รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 537 สู้จนกว่าคุณจะยอมแพ้
บทที่ 537 สู้จนกว่าคุณจะยอมแพ้
“ปรมาจารย์เป็นมังกรจากสวรรค์ แน่นอนว่าต้องมีกฎของมังกร คนที่ทำให้ปรมาจารย์อับอายขายหน้า ต้องฆ่าอย่างไรปราณี!”
เป็นอย่างที่คิด สีหน้าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งเปลี่ยนไป พลางขมวดคิ้วพูด:“แกกำลังรนหาที่ตาย!”
คนที่อยู่รอบข้างเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งอารมณ์เดือดปุดๆ แสงสีขาวรวมอยู่บนมือ จากนั้นก็ลอยตามแรงมือเขา ลอยลิ่วๆๆไป เหมือนแสงแดดผ่านแสงสีขาวไป
ก่อนหน้านี้ทุกคนเคยเห็นพลังแส้ของเขาแล้ว แค่ฉินหลั่งตัวเล็กๆ เพียงฟาดแส้ลงไปเกรงว่าฉินหลั่งคงแหลกคาที่
“ปรมาจารย์เกิดโทสะแล้ว”จั่วเฉินบิงตื่นเต้นยิ่งกว่าใครทั้งนั้น
ตอนนี้ถึงฉินหลั่งจะมีคนช่วยยังไง ก็ขวางความโกรธของเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งไม่ได้
ทุกคนไม่เชื่อว่าฉินหลั่งจะสามารถหลบได้
ในขณะนั้นเอง เหย่หยวนเม๋ยจื่อเหมือนคุยโทรศัพยืกับใครบางคนอยู่ พอวางสายก็พูดขึ้น:
“ปรมาจารย์ระวัง เขาเป็นปรมาจารย์ฉินของยาวเย่วกง……”
“อะไรนะ?”เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งอึ้ง ยังฟังไม่ทันเสร็จ จู่ๆฉินหลั่งก็ยืนขึ้น ชูมือขาวนวลนั่นขึ้นแล้วกำเป็นหมัด จากนั้นต่อยออกมาอย่างแรง!
หมัดนี้ลอยมาอย่างไม่มีพลัง ดูเหมือนเป็นหมัดสุดท้ายของชายหนุ่มที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง
แต่พลังแสงสีขาวนั้นปะทะกับพลังหมัดของเขา จากนั้นก็ระเบิดขึ้น พลังเมฆร่วงลงมาอย่างนับไม่ถ้วน บนทางช้างเผือกที่ไกลสิดขอบฟ้า เกิดเป็นคลื่นยักษ์สะท้อนกลับมายังเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งอย่างจัง
“เป็นไปได้ยังไง!”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งพูดอย่างตกใจ ไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป ร่างของเขาลอยขึ้นราวก้อนเมฆสีขาว ใช้ฝ่ามือฉึบฉับไปมาจนทำลายลมปราณคุ้มกายออกไปได้ เขายังไม่ทันได้พักหายใจ ทันใดนั้นหมัดพลังสีขาวราวกับหยก ที่อยู่ในพลังเมฆก็พุ่งเข้ามา
“ตูม!”
หมัดนี้กระทบกับเกราะนอกตัวเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง จากนั้นก็รวบรวมพลังลมปราณคุ้มกายหนาเป็นนิ้วปกป้องร่างกายไว้ สามารถกั้นกระสุนได้ มันเป็นยุทธศาสตร์การพึ่งพาของปรมาจารย์ในสังคมปัจจุบัน ตอนนี้รับไว้ไม่ไหว โดนหมัดหนักๆต่อยเข้ามา สลายกลายเป็นพลังเมฆลอยเต็มท้องฟ้าอากาศ
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งถอย!
ความเร็วในการถอยของเร็วกว่าตอนบุกไปด้านหน้าอีก แต่ต่อให้เขาถอยเร็วแค่ไหน ก็เร็วไม่เท่าพลังหมดราวหยกขาวนั้น
“ตุบ!”
หมัดหยกขาวนั่นพุ่งไปตรงหน้าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งอย่างจัง ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทุกคน เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งถูกอัดกระเด็นลอยไปเหมือนลูกเบสบอล จนไปชนกับกำแพง แล้วร่วงลงนอกห้องโถง
ตอนนี้เงียบสงัด ทุกคนล้วนอึ้งกับภาพตรงหน้า ทำอะไรไม่ถูก
จั่วเฉินบิงเบิกตากว้าง ไม่อยากจะเชื่อ เสิ่นชิงซานคิดว่าเขาตาลายไปหรือเปล่า
พลังเมฆลอยอยู่บนกำแพง ฝุ่นควันคละคลุ้ง ปรมาจารย์ตกลงมา แล้วค่อยหยัดตัวขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความผวา
ท่ามกลางสายที่ไม่อยากจะเชื่อของทุกคน ฉินหลั่งเอามือไขว้หลัง แล้วค่อยๆเดินออกจากกำแพงเมืองจีน เขาเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มให้เสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง ยิ้มจนเห็นฟันขาวแวววาว:
“ใครบอกว่ามีแค่คุณที่เป็นปรมาจารย์แดนฟ้า?”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งโดนซัดจนลอยไปไกลอย่างคาดไม่ถึง!
นี่เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง ในสายตาทุกคน ปรมาจารย์เป็นคนที่ไม่มีใครสามารถต่อกรได้ นอกจากใช้อาวุธหนักหรือกองทัพในการลงมือ ไม่เช่นนั้นไม่มีใครสามารถทำอะไรปรมาจารย์ได้ สามารถทำให้ปรมาจารย์คนหนึ่งพ่ายแพ้ได้ ดูเหมือนจะมีแค่ปรมาจารย์อีกคนหนึ่งเท่านั้น
ทุกคนเกิดความวุ่นวาย ยาวเย่วกงมีปรมาจารย์อายุน้อยคนหนึ่ง ทุกคนคิดว่าเป็นแค่คำโฆษณา แต่วันนี้เรื่องตลกกลับอยู่ตรงหน้า พวกเขาหัวเราะไม่ออกแล้ว ที่แท้ก็มีปรมาจารย์อายุ20กว่าๆจริงๆด้วย!
เป็นไปได้ไหมว่าเขาคือปรมาจารย์ฉินที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน แต่ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงคนนั้น?
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งค่อยๆลุกขึ้น สายตาเยือกเย็นทันใด เขาทั้งรู้สึกผวาและโกรธแค้น คนระดับเขา วันนี้โดนฉินหลั่งซัดกระเด็นต่อหน้าทุกคน เป็นความอัปยศไปชั่วชีวิตเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง
“ดูท่าคุณจะยังไม่ยอมแพ้นะ งั้นผมจะสู้จะกว่าคุณจะยอมก็แล้วกัน”ฉินหลั่งยิ้มจนเห็นฟันขาว
ฉินหลั่งพูดจบก็เดินไป ก้าวข้ามระยะห่างเกือบ10เมตร แล้วไปตรงหน้าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง ราวกับเขาหดตัวเหลือแค่นิ้วเดียวอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นก็ปล่อยพลังหมัดออกมาอีกครั้ง
“ปัง!”
ทั้งคู่สู้กันอีกครั้ง ครั้งนี้เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งมีการเตรียมพร้อม เขาเอามือประกบกันเล็กน้อย ฝ่ามือของเขาปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาว รวมตัวกันกลายเป็นรุ้งยาว จากนั้นเป็นวงกลม แล้วทำเป็นดาบใหญ่โบกไปมา รับหมัดของฉินหลั่ง
ทันใดนั้นหมัดก็แยกออกจากกัน เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งถอยกรูดไปด้านหลัง
“พลังเยอะมาก!”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งใจสั่นมาก มือทั้งสองข้างของเขาก็ค่อยๆสั่นเทา เพราะช็อคกับพลังมหาศาล ที่มาพร้อมกับหมัดของฉินหลั่ง
“ทำไมเขามีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้?หรือว่าเขาจะเป็นหนึ่งในปรมาจารย์แดนฟ้าระดับกลาง?”เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งรู้สึกไม่น่าเชื่อ การเป็นปรมาจารย์แดนฟ้าระดับกลางนั้น ยากกว่าเป็นปรมาจารย์ธรรมดาเสียอีก ใน100ปีมานี้ ปรมาจารย์แดนฟ้าระดับกลางที่ได้รับการจดบันทึก ก็มีแค่ตู้ยู่เสินเมื่อ700ปีก่อนแค่นั้น
แต่ตอนนี้เขาไม่อาจคิดเรื่องนี้ได้อีก เพราะฉินหลั่งตามติดๆ
“วิชากระบี่เขียนจี”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งตัดสินใจที่จะไม่สู้กับฉินหลั่ง แต่เห็นมือเขาราวกับกำลังเล่นเปียโน เส้นไหมคอยๆสยายลงมาราวกับสายฝน เหมือนละอองฝนที่โอบล้อมหัวใจของผู้คน
ทันใดนั้นภายในไม่กี่เมตรรอบๆฉินหลั่ง ล้วนโดนล้อมไปด้วยไหมจำนวนนับไม่ถ้วน ดูเหมือนง่ายที่จะเอาออก แต่หลังจากที่มันขาดก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้งอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“เขาจะรับมือกับวิทยายุทธนี้ยังไง?”
ทุกคนล้วนตกตะลึง สนใจเป็นอย่างมาก
ฉินหลั่งยิ้มๆ แต่มือทั้งสองข้างก็กางออกราวกับปีกนก เหมือนพญาครุฑจากบนท้องฟ้า
“คัมภีร์เต่าเย่าท่าที่72 ท่าที่2 มือฉุยหยุน!”
เห็นเพียงดาบสีทองแหลมคมสองเล่มกะพริบอยู่กลางอากาศ ฉินหลั่งเปลี่ยนจากแขนเป็นปีก จากปีกเป็นดาบ รวมกันจนเป็นดาบที่แหลมคม ระหว่างที่เขากำลังโบกมือไปมา เหมือนดาบสองเล่มไขว้กันกลางอากาศ
“ชิ้ง!”
ภายในรัศมีสามฟุต ท้องฟ้าเต็มไปด้วยไหมสีขาวและพลังของดาบ ส่วนดาบขนาดใหญ่ทั้งสองของฉินหลั่ง โดนตัดหักเป็นสองท่อนกลางอากาศ ในสายตาคนนอก วงแหวนการระเบิดของพลังสีขาวปรากฏขึ้นทั่วฟ้า นั่นคือความน่าอัศจรรย์ของอากาศที่ถูกทำลายจนกระจายออกมา
แสงสีทองสองอันเหมือนจะตัดขาดได้ทุกอย่าง!
“ศิลปะการต่อสู้อะไรเนี่ย!”
เสี่ยวฉวนอู่เจิ้งรีบถอยกรูด หน้าเขียวไปหมด
เขาคิดว่าที่ตนแพ้ให้กับหมัดก่อนหน้านี้ เพราะประเมินศัตรูต่ำไป แต่การสู้กันรอบนี้ได้ทำลายความมั่นใจของเขาไปหมดสิ้น
เสื้อตรงหน้าอกเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งขาดลุ่ย จนเห็นรอยแตกสองรอย แม้กระทั่งลูกปัดเลือดบนผิวหนังก็ยังโผล่ออกมารำไร สามารถเห็นรอยมีดจางๆสองรอย เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่เพราะเขาหลบได้เร็ว ฉินหลั่งคงตัดเขากลายเป็นสองท่อนด้วยลมปราณคุ้มกายกลางอากาศไปแล้ว
ลมปราณคุ้มกายของปรมาจารย์ สามารถกันกระสุนได้ ดังนั้นปรมาจารย์จึงสามารถอยู่ในสังคมปัจจุบันได้ แต่พลังกลายเป็นดาบของฉินหลั่งนั้น แม้แต่ลมปราณคุ้มกายก็สามารถตัดได้ พลังที่น่ากลัวเช่นนี้ เกรงว่าไม่ว่ารถอยู่ที่ไหนก็สามารถตัดขาดเป็นสองส่วนได้
“อีกรอบ!”
ฉินหลั่งหัวเราะร่าเสี่ยวฉวนอู่เจิ้งสามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้ เป็นคนกล้าหาญของญี่ปุ่นอย่างที่คิดไว้จริงๆด้วย