รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 609 กลอุบาย
บทที่ 609 กลอุบาย
ไม่ว่ายังไงฉินหลั่งก็คาดคิดไม่ถึง ลูกสาวสุดที่รักของหลงเถิงเจ้าบ้านตระกูลใหญ่แห่งหลินอานจะมาใช้ชีวิตเสเพลถึงเมืองเย็นจีน
มือที่บีบคอของเมิ่งเหมิงเหมิงคลายลงเล็กน้อย หลงเย้นเพียงแค่โทรศัพท์สายเดียวเขาก็รีบมุ่งตรงไปที่เมืองหลินอานเพื่อช่วยเหลือตระกูลหยู ระหว่างพวกเขาถือว่ามีวาสนาต่อกัน
ในแววตาของหลงเย้นเต็มไปด้วยความดีใจและยังมีความอ่อนโยนที่เหมือนกับสายน้ำ
ฉินหลั่งรู้สึกใจอ่อนไปสักพัก แต่หลังจากนั้นเขาก็บีบคอของเมิ่งเหมิงเหมิงไว้แน่นพร้อมกับมองพวกหลงเย้นด้วยความเฉยเมย
ไนต์คลับแห่งนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นธุรกิจของหลงเย้น ไม่อย่างนั้นหลงเย้นก็คงไม่มาปรากฏตัวที่นี่และไม่เข้ามาห้ามปรามถึงที่นี่ด้วย
“พี่ใหญ่มีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า ปล่อยเขาก่อนได้ไหม?” หลงเย้นรู้สึกประหม่าเล็กน้อยและดวงตาที่สวยงามสั่นไหว
หลงเย้นได้ยินมาว่าคืนนี้ที่ไนต์คลับเกิดเรื่อง จึงพาคนกลุ่มหนึ่งรีบมาที่นี่
ใครจะไปรู้หลังจากที่เข้ามาถึงชั้นเจ็ดก็พบกับมีคนบาดเจ็บนอนเต็มพื้นและยังมีปืนและมีดตกเรียงรายตามพื้น
หลังจากที่ตรงมาถึงห้องโถงงานเลี้ยงก็ยิ่งต้องพบกับเมิ่งเหมิงเหมิงที่ถูกคนบีบคอห้อยอยู่ตรงหน้าต่าง
ความสูงเจ็ดชั้น ทุกชั้นมีความสูงสามจุดห้าเมตรและทั้งหมดรวมแล้วสูงเกือบสามสิบเมตร ถ้าหากเมิ่งเหมิงเหมิงตกลงไปคงต้องตายอย่างแน่นอน
ดังนั้นเธอจึงไม่ลังเลที่จะพูดห้ามปราม
พี่ใหญ่ฉิน ไม่ว่าจะเป็นบุญคุณความแค้นอะไรแต่นี่มันเป็นถึงการฆ่าคน ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้หลงเย้นสามารถจินตนาการออกได้เลยว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
“พี่ใหญ่มีอะไรพูดกันดีๆ วางเขาลงก่อนได้หรือเปล่า”
เธออดไม่ได้ที่จะเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ไม่อย่างนั้นถ้าหากเขาตกลงไปต้องตายแน่”
“มีเรื่องอะไรพูดกันดีๆ?”
ฉินหลั่งรู้สึกขำ เขาหันกลับไปมองเมิ่งเหมิงเหมิงแล้วหัวเราะอย่างเย็นชา “เธอลองถามไอ้สวะคนนี้ดู มีเรื่องอะไรเขาจะคุยกันดีๆหรือเปล่า?”
"ประธารหลง ช่วยด้วย รีบช่วยผมด้วย"
เมิ่งเหมิงเหมิงไม่ได้สนใจฉินหลั่ง เขาทำเพียงแต่ขอความช่วยเหลือจากหลงเย้นไม่หยุด “ผมมาจัดปาร์ตี้วันเกิดที่นี่ แล้วจู่ๆไอ้บ้านี่ก็บุกเข้ามาทำร้ายคน และยังบอกว่าจะฆ่าผม คุณรีบหยุดไอ้บ้านี่เร็ว”
“ที่นี่เป็นที่ของคุณนะ ผมมาเพื่อสนับสนุนตระกูลฉู่แห่งเย็นจีนและคุณหลงเย้น ถ้าหากผมเป็นอะไรไปพวกคุณไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำธุรกิจต่อได้ และจะถูกพ่อของผมถามหาความรับผิดชอบด้วย”
“รีบโทรเรียกตำรวจมาจับไอ้บ้านี่”
ท่าทางที่ดูกระวนกระวายของเขา ดูเหมือนว่าจะถูกฉินหลั่งทำให้ตกใจจนกลัวมากและอีกทั้งยังดูน่าสงสารอย่างอธิบายไม่ถูก
กลุ่มเพื่อนของเขาก็พูดสนับสนุนขึ้นเช่นกัน ตำหนิว่าฉินหลั่งไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตา
คำพูดของพวกเขาเหมือนกับว่าฉินหลั่งเป็นคนชั่วร้ายที่ไม่รู้จักแยกแยะถูกผิดชอบดี
“พี่ใหญ่ ฉันขอร้อง”
หลงเย้นเลิกเปลือกตาขึ้นมองฉินหลั่งและพูดด้วยความกังวล “มีบุญคุณความแค้นอะไรนั่งลงค่อยๆคุยกัน หรือไม่ก็ให้ทางตำรวจมาจัดการ”
เธอพยายามพูดห้ามปรามอย่างขมขื่น “ฆ่าคนต้องติดคุกนะ”
“ฉินหลั่งคืนนี้ไม่ก็แกฆ่าฉันทิ้ง หรือไม่ก็ฉันส่งแกเข้าไปอยู่ในคุก”
จู่ๆเมิ่งเหมิงเหมิงก็ตะโกนพูดด้วยน้ำเสียงเสียงที่อวดดี “แกทำร้ายคนของฉันเยอะแยะขนาดนี้ และยังทำร้ายฉันจนตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ยังไงก็ไม่น้อยกว่าสามหรือห้าปี”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าท้องฟ้าของประเทศจีน แกจะสามารถปกคลุมมันด้วยมือเดียว”
“หุบปาก”
ฉินหลั่งสะบัดข้อมือเหวี่ยงเมิ่งเหมิงเหมิงที่กำลังดิ้นรนกระแทกใส่กำแพง
เมิ่งเหมิงเหมิงส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา ที่หัวของเขาแล้วมีเลือดไหลออกมาทันที
“พี่ใหญ่ มีเรื่องอะไรอย่าให้ถึงขั้นนี้เลย ฉันว่าเราลองคุยกันดีๆดีกว่า”
ความรู้สึกตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในแววตาของหลงเย้นเมื่อถูกกระตุ้นด้วยเลือดสดๆแบบนี้
แต่ทุกคนก็ไม่มีใครรู้ว่าตกลงหลงเย้นกำลังเป็นห่วงฉินหลั่งหรือว่าเป็นห่วงเมิ่งเหมิงเหมิง
“จริงนะ มันไม่คุ้มหรอกที่พวกเราจะเอาอนาคตของตัวเองไปเดิมพันกับคนที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ เขาคู่ควรหรือเปล่า?” หลงเย้นพูดคร่ำครวญ
ความรู้สึกกังวลนี้ไม่ได้เพราะเป็นห่วงเมิ่งเหมิ่งเหมิ่งตกลงไปตาย แต่กำลังเป็นห่วงฉินหลั่งเพราะเรื่องนี้จะมีปัญหาตามมาอีกมากมาย
“อนาคต? ฮื่มๆ”
ฉินหลั่งหันหน้ากลับไป “คนอย่างเขาไม่มีผลกระทบต่ออนาคตของฉันหรอก”
“ในทางกลับกันไอ้สวะคนนี้ มันทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าไว้มากมาย”
เมิ่งเหมิงเหมิงพูดตะโกนด้วยความยากลำบาก “ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แกต่างหากที่เป็นคนมาหาเรื่อง ฉันทำเรื่องเลวทรามแกก็เอาหลักฐานออกมาสิ”
หน้าอกของหลงเย้นกระพือขึ้นลงอย่างแรง “เขาไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน แต่ยังไงกฎหมายและสวรรค์ก็ต้องลงโทษเขา”
หลงเย้นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจ เธอมาถึงเมืองเย็นจีนและได้พบกับฉินหลั่งเป็นครั้งแรกมีความเป็นไปได้ที่จะต้องลาจากกันอย่างสมบูรณ์
ผู้คนเบิกตากว้าง ถ้าหากฉินหลั่งฆ่าเมิ่งเหมิงเหมิงตายจริง เขาก็คงถึงทางตันยากที่จะถอยแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นฉินหลั่งเพิ่งมาอยู่ที่เมืองเย็นจีนได้ไม่นาน เทียบไม่ได้กับตระกูลเมิ่งที่เป็นเจ้าถิ่นมาหลายสิบปี
“ความยุติธรรมในสมัยนี้ไม่ใช่ความยุติธรรม”
ฉินหลั่งพูดอย่างไม่เกรงใจ “ส่วนรอให้สวรรค์มาจัดการเขาไม่สู้ฉันเป็นคนบีบคอเขาให้ตายตอนนี้ยังดีกว่า”
เมิ่งเหมิงเหมิงหายใจลำบากอีกครั้ง เมื่อเห็นฉินหลั่งไม่ยอมฟังคำห้ามปรามหลงเย้นเริ่มรู้สึกกังวล “พี่ใหญ่ เกลียดเขามากขนาดนั้นจริงเหรอ?”
“ฉินหลั่ง รีบปล่อยเมิ่งเหมิงเหมิงเดี๋ยวนี้ ทางไนท์คลับได้โทรแจ้งตำรวจแล้ว อีกเดี๋ยวทางตำรวจเขาก็จะมาถึงแล้ว”
“ถึงเวลานั้นไม่ว่าเมิ่งเหมิงเหมิงจะเป็นอะไรหรือเปล่า นายก็ต้องมีปัญหามากมายตามมาแน่นอน”
เพื่อนของเมิ่งเหมิงเหมิงตะโกนขึ้น
สายตาของฉินหลั่งหันไปมองผู้หญิงคนนั้นอย่างเชื่องช้า “เธอกำลังกังวลว่าถ้าหากเมิ่งเหมิงเหมิงตายมันจะมีผลกระทบต่อธุรกิจไนท์คลับของเธอกับปัญหาที่ตามมาใช่หรือเปล่า?”
“ฉัน……” หลงเย้นรู้สึกสับสนไปหมด ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงถึงจะดี
ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ หลงเย้นจะพูดออกมาได้ยังไง เธอคิดในใจ:
พี่ใหญ่ฉิน ถึงแม้ว่าคุณจะจุดไฟเผาไนท์คลับทิ้งฉันก็ไม่มีทางโทษคุณอย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณฆ่าไอ้สวะคนนี้แล้วตัวเองจะยังมีทางถอยหรือเปล่า……..
หลงเย้นจ้องมองฉินหลั่งจนรู้สึกหลงทาง ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ควรสนับสนุนให้พี่ใหญ่ฉินให้ฆ่าคนไม่ใช่เหรอ
แต่ในหัวของเธอมันเอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างชัดเจน
“ปัง—–”
ในขณะที่ฉินหลั่งกำลังรู้สึกเยาะเย้ยตัวเอง ขาทั้งสองข้างของเมิ่งเหมิงเหมิงพับงอเข้าและถีบขอบหน้าต่างอย่างกะทันหัน
ทั้งตัวของเขาหลุดออกมาจากฝ่ามือของฉินหลั่งเหมือนกับลูกธนูที่ออกจากคัน
เขาตกลงไปจากความสูงที่เกือบสามสิบเมตร
“อ่า—–”
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น เมิ่งเหมิงเหมิงร่วงหล่นลงสู่พื้น เลือดไหลออกจากทวารทั้งเจ็ดและตายคาที่
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์อุทานออกมาด้วยความตกใจและมองฉินหลั่งที่อยู่ริมหน้าต่าง
ตอนที่ขาทั้งสองข้างของเมิ่งเหมิงเหมิงถีบออกไปนั้นการเคลื่อนไหวของเขาถูกร่างกายของฉินหลั่งบังจนหมด ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถมองเห็นเมิ่งเหมิงเหมิงเป็นคนเลือกทางเดินฆ่าตัวตาย
ทุกคนคิดว่าฉินหลั่งเป็นคนโยนเมิ่งเหมิงเหมิงออกไป
“พี่ใหญ่!”
หลงเย้นอุทานออกมา เธอรีบวิ่งตรงไปชะเง้อดูที่หน้าต่าง
เห็นเพียงมีพนักงานรักษาความปลอดภัยและแขกกำลังรุมล้อมมองดูเมิ่งเหมิงเหมิงที่อยู่ใต้แสงไฟ
เมิ่งเหมิงเหมิงนอนแน่นิ่ง รอบกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด
หลงเย้นรู้สึกมึนงงไปหมด
เพื่อนๆของเมิ่งเหมิงเหมิงก็มองตาค้างเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าเมิ่งเหมิงเหมิงจะตายแล้ว และยิ่งคิดไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะฆ่าคนในที่สาธารณะ
โหดเหี้ยมและบ้ามาก
นอกจากความโกรธแล้วพวกเขายังแสดงให้เห็นถึงความกลัวด้วย
แต่ฉินหลั่งกลับดูนิ่งสงบเหมือนสายลม
เขารู้ดีไม่ใช่เป็นเพราะว่าตัวเองพลั้งแต่เป็นเพราะเมิ่งเหมิงเหมิงฆ่าตัวตาย
คุณชายมหาเศรษฐีอย่างเมิ่งเหมิงเหมิงน้ำเข้าสมองเลือกทางเดินฆ่าตัวตาย?
หลังจากนั้นสีหน้าของฉินหลั่งก็เย็นชาลง เขาได้กลิ่นอายของกลอุบาย
ฮือๆ ใบหน้าของหลงเย้นซีดขาว หลังจากนั้นก็มีน้ำตาไหลออกมาเต็มหน้า
ในขณะเดียวกัน ประตูใหญ่ก็ถูกคนถีบจนเปิดออก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากพากันวิ่งเข้ามา……
ช่วงเช้าเวลาเจ็ดโมงครึ่ง สถานีตำรวจกองกำลังที่หกเมืองเย็นจีน
สวี่ซีเหวินและอิงจิ่งหลิงพวกเธอขับรถเข้าประตูใหญ่มาด้วยความเร่งรีบ หลังจากที่เพิ่งจอดรถเสร็จก็พบกับพวกหลงเย้นที่เดินออกมาจากห้องโถง
เมื่อได้ข่าวว่าฉินหลั่งถูกจับมาที่สถานีตำรวจ พวกสวี่วีเหวินก็รีบเดินทางมาในทันที
พวกเธอและหลงเย้นไม่ได้รู้จักกัน
“ฉินหลั่งคนนี้มันเป็นพวกหัวรุนแรง มันคงจะต้องติดคุกหัวโตแน่” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างกายของหลงเย้นพูดด้วยความสะใจ
“ฮื่ม กล้ามาฆ่าคนในที่ฉันปกครองอยู่ คงจะเห็นว่าตระกูลฉู่ของฉันเป็นแมวป่วยไปแล้ว”
ส่วนหลงเย้นขมวดคิ้ว ดวงตาดูสั่นไหว
“เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อได้ยินคำพูดของคนข้างกายหลงเย้นพูดแบบนี้ อิงจิ่งหลิงจึงพูดขึ้น “ทำร้ายคนในพิพิธภัณฑ์ฉันเชื่อ ทำให้เมิ่งเหมิงเหมิงพิการฉันก็เชื่อ แต่ฆ่าคนในที่สาธารณะเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”