก้ผ้าล่อนจ่อนจนหมดทั้งตัว
เมิ่งเย่าตงถึงอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่า หลงเย้นจะขุดเรื่องราวของตนเองได้ลึกล้ำและโหดเหี้ยมได้ถึงเพียงนี้ หากเรื่องนี้ถูกเปิดโปงออกมา เขาจะต้องพบกับจุดจบที่น่าอนาถที่สุด
กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขากระตุกขึ้น ด้วยความโกรธจัด แต่ก็ยิ้มขึ้นในทันใดและพูดว่า “ผู้จัดการหลง วันนี้แลดูคุณมีความตั้งใจเสียจริงเลยนะ”
เขาถอนหายใจเฮือก “ฉินหลั่งมีผู้หญิงที่ช่างแสนดีอะไรเช่นนี้”
น้ำเสียงหลงเย้นเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ฉันกับคุณฉินไม่มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว ฉันเพียงแต่จะตามหาความจริงบางอย่างเท่านั้น” ใบหน้ายิ้มแย้มของเมิ่งเย่าตง เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “ความหมายของคุณคือลูกชายฉันไม่ได้ถูกฉินหลั่งฆ่าตาย แต่ไปหาที่ตายเองงั้นเหรอ?”
หลงเย้นตอบอย่างไม่ต้องคิด “ถูกต้องค่ะ”
เมิ่งเย่าตงสีหน้าเย็นชา มือที่กำเงินกระดาษกงเต๊กไว้แน่นจนเส้นเอ็นเขียวปูดขึ้นมา จ้องหน้าหลงเย้นเขม็ง
“สาดน้ำโคลนให้กับคนตายก็ยังทำกันได้เชียวเหรอ?”
“ไม่ใช่สาดน้ำโคลน แต่มันคือความจริงค่ะ”
หลงเย้นหยิบเอกสารอีกชุดหนึ่งออกมา วางไว้ตรงหน้าเมิ่งเย่าตงแล้วพูดว่า “ฉันใช้เงินหนึ่งล้านซื้อรายงานฉบับนี้มา เมิ่งหมิงหมิง ผลตรวจ HIV เป็นบวก อีกทั้งยังอยู่ในระยะสุดท้าย จึงมีชีวิตอยู่ต่อได้ไม่นาน”
“ตอนแรกฉันก็แปลกใจว่า คนที่เมาสุราเคล้านารีอย่างเมิ่งหมิงหมิง จะใช้ชีวิตตัวเองมาวางแผนกับดักใส่ร้ายฉินหลั่งได้อย่างไร”
“หลังจากฉันเห็นรายงานฉบับนี้แล้ว ฉันก็ได้รู้คำตอบ”
“เขามีความแค้นกับฉินหลั่ง ชีวิตช่วงสุดท้ายที่เหลืออยู่ถูกคนนำไปใช้เป็นหอกดาบในการทิ่มแทงใส่ร้ายฉินหลั่ง มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไรเลย”
“ประเด็นนี้ก็หาคำตอบจากสีหน้าท่านใต้เท้าเมิ่ง ท่านโศกเศร้า ท่านเจ็บปวด ท่านทรมาน แต่ว่าท่านซับซ้อนมาก”
“คนหัวหงอกส่งคนหัวดำที่แท้จริงนั้น ดันแต่จะคิดจับคนร้ายมารับโทษให้ได้ หรือไม่ก็สับให้เป็นหมื่นๆชิ้น ไหนเลยจะยังคอยเป็นห่วงโชคชะตาชีวิตของตัวเองอยู่อย่างนี้ล่ะคะ?”
“ท่านสามารถควบคุมสติอารมณ์ฟังฉันพูดคุย แล้วก็ยังไม่ได้คิดจะใช้ไม้กระบองไล่ตะเพิดฉันออกอีก แสดงว่าท่านรู้แต่แรกแล้วว่าลูกชายจะตาย และจะต้องตาย”
หลงเย้น พูดด้วยเสียงเบาๆ “ท่านใต้เท้าหมิ่ง ถูกต้องหรือเปล่าคะ?”
เมิ่งเย่าตงเบี่ยงเบนประเด็นด้วยการพูดตะคอกว่า “คุณรู้สึกว่าฉินหลั่งถูกใส่ร้าย คุณจึงเอารายงานผลตรวจฉบับนี้ ไปช่วยฉินหลั่งลบล้างความผิดงั้น!”
หลงเย้นพูดอย่างเปิดเผยว่า “รายงานฉบับนี้ไม่ใช่หลักฐานที่เชื่อถือได้ ไม่สามารถนำมาใช้หักล้างได้”
เมิ่งเย่าตงแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “คุณไม่มีหลักฐาน แล้วจะโทษใครได้เล่า?”
หลงเย้นมองดูเมิ่งเย่าตงแล้วพูดว่า “แต่ท่านมี!”
เมิ่งเย่าตงลุกขึ้นยืนแล้วจ้องหน้าหลงเย้น ตะคอกเสียงดังว่า “หลงเย้น คุณหมายถึงอะไรกันแน่?”
“ลูกชายฉันตายแล้ว ในมือฉันมีหลักฐานรนหาที่ตายของเขางั้นเหรอ?”
เขาบันดาลโทสะอย่างมาก“นี่มันเป็นตรรกะบ้าบอเหลวไหลอะไรของคุณเนี่ยะ?”
“ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว!”
หลงเย้นไม่สะทกสะท้าน “เมิ่งหมิงหมิง ถึงแม้จะเป็นคุณชายเจ้าสำราญ แต่ก็ไม่ใช่คนโง่”
“สำหรับเขาที่ชอบดื่มเหล้าคลุกเคล้านารีเช่นนี้แล้ว มักจะปกปักรักษาชีวิตตัวเองมากกว่าคนทั่วไป เมื่ออยู่ในสถานการณ์ปกติ หากไม่ถึงวินาทีสุดท้ายแล้วเขาก็จะไม่ยอมตายอย่างเด็ดขาด”
“เหตุผลที่ยอมใช้ชีวิตตัวเองมาเป็นแผนกับดัก มันจะต้องมีมือมืดที่อยู่เบื้องหลังเสนอผลตอบแทนทรัพย์ก้อนโตให้อย่างแน่นอน”
“ผลประโยชน์เช่นนี้ คนตายอย่างเขาก็คงไม่มีโอกาสได้ใช้”
ใบหน้าสะสวยของเธอแลดูจริงจังมาก “เขาไม่มีโอกาสได้ใช้ คนที่ได้รับประโยชน์ก็คงมีเพียงคนตระกูลเมิ่งเท่านั้น”
“อะไรมันมั่วซั่ววุ่นวายอย่างนี้ คุณนี่ช่างพูดเองเออเองไปเสียทุกอย่างเลยนะ”
สีหน้าท่าทางเมิ่งเย่าตงโหดเหี้ยมขึ้นมา “อีกอย่างหนึ่ง ต่อให้เมิ่งหมิงหมิงจะไปร่วมมือวางกับดักกับใครก็ตามแต่ แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่จะมาเล่าให้พ่อคนนี้ฟังล่ะ?”
“ตอนมีชีวิตอยู่เล่าให้ฉันฟัง ฉันก็ต้องขัดขวางเขาแน่นอน จะเป็นระยะสุดท้ายยังไงก็แล้วแต่ ฉันก็ยังอยากให้เขามีชีวิตอยู่ต่อให้นานที่สุด”
เขาส่งเสียงถอดใจ “ตายไปแล้ว ก็ยิ่งไม่มีความจำเป็นที่ต้องบอกฉัน เมื่อถึงเวลาผลประโยชน์ก็เข้ามาเอง ฉันจะรู้หรือไม่รู้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย?”
“เล่าให้ฉันฟัง ก็ต้องเจอกับการห้ามปราบขัดขวาง”
“ไม่ค่ะ เขาจะต้องสั่งเสียเรื่องนี้ไว้กับท่านแน่นอน”
หลงเย้นเผชิญกับความโกรธของเมิ่งเย่าตงอย่างเปิดเผย “สั่งเสียไว้กับท่าน เหตุผลสำคัญที่สุดก็คือ ป้องกันมือมืดเบื้องหลังเกิดบิดพลิ้วในภายหลัง”
“หากเมิ่งหมิงหมิงไม่สั่งเสียเรื่องนี้ไว้ให้ดี หลังจากที่เขากระโดดตึกแล้วหากว่ามือมืดที่อยู่เบื้องหลังเกิดบิดพลิ้วไม่ทำตามสัญญา เขาไม่ตายเปล่าหรอกหรือ?”
“อีกทั้งเพื่อจะให้มือมืดเบื้องหลังทำตามสัญญาที่แลกเปลี่ยนกันไว้อย่างราบรื่น เขาก็จะต้องกำความลับของฝ่ายตรงข้ามไว้แน่นอน”
เมิ่งหมิงหมิงเกลียดฉินหลั่งเข้ากระดูก เขาใช้วิธีการโจมตีด้วยการฆ่าตัวตาย แต่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังก็ต้องสัญญาที่จะต้องให้ผลตอบแทนอันมหาศาล ไม่เช่นนั้นแล้ว ต่อให้เมิ่งหมิงหมิงมีเวลาเหลือเพียงวันสุดท้ายของชีวิต เขาก็จะไม่ยอมฆ่าตัวตายอย่างเด็ดขาด
“ฉันคิดว่า หลักฐานความลับของมือมืดที่อยู่เบื้องหลังที่ยุแยงให้เมิ่งหมิงหมิงใส่ร้ายฉินหลั่งนั้น ตอนนี้ก็คงอยู่ในมือของใต้เท้าเมิ่งแล้วสินะ…..”
คำพูดไม่กี่คำนี้ เปรียบเสมือนหนามทิ่มแทงลงไปในใจของเมิ่งเย่าตง
“ฮ่าๆๆๆ” เมิ่งเย่าตงหัวเราะขึ้นมาทันควัน ยกนิ้วหัวแม่โป้งให้กับหลงเย้น “ลูกสาวของหลงเถิงไม่ธรรมดาจริงๆ ความคิดจินตนาการ ก็ล้ำลึกมากกว่าคนทั่วไป”
“เพียงแต่ว่าฉันจะบอกให้นะ หลักฐานหรือ ไม่มี!”
“ผู้จัดการหลง คุณคงจะผิดหวังมากสิ ใช่ไหมครับ?”
“เอกสารพวกนั้นของคุณ อย่างมากก็แค่ทำให้ชื่อเสียงฉันป่นปี้ สูญเสียทรัพย์สินเงินทองไปบ้าง แต่ไม่มีทางที่ทำให้ฉันล่มสลายได้หรอก”
น้ำเสียงเขาเปลี่ยนเป็นเสียงต่ำลงทันที “ฉันเสียเงินไปแค่ห้าร้อยแต่ได้ผลถึงหนึ่งพันเกินคุ้มจากการสังหารฉินหลั่ง คุ้มค่าจริงๆ”
“เมื่อเช้านี้ ท่านส่งคนไปประท้วงที่หน้าร้านหุยชุน ฝูงชนเกิดปะทะกันรุนแรง หอการแพทย์ก็ถูกไฟไหม้ มีคนได้รับบาดเจ็บจำนวนไม่น้อยเลย”
หลงเย้นหน้าไม่เปลี่ยนสี “การกระทำเยี่ยงนี้ของท่าน ทำให้สั่นสะเทือนไปถึงหลายหน่วยงานทางราชการ ตอนนี้พวกเขากำลังจับตามองท่านอยู่”
เมิ่งเย่าตงเงยหัวขึ้นมาทันที ใบหน้าที่ชรา ช่างไม่มีความเมตตาเลยสักนิด มีแต่ความโหดร้ายและเหี้ยมเกรียม “ฉันว่าสมาชิกของตระกูลเมิ่งจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ตอนนี้ดูเหมือนน่าจะเป็นฝีมือของผู้จัดการหลงสินะ แต่แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ?”
“ทางการจับตาดูฉันแล้วยังไงล่ะ?”
เขาวางท่าที่จะสู้ชนให้ถึงที่สุด “ฉันทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ก่อกวนไม่เคลื่อนไหว แล้วคุณจะทำอะไรฉันได้หา?”
“ถ้าหากฉันจะบอกพวกเขาอีกเรื่องว่า……”
หลงเย้นไม่หยุดที่จะจู่โจมปราการด่านสุดท้ายของเขา “เมื่อสามสิบปีที่แล้ว ใต้เท้าเมิ่งยังมีคดีฆาตกรรมติดตัวอยู่ ไม่ทราบว่าใต้เท้าเมิ่งยังจะสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้หรือเปล่าคะ?”
หลงเย้นหยิบมือถือขึ้นมา แล้วเปิดเทปเสียงบางตอน เมิ่งเย่าตงได้ฟังถึงกับตาเหลือกทั้งสองข้าง แล้วล้มลงบนโซฟา
“จะโบยบินหนีไปให้ไกล หรือว่าจะไปนอนคุกในบั้นปลายของชีวิต ท่านก็ไตร่ตรองให้ดีแล้วกันนะคะ” พอพูดจบก็หันหลังจากไป