รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 185 แม่และลูกพูดคุยกลางคืน
บทที่185 แม่และลูกพูดคุยกลางคืน
“เป็นไปไม่ได้ เขาจะเป็น…..”หลี่ย่าวเวยพูด แล้วมองไปที่โข่งลิ่งเสียนอย่างตื่นตระหนก เห็นแต่เพียงโข่งลิ่งเสียนเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองมาที่เขา เขาอดไม่ได้ที่จะสั่นไปทั้งตัว สมองก็ “เวิง”ดังขึ้นมา บุคลิกลักษณะนี้ไม่ใช่ว่าจะเสแสร้งออกได้อย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น เจ้านายตู้มีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกตัวเอง
เขาแน่ใจได้ทันทีว่า คนคนนี้ก็คือโข่งลิ่งเสียน!
“คุณโข่ง ขอโทษด้วยครับ! ทำให้คุณไม่พอใจ….”หลี่ย่าวเวยคุกเข่าลงด้วยความตกใจ
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นตัวจริงของโข่งลิ่งเสียน แต่ว่าเรื่องราวที่เคยทำมาของโข่งลิ่งเสียนเขาก็เคยได้ยินมามากมาย คนใหญ่คนโตของภาคหัวดงท่านนี้ที่โผล่หน้ามาอยู่แวบๆพริบตาเดียวก็หายตัวไป นอกจากนี้คนใหญ่คนโตเจอเขายังต้องนอบน้อม หมัดของเขาทำให้คนหวาดกลัว ได้ยินมาว่าตายมาสิบกว่าชีวิตในน้ำเงื้อมมือของเขา เมื่อกี้ตัวเองไม่มีมารยาทกับเขาขนาดนั้น ถ้าเกิดว่าโข่งลิ่งเสียนจะจัดการกับตัวเอง ผลที่จะตามมาอาจคาดไม่ถึง หลี่ย่าวเวยต้องรีบทำลายความโกรธของโข่งลิ่งเสียนอย่างรวดเร็ว คุกเข่าลงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เขาสามารถคิดออกมาได้
“หา….”คนอื่นๆได้แต่มองดูกันไปมา ประธานหลี่ไม่ใช่ว่าเคยเจอโข่งลิ่งเสียนเหรอ? จู่ๆทำไมคุกเข่าลงให้กับคนปลอมๆคนนี้ด้วยล่ะ? หรือว่าชายตรงหน้าจะเป็นโข่งลิ่งเสียนจริงๆเหรอ?
เมื่อนึกถึงเช่นนี้ ในใจของคนอื่นๆก็เต้นแรง ขาพวกเขาก็อ่อนลง “ว้าว”ขึ้นมาหนึ่งคำ หนึ่งร้อยคนในห้องวีไอพี ทั้งหมดคุกเข่าลง กลัวสุดขีด
“คุณโข่ง ขอโทษด้วย ผมมีตาหามีแววไม่ ทำให้คุณไม่พอใจอย่างใหญ่หลวง ฉันมันยิ่งกว่าหมูหมา…..”หลี่ย่าวเวยคุกเข่าลงกับพื้น จิตใจก็ว้าวุ่น
โข่งลิ่งเสียนเตะไปที่หัวของหลี่ย่าวเวยหนึ่งที หลี่ย่าวเวยร้องโอดโอย ล้มลงบนพื้น แล้วก็รีบลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วคุกเข่าต่อแล้วพูด: “เตะได้ดี เตะได้ดี ผมสมควรตาย ผมสมควรตาย….”
โข่งลิ่งเสียนตะคอกออกมา แล้วเดินกลับไปที่ข้างๆจ้าวหมิงหมิง: “คุณว่าจะจัดกับเขายังไงดีครับ?”
ตอนนี้อารมณ์ของจ้าวหมิงหมิงก็นิ่งสงบลงเช่นกัน เธอยืนขึ้นมา เดินไปที่หลี่ย่าวเวยทีละก้าว
หัวใจของหลี่ย่าวเวยก็เต้นแรงขึ้นมาก โข่งลิ่งเสียนยังให้ความเคารพให้กับสาวสวยวัยกลางคนนี้ ราวกับว่าเป็นลูกน้อง อย่างนั้นฐานะตัวตนของสาวสวยวัยกลางคนนี้เป็นใคร?
หลี่ย่าวเวยคุกเข่าลงกับพื้น เขามองไปที่รองเท้าส้นสูงที่เดินมาที่ตัวเอง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า “กึงๆ” ราวกับเสียงที่ต้องการเอาชีวิต ทำให้เขาหวาดกลัว
“เงยหน้าขึ้นมา!”เมื่อได้ยินเสียงสั่งการของจ้าวหมิงหมิง หัวใจของหลี่ย่าวเวยเกือบจะกระเด็นออกมาจากลำคอออกมา: “ครับ”หลี่ย่าวเวยตอบด้วยน้ำเสียงตกใจ ค่อยๆเงยหน้าขึ้น และตอนที่เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นบนใบหน้าของจ้าวหมิงหมิง หลี่ย่าวเวยยิ้มแหะแหะราวกับทาสยิ้มให้เจ้านาย
จ้าวหมิงหมิงจับผมของหลี่ย่าวเวย มองไปที่หน้าของเขา และตบที่หน้าห้าถึงหกครั้งอย่างไร้ปรานี ค่อยปล่อยหลี่ย่าวเวย หลี่ย่าวเวยรู้สึกว่าหน้าแสบร้อนเท่านั้น แก้วหูกำลังจะแตก เขารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเอง พองออกมาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นกระแสความร้อนก็ไหลออกมาจากรูจมูก หลี่ย่าวเวยเช็ดมัน และเลือดก็เปื้อนมือ
“คุณได้โปรดยกโทษให้ด้วย คุณได้โปรดยกโทษให้ด้วย…..”หลี่ย่าวเวยถูกตบจนกลายเป็นหัวหมู แต่ก็ไม่กล้าแสดงความไม่พอใจใดๆกับจ้าวหมิงหมิง เขาก็ยังยิ้มพูดดีด้วย ขอร้องให้จ้าวหมิงหมิงอภัยให้เขา
จิตใจของคนอื่นๆก็หวาดระแวงกังวลใจเหมือนกับหลี่ย่าวเวย พวกเขาก็พูดเบาๆ: “ให้อภัย” “ให้อภัย…..
“พวกคนโง่ แม้แต่ควรจะขอโทษใครก็ยังไม่รู้อีก ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกเลยสักคนใช่มั้ย?”จ้าวหมิงหมิงพูดอย่างเย็นชา เธอไม่ได้แค่จะข่มขู่พวกเขา ด้วยความสามารถของตระกูลฉิน ถ้าจะทำให้คนหนึ่งร้อยคนหายสาบสูญไปพร้อมกัน จัดการขึ้นแม้ว่าจะยากหน่อย แต่เพียงแค่ตระกูลฉินต้องการ ก็ไม่มีทางที่เป็นไปไม่ได้
หลี่ย่าวเวยเป็นคนแรกที่ตอบสนอง และเขาก็หันหน้าไปที่ฉินหลั่งทันที: “คุณชายฉิน ขอโทษด้วย ขอโทษ ผมเป็นคนโง่ เมื่อกี้ที่ผมด่าคุณอย่าถือสาเลย ผมด่าตัวเองทั้งนั้น ผมอยู่ต่อหน้าคุณก็ไม่ค่าอะไรเลย ขอให้คุณกรุณา โปรดยกโทษให้คนต่ำๆอย่างผมด้วย….”
“ใช่ พวกเราก็เป็นคนต่ำๆ”
“คุณชายฉินให้อภัยพวกเราด้วย”
“คุณชายฉิน ผมผิดไปแล้ว ใช่พวกเราตาต่ำดูถูกคน”
……
“น้องชาย นายว่าจะจัดการกับกลุ่มสุนัขพวกนี้ยังไงดี?”จ้าวหมิงหมิงมองไปที่ฉินหลั่งแล้วถาม
“พวกเขาก็ด่าตัวเองจนน่าสมเพชพอแล้ว เพียงหลังจากนี้อย่ามาหาเรื่องฉันอีก นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว”ฉินหลั่งกล่าว
คนกลุ่มนี้ก่อนหน้านั้นเพียงแค่ดูถูกเยาะเย้ยเขา พูดจาเสียดสีเขาไปไม่กี่คำ ตอนนี้พวกเขาเอาคำที่ด่าเขามาด่าตัวเองหนึ่งรอบ ที่สำคัญยังด่าว่าตัวเองอย่างโหดร้าย บวกกับคนที่ปลุกปั่นอย่างหลี่ย่าวเวยและเถียนซิงก็ถูกตบหน้าอย่างรุนแรง ฉินหลั่งรู้สึกว่าสิ่งที่พวกเขาติดค้างตัวเองนั้นได้คืนกลับมาพร้อมกับดอกเบี้ย ก็ไม่จำเป็นต้องถือสาพวกเขาต่อไป
“อย่างนั้นก็ได้!”จ้าวหมิงหมิงถอนหายใจ เจ็ดปีที่ไม่เจอกัน ลูกชายของตัวเองยังคงใจกว้างขนาดนี้ พวกเขาดูถูกต่อว่าให้ลูกชายตัวเอง ฉินหลั่งปล่อยผ่านพวกเขาไป แต่เธอผู้เป็นแม่คงไม่ปล่อยผ่านไปง่ายๆ จ้าวหมิงหมิงเหลือบมองไปที่จานอาหารบนโต๊ะในห้องวีไอพี ใจก็เกิดความคิด หันกลับไปพูดกับคนกลุ่มนั้น: “พวกแกยืมขึ้นมาให้หมด เอาอาหารวางลงบนพื้น!”
“รับทราบ….”หลี่ย่าวเวยตอบซ้ำๆ กลุ่มคนลุกขึ้นยืน และใช้เวลาสองนาที ในการวางจานทั้งหมดลงบนพื้นทีล่ะจาน ทุกคนก้มศีรษะด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าจ้าวหมิงหมิงกำลังจะทำอะไร
เพียงแค่ฟังคำพูดของจ้าวหมิงหมิง: “พวกแกมันก็มีนิสัยเหมือนกันถึงได้มาร่วมงานเลี้ยงหมู่บ้านด้วยกันได้ไม่ใช่เหรอ? พวกแกกินอาหารบนพื้นพวกนี้ให้หมดก็สามารถไปได้! แต่ว่าไม่สามารถใช้ตะเกียบกับช้อนได้
“หา….”มีหลายคนถอนหายใจเบาๆ และบางคนก็กระซิบพึมพำว่า: “ไม่ใช้ตะเกียบและช้อน จะกินยังไงล่ะ?”
จ้าวหมิงหมิงยิ้มอย่างมีชัยแล้วพูด: “ฉันไม่สนใจว่าพวกแกจะกินยังไง ไม่ว่าแกจะยกจานขึ้นมากินก็ดี ใช้มือจับขึ้นมาก็ดี หรือว่าก้มลงเลียก็ดี เพียงแค่กินอาหารทั้งหมดให้มันหมดไป พวกแกก็สามารถไปได้!”
“คุณเอาตะเกียบบนโต๊ะ และช้อนเก็บไปให้หมด ถ้าเกิดพวกเขากินไม่หมด ก็ห้ามใครปล่อยพวกเขาไปทั้งหมด”จ้าวหมิงหมิงบอกกับเจ้านายตู้
“ครับ”เจ้านายตู้ตอบอย่างเคารพ และให้คนเข้ามา เก็บตะเกียบช้อนบนโต๊ะไปทันที
“พวกเราไปกันเถอะ”เมื่อเห็นว่าทุกอย่างได้รับการจัดการเรียบร้อยแล้ว จ้าวหมิงหมิงจึงพูดกับฉินหลั่งและเสิ่นวั่นเชียน เจ้านายตู้ตามอยู่ด้านหลัง และทั้งสี่ก็เดินไปที่ประตู
ฉินหลั่งมองไปที่ฝู้โยวที่ยืนอยู่ในกลุ่มคน ด้วยท่าทางที่ขมวดคิ้ว ฉินหลั่งยิ้มบางๆ เดินไปที่กลุ่มคน ดึงฝู้โยวออกไป พูดกับจ้าวหมิงหมิงว่า: “ให้เด็กผู้หญิงคนนี้ออกไปเถอะ?”
“ได้ ฟังที่นายพูด”จ้าวหมิงหมิงคิดว่าฉินหลั่งสนใจฝู้โยว และมองไปที่ฝู้โยวตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็ไม่พอใจมากนัก แต่เนื่องจากฉินหลั่งพูดมาเช่นนี้ ยังไงเธอก็ไม่คัดค้าน
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณค่ะ….”ฝู้โยวพูดขอบคุณซ้ำๆกับจ้าวหมิงหมิง ในใจก็มีความสุขมากเหลือเกิน เธอแอบมองไปที่ฉินหลั่ง เห็นแค่ว่าเขากำลังยิ้มให้ตัวเอง จู่ๆฝู้โยวก็รู้สึกว่า ฉินหลั่งในตอนนี้หล่อมาก ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม
เมื่อคนอื่นเห็นว่าฝู้โยวได้รับการยกเว้นจากการลงโทษ ในใจก็เต็มไปด้วยความสำนึกผิด ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ตัวเองก็คงไม่หัวเราะเยาะฉินหลั่ง พูดกับเขาดีๆไม่กี่ประโยค ถ้าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ก็ไม่ต้องถูกสาวสวยวัยกลางคนคนนี้ลงโทษ
ฉินหลั่งพวกเขาเดินออกจากห้องวีไอพี จ้าวหมิงหมิงให้ฝู้โยวกลับไปแล้ว และให้เจ้านายตู้ดูแลกำกับพวกกลุ่มคนในห้องวีไอพี เธอกับฉินหลั่งและเสิ่นวั่นเชียนเดินไปที่ห้องวีไอพีv888
ทันทีที่เดินเข้าไปในห้องวีไอพี จ้าวหมิงหมิงก็กอดฉินหลั่งไว้แน่นๆ ฉินหลั่งก็กอดจ้าวหมิงหมิงเช่นกัน จ้าวหมิงหมิงก็เรียก “ลูกของแม่” ฉินหลั่งก็เรียก “แม่” น้ำตาในดวงตาของทั้งสองคนก็หลั่งไหลออกมา
พูดสองประโยคนี้อย่างซ้ำๆซากๆ ก็ไม่พบคำใดที่สามารถอธิบายความรู้สึกภายในได้ในตอนนี้
แม่ลูกที่เจ็ดปีไม่ได้พบกัน เมื่อได้พบกัน พบกันแล้วก็ยังไม่สามารถยอมรับกันได้ จนถึงตอนนี้ตอนที่ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย ถึงจะสามารถพูดความในใจได้ ทำให้คนหดหู่ใจ
โข่งลิ่งเสียนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองด้านข้าง และใช้มือเช็ดน้ำตาอย่างเบามือ
“เอาล่ะ หลั่งเอ๋อ เราสองคนแม่ลูกไม่ต้องร้องไห้แล้ว อย่าให้คุณโข่งมองดูแล้วหัวเราะเยาะได้”หลังจากนั้น จ้าวหมิงหมิงถึงค่อยปล่อยตัวฉินหลั่ง เช็ดน้ำตา ยิ้มแล้วพูดกับฉินหลั่ง
“คุณก็พูดเป็นเล่นได้ ผู้น้อยเห็นคุณกับคุณชายสองแม่ลูกได้พบกัน ก็ปลื้มใจมาก…..”โข่งลิ่งเสียนยิ้มจางๆ
“คุณโข่ง ไม่เจอกันนานเลยนะ”ฉินหลั่งทักทายกับโข่งลิ่งเสียน
“คุณชายใหญ่สบายดีนะ ก่อนหน้านั้นที่คุณโทรมาหาผู้น้อยแล้วไม่ได้รับ ความจริงเป็นเพราะตระกูลไม่อนุญาตให้ผู้น้อยรับสาย หวังว่าคุณชายคุณจะยกโทษให้นะครับ”เมื่อนึกถึงก่อนหน้านั้นที่ฉินหลั่งโทรเข้าโทรศัพท์ตัวเองหลายครั้ง และตัวเองก็ไม่ได้รับสาย โข่งลิ่งเสียนเจอท่าทางที่ “สิ้นเนื้อประดาตัว”ของฉินหลั่งตอนนี้ ในใจก็รู้สึกผิดมาก
“ไม่เป็นไร ถ้านายรับสายฉันยังจะต้องโทษนาย”ฉินหลั่งยิ้มบางๆแล้วพูด
จ้าวหมิงหมิงให้ฉินหลั่งและโข่งลิ่งเสียนนั่งลงกินข้าวด้วยกัน หลายวันมานี้ฉินหลั่งยังไม่ได้กินของอะไรดีๆเลย เผชิญหน้ากับอาหารที่อร่อยเต็มโต๊ะ นิ้วชี้ก็ขยับ ก็กินข้าวเปล่าหนึ่งถ้วยอย่างรวดเร็ว
“ช้าหน่อย ไม่มีใครแย่งกับลูกหรอก”เมื่อเห็นท่าทางทานข้าวของฉินหลั่ง จ้าวหมิงหมิงก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า
“หลั่งเอ๋อ ลูกฟังแม่นะ เลิกตามหาจงยู่เถอะ?”จ้าวหมิงหมิงพูด เพียงแค่ฉินหลั่งเลิกตามหาจงอยู่ เขาก็สามารถฟื้นตัวคืนกลับมาในฐานะของตระกูลฉิน ก็ไม่ต้องทนลำบากอีกต่อไป
ฉินหลั่งส่ายหัวช้าๆและพูดว่า: “ไม่ ผมหาเธอเจอแล้ว เพียงว่าเธอไม่ยอมรับผม ผมอยากอยู่กับเธอ แม่ครับ ถ้าไม่มีเธอผมก็อยู่ต่อไปไม่ได้”
เมื่อได้ยินว่าฉินหลั่งหาจงยู่เจอแล้ว โข่งลิ่งเสียนก็ตกใจ ตั้งแต่ที่ตระกูลสั่งให้เขาหยุดตามหาจงยู่ เขาก็ไม่ได้ดำเนินการทำอะไรต่อ คิดไม่ถึงว่าคุณชายจะใช้ความสามารถ หาคุณจงอยู่จนเจอ ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะต้องรายงานให้กับตระกูลแล้วล่ะ
“เด็กโง่ แม่ได้ยินมาว่าหล่อนเป็นแค่เพียงเด็กผู้หญิงจากหมู่บ้านบนดอยเอง ลูกก็น่าจะรู้ ครอบครัวของเราจะยอมรับคนจากครอบครัวแบบนี้ ได้ยากกว่าการปีนขึ้นบนฟ้าซักอีก ลูกไม่อยากสืบทอด….”จ้าวหมิงหมิงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง เดิมทีเธออยากจะพูดว่า “ลูกไม่อยากสืบทอดกิจการเหรอ?”
เมื่อตระหนักว่าโข่งลิ่งเสียนอยู่ด้วย ก็เลยปิดปากไป เพียงแค่มองไปที่ฉินหลั่งทั้งลังเลทั้งกังวล
ฉินหลั่งสามารถยอมรับการฝึกทดสอบความยากจนมาได้เจ็ดปี สุดท้ายก็เพื่อแย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล แต่ตอนนี้ฉินหลั่งเอาแต่แสวงหาหญิงสาวที่ชื่อว่า“จงยู่”อย่างไม่สนใจอะไร นี่เท่ากับว่าตัวเองสร้างอุปสรรคให้กับตัวเอง? มันอาจหมดสิทธิ์ในการเป็นผู้นำของตระกูล
“แม่ครับ แม่ก็มาจากครอบครัวคนธรรมดาไม่ใช่เหรอ? ก็เข้าตระกูลฉินได้ แม่สบายใจได้ จงยู่ผมก็จะเอา ของที่เป็นของผมผมก็จะพยายามให้ได้มันมา! ตอนเด็กๆแม่ก็บอกกับผมตลอดว่า ถ้าพบเจอกับของที่ชอบก็ต้องใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อให้ได้มันมาไม่ใช่เหรอครับ? จงยู่ก็คือคนที่ผมชอบ แม่ไม่ได้โกหกผมใช่มั้ยครับ?”ฉินหลั่งกล่าวด้วยรอยยิ้มบางๆ
“เด็กไร้เดียงสา!”จ้าวหมิงหมิงด่าแล้วยิ้ม เมื่อเห็นท่าทางของลูกชายที่ไม่ต้องการอะไร ในใจของข้าวหมิงก็รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย จ้องมองไปที่ฉินหลั่งไม่กี่วินาที ถอนหายใจเบาๆ และหันไปมองที่โข่งลิ่งเสียน: “คุณโข่ง คุณก็เห็นว่าฉินหลั่งเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ฉันรู้ว่าก่อนหน้านั้นอยู่ที่เกาะป่ายฮัว หลั่งเอ๋อก็เคยช่วยคุณ คุณจะไม่พิจารณาสิ่งที่ฉันบอกกับคุณจริงๆเหรอ?”
ก่อนหน้านี้จ้าวหมิงหมิงอยากให้โข่งลิ่งเสียนแอบช่วยเหลือฉินหลั่งอย่างลับๆ แบบนี้ตัวเองก็สบายใจขึ้นมาหน่อย แต่โข่งลิ่งเสียนก็เป็นเหมือนเหล็ก ยังไงก็ไม่ยอมรับปาก เธอมองออก ว่าโข่งลิ่งเสียนกังวลสถานการณ์ของฉินหลั่งเป็นพิเศษ ดังนั้นจึง “ใช้ความรู้สึกมากระตุ้นใจ”
“นี่…”โข่งลิ่งเสียนรู้สึกละอาย ต่อให้จ้าวหมิงหมิงไม่ขอร้องเขา แต่เมื่อเห็นคุณชายเป็นแบบนี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด แต่คำสั่งของตระกูลคือตาย ในฐานะผู้รับผิดชอบภาคหัวดง เขาก็ไม่สามารถท้าทายได้
“แม่ครับ แม่ก็ไม่ต้องไปทำให้คุณโข่งลำบากใจ ตอนนี้ชีวิตของผมก็ค่อนข้างดีมาก แม่สบายใจได้ ผมจะรีบหลุดพ้นจากความยากลำบากนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้แม่มีลูกสะใภ้เร็วที่สุด”ฉินหลั่งกล่าวด้วยรอยยิ้ม ความหมายก็คือ เขาจะทำให้ตระกูลฉินยอมรับจงยู่ หลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น