รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 318 บัวหิมะเทียนซาน
บทที่ 318 บัวหิมะเทียนซาน
“ฉันรู้สึกปวดหัว ไม่มีแรงไปทั้งตัวเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ?หมอบอกฉันหน่อยว่าฉันป่วยเป็นอะไร……” จงยู่ถามด้วยความอ่อนแอ
เธอยังไม่รู้ในตอนนี้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเองกันแน่
เมื่อเห็นท่าทีที่อ่อนแอของจงยู่ในตอนนี้ ใจของฉินหลั่งก็รู้สึกเหมือนถูกคว้านลงไปอย่างลึกๆ
“ไม่เป็นไร” ฉินหลั่งเอามือของจงยู่มากุมอยู่ที่ด้านหน้า ก่อนจะยิ้มออกมาพลางพูดว่า: “หมอบอกว่าคุณติดไข้หวัดอย่างหนักไปหน่อยน่ะ ต้องนอนโรงพยาบาลสักหน่อย เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้ว!”
“เหรอ งั้นก็ดี” จงยู่มีรอยยิ้มอ่อนๆ ขึ้นมา เหมือนกับดอกไม้แย้มบาน ก่อนจะพูดต่อว่า: “ฉันว่าอีกไม่นานเย้นนีจะเอาซุปมาให้ฉัน บางทีกินซุปของเธอเข้าไปแล้ว ฉันน่าจะดีขึ้นเร็วขึ้น”
เมื่อได้ยินจงยู่พูดดีกับเย้นนี ฉินหลั่งก็รู้สึกเจ็บปวดใจ แต่เขาในตอนนี้ไม่สามารถพูดเรื่องจริงให้จงยู่ฟังได้
สี่สาว “ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์” เองก็มีท่าทีโกรธแค้นเป็นอย่างมาก แต่ว่าพวกเธอเองก็ไม่กล้าพูดอะไรทำร้ายจงยู่
“ฉันเหนื่อยแล้ว อยากจะพักสักหน่อย” จงยู่ค่อยๆ หลับตาลง ก่อนจะหลังสนิทไป
“คุณชายฉิน พวกเราคิดว่าเย้นนีเป็นคนทำร้ายคุณจงยู่!”
“ไม่ผิดแน่ วันนั้นคุณจงดื่มไปแค่ซุปของเธอ จากนั้นก็เกิดอาการไม่ดีขึ้นมา เมื่อวานก็ไม่เห็นเย้นนีแล้วเหมือนกัน!”
“ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์” พูดความในใจที่สงสัยอยู่ให้ฉินหลั่งฟัง
“ฉันรู้” ฉินหลั่งพยักหน้า
“งั้นพวกเราสี่คนไปฆ่าเธอตอนนี้เลย เพื่อแก้แค้นให้คุณจง!” ลมพูดออกมา แล้วสาวน้อยทั้งสามคนที่เหลือก็ตอบรับ: “จริงด้วย”
“เธอซ่อนตัวไปแล้ว เย็นจีนใหญ่ขนาดนี้ จะไปตามหาจากไหนล่ะ” ฉินหลั่งพูดด้วยความหมดอาลัยตายอยาก:
“ตอนนี้การทำให้อาการของจงยู่ดีขึ้นคือสิ่งที่เร่งด่วนที่สุด เธอได้รับพิษ……พิษที่รุนแรงมากชนิดหนึ่ง ฉันต้องพาหมอที่ดีที่สุดในโลกนี้มาช่วยเธอให้ได้”
ในใจของฉินหลั่งนั้นมีความหวัง ถึงแม้ว่าจงจิ่วเจินจะบอก ว่าน้ำเสียนจิวนั้นไม่มียารักษา แต่เขาไม่อยากจะเชื่อ ถึงจะมีหวังแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ ฉินหลั่งเองก็อยากจะลองดู
“คุณชายฉิน คุณพาคุณจงยู่ กลับไปที่ยาวเย่วกงกับพวกเราเถอะ ถ้าเกิดว่าหาบัวหิมะเทียนซานเจอ ฉันว่าอาจจะช่วยคุณจงยู่ได้นะ!” ลมพูด ตอนที่ฉินหลั่งไม่อยู่ พวกเธอทั้งสี่ก็คุยกันเรื่องนี้
“บัวหิมะเทียนซานเหรอ?ใช้ได้เหรอ?” ฉินหลั่งตาลุกวาว พลางมองไปทางลมพวกเธอแล้วถามขึ้น
“ยายเคยบอกพวกเรา ว่าบัวหิมะเทียนซานช่วยแก้พิษได้ ก่อนหน้านี้ ยายเคยบาดเจ็บจากการต่อสู้กับคนอื่น พวกเราเองก็ไปหาบัวหิมารักษายาย มันดีมากเลยนะ ยายเคยบอกเอาไว้ “บัวหิมะเทียนซานพันปี ตายแล้วฟื้น แถมยังมีผลในการช่วยเรื่องกระดูกอีกด้วย ถ้าเกิดว่าเราหาบัวหิมะเทียนซานพันปีมาได้ ฉันว่าเราจะต้องช่วยคุณจงยู่ได้แน่นอน!”
“ยายเคยบอก…” ปากของฉินหลั่งขยับมุบมิบ เขามองจงยู่ที่นอนอ่อนแรงอยู่บนเตียง เมื่อพิษออกฤทธิ์ อะไรๆ มันคงจะสายเกินไปแล้ว
“โอเค พวกเราไปยาวเย่วกง!” ฉินหลั่งรีบพูดขึ้น ให้สี่สาว “ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์” ฟัง
“อือ!คุณชายฉิน พวกเราซื้อตั๋วเครื่องบินไปเมืองอูเลยเถอะ!” ลมพูดพลางหยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็ซื้อตั๋วออนไลน์
ลมซื้อตั๋วหกใบ เป็นตั๋วในวันที่สองตอนเก้าโมงเช้า
ฉินหลั่งซื้อยาระงับการออกฤทธิ์กับโรงพยาบาลเสเหอมานิดหน่อย แน่นอนว่าเป็นเงินส่วนตัวของบ้านตระกูลจง
ฉินหลั่งเองก็บอกจงจิ่วเจิน ว่าจะพาจงยู่ไปภูเขาเทียน จงจิ่วเจินรู้ว่าน้ำเสียนจิวนั้นไม่มียาแก้ ฉินหลั่งบอกว่าบัวหิมะเทียนซานพันปีสามารถช่วยชีวิตจงยู่ได้ ลองดูหน่อยก็ไม่เสียหาย
ถึงแม้ว่าเขาจะรู้จักจงยู่ได้ไม่นาน แต่ก็รู้จัก ว่าหลานสาวของตัวเอง เหมือนกับลูกสาวชื่อจงเสวี่ยนเย่นเลย ตอนที่เธอกำลังจะตาย สามารถได้อยู่กับคนที่รักได้ เธอก็ถืออว่าตายอย่างมีความสุข
วันที่สอง ฉินหลั่งพาจงยู่กับ “ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์” สี่สาวมาที่สนามบินนานาชาติจินหลิง
สำหรับอาการของจงยู่นั้น พวกฉินหลั่งต้องเฝ้าเธออยู่แล้ว
“จงยู่ หมอบอก ว่าอาการป่วยนั้นกำลังดีขึ้น เขาให้พาคุณไปเดินเล่นน่ะ สูดอากาศสดชื่นๆ เท่านี้คุณก็จะหายดีแล้ว!” ฉินหลั่งพูดกับจงยู่อย่างอ่อนโยน
จงยู่ซบบ่าเขา สติของเธอนั้นเริ่มเลือนลางแล้ว
“งั้นก็ดีเหมือนกัน ฉันอยากจะไปเที่ยวที่ทั่วประทศมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีโอกาสสักที สุดท้ายฉันก็จะได้ไปสักที” ใบหน้าของจงยู่เต็มไปด้วยรอยยิ้มบางๆ พลางพูดออกมา
เมื่อเห็นท่าทีอ่อนแอของจงยู่ “ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์” ทั้งสี่สาวเองก็รู้สึกกังวลและสงสารมาก!
ที่โถงรับรองของสนามบินกำลังประกาศสายการบินของพวกฉินหลั่ง
“พวกเราไปเถอะ!” ฉินหลั่งพยุงจงยู่ กับ “ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์” สี่สาวไปเช็กอิน
เมื่อเห็นว่าสายการบินของพวกเขาบินแล้ว มีคนหนึ่งเดินออกมาจากทางเสาของโถงรับรองนั้น เขาเป็นคนที่ซ่งอวี่จัดมาให้สอดส่องฉินหลั่ง คนคนนั้นรีบโทรหาซ่งอวี่
“คุณชายซ่ง ฉินหลั่งพาพวกเธอไปที่สายการบินของเมืองอู!ท่าทีของผู้หญิงคนนั้นเหมือนจะไม่ไหวแล้ว!”
“แล้วอาการของฉินหลั่งเป็นอย่างไรบ้าง?” ซ่งอวี่ถาม
“ตั้งแต่เขาพบว่าผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัวมาแบบแปลกๆ อารมณ์ก็หดหู่ลงมาก!เมื่อวานกับเมื่อสองคืนก่อน ฉันเห็นว่าตอนที่เขาไม่มีใครอยู่ด้วยนั้น แอบร้องไห้ด้วย!แต่ว่าเมื่อวานเขาไปที่บ้านตระกูลจงครั้งหนึ่ง!ส่วนไปคุยอะไรนั้น ตอนนี้ยังไม่รู้!”
“โอเค ทำได้ดีมาก!” ซ่งอวี่พูด จากนั้นก็วางสายไป
ซ่งอวี่กำลังอยู่ในโรงแรมฮิลตัน เขาจัดให้เย้นนีอยู่ที่ชั่วคราว เย้นนีอยู่ข้างกายเขา เมื่อสักครู่ที่คุยโทรศัพท์นั้นเขาก็ได้ยินหมดเลย
“คุณชายซ่ง ฉันพูดไม่ผิดใช่ไหมล่ะ เพียงแค่แฟนสาวเขาตาย ฉินหลั่งก็ไม่โอเคเป็นอย่างมาก และอาจจะตรอมใจตายเลยล่ะ!” เย้นนีพูด
“ตอนแรกถ้าเกิดว่าคุณให้ฉินหลั่งกินยาพิษได้ ยังต้องรอให้เขามาตรอมใจไหม?ถ้าเกิดว่าเขาไม่ตรอมใจตายจะเป็นอย่างไร?” ซ่งอวี่ตำหนิ
เย้นนีถูกว่าแบบนั้นก็รู้สึกน้อยใจ ตัวเองช่วยซ่งอวี่ทำเรื่องแย่ๆ ขนาดนี้แล้ว เขาไม่ควรจะดุตัวเองแบบนี้
“จริงสิ คุณบอกว่าแฟนของฉินหลั่งชื่อจงยู่ จงยู่ ของบ้านตระกูลจงงั้นเหรอ?” จู่ๆ ซ่งอวี่ก็คิด ว่ามันจะมีความลึกลับอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า?
“คุณชายซ่ง คุณคงไม่คิดว่าจงยู่เป็นคนของบ้านตระกูลจงใช่ไหม ไม่มีทางหรอก ฉันรู้จักหัวนอนปลายเท้าของเธอดี เธอเป็นเด็กสาวจากชนบทของทางภาคอีสานนะ ดังนั้นการที่เธอได้มาเรียนที่มหาวิทยาลัยเย็นจีน ก็เพราะว่าเป็นนักเรียนยากจน” เย้นนีรีบพูด หลังจากเกิดเรื่องกับจงยู่ เธอก็ไม่รู้อะไรเลย
“นี่มันเรื่องจริงเหรอ…” ซ่งอวี่รู้สึกสงสัยอยู่ในใจ
“คุณชายซ่ง ไม่ต้องคิดเรื่องนี้แล้ว พวกเราคิดเรื่องงานแต่งของพวกเราเถอะ คุณจะพาฉันไปเจอพ่อคุณเมื่อไหร่?” เย้นนีถามด้วยความคาดหวัง
“รีบอะไรกัน รอฉินหลั่งตายก่อนค่อยคุยเถอะ!” ซ่งอวี่ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย
“ก็ได้ เขาไม่มีจงยู่แล้ว ยังไงก็ต้องตรอมใจตาย ถึงไม่ตาย ก็เสียชีวิตที่เหลือไปหมดแล้ว!ตอนนั้นมีวิธีทำร้ายเขาอีกง่ายขึ้นมากมาย” เย้นนีพูดไปพลางเตรียมถอดเสื้อผ้าให้ซ่งอวี่: “คุณชายซ่ง ช่วงนี้คุณไม่มา ฉันคิดถึงคุณแย่แล้ว ให้ฉันได้ปรนนิบัติคุณชายซ่งเถอะ”
“มีเวลาค่อยคุยเถอะ งานที่บริษัทยุ่ง ฉันไปที่บริษัทก่อนนะ!” ซ่งอวี่ผลักมือของเย้นนีออก ก่อนจะลุกขึ้นมา แล้วก็เดินออกมาแบบไม่ได้หันไปมองอีก และไม่สนใจเลยว่าเย้นนีกำลังเรียกเขา
“คุณชายซ่ง!คุณชายซ่ง……” เมื่อไม่เห็นเงาของซ่งอวี่แล้ว เย้นนีต่อยลงไปบนเตียง ก่อนจะปลอบตัวเองว่า: “คุณชายซ่งยุ่งมากเลย ครั้งหน้าเขาต้องมาอยู่กับฉัน ฉันจะแต่งงานกับคุณชายซ่งในอีกไม่นาน……”