รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 5 เขาก็คือยาจกคนนั้น
บทที่ 5 เขาก็คือยาจกคนนั้น
“พวกนายไปก่อน ฉันขอไปห้องน้ำก่อน” ฉินหลั่งพบว่าบนเสื้อมีรอยเปื้อนเล็กน้อย พอพูดจบ ก็เดินไปทางห้องน้ำทันที
เมื่อเห็นพวกส้งเส่นเอ๋อทั้งสามคนแล้ว ผู้หญิงที่ทั้งสวยและน่ารักขนาดนี้ ทำเอาหยินห้าวกับยินถิงใจกระตุกวูบ หยินห้าวเปลี่ยนไปเขินอายทันที ย่างก้าวก็ช้าลง ยินถิงดันกรอบแว่น เพื่อซ่อนความร้อนรนกระวนกระวายที่อยู่ภายในจิตใจ
“เส่นเอ๋อ เหวินเหวิน เป้ยเป้ย กำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ แต่ละคนถึงได้หัวเราะอย่างมีความสุขขนาดนี้” ขณะพูด โจวซินก็เดินไปทางพวกส้งเส่นเอ๋อด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
พวกส้งเส่นเอ๋อทั้งสามคนหันหน้าไป หมายจะหันไปมอง เพื่อนร่วมหอของหวงเกอที่โจวซินพามา ตอนที่เห็นหยินห้าวกับยินถิง รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อไปทันที ความรู้สึกที่เหมือนดั่งฤดูใบไม้ผลิในเดือนมีนาคมเมื่อครู่ จู่ๆก็เหมือนเจอเข้ากับกระแสลมหนาว
หยินห้าวหน้าตาไม่ดี ยินถิงดูธรรมดา แตกต่างกับสิ่งที่อยู่ในความคิดของพวกเธอเป็นอย่างมาก
เพียงแค่มองครั้งเดียว พวกส้งเส่นเอ๋อทั้งสามคนก็ไม่หันไปมองอีก เห็นได้ชัดเลยว่าออกจะผิดหวังเล็กน้อย
“เอ่อ” เมื่อได้เห็นท่าทีของเพื่อนสนิท บนใบหน้าของโจวซินก็ฉายแววอึดอัด เธอรู้แต่ต้นแล้วว่า จะต้องเป็นแบบนี้ ก็เลยแอบส่ายหัวเงียบๆ แล้วหันไปถลึงตาใส่หวงเกอ หวงเกอก็ทำได้แค่ยิ้มแห้งๆ
“รีบนั่งเถอะ” หวงเกอรีบจัดการทันที “ยินถิง นายนั่งข้างเหวินเหวิน หยินห้าว นายไปนั่งกับเป้ยเป้ย”
พอหวงเกอจัดที่นั่งเสร็จ เหวินเหวินก็ลุกขึ้นมาทันที แล้วไปนั่งข้างเป้ยเป้ย ซึ่งนั่นก็บ่งบอกชัดเจนแล้วว่า ไม่อยากจะนั่งใกล้กับพวกยินถิง
ทำให้ยินถิงกับหยินห้าวถึงกับเลิ่กลั่ก ส่วนเหวินเหวินกับเป้ยเป้ยสองคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาคุยกัน ไม่ได้รู้สึกเลยสักนิดว่า สิ่งที่ทำมีอะไรไม่ถูกต้อง
รอบโต๊ะเป็นเก้าอี้ไม้ทั้งหมดสี่ตัว เก้าอี้ไม้หนึ่งตัวนั่งได้สองคน เหวินเหวินกับเป้ยเป้ยนั่งตัวหนึ่ง ยินถิงกับหยินห้าวตัวหนึ่ง หวงเกอกับโจวซินตัวหนึ่ง ที่เหลืออยู่ก็คือส้งเส่นเอ๋อคนเดียวนั่งหนึ่งตัว
ภายในใจของโจวซินกับหวงเกอต่างก็รู้สึกไม่เป็นสุข ส้งเส่นเอ๋อเป็นคนที่สวยที่สุดและเลือกมากที่สุดในหมู่เพื่อน ถ้าอีกเดี๋ยวฉินหลั่งเดินมา ส้งเส่นเอ๋อจะมีปฏิกิริยาแบบไหนกัน
ถึงแม้ฉินหลั่งจะหน้าตาใช้ได้ แต่ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ของจากร้านแผงลอย สภาพยาจกเกินไปจริงๆ
หวงเกอกับโจวซินเรียกให้คนอื่นๆเลือกเมนูอาหาร ความสนใจทั้งหมดของเหวินเหวินกับเป้ยเป้ยไปอยู่ที่เมนูอาหาร ไม่ได้สนใจพวกหยินห้าวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมถึงมาแค่สองคนล่ะ หอพักของพวกนายมีกันแค่สามคนเหรอ” ส้งเส่นเอ๋อลูบผมสลวย แล้วหันไปถามหวงเกอ
“อ๋อ อีกคนไปเข้าห้องน้ำน่ะ คงใกล้จะกลับมาแล้ว” หวงเกอรีบตอบกลับไป เพิ่มพูดจบ ก็หันไปเห็นฉินหลั่งเดินมาตรงหน้าพอดี หวงเกอยืนขึ้นแล้วโบกมือให้เขา “ฉินหลั่ง ทางนี้ รีบมาเลย”
ส้งเส่นเอ๋อ เหวินเหวิน เป้ยเป้ยพอได้ยินว่ามีคนมาเพิ่ม ก็หันไปมองทางฉินหลั่ง เหวินเหวินกับเป้ยเป้ยแค่มองครั้งเดียว ก็หมดความสนใจทันที หันสายตากลับไปมองที่เมนูอาหารอีกครั้ง
แต่ส้งเส่นเอ๋อกลับเบิกตาโต และหางตาก็กระตุก สายตามีแววไม่พอใจวาบผ่าน
ฉินหลั่งเองก็จำส้งเส่นเอ๋อได้ มองส้งเส่นเอ๋อทีหนึ่ง ก่อนจะเดินมา เขาไม่ค่อยเข้าใจ ว่าทำไมส้งเส่นเอ๋อถึงได้ดูเหมือนจะเกลียดเขาขนาดนั้น
พอฉินหลั่งเดินมานั่งลงข้างส้งเส่นเอ๋อ ส้งเส่นเอ๋อก็จ้องมองฉินหลั่ง ทำเสียงในลำคอ แล้วแสดงรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา
“เส่นเอ๋อ เธอเป็นอะไรไป” ทำไมถึงได้รู้สึกว่าส้งเส่นเอ๋อรู้จักฉินหลั่ง โจวซินก็เลยถามออกไป
“ไม่มีอะไร” ส้งเส่นเอ๋อหันไปมองโจมซิน พร้อมรอยยิ้มที่เย็นชา สายตาเลื่อนผ่านไปทางฉินหลั่ง แล้วหันไปพูดกับเหวินเหวินและเป้ยเป้ย “พวกเธอว่าบังเอิญไหม เขาก็คือคนที่ชนฉันตรงธนาคารซิตี้แบงก์”
“เขาเองเหรอ !”
“ดูจากเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่แล้วก็ดูเหมือนจริงๆ”
เหวินเหวินกับเป้ยเป้ยเบิกตาโต แล้วมองประเมินฉินหลั่งรอบหนึ่ง
“เหมือนอะไรกัน พวกเธอกำลังพูดเรื่องอะไร ?” โจวซินตอนนี้กำลังงงกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า
พอเห็นว่าส้งเส่นเอ๋อทำท่าทางขี้เกียจอธิบาย เหวินเหวินก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “วันนี้ตอนเช้าเส่นเอ๋อไปทำธุระกับพ่อเขาที่ธนาคารซิตี้แบงก์ แล้วคนๆนี้ก็ชนหัวเธอเข้า เธอดูสิ บนหน้าผากของเส่นเอ๋อยังมีรอยนูนอยู่เลย”
เป้ยเป้ยเห็นว่าเหวินเหวินพูดไม่ครบ ก็เลยพูดต่อ สายตาเลื่อนผ่านฉินหลั่งทีหนึ่ง “เธอก็ดูสิว่าเขาแต่งตัวยังไง ธนาคารซิตี้แบงก์เป็นสถานที่แบบไหนกัน ต้องมีเงินฝากขั้นต่ำหนึ่งล้านถึงจะทำบัตรได้ แล้วดูเขาสิ ไม่มีบัตรแล้วยังจะเดินเข้าไปดื้อๆ ถูกผู้จัดการหน้าห้องโถงถามจนเลิ่กลั่กไปเลย สงสัยสุดท้ายก็คงวิ่งออกมาด้วยใบหน้าแดงก่ำล่ะมั้ง”
เมื่อเธอพูดแบบนั้น โจวซินกับหวงเกอและเพื่อนร่วมหอ ต่างก็หันไปมองทางฉินหลั่ง แล้วก็นึกเห็นภาพของฉินหลั่งที่ยืนทำตัวเปิ่นๆที่ธนาคารซิตี้แบงก์ขึ้นมาได้ทันที
แต่โจวซินกลับกังวลอยู่ในใจ ดูจากสีหน้าของเส่นเอ๋อแล้ว ความประทับใจที่มีต่อตัวฉินหลั่งนั้นแย่มาก จากบุคลิกตรงไปตรงมาของเส่นเอ๋อแล้ว ข้าวมื้อนี้ยังจะกินต่อได้อีกหรือเปล่า
โจวซินกำลังลังเลอยู่ในใจ ส้งเส่นเอ๋อได้ให้คำตอบด้วยการกระทำก่อนแล้ว เธอยังรักษารอยยิ้มเย็นชา มองไปทางหวงเกอกับโจวซิน “โจวซิน ยินดีด้วยนะที่เธอหาแฟนหล่อๆแบบหวงเกอได้ ฉันยังมีธุระอีกนิดหน่อย คงไม่กินข้าวแล้วล่ะ บ๊ายบาย”
พอพูดจบ ส้งเส่นเอ๋อก็ยืนขึ้น แล้วหันหน้าเดินออกไปข้างนอกทันที
จะว่าไปงานเลี้ยงครั้งนี้ส้งเส่นเอ๋อก็เป็นคนเสนอเอง เธอเห็นว่าหวงเกอหน้าตาไม่เลว พอถามแล้วรู้ว่าเรียนสายกีฬา ก็ประมาณการเอาเองว่าเพื่อนร่วมหอของเขาก็จะต้องใช้ได้แน่นอน
ในใจก็คิดว่าถ้าเจอคนที่เหมาะสม ก็จะได้ช่วยประหยัดเวลาการเลือกของเธอ ถึงแม้จะไม่เหมาะสม ได้รู้จักคนหล่อเพิ่มขึ้นอีกคนสองคน ก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไร
แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือ เพื่อนร่วมหอของหวงเกอ หยินห้าวหน้าตาเลวร้ายเล็กน้อย ยินถิงหน้าตาธรรมดาไม่มีจุดเด่น สองคนนี้เธอยังพอทนได้
แต่พอได้เห็นฉินหลั่ง ส้งเส่นเอ๋อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ในสายตาของเธอ ส้งเส่นเอ๋อก็คือคนที่ไม่เคยเห็นโลกกว้าง เป็นแค่ยาจกที่น่าขายหน้าคนหนึ่งเท่านั้น
จู่ๆเธอก็รู้สึก ว่าวันนี้สวรรค์คงจงใจกลั่นแกล้งเธอ เธอคาดหวังว่าจะได้เจอคนที่ทั้งหล่อและรวยไม่ใช่หรือยังไง แต่กลับให้เธอได้มาเจอกับคนที่เลวร้ายที่สุดอย่างฉินหลั่งที่ทำให้เธอรู้สึกคลื่นไส้แบบนี้เสียได้
เพลิงโกรธในใจของส้งเส่นเอ๋อลุกโชนขึ้นมาในทันที
เธอเดินออกไปข้างนอกอย่างโกรธเคือง เพราะเดินเร็วเกินไป ทำเห็นเดินชนเข้ากับไหล่ของผู้ชายคนหนึ่ง
ผู้ชายคนนั้นใส่ชุดดำทั้งตัว เครื่องแต่งกายดูภูมิฐาน ใช้สเปรย์ฉีดผมเป็นทรงที่ดูโดดเด่น ผิวค่อนข้างขาว ในมือถือโทรศัพท์iphonex บนข้อมือสวมนาฬิกาด้วยนาฬิกาTissot
“คนสวย ไม่ได้เจ็บตรงไหนใช่ไหม…” ตอนเพิ่งถูกชน สีหน้าของชายหนุ่มยังบึ้งตึงอยู่ แต่พอเขาดูให้ละเอียดอีกที พบว่าคนที่ชนเขาคือสาวสวยอย่างส้งเส่นเอ๋อ อารมณ์ก็เปลี่ยนฉับพลัน เขาเป็นฝ่ายถูกชน แต่กลับเป็นฝ่ายถามส้งเส่นเอ๋อว่าเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
“ต้องการให้ฉันช่วยลูบไหม” ชายคนนั้นยิ้มอย่างชั่วร้ายและยื่นมือออกไปที่ไหล่ของส้งเส่นเอ๋อ
เพียงแต่ชายหนุ่มยื่นมือออกไปยังไม่ทันได้แตะโดนไหล่ของส้งเส่นเอ๋อ ส้งเส่นเอ๋อที่กำลังโมโหก็ไม่ทันได้พิจารณาอะไรเลย ยกมือขึ้นตบเข้าที่หน้าของชายหนุ่มทันที จ้องมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าเคร่งตึง ก่อนจะตะโกนด่า “เดินไม่ดูทางหรือไงนาย บ้าหรือไง !”
ตบเดียวทำเอาชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปเลย เขายังไม่ทันได้สติกลับมา ส้งเส่นเอ๋อก็เดินเร็วๆออกไปจากร้านอาหารก่อนเสียแล้ว
ตบนี้ของส้งเส่นเอ๋อทำเอาพวกหวงเกอถึงกับเหงื่อตก เมื่อกี้พวกเขาเตรียมจะออกไปช่วยเหลือ
หลังจากที่ส้งเส่นเอ๋อออกไปแล้ว เดิมทีเหวินเหวินกับเป้ยเป้ยก็เตรียมจะออกไปด้วย แต่ภายใต้การหว่านล้อมของโจวซิน ทำให้พวกเธอยังอยู่ต่อ
หลังกินข้าวเสร็จ โจวซินไปเช็กบิลเป็นเพื่อนหวงเกอ คนที่เหลือเดินออกไปนอกร้าน เหวินเหวินกับเป้ยเป้ยกล่าวลาหวงเกออยู่คำสองคำ แทบไม่หันไปมองพวกฉินหลั่งเลย
ที่จริงโจวซินก็รู้สึกผิดหวังกับพวกฉินหลั่งเหมือนกัน แต่ยังไงตอนนี้เธอก็เป็นแฟนของหวงเกอ ก็เลยไม่อยากทำให้ความสัมพันธ์เลวร้าย กล่าวลากับพวกฉินหลั่งเสร็จแล้ว ตัวเองก็กลับหอพักไปกับพวกเพื่อนๆ
กลับไปถึงหอพัก หวงเกอเปลี่ยนชุดกีฬาเสร็จ ก็ไปโรงยิมเพื่อเข้าร่วมฝึกซ้อมกับคณะกีฬาทันที
หยินห้าวนอนตัวเปลือยเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ยินถิงเปิดLeague of Legendsขึ้นมาแล้วเริ่มเล่นเกม
ฉินหลั่งเอาซิมโทรศัพท์ใส่เข้าไปในเครื่องvivox27 เส้เหวินจี้งไม่เอาแล้ว ถ้าอย่างนั้นเขาเอามาใช้เลยแล้วกัน พอลองใช้แล้ว ก็ทำงานได้ราบรื่นดี
ตอนนั้นเอง หยินห้าวที่อยู่บนเตียงฝั่งตรงข้ามก็ตะโกนเรียกเขากับยินถิงด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ฉินหลั่ง ยินถิง จางเจียซินเริ่มไลฟ์สดแล้ว รีบเข้าไปดูเร็ว !”
จางเจียซินคือคนที่หยินห้าวแอบชอบอยู่ สองวันก่อนเพิ่งเริ่มไลฟ์สด แถมยังเคยส่งเข้าไปในกลุ่มของชั้นเรียนด้วย ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็มีเลขไลฟ์สดของเธอกันแทบทังนั้น
ฉินหลั่งกำลังว่างๆไม่มีอะไรทำ ก็เลยสมัครลงทะเบียนไปบัญชีหนึ่ง แล้วเข้าไปในช่องไลฟ์สดของจางเจียซิน
จางเจียซินไลฟ์สดไปยี่สิบนาทีแล้ว ณ ตอนนี้มีผู้ชมอยู่สามสิบกว่าคน ส่วนใหญ่แล้วก็เป็นเพื่อนร่วมชั้น ช่วงบ่ายไม่มีคลาส ได้เห็นสาวสวยในชั้นเรียนไลฟ์สด มันก็เป็นเรื่องสวยงามเรื่องหนึ่งไม่ใช่หรือ
จางเจียซินกอดหมอนสีชมพูใบหนึ่ง พร้อมกับเสียบหูฟังสีแดง แล้วพูดคุยอยู่หน้ากล้อง
“ทุกคนคะ ไลฟ์สดมาถึงตอนนี้ยังไม่เห็นของขวัญเลย ถ้าทุกคนมีของขวัญอยู่ก็ให้มาสักชิ้นสิคะ” จางเจียซินลูบผม พูดจบก็มุ่ยริมฝีปากอยู่ตรงหน้ากล้อง ส่งจูบออกมา ริมฝีปากสีชมพูนุ่มนิ่มนั่น แทบจะแนบติดบนหน้าจออยู่แล้ว
ปกติเวลาอยู่ในห้องจางเจียซินก็เป็นที่ชื่นชอบพอสมควรอยู่แล้ว คนที่แอบชอบเธออยู่ก็มีไม่น้อย พอตอนนี้ขอของขวัญ ใจของพวกหนุ่มๆก็กระตุกวูบ มีคนส่งของขวัญให้แล้ว ยังไงก็ตาม พวกของขวัญอย่าง ปลอกคอ หรือ บิกินี่ ก็ราคาแค่ห้าหยวนเท่านั้น เพื่อนร่วมห้องก็เลยยังพอส่งให้ไหวอยู่
“ดาวรุ่งส่ง (ปลอกคอ) ให้ 1ชิ้น”
“สุนัขตัวที่สองส่ง (บิกินี่) ให้ 1ชิ้น”
“ฉันคือหนุ่มหล่อส่ง (บิกินี่) ให้ 1ชิ้น”
“ขอบคุณนะคะดาวรุ่ง”
“ขอบคุณนะหนุ่มหล่อ รักน้า !” ในไลฟ์สด จางเจียซินทำท่ารูปหัวใจ เพิ่งพูดจบ ตรงทางเดินก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น “เจียซินน่ารักจังเลย หัวใจของฉันแทบจะละลายอยู่แล้ว”
หยินห้าวมองดูไลฟ์สด จางเจียซินกำลังทำตัวน่ารักใส่คนที่ส่งของขวัญให้ ในใจก็คันยุบยิบขึ้นมา เขาเลือกรางวัลขึ้นมาชิ้นหนึ่งอย่างเก้ๆกังๆ ก่อนจะกดส่งออกไป
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอสาธารณะ
“ปลาที่บินได้ส่ง (ปลอกคอ) ให้ 1ชิ้น”
“ปลาที่บินได้ : เจียซิน ฉันคือหยินห้าว ฉันตั้งใจเข้ามาดูเธอไลฟ์สดเลยนะ”
จางเจียซินยิ้มหวาน แล้วพูดกับกล้องว่า “ขอบใจนะหยินห้าว ฉันรู้แล้ว”
“เจียซินคุยกับฉันแล้ว !” หยินห้าวเหมือนคนสูบกัญชา รู้สึกล่องลอยไปทั้งตัว ครางอย่างโง่เขลา
ตอนนั้นเอง ก็มีคนส่งข้อความเข้าไปในไลฟ์สดอีกครั้ง ข้อความที่ส่งค่อนข้างยาว เลยค่อนข้างสะดุดตา
“วันหนึ่งก็คือหนึ่งวัน : เจ้ายาจกหยินห้าวส่งของขวัญให้เจียซินเว้ย ! น่าแปลกนะ ! ฉันสงสัยจริงๆ ว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเหรอ ?”
สีหน้าของหยินห้าวเปลี่ยนไปทันที ทุกคนในชั้นเรียนก็อยู่ในนี้เกือบทั้งหมด เขาพูดแบบนี้ออกมา ต่อไปตัวเองจะอยู่ในชั้นเรียนต่อไปยังไง
หยินห้าวส่งข้อความตอบกลับไปด้วยความโกรธทันที “ฉันส่งของขวัญแล้วมันทำไม นายกิน(รูปอึ)มาเหรอ ถึงได้พูดคำเหม็นเน่าพวกนี้ออกมาได้”
“วันหนึ่งก็คือหนึ่งวัน : โอ้ ไอ้โง่ ยาจกที่หนึ่งหยวนยังแทบต้องแบ่งใช้สามรอบอย่างนาย ยังจะมีเงินมาส่งของขวัญอีกเหรอ เตรียมตัวจะไปขายไตแล้วหรือไง ยังกล้ามาท้าทายปู่นายแบบนี้ ใจกล้าไม่เบานี่หว่า”
จางเจียซินสีหน้าเคร่งตึงทันที มีคนด่ากันในไลฟ์สด สิ่งนี้ส่งผลเสียต่อเธออย่างมาก “หยุดด่าได้แล้ว ถ้าพวกนายสองคนยังด่ากันต่อไป ฉันจะปิดเสียงแล้วนะ”
หยินห้าวรีบพิมพ์ตอบ “ขอโทษนะ เจียซิน เขาเป็นคนมาหาเรื่องฉันก่อนนะ”
“หนึ่งวันก็คือวันหนึ่ง : หึหึ ฉันเป็นคนหาเรื่องนายแล้วจะทำไม ไม่พอใจเหรอ !”
จางเจียซินขมวดคิ้วแน่น เตรียมตัวจะปิดเสียงของ “วันหนึ่งก็คือหนึ่งวัน” กำลังเตรียมกด แต่บนหน้าจอไลฟ์สด ก็ปรากฏข้อความขึ้น
“วันหนึ่งก็คือหนึ่งวันส่ง (ปืนธนบัตร) ให้ 1ชิ้น”
จางเจียซินหยุดชะงักไป (ปืนธนบัตร) เท่ากับเงินสดจำนวนสามร้อยหยวน เป็นของขวัญที่แพงที่สุดที่เธอได้รับจนถึงตอนนี้