รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 357 แผนร้ายของแก๊งหัวชิง
บทที่ 357 แผนร้ายของแก๊งหัวชิง
“อืม มันคือชี่แท้”จ้านอู๋หยาพูดพลางเร่งความเร็วมือ ศพหมีขั้วโลกลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วตกลงมายังพื้นเกาะ
เหลียงชิงหย่วนไม่อาจยับยั้งความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้ จึงเดินเข้าไปดูหมีขั้วโลก สัตว์ตัวใหญ่แบบนี้กระดูกของมันน่าจะแข็งแรงแม้แต่กระสุนปืนก็ไม่อาจเจาะได้สิ คิดไม่ถึงว่าจะโดนหัวหน้าแก๊งฆ่าได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งบนตัวมันไม่มีรอยบาดแผลแม้แต่น้อย
เหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากเหลียงชิงหย่วนไม่หยุด พูดในทางทฤษฎีแล้ว ขอเพียงหัวหน้าแก๊งอนุญาต เฮลิคอปเตอร์ที่ตนบินอยู่นี้ เขาก็สามารถใช้วิชาชี่แท้เจาะได้ โดยไม่เหลือร่องรอยใดๆ ฝึกศิลปะการต่อสู้ได้มาถึงจุดนี้ มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ ทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัว
“ยินดีด้วยครับหัวหน้าแก๊ง ยินดีด้วยครับหัวหน้าแก๊ง!”เหลียงชิงหย่วนเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วคุกเข่าลงกับพื้น ความเคารพนับถือออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เหมือนที่มีต่อเทพเจ้า
“อืม ลุกขึ้นเถอะ”จ้านอู๋หยาเสียงแหบเล็กน้อย เหมือนไม่ค่อยสนใจเรื่องทางโลกมากนัก
เหลียงชิงหย่วนยืนตัวตรง ความกลัดกลุ้มในตอนแรกของเขาจางหายไปแล้ว สัตว์ดุร้ายพวกนั้นเทียบกับพลังของหัวหน้าแก๊งจ้านไม่ติดจริงๆ ความยากลำบากของแก๊งหัวชิงจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น
“หัวหน้าแก๊ง ศิษย์ควรทำอย่างไรดี?”
จ้านอู๋หยาสีหน้าปกติ พลางเหวี่ยงคันเบ็ดลงไปในน้ำอีกครั้งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น รูบนพื้นผิวทะเลสาบนั้นเล็กมาก แต่จ้านอู๋หยาก็เหวี่ยงเบ็ดลงไปได้อย่างเหมาะเจาะทุกครั้ง ให้อารมณ์เหมือนกำลังตกปลาอยู่คนเดียวท่ามกลางหิมะ
แก๊งหัวชิงโดนแก๊งใหญ่อื่นๆระแวง เพราะการตายของลี่ไห่ซา หากไม่โต้ตอบกลับไป แก๊งหัวชิงคงพินาศย่อยยับแน่ๆ อย่างน้อยคือเกิดการสูญเสียอย่างร้ายแรงและเสียชื่อเสียง เหลียงชิงหย่วนมาด้วยความเร่งรีบ เดิมทีกังวลเล็กน้อยแต่ตอนนี้วันนี้เขามีทางออกแล้ว
“หัวหน้าแก๊ง หากไม่แก้แค้นให้ลี่ไห่ซา เกรงว่าต่อไปแก๊งหัวชิงของเราจะอยู่ยากแล้วนะ”เหลียงชิงหย่วนไม่รู้จะทำยังไง จึงลองหยั่งเชิงท่าทีจ้านอู๋หยาอย่างอ้อมๆ
“ชิงหย่วน แกมองโลกในโง่ลบเกินไปแล้ว หลายปีมานี้ในยุทธจักรวุ่นวายขนาดไหน แกก็เจอมาเยอะแล้ว กับอิแค่พวกต่ำทรามก่อเรื่อง มันแค่ได้ใจก็แค่นั้น”จ้านอู๋หยามองทอดยาวออกไปด้วยสายตาอ้างว้าง ราวกับเรื่องวุ่นวายพวกนี้ไม่อยู่ในสายตาเขาอย่างไรอย่างนั้น
“ศิษย์ได้ระดมคนไว้จำนวนมาก และต่อสู้กับแก๊งต่างๆที่ท้าทายแก๊งหัวชิง ข่าวในที่ต่างๆ2-3วันมีนี้ล้วนเป็นข่าวยุทธจักรฆ่าล้างแค้น……”เหลียงชิงหย่วนพูด
“อืม ห้าวหาญไม่เกรงกลัวไม่ผิด แต่ถ้าเอาตระกูลฉันตระกูลเดียวมาต่อต้านกับ100กว่าตระกูลนั้น เวลาที่ฉันไม่อยู่ แกใช้สมองหน่อยไม่ได้เหรอ?ปีนั้นแก๊งหัวชิงออกจากจีนมายังไง?แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ?”จ้านอู๋หยาสีหน้าสุขุม หมอนี่กล้าหาญแต่โง่ไม่มีสมองนั้นเข้ารู้ดี
“ครับ ศิษย์รู้ว่าทำแบบนี้ไม่มีกลยุทธ์ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือจัดการรปภ.ที่ฆ่าผู้พิทักษ์ลี่นั่นซะ แบบนี้แก๊งต่างๆก็จะเกรงกลัวเราขึ้นมาบ้าง ศิษย์รู้ว่านอกจากลี่ไห่ซาแล้ว เรายังมีคนที่เก่งกาจกว่านี้ แก๊งหัวชิงไม่ใช่จะมายั่วโมโหได้ง่ายๆ”เหลียงชิงหย่วนลังเล แต่นอกจากผู้พิทักษ์ลี่แล้วเหมือนว่าจะไม่มี……ไม่มี……”
เหลียงชิงหย่วนไม่กล้าพูดออกไป
“แกกำลังจะบอกว่า นอกจากฉันแล้วก็ไม่มีคนที่เก่งกว่าลี่ไห่ซาอีกแล้วงั้นเหรอ?”จ้านอู๋หยาถาม
“ครับ หัวหน้าแก๊งโปรดให้อภัยด้วย ศิษย์……หมายความว่าอย่างนั้น……”เหลียงชิงหย่วนใช้ความกล้าที่สุดแล้วพูดออกมา
“เลวจริงๆ ฝ่ายตรงข้าวเป็นใคร?แค่รปภ.ง่อยๆ!แกอยากให้ฉันจ้านอู๋หยาลดตัวไปสู้กับมันงั้นเหรอ?!”
จ้านอู๋หยาขยับตัวเล็กน้อย จู่ๆก็เสกแสงสีขาว2-3เส้นออกมา พวกนั้นล้วนเป็นภาพมายาไม่มีอยู่จริง แต่เหลียงชิงหย่วนเคยเห็นถึงอานุภาพของมันแล้ว พวกมันมีผลกระทบมากกว่าเส้นแสงธรรมดาๆ
จ้านอู๋หยาตากระตุก แขนทั้งสองสั่นเทา ทันใดนั้นพื้นผิวทะเลสาบก็เกิดเสียงดังขึ้น ลานน้ำแข็งขนาดใหญ่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว น้ำในทะเลสาบเริ่มกระเพื่อม ตอนนี้เหลียงชิงหย่วนเห็นได้อย่างชัดเจน ผิวน้ำที่สะท้อนแสงเป็นประกายเต็มไปด้วยเส้นสีขาวๆ แปรเปลี่ยนเป็นแห
จ้านอู๋หยาหว่านแหนั้นอย่างรุนแรง แล้วดึงขึ้นมาจากทะเลสาบ มีฝูงปลาจำนวนมากติดมากับแหด้วย จ้านอู๋หยาเก็บแห เส้นสีขาวที่มายาเหล่านั้นเหมือนจริงมาก คิดไม่ถึงว่ามันจะเอาปลาขึ้นฝั่งได้ ทำเอาเหลียงชิงหย่วนเงิบไปเลย เมื่อเทียบกับฉากหมีขั้วโลกถูกฆ่าก่อนหน้านี้ ฉากนี้สุดยอดยิ่งกว่า หรือว่าหัวหน้าแก๊งจะยอมสู้กับรปภ.นั่น?
เหลียงชิงหย่วนครุ่นคิด แม้แต่ตัวเองก็ยังคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้
“หัวหน้าแก๊ง ศิษย์เข้าใจแล้ว ศิษย์จะส่งมือสังหารมือดีที่สุดในแก๊งหัวชิงทุกคน ไปจัดการกันคนที่ชื่อฉินหลั่งนั่น คนที่ล่วงเกินแก๊งหัวชิงของเรา ไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องได้รับโทษ!ด้วยศิลปะการต่อสู้ของท่าน ต่อกรกับอันธพาลร้อยเล่ห์แบบนั้นได้แน่ๆ!”เหลียงชิงหย่วนเต็มไปด้วยความกล้าหาญ ก็ใช่หน่ะสิ มีหัวหน้าแก๊งที่เก่งกาจแบบนี้อยู่ เขายังจะต้องกังวลอะไรอีก!
“อืม แกไปเถอะ”จ้านอู๋หยาหลับตาลง ไม่มองเหลียงชิงหย่วนแม้แต่น้อยสิ่งที่เขาให้เหลียงชิงหย่วนคือความกล้าหาญ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อย ให้เหลียงชิงหย่วนจัดการเอาเอง
ในขณะเดียวกันฉินหลั่งและจงยู่กลับมาถึงจีนแล้ว พวกเขาไปเยี่ยมจงจิ่วเจิน ไม่ได้เจอกัน1เดือน ผมของจงจิ่วเจินขาวโพลนไปหมดแล้ว จงยู่กอดตาพลางร้องไห้อยู่นาน ชายชราผู้นี้ได้รับความทุกข์ทรมานเกินไปแล้วจริงๆ
จงยู่และจงจิ่วเจินเป็นที่รู้จักอย่างเปิดเผยแล้ว เรื่องนี้แพร่สะพัดในเมืองจิงมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่บ้านตระกูลจงโดนเพิกถอนจากยุทธจักรไปตลอดกาล ส่วนข้อพิพาทใหม่ที่เกิดขึ้นในโลกใต้ดิน จงจิ่วเจินไม่ค่อยใส่ใจนัก นี่จึงเป็นโอกาสแก่ตระกูลซ่ง
แต่ทว่าเพราะมีฉินหลั่งอยู่ ตำแหน่งเจ้าแห่งวงการของบ้านตระกูลจงจึงยังคงอยู่ ตระกูลซ่งเลยไม่กล้าประมาทลงมือ การกระทบกระทั่งกันเล็กๆน้อยๆ ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ฉินหลั่งกลายเป็นผู้พิทักษ์ของบ้านตระกูลจง และเป็นก้างขวางคอสำหรับตระกูลซ่ง พวกเขาเพียงแค่ทุกข์ทรมานที่ไม่อาจจัดการหลั่งได้ก็แค่นั้น
คืนนี้ในพื้นที่ลับตาคนสักแห่งหนึ่งเมืองจิง ซ่งจงผิงและซ่งอวี่สองพ่อลูกกำลังรออะไรบางอย่างอยู่
ประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง ชายเสื้อผ้าขาดริวปรากฏตัวขึ้น เขียนอะไรบางอย่างบนผนังกำแพง จากนั้นก็จากไปทันที
ซ่งจงผิงที่เป็นข้าราชการในราชสำนัก ตอนนี้สภาพกลับดูเหมือนปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น เขาขยิบตาให้ซ่งอวี่ไปทีหนึ่ง จากนั้นซ่งอวี่ก็รีบไปขุดบนผนังกำแพงที่เขียนตัวอักษรนั่น จากนั้นอิฐที่เคลื่อนที่ได้ถูกนำออกมา
เขามองไปรอบๆ เห็นว่าไม่มีใครกำลังมองซ่งอวี่จึงสอบจดหมายที่อยู่ในมือเข้าไป จากนั้นก็เอาก้อนอิฐกลับไปวางไว้เหมือนเดิม และจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลังจากนั้นซ่งอวี่ก็กลับมาบนรถ แล้วพูดกับซ่งจงผิงที่นั่งขรึมอยู่ด้านหลัง:
“พ่อครับ จะทำสำเร็จไหมเนี่ย?”
“จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ เราต้องลงมือเอง!”ความใจเย็นของซ่งจงผิงก่อนหน้านี้ไม่เหลืออยู่แล้ว เหลือเพียงใบหน้าที่ไร้สติ