รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 221 ยังกล้าพูดว่าตัวเองบริสุทธิ์อีกเหรอ
บทที่ 221 ยังกล้าพูดว่าตัวเองบริสุทธิ์อีกเหรอ
เมื่อผู้คนรอบๆได้ยินเหลียงกั๋วเฉียงประกาศชื่อด้วยตนเอง หลายคนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็ตกใจ
“เขาคือเหลียงกั๋วเฉียงเองเหรอ เขาเคยเป็นบอดี้การ์ดของฟ่านลี่เฉิงคนที่รวยที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาได้เปิดสำนักศิลปะการต่อสู้หลายแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและคนเต็มทุกที”
“ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในนักศิลปะการต่อสู้ชั้นนำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เขายังเป็นกรรมการตัดสินในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับชาติเมื่อปีที่แล้วด้วย!”
“ในความเป็นจริง ตอนที่เขายังเด็ก เขาได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับชาติ เขายังเคยเซ็นสัญญาชีวิตและความตายกับผู้คนในสังเวียน ตบคนจนตายมาแล้วสองสามคน”
“หรือว่าคราวนี้ เด็กคนนี้จะถูกท่านเหลียงตบตายสินะ”
…
ขณะที่คนรอบข้างกระซิบกระซาบกันอยู่ เหลียงกั๋วเฉียงก็ตั้งท่าขึ้น แล้วปล่อยฝ่ามือไปที่หน้าฉินหลั่งหนึ่งที
รูปร่างและทักษะฝ่ามือของเขาเร็วมาก ฉินหลั่งรู้สึกได้ถึงลมแรง ที่ทำให้หายใจลำบากเล็กน้อย
เขายกมือขึ้นบนฝ่ามือของเหลียงกั๋วเฉียงทันที จากนั้นใช้ “แกล้งยินดี” ผลักฝ่ามือของเขาออกไป
เหลียงกั๋วเฉียงคำรามหนึ่งครั้ง ขาทั้งสองข้างของเขาราวกับฝังอยู่บนพื้น เขาตบฉินหลั่งครั้งแล้วครั้งเล่า ฝ่ามือแต่ละข้างนั้นแข็งแกร่งและดุร้ายแฝงไปด้วยพลังภายใน
การเคลื่อนไหวของฉินหลั่งไม่ด้อยไปกว่าเหลียงกั๋วเฉียง ถ้าแพ้ก็เพราะเขาไม่มีพลังภายใน จึงไม่สามารถดึงผลสูงสุดจากการเคลื่อนไหวของเขาได้
ตอนที่ใช้ท่า “เทียนหนานเทียนเป่ย”กับเหลียงกั๋วเฉียง เหลียงกั๋วเฉียงไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่เขาเองกลับก้าวถอยหลัง
หลังจากฉินหลั่งเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะต่อสู้กับผู้คน เมื่อกี้เพิ่งชนะฉื่อเส้าอี้ไป เขามีความสุขมาก ตอนนี้ต่อสู้กับเหลียงกั๋วเฉียง ดูเหมือนว่าเขาจะเจอปัญหาใหญ่ เขาระดมความคิดว่าจะเอาชนะเขาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร
เขาจำได้ว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จูชุยส่วยเคยกล่าวว่า ถ้าเจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า ไม่ควรโหดเหี้ยมกับคู่ต่อสู้ เขาต้องเข้าใจหลักการ “ข้ามแม่น้ำครึ่งทาง และตีน้ำไหลนั้น” ซึ่งหมายถึงการรอจนกว่าการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามจะผ่านไปครึ่งทาง ตนเองค่อยโจมตี เช่นนี้จะได้รับผลลัพธ์สองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว
ฉินหลั่งเปลี่ยนความคิดทันที เขาออกแรงผลักตัดกับฝ่ามือของเหลียงกั๋วเฉียง เป็นฉินหลั่งที่ผลักเหลียงกั๋วเฉียง เหลียงกั๋วเฉียงก็ไม่สะทกสะท้าน แต่ฉินหลั่งเองกลับถูกผลักกลับด้วยแรงผลักของตัวเอง
ดวงตาของเหลียงกั๋วเฉียงเป็นประกาย และเขาตระหนักดีว่านี่เป็นเวลาที่ดีที่สุดในการเอาชนะฉินหลั่ง ในบัดดลร่างกายของเขา “เตะเอียง” เตะเท้าของเขาไปที่หน้าอกของฉินหลั่ง
ฉินหลั่งวางแขนของเขาไว้ที่หน้าอกและกลั้นหายใจ เพื่อต้านทานแรงที่ท่วมท้นของเหลียงกั๋วเฉียง และเท้าของเขาก็ขยับถอยหลัง 10 เซนติเมตร
ในที่สุดความแข็งแกร่งของเหลียงกั๋วเฉียงก็อ่อนแอลง ฉินหลั่งใช้โอกาสนี้ส่ง “แกล้งยินดี” เหลียงกั๋วเฉียงไม่สามารถยืมพลังใด ๆ ได้เลย เมื่อเขาอยู่ในอากาศ ในเวลานี้เขากลายเป็นปลาบนเขียง
ฉินหลั่งใช้กลอุบายที่รุนแรงซ้ำ ๆ เช่น “หยิบดอกบินใบ” “พันมือและพันฟุต” “ลงจากท้องฟ้า” จู่โจมเหลียงกั๋วเฉียง ในที่สุดเหลียงกั๋วเฉียงก็ “ปึ๊ง”เหมือนปลาโดนน้ำมันกระเด็นออกจากกระทะตกลงบนพื้น
ทุกคนตกตะลึง และมองไปที่เหลียงกั๋วเฉียงบนพื้น ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉินหลั่งจะเอาชนะบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกศิลปะการต่อสู้ทางตะวันออกเฉียงเหนือได้
“ผู้อาวุโส ท่านเป็นอย่างไรบ้าง” ฉินหลั่งเดินพยุงเหลียงกั๋วเฉียงและพูดกับเขา
ตอนนั้นเหลียงกั๋วเฉียงใช้วิธีปลิดชีพใส่เขา เขาไม่ทันได้ยั้งคิด จึงใช้กลอุบายที่ทรงพลังแต่ละท่วงท่ากับเหลียงกั๋วเฉียง
“ไม่เป็นไรคุณฉิน ศิลปะการต่อสู้ของคุณแข็งแกร่งมาก ผมแสดงความอัปลักษณ์ต่อหน้าคุณ” เหลียงกั๋วเฉียงกล่าว เขาพูดและพยักหน้าให้หยูหมิง “คุณชายหยู ผมขอโทษศิลปะการต่อสู้ของคุณฉินคนนี้เหนือกว่าผม ผมทำอะไรไม่ได้ ผมทำให้คุณผิดหวัง โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
หลังจากพูดจบ เหลียงกั๋วเฉียงก็คารวะฉินหลั่ง และเดินจากไป
ฉินหลั่งมองไปที่หยูหมิง เขาตกใจและถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว คนของหยูหมิงหลายคนรีบไปยืนหน้าหยูหมิงทันที แต่ดวงตาของพวกเขาก็สั่น โดยเฉพาะเมื่อพวกเขามองฉินหลั่ง
ฉินหลั่งกำลังจะเดินไปหาหยูหมิงและหลงหลิงเพื่ออธิบายสถานการณ์ของตัวเองกับจูชุยส่วย ในขณะนี้มีเสียงไซเรนดังขึ้นด้านนอกประตูโรงแรม จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามา!
ก่อนมาที่โรงแรมเทียนสิ้น หยูหมิงได้โทรไปที่สถานีตำรวจหลินอาน แจ้งว่ามีคนค้าประเวณีในโรงแรมเทียนสิ้น และขอให้หัวหน้าสถานีตำรวจนำทีมไปจับกุมคนเป็นการส่วนตัว
เดิมที เขาคิดว่าจะให้ฉื่อเส้าอี้และเหลียงกั๋วเฉียงตีเขาสักรอบ แล้วค่อยให้ตำรวจมาจับเขาไป ใครจะคิดว่าจอมตะกละฉื่อเส้าอี้และเหลียงกั๋วเฉียงกลับทำไม่สำเร็จ!
แต่ตำรวจมาก็ดี จะได้จับฉินหลั่งเข้าคุกไป
ในช่วงเวลาที่ฉินหลั่งถูกขังอยู่ในกรงเล็ก ๆ หยูหมิงจะได้คิดหาวิธีแก้ไขฉินหลั่งได้มากขึ้น
ในกลุ่มตำรวจคนที่อยู่ข้างหน้าคือเย่เถิง ผู้บัญชาการตำรวจหลินอาน เนื่องจากคุณชายหยูเป็นคนขอให้เขามา เย่เถิงจึงไม่กล้าที่จะละเลย
“ผู้บังคับบัญชาเย่! เขาเป็นคนที่เที่ยวโสเภณี! รีบไปจับเขา!” หยูหมิงเดินไปพูดข้างๆเย่เถิง
เย่เถิงเดินไปหาฉินหลั่งด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและกล่าวว่า “คุณครับ เราต้องขอตรวจสอบห้องของคุณเดี๋ยวนี้ ช่วยพาเราไปที่นั่นด้วย!”
ฉินหลั่งส่ายหัวและพูดว่า “ผมไม่ได้เที่ยวโสเภณี เธอกับผมไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”
หยูหมิงหัวเราะเยาะ “ไม่มีเหรอ แล้วผู้หญิงในห้องของคุณเป็นใคร เท่าที่ผมรู้คุณยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีแฟน”
“นั่น … ” ฉินหลั่งอยากจะบอกความจริงกับพวกเขา แต่จริงๆเขาแค่ฝึกศิลปะการต่อสู้กับ จูชุยส่วยในห้อง และไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น แต่คิดว่าพวกเขาอาจไม่เชื่อเรื่องนี้
ฉินหลั่งมองไปที่หลงหลิง และเห็นว่าเธอมีแววตาดูถูก ฉินหลั่งรู้สึกเจ็บปวดในใจ โดยคิดว่าตอนนี้มีเพียงท่านจูเท่านั้นที่สามารถอธิบาย และล้างคำครหาของเขาออกไปได้ จึงพูดว่า “โอเค พวกคุณไปตรวจสอบเถอะครับ”
“ตอนนี้คุณพร้อมที่จะสารภาพผิดแล้วหรือยัง?” หยูหมิงยิ้มและพูดกับหลงหลิง “ไปดูเพื่อนนักเรียนที่สกปรกของคุณ ว่าเขาซ่อนผู้หญิงแบบไหนไว้ในห้องกันเถอะ!”
ฉินหลั่ง ผู้บังคับบัญชาเย่เถิงและคนอื่น ๆ มาที่หน้าห้องของฉินหลั่ง คนในห้องอื่น ๆ ได้ยินเสียงคนกลุ่มใหญ่เดินมา แขกในห้องหลายคนเปิดประตูเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทางเดิน
หยูหมิงถามอย่างจงใจ “คุณได้ยินเสียงรบกวนในห้อง 403 ตอนกลางคืนไหม”
เมื่อผู้พักหลายคนเห็นตำรวจจำนวนมากที่นี่ พวกเขาไม่กล้าปิดบังอะไร พวกเขาต่างพูด
“ตอนกลางคืนบางครั้งฉันได้ยินเสียงเตียงดัง”
“ฉันได้ยินเสียงผู้ชายกรีดร้อง เป็นเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด”
“ใช่ ผมก็ได้ยินเหมือนกัน ไม่ใช่แค่ตอนกลางคืน แต่บางครั้งในตอนกลางวันด้วย”
…
หยูหมิงฟังดังนั้นก็หัวเราะเยาะ มองไปที่ฉินหลั่งและพูดว่า “คุณมีพลังงานมากนะ ผู้หญิงคนนั้นแส้เฆี่ยนคุณรึเปล่า ไม่คิดว่าหนุ่มน้อยอย่างคุณจะชอบอะไรซาดิสๆแบบนั้น”
“มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด! คุณชายหยูก่อนที่สิ่งต่างๆจะชัดเจน คุณช่วยระวังคำพูดหน่อย” ฉินหลั่งดุด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เขารู้ดีที่สุดว่าเตียงนั้นมีเสียงดังเพราะจูชุยส่วยซ้อมอยู่บนเตียง และเสียงร้องของผู้ชายเจ็บปวดจากการประลองกับจูชุยส่วยก็ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคิด
เย่เถิงและคนอื่น ๆ เดินไปที่ห้องของฉินหลั่ง ฉินหลั่งกล่าวว่า “คุณตำรวจครับ ผมขอเข้าไปก่อนได้ไหม”
เขาคิดว่าตอนนี้จูชุยส่วยอาจอยู่ในชุดนอน ซึ่งถ้าตำรวจเห็น มันไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
หยูหมิงพูดอย่างเย็นชา “นายต้องการเข้าไปนัดแนะกับผู้หญิงคนนั้นก่อนใช่ไหม ผู้บังคับบัญชาเย่ เข้าไปเลยไม่ต้องห่วงเขา!”
เย่เถิงพูดกับฉินหลั่ง “เปิดประตูแล้วเข้าไปด้วยกัน!”
ฉินหลั่งไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้กุญแจเปิดประตูห้องของเขา และกลุ่มคนก็เดินเข้ามา
ทันทีที่เข้ามาในห้อง ก็เห็นจูชุยส่วยนั่งอยู่บนเตียง
จูชุยส่วยในชุดนอนสีม่วง นั่งไขว่ห้างอยู่บนเตียง ก้มหน้าเล็กน้อยและหลับตา ถึงจะมองไม่เห็นใบหน้าทั้งหมด แต่ทุกคนก็เห็นชัดว่านี่คือคนสวยคนนึง
การฝึกฝนของจูชุยส่วยมาถึงช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แม้ว่าเธอจะได้ยินผู้คนมากมายเข้ามา แต่เธอก็รู้ว่าไม่ใช่ยายปี้หวู้อยู่ที่นี่ และจะไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตของเธอ เธอไม่ได้รีบเก็บชี่กง แต่รวบรวมชี่กงตามวิธีปกติ ซึ่งจะใช้เวลาสองสามนาที
เมื่อเห็นสภาพของจูชุยส่วย เย่เถิงก็ผงะเล็กน้อย มองไปที่เธอด้วยความสงสัย เหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรบางอย่าง
หยูหมิงยิ้มเยาะและพูดว่า “ไอ้เด็กเหม็น ตอนนี้คุณมีอะไรต้องพูดอีกล่ะ นายเอาสาวสวยมาไว้บนเตียงแล้ว! แถมยังอยู่ในชุดนอน ต่อให้เป็นคนโง่ก็รู้ว่าพวกคุณทำอะไรกันทุกคืนที่นี่”
คนของหยูหมิงรีบเพิ่มเติมทันที:
“เด็กคนนี้เล่นเป็นนะ ไม่รู้ว่าหาเงินซื้อผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้มาจากไหน”
“คุณกระหายขนาดไหน จองครั้งหนึ่งเป็นสัปดาห์”
“สาวคนนี้สวยขนาดนี้ ดูไม่เหมือนโสเภณีนะ หรือจะถูกเด็กคนนี้หลอกมา มีคนโดนหลอกมากมายในอินเตอร์เน็ต”
…
“พวกคุณหยุดหยาบคายได้แล้ว! ท่านจูแค่สอนบางสิ่งให้กับผมในห้อง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรา!” ฉินหลั่งมองไปที่ดวงตาของหลงหลิง มีแววตาเยาะเย้ยในสายตาของเธอ เขาจึงรีบอธิบาย
หยูหมิงหัวเราะเยาะ “ฉันเชื่อว่าเธอสอนอะไรบางอย่างบาง อย่างนั่นที่ “อาโออิโซลา” ไม่ได้สอนคุณใช่ไหม?”
คนของหยูหมิงทุกคนหัวเราะ
“ใช่ สิ่งที่อาโออิโซลาสอน”
“คุณชายหยูพูดถูก ดูเหมือนเด็กคนนี้ยังบริสุทธิ์ จึงจำเป็นต้องให้ผู้หญิงที่ช่ำชองสอน”
“ถ้าอยากเรียนรู้อะไร ก็แค่ค้นหาอาโออิโซลาทางออนไลน์ ทำไมต้องซื้อโสเภณีด้วย ผู้บังคับบัญชาเย่พาเขาไป!”
…
ฉินหลั่งไม่ได้สนใจคำพูดของคนอื่น สิ่งเดียวที่เขาแคร์คือทัศนคติของหลงหลิงที่มีต่อเขา
เมื่อหลงหลิงได้ยินสิ่งที่คนอื่นพูด เธอดูเหมือนจะเชื่อเช่นกัน เธอมองไปที่ฉินหลั่ง ยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก ฉินหลั่งเหมือนจะได้ยินเธอพูดว่า “ฉันคิดว่าคุณมีความรักที่ลึกซึ้งต่อจงยู่ ไม่คิดว่าจะทำอะไรแบบนี้!”
ทันใดนั้นหัวใจของฉินหลั่งก็เจ็บปวด ราวกับเลือดกำลังหยด มองไปที่หลงหลิงแล้วพูดเสียงดัง “พวกคุณจะพูดอะไรก็พูด ผมรู้ว่าความจริงคืออะไร หลังจากท่านจูฝึกเสร็จสถานการณ์จะเปลี่ยนเองตามธรรมชาติ ถึงตอนนั้นก็ยังไม่สายที่พวกคุณจะด่าว่าผม”
หลงหลิงสะดุ้งเล็กน้อย ราวกับว่าเขากำลังพูดถึงตัวเองคนเดียว เมื่อเห็นการแสดงออกที่เด็ดเดี่ยวของฉินหลั่ง หัวใจของหลงหลิงก็หวั่นไหว หรือเขาจะถูกเข้าใจผิดจริงๆ
หลงหลิงก้มหน้าลงเพื่อหลบสายตาของฉินหลั่ง
สายตาของคนอื่นจับจ้องไปที่จูชุยส่วยที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง หยูหมิงถามอย่างสงสัย “เธอกำลังทำอะไร อยู่เธอกำลังฝึกอะไรอยู่หรือเปล่า ทำไมเธอถึงไม่เคลื่อนไหว?”
เขาพูดพลางยื่นมือออกไปผลักจูชุยส่วย
ขณะที่มือของเขากำลังจะสัมผัสร่างกายของจูชุยส่วย จูชุยส่วยก็ฝึกเสร็จพอดี ทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้น จับมือที่ยื่นออกมาของหยูหมิง สะบัดร่างของเขา หยูหมิงเด้งขึ้นไปในอากาศ “แผละ” ล้มหัวฟาดพื้น
ร่างของจูชุยส่วยเหาะขึ้นไป คว้าเสื้อผ้าบนไม้แขวนเสื้อ และเมื่อเธอลงถึงพื้น เสื้อผ้าโบราณสีขาวราวกับหิมะก็สวมอยู่บนร่างกายของเธอ จูชุยส่วยมองไปที่ เย่เถิงและคนอื่น ๆ และพูดอย่าเกรี้ยวกราด “พวกคุณกล้ามากที่บุกเข้ามาในห้องฉัน!”