รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 375 พลังวิเศษเป่ยเฉิน
บทที่ 375 พลังวิเศษเป่ยเฉิน
“ฉินหลั่งฆ่าลูกศิษย์แก๊งหัวชิงมากมาย มีความแค้นกับผม ใครมีสัมพันธ์กับเขา ก็จะเป็นดั่งเช่นระฆังอันนี้” จ้านอู๋หยากล่าว
จงจิ่วเจินมองด้วยสายตาโกรธ แต่ก็รู้ว่าจ้านอู๋หยาคนนี้มีฝีมือไม่ธรรมดา ถ้าไปหาเรื่องเข้า กลัวว่าคนตระกูลจงทั้งหมดจะไม่มีใครรอดชีวิต ก็เลยอดทนไว้ ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ส่วนคนอื่นๆ ก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ขาทั้งสองข้างสั่นระริกโดยควบคุมไม่ได้ ถ้าไม่ได้จงจิ่วเจินดึงสถานการณ์ไว้ได้ คนอื่นๆ ก็คงหลบลี้หนีหายกันไปหมดแล้ว
ตอนนี้ นอกจากจงจิ่วเจิน ก็มีแต่จงยู่ที่ยืนเชิดหน้า เหมือนองค์หญิงที่ถือตัว สายตาไม่ยอมเป็นรองใคร
“บ้าไปแล้วหรือ? จงยู่? รีบก้มหน้าลง!” จงเส่นซานที่อยู่ด้านข้างรีบลากจงยู่ แล้วพูดเสียงเบา
จงเส่นซานกลัวว่าท่าทางไม่ยอมใครของจงยู่จะทำให้จ้านอู๋หยาสนใจเข้า
แต่จงจิ่วเจินกลับหันไปมองจงยู่ด้วยสายตาที่ชื่นชม จงยู่เป็นหัวหน้าสำนักสำนักช้างจันทรา ท่าทางที่องอาจ ก็ไม่เป็นสองรองใคร เป็นเลือดเนื้อเชื้อสายของตระกูลจง!
คนอื่นๆ ต่างก็ห้มหน้าห้มตา แต่ก็ยังใช้หางตามามองสถานการณ์ทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ขี้กลัวกันทั้งนั้น “จงยู่เอ๋ย ศัตรูของฉินหลั่งมาแล้ว เธอก็ยังไม่ยอมแพ้อีกนะ?”
จงยู่ไม่ได้สั่นคลอนอะไร แล้วก็เอามือของอาตนเองออกไป แล้วก็ยืนยืดตัวตรง ดวงตาตั้งมั่นไร้ความกลัว!
จ้านอู๋หยาก็เห็นดังนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจกับการแสดงออกของจงยู่ ก็เลยเดินเข้าไปพูดว่า “จงยู่หรือ? ดูเหมือนว่าคุณคงจะเป็นผู้หญิงของฉินหลั่งที่ซ่งจงผิงเคยบอกไว้สินะ ไม่ธรรมดาจริงๆ คุณไม่กลัวผมงั้นหรือ?”
“ฉันเป็นหัวหน้าสำนักสำนักช้างจันทรา จะมากลัวแค่หัวหน้าแก๊งได้อย่างไร?” จงยู่พูดเสียงดังฟังชัด เสียงนั้นไพเราะมาก
“สำนักช้างจันทรา ไม่เคยได้ยิน ฮ่าฮ่า คุณเป็นผู้หญิงของฉินหลั่ง เช่นนั้นก็เป็นศัตรูของผมนะสิ ฟังน้ำเสียงคุณแล้ว ท่าทางคงจะไม่ไว้หน้าผมแล้วละสิ? ถ้าตอนนี้คุณประกาศตัดขาดกับฉินหลั่ง ผมก็อาจจะพิจารณาไว้ชีวิตคุณ!” จ้านอู๋หยาพูดยิ้มๆ
“เหอะ นี่หรือคนที่เป็นหัวหน้าแก๊ง ในเมื่อจงยู่กลายเป็นผู้หญิงของฉินหลั่งแล้ว ฟ้าสิ้นดินทลายก็จะไม่หักหลังเขา คุณผิดแล้วละ!” จงยู่ยืดอกพูดอย่างมั่นใจ
“อืม พูดมาก็มีเหตุผล ผู้หญิงของฉินหลั่ง ภายนอกอ่อนโยน ภายในแข็งแกร่ง รูปร่างก็สะสวย ช่างเหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยกจริงๆ เป็นแค่ผู้หญิง แต่ความกล้านี่ มากกว่าผู้ชายคนอื่นๆ เสียอีก!” พูดไป จ้านอู๋หยาก็ถอนหายใจ ถอนหายใจกับท่าทางของจงยู่
พอพูดออกไป ตอนนั้นจงยู่ก็อับอายจนหน้าแดง จนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี คนตระกูลจงคนอื่นๆ ก็อับอายและโกรธแค้น แต่ท้ายสุดแล้วก็ยังไม่มีใครกล้าออกมาท้าสู้กับจ้านอู๋หยา
“ถ้ายังยื้อสถานการณ์ไว้ ก็ต้องแลกอะไรบางอย่าง ถึงแม้ผมจะพอใจกับการแสดงออกของคุณ แต่การที่มาฆ่าลูกศิษย์ของผม มันคือความแค้นอันใหญ่หลวง แค้นนี้จะไม่ชำระได้อย่างไร?” จ้านอู๋หยาเริ่มเปลี่ยนน้ำเสียง สีหน้าก็นิ่งเย็น
“ถ้าเขาหนีไปแล้ว เช่นนั้นผมก็มาเก้อนะสิ? เอาอย่างนี้ จงยู่ คุณมานี่!” จ้านอู๋หยากล่าว
จงยู่มีหรือจะฟังคำเขา เธอกำมือแน่น ไม่ขยับตัว
พูดไปยังไม่ทันขาดคำ จ้านอู๋หยาก็สะบัดมือ กระบวนท่ามือนั้น เหมือนการตกปลาที่ดัลลัส มือขวาวาดออกมาเป็นเส้นเอ็น10กว่าเส้น แต่ละเส้นไวดั่งลม ตาเปล่าไม่สามารถจับความไวที่พุ่งมาหาจงยู่ได้
จงยู่เห็นเส้นเอ็นนั้นพุ่งเข้ามา สีหน้าก็ซีดขาว สถานการณ์เช่นนี้ จะให้ไม่กลัวได้อย่างไร แต่เธอเป็นผู้หญิงของฉินหลั่ง ไม่อาจจะถอยได้แม้แต่น้อย
ไม่มีการร้องขอ ไม่มีการหลบหลีก หัวของจงยู่ก็เงยสูงขึ้น เตรียมพร้อมทุกอย่าง
ได้ยินเสียงพุ่งเข้ามา เส้นเอ็นสีขาวกลายเป็นตาข่ายพุ่งมาพันตัวจงยู่ เธอรู้สึกว่าร่างกายหนาวเหน็บ ร่างกายเดิมทียังมีความอุ่น กลับเป็นเย็นยะเยือก เข้ากระดูกดำ ดวงตาที่สวยงามเผยให้เห็นถึงความเจ็บปวด
นี่เป็นฤดูหนาว แต่บ้านพักตระกูลจงนั้น สร้างอยู่ที่ตีนเขา อากาศดีทั้งปี บนตัวเธอใส่ชุดขนเป็ดอย่างดี เดิมยังรู้สึกร้อน แต่ตอนนี้เหมือนตกหลุมน้ำแข็ง ริมฝีปากปรากฏเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ใบหน้ารูปไข่ขาวๆ ยิ่งซีดขาวขึ้นไปใหญ่ แต่มองไปก็เห็นว่าไม่ใช่สีหน้าเดิม มันเหมือนกับก้อนน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากความร้อนด้านข้างที่มากระทบกับจงยู่ ตาเปล่าสามารถมองเห็นเป็นไอควัน เหมือนกับความเย็นความร้อนกระทบกัน ร่างของจงยู่กลายเป็นธารน้ำแข็งที่ขยับตัวได้ ทั้งตัวนี่ขาวไปหมด เหมือนกับธิดาน้ำแข็ง
คนที่ยืนข้างๆ จงยู่ ก็ตัวสั่นไปตามๆ กัน มันเย็นเสียกว่าเข้าไปยังถ้ำน้ำแข็งปกติอีกว่า10เท่า
“ยู่เอ๋อ!” จงจิ่วเจินเห็นท่าไม่ดี น้ำตาคลออยู่ในเบ้าตา ดวงตาของวีรบุรุษเห็นญาติที่ตนเองรักต้องรับความทุกข์ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มันช่างเจ็บปวดเกินประมาณ
“พลังวิเศษเป่ยเฉินของผม คือพลังเย็นที่ฝึกมาจากภาคเหนือที่สุดของอเมริกาเหนือ พลังนี้สามารถทำให้หมีตัวใหญ่แข็งตาย พลังนี้จะกำเริบในตัวคุณทุกๆ 24ชั่วโมง ทุกครั้งที่กำเริบ จะหนักหนากว่าครั้งก่อนหน้า1เท่าตัว พอถึงเวลานั้น ถ้าฉินหลั่งยังไม่ปรากฏตัวละก็ คุณก็จะกลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่เย็นยะเยือก แข็งตายในที่สุด” จ้านอู๋หยาพูดนิ่งๆ ราวกับมองจงยู่ว่าไม่ใช่คนที่มีชีวิต แต่เป็นสิ่งของสิ่งหนึ่ง
แต่ในหูของทุกคนนั้น คำพูดนั้นมันน่ากลัวว่าเสียงฟ้าผ่าเสียอีก ในโลกนี้ยังการลงโทษที่โหดเช่นนี้ การต่อสู้เช่นนี้อีกหรือ? นี่มันวิชาอะไรกัน? คนตระกูลจงบางคนไม่เชื่อ แล้วก็มองไปทางจงยู่ ก็เห็นจงยู่เอามือกอดอกตัวสั่น ริมฝีปากเป็นสีม่วง ฟันบนล่างสั่นจนขบกันไม่หยุด
ฝีมือของจ้านอู๋หยาไปถึงขั้นที่ไม่อาจคาดคะเนได้แล้ว เป็นการดำรงอยู่ที่น่ากลัว มีตำนานที่ว่าหยิบดอกบินใบก็สามารถฆ่าคนได้ แต่นี่ จ้านอู๋หยาแค่โบกมือเปล่า ก็ทำให้คนสูญสิ้นทุกอย่างได้
ทุกคนก็เลยต้องเชื่อในคำพูดของจ้านอู๋หยาอย่างไม่สงสัย ในใจก็โกรธแค้นจ้านอู๋หยากว่าเดิมนับ100เท่า แต่ใบหน้าไม่กล้าแสดงออกมา กลัวว่าถ้าไม่ระวังจะถูกจ้านอู๋หยา ฆ่าตายในฝ่ามือเดียว
ดวงตาของจงยู่เต็มไปด้วยน้ำตา แต่ก็ได้แต่ไหลไปมาอยู่ในดวงตา ไม่สามารถไหลหยดลงมาได้ ในใจก็พูดว่า “ไม่อาจทำให้ฉินหลั่งขายหน้า ฉันจะไม่ร้อง จะไม่ร้อง!”
“แม่สาวน้อย จิตใจแข็งแกร่งไม่เบา แต่เสียดายที่คุณเป็นผู้หญิงของฉินหลั่ง อย่าคิดที่จะรอดชีวิตได้ อย่าคิดที่จะใช้วิชารักษา พลังของผม วิชาการแพทย์ไหนก็ใช้ไม่ได้ผล คุณหาอะไรไม่พบทั้งนั้นแหละ ผมเตือนว่าให้เก็บแรงไว้ เพื่อรอเชิญฉินหลั่งกลับมาระหว่างทางเถอะ”
“เป็นถึงหัวหน้าแก๊ง เหตุใดจึงตัดใจลงมือกับผู้หญิงได้? ขอถามหน่อยว่า จะให้ฉินหลั่งไปหาคุณที่ไหน?” จงจิ่วเจินใจแทบสลาย พูดออกมาเสียงแหบๆ
“จ้านอู๋หยาจะทำอะไร ผมตัดสินใจเองทั้งนั้น!ผมจะรอเขาอยู่ที่น้ำตกหูโขว่ของแม่น้ำหวง” จ้านอู๋หยาสะบัดเสื้อจากตระกูลจงไป
ชายชาวตะวันตกที่ตามจ้านอู๋หยามา ก็มองเหยียดคนตระกูลจง จากนั้นก็เดินตามจ้านอู๋หยาจากไป เหลือไว้เพียงความตกใจและความโกรธของทุกคน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
พอจ้านอู๋หยาจากไป จงจิ่วเจินก็ล้มลงพื้น จงเส่นซานรีบมาพยุง พูดน้ำตาคลอเบ้าว่า “ท่านพ่อ ท่านจะต้องเข้มแข็งไว้…….”
จงจิ่วเจินถอนหายใจ พูดว่า “รีบไปเชิญฉินหลั่งกลับมา!”
และจงยู่ในตอนนั้น ก็ไม่ได้สติแล้ว หน้าขาวเป็นกระดาษ พูดออกมาได้สักคำ