รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 356 จ้านอู๋หยาบำเพ็ญเพียรอยู่
บทที่ 356 จ้านอู๋หยาบำเพ็ญเพียรอยู่
หลังจากบอกลาเสร็จ ซ่าหมี่เทอก็นำนักบุญนับพันไปส่งจงยู่และฉินหลั่งที่สุดเขตแดนเมืองอมูลอง
“หัวหน้าสำนัก อย่าลืมผมนะ”
“หัวหน้าสำนัก มีคำสั่งอะไรก็ส่งคนมาบอกพวกเรานะ”
“หัวหน้าสำนัก……”
นักบุญสำนักช้างจันทราทยอยกันพูดอำลาหัวหน้าสำนัก ในระยะเวลา1เดือนมานี้ ความเป็นกันเองของจงยู่ทำให้เหล่าลูกศิษย์ยอมรับพวกเขาล้วนไม่อยากให้จงยู่ไป
ภายใต้การดูแลของซ่าหมี่เทอ บาดแผลของฉินหลั่งหายเป็นปกติหมดแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่อินเดียต่อ
……
ในขณะเดียวกัน ณ อีกซีกโลกหนึ่ง
อเมริกาเหนือ ดัลลัสไกลไปทางเหนือ พื้นที่ที่มีอากาศต่ำกว่า-40องศาตลอดปี มีคนเอสกิโมเดินท่ามกลางหิมะหนาเป็นครั้งคราว
ทะเลสาบน้ำแข็งกว้างที่ไกลออกไป ถ้ามองลงมาจากภูเขาหรือท้องฟ้า ก็จะเห็นทั้งทะเลสาบเป็นกระจกเงาขนาดใหญ่ ส่องแสงสีขาวอันหนาวเหน็บ
บนเกาเล็กๆกลางทะเลสาบ มีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ ทั้งตัวเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ ไม่กระดิกไปไหน ราวกับรูปแกะสลักน้ำแข็งอย่างไรอย่างนั้น ส่วนในมือของเขาถือเบ็ดตกปลาอยู่คันหนึ่ง เบ็ดคันนั้นก็ราวกับแท่งน้ำแข็ง ตั้งตรงในหลุมที่ถูกขุดเป็นวงกลมบนพื้นผิวทะเลสาบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ดุเหมือนว่าชายชราจะขยับตัวแล้ว มีหมีขั้วโลกตัวหนึ่งยืนมองเขาจากบนภูเขาหิมะ หายใจฟึดฟัด เมื่อเห็นว่าชายชราขยับตัวมันก็วิ่งปรี่ลงมาจากเขา ท่าทางเหมือนจะเข้ามาโจมตีชายชรา
ชายชราไม่สะทกสะท้าน เขาชักคันเบ็ดขึ้นมา ตกได้ปลาตัวเล็กๆมาตัวหนึ่ง พอชายชราขยับ เกล็ดหิมะบนตัวเขาก็ร่วงลงมาทันที ปลาตัวนั้นโดนจับลงไปในตะกร้า เพียงพริบตาเดียวปลาตัวนั้นก็ตัวแข็งทื่อ เหมือนจะแข็งตายไปแล้ว
1 อาทิตย์ ชายชรานั่งอยู่ตรงนี้มา1อาทิตย์แล้ว ในพื้นที่อันหนาวเหน็บแบบนี้เขาไม่แข็งตาย น่าเหลือเชื่อมากๆ
หลังจากตกปลาตัวนี้ได้ ชายชราก็หย่อนเบ็ดลงไปในหลุมอีกครั้ง ถ้าคุณเห็นตะขอเบ็ดนั่น คุณก็จะพบกับความประหลาดใจที่ว่า ตะขอเบ็ดนั้นไม่โค้งงอ
ชายชราง้างมือแล้วล้วงลงไปในหลุม และเห็นเป็นพลังสีขาว ที่กลายเป็นภาพมายาเส้นสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วน ภายใต้แสงอาทิตย์ ปลาตัวเล็กๆตัวหนึ่งเข้าไปในเส้นสีขาว โดนชายชราสะบัดเบาๆแล้วยกขึ้น
พั่บๆๆ……
ทันใดนั้นเองก็มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินลงมาจอดบนเกาะ จากนั้นก็มีชายวัยกลางคนหน้าตาไร้ความรู้สึกคนหนึ่งเดินลงมา
“หัวหน้าแก๊ง!”
“มีอะไร?ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามารบกวนการฝึกวิชาบำเพ็ญเพียรของฉัน?”ชายชราสีหน้าน่าเกรงขาม เผยท่าทางไม่พอใจออกมา เสียงเยือกเย็น มันน่าหวาดกลัวเหมือนอากาศอันหนาวเหน็บทางตอนเหนือนี้
“ที่ผมเสี่ยงตายมานี่ เพราะอยากบอกเรื่องใหญ่ให้หัวหน้าแก๊งฟัง!”สายตาของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความเศร้าใจ
“ตัดแขนตัวเองสักข้างก่อนสิแล้วค่อยมาคุยกับฉัน”ชายชราพูดเสียงเยือกเย็น ชายวัยกลางคนเป็นผู้พิทักษ์ที่เขาโปรดปรานมากที่สุดในแก๊งหัวชิง มีชื่อว่าเหลียงชิงหย่วน เขาน่าจะรู้กฎดี
“คือ……”เหลียงชิงหย่วนหน้าถอดสี เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วยื่นแขนขวาออกมาทันที จากนั้นก็กัดฟันตัดแขนซ้ายออกเสียงดังฉับ แขนขาดไปตามเสียงแล้วหล่นลงไป
“ขอบคุณหัวหน้าสำนักที่ไม่ฆ่าผม”เหลียงชิงหย่วนโค้งคำนับ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
“เอาล่ะ ไหนเล่ามาซิ”ชายชราไม่มองเขาแม้แต่น้อย แต่กลับดึงคันเบ็ดขึ้นมา เขาตกปลาได้อีกแล้ว จากนั้นชายชราก็โยนมันลงไปในตะกร้า
เหลียงชิงหย่วนไม่ได้อยู่ในอันดับต้นของแก๊งหัวชิง แต่ไม่กี่ปีมานี้ ไม่ว่างานอะไรของแก๊งหัวชิงทั่วทุกมุมโลก ก็จะเห็นเขาอยู่ด้วย เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ที่ชายชราไว้ใจมากที่สุด คำสั่งทุกอย่างของชายชรา ล้วนมาจากเหลียงชิงหย่วน
คนแบบนี้สำหรับชายชราแล้ว ก็เป็นแค่สุนัขรับใช้ตัวหนึ่งก็เท่านั้น
“หัวหน้าแก๊ง มีข่าวจากทางประเทศจีนว่า……”เหลียงชิงหย่วนพูดเสียงแหบ ในที่หนาวเหน็บแบบนี้ แผลที่ตัดแขนจะแตกออก เซล์ทั้งหมดจะตาย
“อืม ลี่ไห่ซาจัดการสำนักใหญ่ต่างๆในจีนงั้นเหรอ?ฉันเดาไว้ตั้งนานแล้ว”ชายชราพูดเยือกเย็นเข้าไปอีก เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้รอเขาบำเพ็ญเพียรเสร็จแล้วค่อยบอกไม่ได้เหรอ
“ไม่ใช่”เหลียงชิงหย่วนเสียงสั่นเล็กน้อย สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ:
“หัวหน้าแก๊งจ้านครับ ผู้พิทักษ์ที่เขา……เขาโดนฆ่าตายแล้ว……”
“โอ้ะ?”ชายชราสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย เขาพลิกมือทั้งสองข้าง จากนั้นภาพมายาเส้นสีขาวก็หล่นลงไปในหลุมทันที ชายชรายกคันเบ็ดขึ้นพลางส่ายเบาๆ และเขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติมากๆ:
“เป็นเรื่องจริงเหรอ?ใครเป็นคนฆ่า?”
“จริงครับ ว่ากันว่าฆาตกรเป็นรปภ.คนหนึ่งในมหาวิทยาลัยเย็นจีน ชื่อฉินหลั่ง”เหลียงชิงหย่วนพูด
“อืม เขาอีกแล้ว แม้แต่ผู้พิทักษ์ชั้นสูงในแก๊งก็สู้รปภ.นี่ไม่ได้ น่าขันสิ้นดี……”ชายชราพูดอย่างปกติ
เหลียงชิงหย่วนยืนตัวตรง พลางพูด:“หัวหน้าแก๊ง ช่วงนี้ในยุทธจักรล้วนหัวเราะเยาะพวกเรา บอกว่าแก๊งหัวชิงไม่ได้เรื่อง เมื่อวานก็เกิดศึกใหญ่กราดยิงกันที่เม็กซิโก พวกพ้องเราโดนฝ่ายตรงข้ามโจมตีตายไป39คน และเขตแดน3ใน5ก็โดนแย่งไป ว่ากันว่าหลังจากผู้พิทักษ์ลี่ตาย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ศิษย์คิดว่าการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ หากไม่แก้แค้นให้ผู้พิทักษ์ลี่ จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามคิดว่าอ่อนแอ เขตอเมริกาเหนือเชื่อว่าแก๊งหัวชิงในจะสู้กันเองเช่นกัน”
“อืม ช่วงที่ฉันบำเพ็ญเพียร ยุทธจักรเกิดเรื่องวุ่นวายขนาดนี้เลยงั้นเหรอ”สายตาชายชรามองทอดยาวออกไป ดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อย
“ศิษย์ตั้งใจมาช่วยหัวหน้าแก๊งโดยเฉพาะ แก๊งหัวชิงจะรับมือกับวิกฤตอันใหญ่หลวงครั้งนี้ยังไงดี? ตอนนี้ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และยุโรป ต่างหารือกันว่าจะโจมตีแก๊งหัวชิง และสาเหตุก็เพราะการตายของลี่ไห่ซา ตอนนี้พวกเขาเริ่มดูถูกเราแล้ว……”
“ฮ่าๆๆ”จ้านอู๋หยายังคงเหมือนเดิม เพียงแค่หัวเราะออกมา เขาไม่พูดอะไรต่อ แต่จู่ๆก็ขว้างอะไรออกไปก็ไม่รู้ ภายใต้แสงอาทิตย์ที่ไกลออกไป มีหมีขั้วโลกตัวโตล้มลงไปในหิมะ ทำเอาพื้นทะเลสาบเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่
จ้านอู๋หยาค่อยๆพลิกแขนขวา และไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในมือ แต่ท่าทางของมือเหมือนกำลังถักอะไรบางอย่างอยู่ ทันใดนั้นแสงอาทิตย์ก็สองลงมาพอดี ทำให้เหลียงชิงหย่วนเห็นชัดขึ้น ว่าในมือหัวหน้าแก๊งมีลำแสงอยู่2-3เส้น และลำแสงพวกนี้ก็เป็นภาพมายา และจากท่าทางมือของจ้านอู๋หยา มันยิ่งตรงขึ้นเรื่อยๆ
ลำแสง2-3เส้นเหล่านี้พันรอบหมียักษ์ที่ใหญ่กว่าเสือนั่น ศพหมียักษ์เริ่มไหลไปตามพื้นน้ำแข็ง จ้านอู๋หยาเหมือนช่างฝีมือที่กำลังปักลายอยู่ เขากระตุกลำแสงนั่นลากหมียักษ์มายังเกาะ พลางพูด:
“โลกแห่งศิลปะการต่อสู้ที่สูงสุด ขับเคลื่อนทุกสิ่งด้วยพลังที่แท้จริง ฉันเพิ่งจะเข้าใจก็วันนี้แหละ”
“หัวหน้าแก๊ง ท่านฝึกจนเป็นชี่แท้แล้วงั้นเหรอ!?”น้ำเสียงของเหลียงชิงหย่วน ห้ามความดีใจเอาไว้ไม่อยู่ พอเขาพูดจบ แม้แต่หายใจแรงก็แทบไม่กล้า พลางมองไปที่ศพหมียักษ์ ที่เคลื่อนที่อัตโนมัติบนพื้นทะเลสาบ ราวกับเวทมนตร์ เพราะเขาฆ่าหมียักษ์ที่ดุร้ายมากๆได้เพียงในไม่กี่วินาที จากนั้นสิ่งที่คุณเห็น คือเหมือนศพของหมีขั้วโลกกำลังเลื่อนมาทางเกาะโดยอัตโนมัติ……
ถ้าไม่เห็นกับตาตัวเอง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ