รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 214 แกเป็นคนออกตัวรับผิดแทนฉัน
บทที่ 214 แกเป็นคนออกตัวรับผิดแทนฉัน
“เธอคือ…” หลงเย้นถาม
“เธอเป็นเพื่อนที่ดีมากสำหรับฉัน” ฉินหลั่งพูดอย่างหมดหวัง
หลงเย้นคิดว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เลยพูดกับฉินหลั่งว่า “อย่าเอาคนคนนั้นมารบกวนความรู้สึกของเรา นายไปเที่ยวเป็นเพื่อนฉัน ดีไหม?”
ฉินหลั่งพยักหน้าให้ แล้วพูด “ได้”
พูดไป ฉินหลั่งก็มองซุนเจี้ยนที่นอนกองกับพื้นทำท่าเหมือนป่วยเป็นอะไรสักอย่างอยู่แวบหนึ่ง จากนั้นก็เรียกรถเพื่อออกไปจากที่นี่กับหลงเย้น
ไม่นานนักซุนเจี้ยนก็ถูกส่งเข้าโรงพยาบาล อาการบาดเจ็บของเขาไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไร หลังจากผ่านการตรวจจากแพทย์แล้ว เขาก็ถูกส่งตัวเข้าไปพักในห้องพักคนไข้ห้องปกติ เมื่อหยูหมิงได้ข่าวคราวแล้ว ก็รีบมาที่เยี่ยมซุนเจี้ยนที่โรงพยาบาลทันที
ซุนเจี้ยนทำหน้าขมขืมแล้วพูดออกมา “คุณชายหยู ขอโทษด้วย ฉันไม่สามารถทำตัวสนิทสนมกับคุณหลงเย้นได้แล้ว ตอนนี้เธอก็แสดงท่าทีรังเกียจกับฉัน ให้ฉันไปตามจีบเธอมันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว”
“ทำไมล่ะ? ฉันเอารถเฟอร์รารี่คันใหม่มาให้แกใช้แล้ว แกยังไม่สามารถทำตัวสนิทสนมกับเธอเลย แล้วยังไงเธอถึงได้ขยะแขยงแกได้ขนาดนั้นล่ะ เพราะอะไร!” หยูหมิงพูดเสียงแข็ง
“เพราะว่าไอ้ฉินหลั่งหมอนั่นไง! มันเป็นเพื่อนกับคุณหนูที่รวยมากที่เมืองจีนหลิง คุณหนูที่รวยมากคนนั้นขับรถเฟอร์รารี่มามันหรูหรามีระดับกว่ารถของแกอีก อีกอย่างรู้ว่าคุณหลงเย้นรู้สึกดีกับไอ้หมอนั่น ฉันพูดเหน็บไปกับเขาอยู่หลายประโยค คุณหลงเย้นก็รู้ไม่พอใจฉัน! อาการบาดเจ็บของฉันทั้งตัว ไอ้หมอนั่นเป็นคนทำทั้งนั้น” ซุนเจี้ยนพูดอย่างขมขื่น
“ฉินหลั่ง?” หยูหมิงทำหน้าตื่นตกใจ พลันนึกถึงเนื้อหาที่จดไว้ในบันทึกประจำวันได้ว่า แฟนจงยู่ชื่อ ‘ฉินหลั่ง’ หรือว่าจะเป็นคนเดียวกัน เขาพร่ำคิดอยู่หลายนาที จนไม่อยากคิดต่อแล้ว เลยถามกลับ “แกบอกว่าเพื่อนเขามีรถเฟอร์รารี่ที่หรูหรากว่าฉันอีก? เธอคือใครกัน?”
“ไม่รู้ ฟังจากที่พวกเขาคุยกันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเหมือนว่าเป็นคุณหนูไฮโซของเมืองจีนหลิงคนหนึ่ง” ซุนเจี้ยนพูด
“จีนหลิง?” หยูหมิงกำลังเค้นหาเรื่องราวต่างๆ ในสมอง ทว่าเป็นคนในตระกูลไหนของเมืองจีนหลิงกันนะ
เวลานั้นเอง บอดี้การ์ดของหยูหมิงก็เข้ามาด้านในห้องพักคนไข้ แล้วพูดว่า “คุณชายหยู หาข่าวเรื่องประวัติสองคนนั้นได้มาบ้างแล้ว คนที่ขับรถเฟอร์รารี่มานั้นเป็นคุณเผิงเมิ่งของตระกูลเผิงของเมืองจีนหลิง ส่วนฉินหลั่งนั้น เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเจียงหนาน ได้ข่าวว่าเคยบริจาคให้มหาวิทยาลัยหนึ่งจุดห้าล้านยูโร ทว่าเป็นลูกน้องของไอ้ขี้แพ้นั่นเป็นคนทำทุกอย่าง ส่วนที่ว่าเขาเอาเงินหนึ่งจุดห้าล้านยูโรมาจากไหนนั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้”
หยูหมิงพยายามใช้สมองครุ่นคิดพร้อมทั้งวิเคราะห์ไปด้วย พร้อมทั้งพูดเสียงแข็ง “ตระกูลเผิงก็แค่ตระกูลธรรมดาให้เมืองจีนหลิงเท่านั้น ความสัมพันธ์กับตระกูลหยูของพวกเรายังห่างไกลกันนั้น เผิงเมิ่งคนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจ ส่วนฉินหลั่งคนนั้น….”
ซุนเจี้ยนพูดเสริม “คุณชายหยู ไอ้ขี้แพ้นั่นมันเป็นอุปสรรคใหญ่เลยแหละ การที่มีมันอยู่ด้วย คนอื่นๆ ก็ยากที่จะจีบหลงเย้นติด”
หยูหมิงครุ่นคิดอยู่สองนาทีได้ แล้วตอบว่า “ถึงขนาดที่หลงเย้นจีบยาก งั้นก็ไม่ต้องจีบหลงเย้นแล้ว”
ซุนเจี้ยนตกใจเล็กน้อย “คุณชายหยู ไม่ใช่ว่าคุณอยากจะเล่นสนุกๆ กับหลงเย้นไม่ใช่เหรอ?”
หยูหมิงพลันคิดถึงเรื่องในวันนั้นที่ตนเองประกาศยกเลิกการแต่งงานกับหลงเย้นออกไป หลงเย้นยิ้มให้อย่างหน้าบาน ทว่าในใจของเขาเจ็บจี๊ด
หยูหมิงยิ้มให้อย่างเย็นชา “เธอหุ่นเซ็กซี่สลาตันซะขนาดนี้ ฉันจะปล่อยเธอไปง่ายๆ ได้ยังไง! แผน A ไม่สำเร็จ งั้นก็ต้องใช้แผน B ฉันจะจัดการให้คนไปจับตัวหลงเย้นมา เอาไปขังไว้ที่โรงแรม วางยาสลบเธอ จากนั้นฉันก็ไปที่ห้องของเธอตอนที่เธอไม่ได้สติ คืนนี้ ฉันจะให้เธอเปรมปริ่มความสุขภายใต้เรือนร่างของฉันไปทั้งคืน! พอพรุ่งนี้เธอตื่นขึ้นว่า ก็จะเจอเตียงว่างเปล่า กับเลือดสีแดงที่เปรอะเปื้อนอยู่บนเตียงเท่านั้น”
ซุนเจี้ยนยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมทั้งยกนิ้วให้หยูหมิง แล้วพูดว่า “หยูหมิงโคตรสุดยอด! ไม่เสียงแรงที่เป็นไฮโซอันดับหนึ่งของเมืองหลินอาน!” แต่ก็เอ่ยปากถามด้วยความสงสัยต่อ “เรื่องนี้ทำง่ายก็ว่าง่าย แต่หลังจากนั้นแล้วจะทำยังไงดี? ทางตระกูลหลงคงมีการตรวจสองเรื่องนี้อย่างเข้มงวด ถ้ามาตรวจสอบแล้วเจอว่าแกเป็นคนทำ ทางตระกูลหลงคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ อีกอย่างสัญญาการแต่งงานระหว่างแกกับคุณหลงหลิงก็คงถูกยกเลิกไปด้วย”
หยูหมิงหัวเราะร่า “แกฉลาดจริงๆ เวลาแกก็เห็นความสำคัญของแกตอนนี้ได้แล้ว”
“ฉันเหรอ?” ซุนเจี้ยนถามอย่างสงสัย
“แน่นอน วันนี้แกก็แสดงความจริงใจว่าต้องการที่จะจีบหลงเย้นแล้วนี้ แถมยังโดนเธอทำให้เสียหน้าต่อสาธารณชนอีก ด้วยความโกรธ ก็เลยไปหาพวกนักเลงมาลักพาตัวหลงเย้น จากนั้นก็จัดการวางยาให้เธอกินที่โรงแรม เรื่องความสัมพันธ์ที่รุนแรงแบบนั้นก็ผูกเป็นเรื่องราวได้แล้วนี่?” หยูหมิงพูดไปหัวเราะไป
ซุนเจี้ยนตกใจ ตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจว่าหยูหมิงเตรียมการโยนความผิดทั้งหมดให้ตนเองแล้ว เขารีบโบกมือปฏิเสธทันควัน “คุณชายหยู เรื่องนี้….มันเหมือนโยนความผิดให้คนอื่นเลย”
หยูหมิงจ้องตาซุนเจี้ยนตาเขม็ง พร้อมทั้งพูดเสียงแข็ง “เรื่องนี้คงมีแต่คุณชายซุนเท่านั้นที่เหมาะสมที่สุด แกวางใจได้เลย ถึงแม้ว่าครั้งนี้แกจะรับผิดแทนฉัน แต่ฉันกล้ารับประกันเลยว่าจะไม่ให้แกโดนขังในคุกนานแน่ ฉันจะหาวิธีอื่นในการตอบแทนแกเอง แกพูดมาตรงๆ เลย ว่าความผิดนี้แกจะออกหน้ารับแทนฉันไหม?”
ซุนเจี้ยนเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์อยู่ในเรือโจร ในใจคิดว่า “ความผิดแบบนี้คนโง่ๆ เท่านั้นแหละที่จะยอมออกมารับแทน ขอแค่ฉันไม่ยอมช่วยไอ้เวรหยูหมิงนี่รับผิดแทน มันก็คงทำเรื่องบางอย่างกับที่บ้านฉันแน่ ในเมืองหลินอานนั้นตระกูลหยูถือว่าเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งมา ถ้าเขาจ้องจับผิดบ้านของฉันขึ้นมา งั้นมันก็ซวยแล้ว”
เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ซุนเจี้ยนได้แต่หน้าชื่นอกตรม พูดออกมา “ฉันทำตามที่คุณชายหยูพูด ความผิดนี้ฉันออกหน้ารับเอง หวังว่าคุณชายหยูจะจดจำความเสียสละของฉันเอาไว้ด้วย ดูแลธุรกิจครอบครัวของฉันให้ดีด้วย”
หยูหมิ่งตอบทันควัน “พูดได้ดี พูดได้ดี” จากนั้นก็หันไปทางเปาถุงแล้วถามกลับ “รู้หรือยังว่าตอนนี้ฉินหลั่งกับหลงเย้นอยู่ที่ไหน?”
เปาถุงตอบ “ตอนนี้พวกเขากำลังเที่ยวอยู่ที่เมืองถังชีของหลินอาน ที่นั่นมีทั้งโรงแรมและอำนาจของเราอยู่เต็มไปหมด”
แววตาหยูหมิงแข็งกร้าวพร้อมทั้งพูดออกมา “ดี แจ้งไปที่เฝิงหรุงที่เขตหยูหาง ให้เขาเป็นคนจัดการเรื่องนี้ รอจนเวลาที่เขาเอาตัวหลงเย้นมาที่โรงแรมแล้ว แจ้งฉันกลับมาทันที!”
“ครับ!” เปาถุงรับคำสั่ง เมื่อพูดเสร็จ ก็รีบออกไปจากห้องทันที
ฉินหลั่งกับหลงเย้นไปเที่ยวที่เมืองถังชีได้สองชั่วโมงแล้ว ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อยๆ
“พวกเราไปกินข้าวกันเถอะ กินข้าวเสร็จแล้ว ฉันจะส่งคุณกับบ้าน!” ฉินหลั่งพูดจบ
“ได้…” ในมือหลงเย้นกำลังถือตุ๊กตาดินเผา และพวกพวงกุญแจต่างๆ แถมยังรู้สึกยังไม่หมดพลังแบบนั้น แต่ว่าการที่ฉินหลั่งมาเที่ยวกับเธอนานขนาดนี้ เธอก็มีความสุขมากๆ แล้ว ทั้งสองคนเดินไปยังปากซอยถนนคนเดินเมืองถังชี ที่นั่นมีร้านอาหารที่มีชื่อเสียงทุกอย่างอยู่ตรงนั้น อีกทั้งร้านค้า ด้านหน้าประตูยังตกแต่งด้วยๆ ไฟเชิญชวนหลากหลายสีกะพริบสว่างไสว สวยงามสะดุดตาเป็นอย่างมาก
ฉินหลั่งกับหลงเย้นเดินเข้าไปในร้านอาหาร “หวังร่วนซิง” เป็นอาหารต้นตำรับที่มีชื่อเสียงและประวัติมายาวนาน
ในเวลานั้นตอนที่กำลังหาที่นั่งทานอาหาร คนในร้านมากมาย
ฉินหลั่งกับหลงเย้นได้โต๊ะที่นั่งตรงกลางร้านอาหาร และจัดการสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว
ฉินหลั่งเหลือบตามองตรงมุมห้องของร้านอาหารจุดที่อับที่สุด ตรงนั้นมีหญิงงามรูปร่างสง่างาม เห็นว่าเธอใส่เสื้อผ้าชุดโบราณสีขาวทั้งชุด บนใบหน้ายังคลุมผ้าสีขาวบางๆ อยู่ด้วย แต่ไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ผิวพรรณที่โผล่ออกมาจากเสื้อผ้านั้นเห็นได้ชัดว่าขาวโพลนดั่งหิมะ ด้านข้างมีคนเดินชนเสื้อผ้าของเธอ จนปลายแขนเสื้อปลิวไสว เหมือนเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์เช่นนั้น
หลงเย้นเองก็มองตามสายตาของฉินหลั่ง แล้วก็หันกลับมามองฉินหลั่งอีกครั้ง พร้อมทั้งพูดอย่างเสียงออดอ้อน “นี่นายมัวแต่จ้องคนสวยคนนั้นตาเขม็ง ทำแบบนี้ไม่มีมารยาทเลยนะ”
ฉินหลั่งหน้าแดง พร้อมทั้งพูดว่า “ฉันแค่ดูแวบเดียวเอง”
หลงเย้นได้แต่ยิ้มให้ พร้อมพูดว่า “สาวสวยคนนั้นไม่รู้แต่งคอสเพลย์ของตัวละครอะไรนะ สวยมากจริงๆ เลย!”
เมื่อพูดจบ สาวสวยในเสื้อสีขาวคนนั้นก็สั่งอาหารมาสองอย่าง หญิงใส่เสื้อผ้าสีขาวถึงได้ถอดผ้าคลุมที่ปิดหน้าออก ฉินหลั่งเห็นว่า เธอเป็นสาวสวยที่อายุประมาณสี่สิบกว่าแล้ว คิ้วช่างงดงามดั่งภาพวาด ดูเหมือนว่าโค้งได้รูปมาก มีเจ็ดเปอร์เซ็นต์ที่ใครๆ เขาพูดกันว่าเป็นหญิงงามของเมืองเจียงหนาน ยังมีอีกสามเปอร์เซ็นต์ที่ท่วงท่าสง่างามดั่งคนทางภาคเหนือ
ลูกค้าที่นั่งอยู่ด้านข้างๆ ต่างแอบเหล่ตามองเธออยู่หลายครั้ง มีลูกค้าท่านหนึ่งทำท่ากินข้าวแต่แอบมองเธออยู่เช่นกัน แถมยังเอาตะเกียบคีบไปบนที่เขี่ยบุหรี่กันอยู่หลายครั้ง แล้วเอาก้นบุหรี่ที่คีบได้มาเอาเข้าปาก พอเขารู้สึกว่ามันแปลกๆ เลยรีบ “ถุยทิ้ง” เอาก้นบุหรี่ออกมาจากปากทันที
ฉินหลั่งกับหลงเย้นเห็นเข้า ทั้งสองคนแอบหัวเราะทันที
ตอนที่อาหารของฉินหลั่งกับหลงเย้นมาถึงแล้ว ทั้งสองคนกำลังกินข้าวอยู่ ทั้งสองคนรู้สึกได้ว่ามีลูกค้ามากมายกำลังเดินออกไปทางด้านนอก ทั้งสองคนเลยรู้สึกประหลาดใจมาก
ฉินหลั่งมองไปทางด้านข้าง มีพนักงานหลายคนที่กำลังแยกย้ายไปที่โต๊ะแขกที่อยู่ด้านข้างๆ ฉินหลั่งมองไปที่โต๊ะด้านข้างอย่างจงใจ ก็เห็นว่าพนักงานพูดอะไรบางอย่างกับลูกค้า จากนั้นก็โค้งคำนับให้ พลันลูกค้าก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากร้านทันที
ฉินหลั่งแปลกใจหนักกว่าเก่า เห็นได้ชัดว่าพนักงานทำท่าเชิญลูกค้าออกจากร้านเอง พฤติกรรมเช่นนั้นมันช่างแปลกประหลาดจริงๆ
ฉินหลั่งได้แต่คิดว่า อีกเดี๋ยวก็จะมาถึงคิวพวกเขาแล้วแหละ? อีกสักพักพนักงานก็จะมาทางนี้ พอเอ่ยปากถามเขาก็รู้เรื่องแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องรีบร้อน กินข้าวกับหลงเย้นให้เสร็จเรียบร้อยก่อน
“เถ้าแก่! มาทางนี้!” ทันใดนั้นก็มีเสียงพนักงานส่งเสียงเรียก ฉินหลั่งเหล่ตามอง ก็เห็นพนักงานที่ยืนอยู่ด้านข้างของหญิงสาวที่ใส่ชุดขาว
ไม่นานนักเถ้าแก่ที่ใส่สูทอยู่ก็มาที่โต๊ะของหญิงสาวที่ใส่ชุดขาว ฉินหลั่งคิดว่าน่าจะเป็นเพราะว่าหญิงสาวที่ใส่ชุดขาวคนนั้นไม่ยอมออกไปแน่
“เราไปดูกันเถอะ!” ฉินหลั่งพูดกับหลงเย้น ทั้งสองคนเดินไปที่โต๊ะที่หญิงสาวที่ใส่ชุดสีขาวนั่งอยู่ ทั้งเถ้าแก่และบรรดาพนักงานต่างมุ่งสายตาและถกเถียงกันเรื่องหญิงสาวที่ใส่ชุดขาว เลยไม่ทันสังเกตเห็นฉินหลั่งยืนอยู่ด้านหลังพวกเขา
“คุณครับ พวกเราไม่สามารถรับเงินของคุณไว้ได้ ตอนนี้กรุณาคุณออกไปจากร้านได้ไหม?” เถ้าแก่ที่ใส่ชุดสูทพูดไปด้วยพร้อมทั้งขมวดคิ้วไปด้วย
“ฉันแค่อยากกินข้าวเงียบๆ รบกวนพวกคุณให้เกียรติด้วย กินเสร็จแล้วฉันก็จะไปเอง” หญิงสาวที่ใส่ชุดสีขาวเอ่ยขึ้น
“ฉันพูดกับคุณตั้งหลายรอบแล้วทำไมคุณไม่ฟังล่ะ หรือว่าคิดว่าตัวเองสวยฉันเลยไม่กล้าลงมือ” เถ้าแก่ที่ใส่สูทอยู่ตะคอกใส่ด้วยความโมโห “เสี่ยวหลิว เสี่ยวเหลียง มานี่ จัดการไล่คนสวยคนนี้ไปให้ฉันหน่อย!”
“มาแล้วเถ้าแก่!” พนักงานที่อยู่ในร้านสองคนส่งเสียงรับ
ฉินหลั่งมองเถ้าแก่กับลูกน้องว่าทำไม่ถูกต้อง แถมยังจะลงมือกับคนสวยอีก ใครจะไปทนไหว เลยตะโกนเสียงดัง “เถ้าแก่คนนี้ คุณทำเกินไปหรือเปล่า”
เถ้าแก่หันกลับมามอง ตอนที่เห็นหน้าฉินหลั่งตอนนี้ ใบหน้าที่ตึงเครียดตั้งแต่แรก แสดงสีหน้าตกใจและกลัวเอามากๆ ออกมา พลันก้าวเท้าถอยหลังไปหนึ่งก้าว ถึงได้ตั้งสติได้ แล้วพูดว่า “เรื่องในร้านเราคุณไม่ต้องยุ่ง!”
จากนั้นก็พูดกับพนักงานสองคนที่เดินเข้ามา “พวกแกสองคนมัวทำอะไรอยู่ จัดการเอาคนสวยคนนี้ออกไปซะ!”
พนักงานทั้งสองคนแยกกันจับหัวไหล่ของสาวสวยชุดสีขาวเอาไว้ เพื่อต้องการลากเธอออกไป
“พวกแกทำอะไร?” ฉินหลั่งผลักพนักงานทั้งสองคนออก จากนั้นก็ยืนขวางกั้นหญิงงามชุดขาวเอาไว้ พร้อมกับพูดกับเถ้าแก่ที่ใส่สูทว่า “เถ้าแก่ท่านนี้ คุณทำธุรกิจเป็นหรือเปล่า? หรือว่าไม่รู้ว่าลูกค้าเป็นพระเจ้าเหรอไง? ฉันพูดความจริง กิจการร้านอาหารของคุณแบบนี้ ผ่านไปไม่กี่เดือน เจ๊งแน่นอน”
ฉินหลั่งด่าเถ้าแก่ที่ใส่สูทอย่างแสนเจ็บปวดไปหนึ่งรอบ พลันหันไปหาหญิงงามชุดขาว “คุณผู้หญิงท่านนี้ ร้านอาหารร้านนี้บริการได้แย่มาก เราไม่ต้องกินข้าวที่ร้านนี้แล้ว คุณออกไปข้างนอกกับพวกเราเถอะ?”
“ใช่ พี่สาว ไปกับพวกเราเถอะ ไปหาร้านอาหารสักร้าน เราไปกินข้าวด้วยกันสามคน” หลงเย้นจับมือสาวงามที่ใส่ชุดสีขาวเอาไว้พลันเอ่ยพูดด้วย
“ได้ พวกเราไปกันเถอะ” สาวงามชุดขาวยิ้มให้เล็กน้อย แล้วพูดตอบ ตอนที่กำลังเตรียมตัวออกไปจากร้านอาหารพร้อมกับพวกฉินหลั่งนั้น
เถ้าแก่ที่ใส่สูทก็จับหัวไหล่ฉินหลั่งเอาไว้ พร้อมทั้งทำหน้าเคร่งเครียด แล้วพูดเสียงเข้ม “เธอไปได้ แต่พวกแกทั้งสองคนต้องอยู่ที่นี่!”
“อะไรนะ? พวกแกมีสิทธิอะไร? ปล่อย!” ฉินหลั่งไม่เข้าใจ จากนั้นก็ผลักเถ้าแก่ออก ทว่าเถ้าแก่ที่ใส่สูทก็ยังคว้าเสื้อของฉินหลั่งกับหลงเย้นเอาไว้แน่น “พวกแกไปไม่ได้!”
ทันใดนั้น ก็มีผู้ชายวัยรุ่นที่ดุดันสิบกว่าคนเข้ามาในร้าน คนที่เป็นหัวหน้าคือคนหัวเกรียน เป็นผู้ชายที่ตรงคางมีเคราหนวดให้เขียว ชายหนุ่มที่กำยำมองมาที่พวกฉินหลั่ง จากนั้นก็ยิ้มให้ “ตอนนี้พวกแกอยากจะไปก็ไม่ไหนไม่ได้แล้ว”