รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 337 การต่อสู้ใกล้เข้ามาแล้ว
บทที่ 337 การต่อสู้ใกล้เข้ามาแล้ว
สี่สาว “ลม ดอกไม้ หิมะ ดวงจันทร์” กำลังเก็บสิ่งของให้กับฉินหลั่งและจงยู่ พอเป็นพิธี ฉินหลั่ง จงยู่ หิมะเดินมายังด้านหน้าของประตูยาวเย่วกง ลูกศิษย์หกร้อยกว่าคนของยาวเย่วกงมาส่งพวกเขา
“พอแล้ว ทุกคนกลับไปเถอะ!” ฉินหลั่งยิ้มพร้อมทั้งโบกมือให้กับบรรดาลูกศิษย์ทุกคน
พูดจบ ฉินหลั่งก็มองตึก บรรดาลูกศิษย์ ลม ดอกไม้ ดวงจันทร์อย่างอ้อยอิ่ง จากนั้นก็พาจงยู่และตัวพวกเขาออกไปจากที่นี่
ดวงตาของลม ดอกไม้ ดวงจันทร์มีน้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่อาจอดกลั้นเอาไว้ได้ ลูกศิษย์คนอื่นๆ เช่นเดียวก็ไม่อาจหยุดร้องไห้ได้
“ลาก่อนเจ้านาย!”
“เจ้านายเดินทางปลอดภัย”
“เจ้านายกลับมาไวๆ!”
เสียงของลูกศิษย์ดังระงงสะท้อนไปทั่วเขาเทียนซาน
พวกของฉินหลั่งลงจากเขา โดยใช้วิธีขี่ลา การเดินทางใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกว่าจะถนนหลัก ฉินหลั่งกับ หิมะ รวมทั้งหัวหน้าแก๊งหวงนั้นไม่มีปัญหา ทว่าจงยู่ยังไม่ไหว จำต้องนั่งรถลง
ลาเดินได้อย่างนุ่มนวล ใช้ระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงกว่า พวกของฉินหลั่งก็สามารถมาถึงถนนหลักได้
ฉินหลั่งอุ้มจงยู่ลงจากหลังลา
“เจ้าลาที่แสนดี กลับไปที่ยาวเย่วกงเถอะ!” หิมะลูบคลำลาทั้งสี่ตัวที่พาพวกเขาลงมาจากภูเขา แถมพูดอย่างสนิทสนม เจ้าลาทั้งสี่ตัวเดินขึ้นไปบนยอดเขา พวกมันทั้งสี่ตัวถูกเลี้ยงดูมาจากยาวเย่วกง เพราะฉะนั้นสามารถหาหนทางกลับไปที่ยาวเย่วกงได้
“เจ้านายฉิน ฉันนัดรถไว้ให้พวกคุณ รีบขึ้นรถไปเถอะ!” หัวหน้าแก๊งหวงชี้ไปที่รถบัสที่จอดรออยู่ข้างถนน แล้วหันมาพูดกับฉินหลั่ง
“ได้ ขอบคุณหัวหน้าแก๊งหวงมากที่ให้ความช่วยเหลือ” พูดจบ ฉินหลั่ง จงยู่ หิมะก็ขึ้นไปบนรถบัส โดยมีลูกศิษย์ของหัวหน้าแก๊งหวงเป็นคนขับรถ พาทุกคนลงจากภูเขา
โดยใช้ทางตามแนวสันเทือกเขาของเขาเทียนซาน รถบัสก็สามารถลงจากเขาได้อย่างรวดเร็ว
พวกเขาผ่านจุดที่ ซ่งอวี่ให้ลูกน้องประจำการจุดนั้นเอาไว้ แต่ว่าในเวลานี้ จุดประจำการนั้นกลับว่างเปล่าไปแล้ว วันก่อนหน้านี้ ซ่งอวี่ให้ลูกน้องคนนี้กลับไปที่เย็นจีนเพื่อรับรางวัล
หนึ่งเดือนผ่านไปก็ไม่เห็นว่าฉินหลั่งลงจากเขา ซ่งอวี่มั่นใจได้ว่า ฉินหลั่งคงตายห่าไปแล้ว
เจ็ดโมงเช้า รถของพวกฉินหลั่งก็มาถึงสนามบินนานาชาติเมืองอู ฉินหลั่งกล่าวลากับหัวหน้าแก๊งหวง และพาจงยู่ หิมะขึ้นเครื่องบินโดยสารเพื่อมุ่งหน้าไปยังเย็นจีน
หลังจากใช้เวลาสี่ชั่วโมง พวกเขาก็เดินทางมาถึงเย็นจีน หวังว่าการต่อสู้นั้น พวกเขาจะมาทัน…
ทะเลสาบจีนไห่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ทว่าวันนี้ นักท่องเที่ยวที่มียังที่แห่งนี้ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน เพราะว่าทางตำรวจต่างปิดทางไว้แล้ว บรรดาทัวร์ต่างไม่พอใจเอามาก พวกเขาต่างสบถด่าตำรวจที่เข้าปิดทาง เพราะมันทำให้คนหมดสนุก เพราะพวกเขาเดินทางมายังเย็นจีน แต่ไม่ให้พวกเขาเข้าไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวทะเลสาบจีนไห่
“ไปที่อื่นเถอะ วันนี้ที่นี่เข้าไปไม่ได้ ขออภัยทุกท่านด้วย!” ตำรวจหญิงเป็นคนพูดกับลูกทัวร์ตรงประตูทางเข้าของทะเลสาบ นั่นคือตำรวจหญิงดาวเด่นหวังเฉิน
วันนี้ ทางตำรวจของเย็นจีนให้มีการป้องกันด้านนอกของทะเลสาบจีนไห่เอาไว้ การต่อสู้ของลี่ไห่ซากับวงการต่อสู้ของจีนนั้น ทางตำรวจของเย็นจีนก็รู้ข่าวมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวได้ แม้ว่ามีคนตายก็ไม่อาจยุ่งได้ การต่อสู้ด้วยพลังวิทยายุทธ์จนเสียชีวิต นี่มันเป็นกฎมานับพันๆ ปีของวงการต่อสู้
สิ่งที่ทางตำรวจสามารถทำได้คือ การป้องกันไม่ใช่การต่อสู้ในครั้ง ทำให้ประชาชนสามัญชนบาดเจ็บไปด้วย
เวลานั้นเอง ตอนที่คนในวงการศิลปะการต่อสู้เข้าไปนั้น ก็มีคนใส่ชุดโบราณ เดินเข้ามาด้านในของสถานที่ท่องเที่ยว หวังเฉินเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบพวกเขา
ทุกคนในวงการต่อสู้ ขอแค่แจ้งชื่อของตนเอง ก็สามารถเข้าไปด้านในได้
การที่หวังเฉินต้องเผชิญหน้ากับสังคมของจอมยุทธ์ที่อยู่ในสังคมปัจจุบันนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่เคารพมาก
“เจ้าอาวาสเมี่ยวเฟิงเชิญด้านใน!” หวังเฉินเชิญเจ้าอาวาสสำนักเส้าหลิน เชิญเข้าไปด้านในของสถานที่ท่องเที่ยวตรงประตูใหญ่
ข่าวว่ากันว่ากระต่อสู้ที่รักษาศักดิ์ศรีและความเป็นความตายของวงการต่อสู้ของจีนนี้ หวังเฉินที่สนใจด้านการเรียนวิทยายุทธ์อย่างบ้าคลั่งเช่นนี้ ย่อมดีใจทุกอณูขุมขน
ความรู้สึกของเธอที่มีต่อลี่ไห่ซาที่เป็นคนฆ่าเจ้าสำนักทั้งสี่สำนักนั้น ทั้งขยะแขยงและเจ็บปวดทรมาน เธออยากจะเห็นกับตา ว่าวงการต่อสู้ของจีนจะจัดการถอนรากถอนโคนไอ้ปีศาจร้ายยังไง
หวังเฉินอาศัยตำแหน่งตำรวจของตนเอง แอบเข้าไปผสมโรงอยู่ด้านในสถานที่ท่องเที่ยว
เมื่อเห็นว่าคนในวงการต่อสู้ต่างมาถึงสถานที่กันแล้ว ตอนนี้ลูกทัวร์ถึงได้เข้าใจว่า วันนี้ทะเลสาบจีนไห่คงมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น พวกเขาเลยไม่อยากจะรบเร้าเข้าไปด้านในสถานที่ท่องเที่ยวอีกเลย
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู X7 คันหนึ่งขับเข้ามาด้านในสถานที่ท่องเที่ยว รถคันนี้เป็นของฟางเจิ้ง หลังจากที่ผ่านการรักษาตัวมาแล้วเดือนกว่า ขาของเขาก็ดีขึ้นมาก แต่ว่าเหมือนจะเป็นไปตามที่หมอคาดการณ์เอาไว้ตั้งแต่แรกว่า ถึงแม้จะดีขึ้น แต่ก็ไม่สามารถคืนกลับมาได้ดีดังเดิมแล้ว ตอนนี้เวลาที่ฟางเจิ้งเดินนั้น ก็เดินตุปัดตุเป๋แล้ว!
ซ่งอวี่ที่อยู่อยู่ด้านข้างคนขับรถอยู่ ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานของบิดา วันนี้เขาจึงไม่อาจปรากฏตัวได้ เขาสามารถอยู่ในงาน แล้วกับสถานการณ์ในการแข่งขันที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ แจ้งกับบิดาของเขาได้
หลังจากที่รถยนต์ของพวกเขาเข้าไปแล้วนั้น ก็มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากกลุ่มคน เพื่อติดตามร่องรอยของซ่งอวี่ไป
เด็กสาวคนนี้ใส่ชุดไหมพรมสีดำ ผมยาวดำขลับ ใบหน้าดูเหนื่อยล้า เย้นนีนั่นเอง
เย้นนีเห็นบรรยากาศรอบนอกของสถานที่ท่องเที่ยว การที่มีตำรวจอยู่มากมาย และยังมีบุคลากรของวงการต่อสู้เข้าไปข้างในตั้งมากมายขนาดนี้ พลันนึกถึงซ่งอวี่ด้วย เธอก็คิดได้ว่า เป็นไปได้มากว่าอาศัยใบบุญจากตระกูลซ่ง แก๊งหัวชิงอยู่ที่นี่ จนเกิดการต่อสู้กับวงการต่อสู้ของจีน!
สาเหตุของการต่อสู้เช่นนี้เป็นไปได้ว่า เพราะว่าเธอฆ่าฉินหลั่งตาย
เวลานั้นเอง หัวใจของเย้นนีก็ไม่สามารถสงบลงได้
ไม่ว่าจะอย่างไร เธอก็ต้องอาศัยจังหวะเข้าไปดูให้ได้ เธอไม่อยากเห็นจริงๆ ว่า เพราะว่าสิ่งที่เธอทำผิดพลาด มันจะทำร้ายผู้บริสุทธิ์ตั้งมากมายขนาดนี้
เย้นนีก้มหน้าลง และเดินเข้าไปด้านในของสถานที่ท่องเที่ยว
“หยุดอยู่กับที่! สาวน้อย วันนี้สถานที่แห่งนี้ไม่อนุญาตให้เข้าไปได้ น้องรีบไปให้ไกลเลย!” มีตำรวจนายหนึ่งขวางเย้นนีเอาไว้
“หนู…” เย้นนีกำลังเตรียมตัวหันหลังกลับ ไม่นานนัก ก็มีคนในวงการต่อสู้กับตำรวจหลายนายเกิดปัญหาขัดแย้งกัน นายตำรวจด้านหน้าของเย้นนีเลยรีบผละออกไป เย้นนีอาศัยจังหวะนี้เดินเข้าไปด้านใน
ริมฝั่งทะเลสาบจีนไห่ จัดเตรียมที่นั่งไว้มากมาย คนในวงการต่อสู้ นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้ว มองออกไป ประมาณ สี่ร้อยถึงห้าร้อยกว่าคนแล้ว แถมยังเดินเข้ามาไม่หยุด
ฝั่งตรงข้ามของพวกเขา ห่างออกไปจากพื้นผิวน้ำหนึ่งร้อยกว่าเมตร มีการก่อสร้างแบบโบราณแนวแปลกตาอยู่ ในเวลานั้น ลี่ไห่ซานั่งอยู่ในนั้น ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนการเริ่มแข่งขัน เขายังคงหลับตาเพื่อฝึกฝนวรยุทธ์ให้กับตนเอง
บนโต๊ะในห้องนั้น ยังมีศีรษะจ้าวไห่โย่วและเจ้าสำนักรวมทั้งหมดสี่หัววางอยู่
ซ่งอวี่กับฟางเจิ้ง เดินออกมาจากประตูโบราณด้านหลัง เพราะว่าพวกเขาหวาดกลัวว่าจะถูกคนในวงการต่อสู้เห็นเข้า การเดินตุปัดตุเป๋ของฟางเจิ้ง เขารับสภาพของตนเองได้ว่าเป็นคนพิการไปแล้ว
เมื่อเห็นว่าในห้องมีศีรษะคนวางเอาไว้ทั้งสี่ศีรษะ จนทำให้ซ่งอวี่ ฟางเจิ้งเสียวสันหลังวาบ จนเกือบจะร้องเสียงหลง
“คุณลี่สวัสดีครับ” ซ่งอวี่ทักทายลี่ไห่ซา
“สวัสดีครับคุณลี่” ฟางเจิ้งก็รีบลอกเลียนแบบท่าทางของพี่ชายของเขา เพื่อทำความเคารพลี่ไห่ซา
ลี่ไห่ซาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเป็นซ่งอวี่และฟางเจิ้ง ก็ผงกหัวให้ เพราะว่าในใจเขาแทบไม่ได้สนใจพวกไฮโซอย่างซ่งอวี่เลย
“วันนี้สมาชิกของวงการต่อสู้ของจีนต่างมากันพร้อมเพรียง เมื่อครู่พวกเขากำลังนั่งอยู่ที่ริมตลิ่ง และยังมีคนมากมายได้เดินทางมาก่อนแล้ว! คุณลี่ปรารถนามาอย่างยาวนานที่ต้องการล้างความอัปยศอดสูให้แก่จู่ซือ วันนี้สมปรารถนาแล้ว” ซ่งอวี่พูดด้วยความเคารพ
ลี่ไห่ซายิ้มให้อย่างเย็นชา ในหัวสมองพลันคิดถึงลูกศิษย์ของตนเองที่ได้เสียชีวิตลง จนพูดอย่างร้ายกาจออกมา “น่าเสียดายไอ้ฉินหลั่งคนที่ลูกศิษย์ฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนฆ่ามันให้ตายตกไปตามกัน..”
หมัดของลี่ไห่ซากำแน่นจนมีเสียงออกมา
เวลานั้นเอง ด้านนอกห้องกลับมีเสียงสบถด่าของวงการต่อสู้ของจีนดังเข้ามา
“ไอ้แก๊งหัวชิงเสนอหน้ามาให้พ่อเห็นหน้าหน่อย!”
“ลี่ไห่ซาไอ้เต่าหัวหด พ่อมึงมากันครบแล้ว มึงยังไม่ยอมออกมาคำนับยกน้ำยกชาให้อีกเหรอ?”
“มึงออกมากูรับประกันได้ว่าจะไม่ฆ่ามึง!”
เมื่อได้ยินเสียงสบถด่า ใบหน้าของลี่ไห่ซากระฟัดกระเฟียดถนัดตา กล้ามเนื้อทั้งตัวกระตุกขึ้นมา จนแผ่รัศมีกดดันออกมา
ถึงขนาดทำให้ซ่งอวี่และฟางเจิ้งต้องคอยระแวดระวังจนสั่นเล็กน้อย
“คุณลี่ พวกเราออกไปรอข้างนอกก่อน อีกเดี๋ยวท่ามกลางกลุ่มคน พวกเราจะแอบเอาใจช่วยคุณ ผมกับบิดาซ่งจงผิงขออวยพรให้คุณ ชนะขาดลอยกับการต่อสู้กับวงการต่อสู้ของจีน จนแก๊งหัวชิงสามารถกลับคืนมายังจีนได้โดยไว” ซ่งอวี่พูดและลุกขึ้น
“ใช่ ชนะวงการต่อสู้ของจีนอย่างขาดลอย จะกลับคืนสู่จีนเช่นเดิม” ฟางเจิ้งตกใจจนกลัวในการสบตามองลี่ไห่ซา พลันพูดตามสิ่งที่พี่ชายพูด แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างตุปัดตุเป๋