รวยชั่วข้ามคืน?! - ตอนที่ 129 เตรียมจะเชิญเราไปทานข้าวที่ไหน
บทที่ 129 เตรียมจะเชิญเราไปทานข้าวที่ไหน
น้องสาวเหรินห้าวจะมาแล้ว?
ฉินหลั่งรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก พวกเขารู้กันทั้งหอพัก ว่าเหรินห้าวมีน้องสาวที่เชื่อฟัง กำลังเรียนชั้นมัธยมปลาย ที่เหรินห้าวเป็นคนประหยัดอดออมในมหาวิทยาลัย ก็เพื่อประหยัดเงินของครอบครัว เพื่อให้น้องสาวได้เรียนดีๆ
ทุกครั้งที่เขาโทรศัพท์กลับบ้าน จะพูดแต่สิ่งดีๆไม่พูดถึงปัญหาอะไรเลย แม้จะกินแค่บะหมี่ก็จะบอกว่าตัวเองกินดีอยู่ดี เพื่อให้คนในครอบครัวไม่ต้องเป็นห่วงเขา ทุกครั้งที่เพื่อนร่วมหอพักเห็น ก็จะรู้สึกตื้นตันใจและสะเทือนใจมาก
น้องสาวเหรินห้าวจะมาแล้ว ฉินหลั่งต้องไปฉลอง เชิดหน้าชูตาให้เขาซะหน่อยแล้ว จะให้เขาเสียหน้าต่อหน้าน้องสาวเขาได้ไง
เพียงไม่นานฉินหลั่งก็กลับมาถึงหอพักแล้ว หวงเกอไปฝึกงานที่คณะพลศึกษา ในกลุ่มหอพัก เขาก็หยอกล้อเหรินห้าวหลายคำ
ยินถิงนั่งข้างเหรินห้าว เหรินห้าวในวันนี้ทำให้ฉินหลั่งได้รู้ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ปกติแล้ว เหรินห้าวที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการแต่งตัว พอตัดทรงผมสกินเฮดสไตล์Buzz แล้ว แต่งตัวแล้วดูหล่อมาก ท่อนบนเป็นเสื้อสีขาวคอจีนแขนสั้น ส่วนล่างเป็นกางเกงขาสั้นทรงสลิมฟิต และที่เท้าเป็นรองเท้าคู่สีขาว ยังไงก็ดูหล่อเหลากว่าเมื่อก่อนเยอะมาก
เขายังมีท่าทีเขินอายเล็กน้อย
“ฉินหลั่ง คุณไม่รู้ ไอ้หนุ่มนี่ยังกะว่าจะปิดบังเราอีก”ยินถิงตบไหล่เหรินห้าว “ สองวันนี้ เราพบว่าไอ้หนุ่มนี่ทั้งซื้อสินค้าแบรนด์ดัง และให้ความสนใจกับการแต่งตัวด้วย แล้วนอนเล่นโทรศัพท์บนเตียงทุกวัน และไม่ให้ผมกับหวงเกอเห็นด้วย”
“วันนี้ฟ้ายังไม่สว่างก็ตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันแต่งหน้าแล้ว ยังใส่แบรนด์ดังที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ หวงเกอและผมรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แล้วจับไอ้หนุ่มนี่มาถาม ภายใต้การ‘บีบบังคับ’ของพวกเราที่บอกให้เขาพูดออกมา ในที่สุดไอ้หนุ่มนี่ก็ได้บอกมาตามตรงซะที ”
“ปรากฏว่าน้องสาวของไอ้หนุ่มนี่มาที่จีนหลิงเพื่อเข้าร่วมการแข่งทักษะวิชาการ เลยแวะมาหาพี่เขา พวกเราเคยเห็นรูปถ่ายน้องสาวของเขาแล้ว ถือว่าสวยมากเลยทีเดียว ดูไอ้หนุ่มนี่สิ เพื่อไปเจอน้องสาวของตัวเอง กำลังจะแต่งให้ตนเองกลายเป็นDaniel Wuอยู่แล้วเนี่ย ”
ยินถิงตบเหรินห้าวที่ด้านหลังของศีรษะ
“นี่ เหรินห้าว ไม่บอกเรื่องดีๆแบบนี้กับพวกเรา นายยังเห็นเราเป็นเพื่อนไหมเนี่ยไหม ”ฉินหลั่งพูดและขยับมานั่งข้างๆเหรินห้าว จับเสื้อผ้าของเขา “เสื้อแขนสั้นของViktor กางเกงขาสั้นของ Brloote รองเท้าของ PUMA วัสดุล้วนดีไปหมด ว่าแต่ คุณใช้จ่ายไปเท่าไหร่?"
ฉินหลั่งปล่อยเสื้อผ้าของเหรินห้าวออก เหรินห้าวเอามือจับดูเสื้อจุดที่ฉินหลั่งเพิ่งจับเมื่อกี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสวมเสื้อผ้าราคาแพงขนาดนี้ เลยมีการดูแลเป็นพิเศษ ก่อนที่จะเจอน้องสาว เขาไม่อยากให้เสื้อผ้ามีรอยยับแม้แต่นิดเดียว
เหรินห้าวมองไปที่ฉินหลั่งและยินถิงอย่างเชื่องช้าและยิ้ม
“เสื้อแขนสั้น585หยวน กางเกงขาสั้น615หยวน รองเท้า688หยวน ”เหรินห้าวเห็นฉินหลั่งกับยินถิงชักอยากจะกินเขาเข้าไปทั้งตัวเลย รีบอธิบายว่า “ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เงินของผม ผมไม่มีเงินเยอะขนาดนี้หรอก? เป็นเงินในฮวาเปย(เป็นบริการของ alipay ที่ผู้ใช้บริการสามารถยืมเงินออกมาใช้ได้ก่อน)ทั้งนั้น”
“ไอ้หนุ่มนี่คุณแค่อยากใช้ชีวิตหรูๆทีเดียว แต่เดือนหน้าก็จะต้องกัดก้อนเกลือกินใช่ไหม? ไม่ใช่นัดพบแฟนสาวซะหน่อย จำเป็นหรอ?”ฉินหลั่งพูดกับเหรินห้าวไปคำนึง จากที่เขาดูมา เหรินห้าวใช้เงินไปกับเสื้อผ้ามากขนาดนี้ เป็นการกระทำที่น้ำเข้าสมองมากกว่า
“โถ่เอ๊ย พวกคุณไม่รู้ พวกคุณคิดว่าผมอยากเป็นแบบนี้หรอ นี่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วไงล่ะ?” เหรินห้าวกล่าวอย่างอับอายว่า “แต่ก่อนผมบอกครอบครัวไว้ว่า ผมมาเรียนและทำงานพาร์ทไทม์ที่เมืองจีนหลิง รายได้6000หยวนต่อเดือน อยู่เมืองจีนหลิงสบายดี บอกพวกเขาไม่ต้องเป็นห่วงผม ครั้งนี้น้องสาวผมจะมา ถ้าเห็นผมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เธอต้องผิดหวังในตัวผมแน่ พอเอากลับไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของผมต้องน้ำตาร่วงอีกกี่ครั้ง”
ฉินหลั่งพวกเขาเริ่มเข้าใจในความยากลำบากของเหรินห้าวแล้ว ฉินหลั่งกล่าวอย่างให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไร พวกเราแค่ล้อเล่นกับคุณเอง ต่อไปทำงานหาเงินก็จะดีขึ้นแล้ว นายใช้เงินไปจำนวนมากขนาดนั้น ยังมีเงินอีกติดตัวไหมเนี่ย? ใช้เงินไปมากขนาดนี้แล้ว ขืนให้น้องสาวดูออกว่า ความจริงแล้วคุณแค่ไอ้ยาจก นั่นก็สูญเสียมากไปแล้ว”
“ในตัวยังเหลืออยู่ 2,000 หยวน ผมยืมมันมาจากเพื่อนร่วมหมูบ้านสองสามคน น่าจะพอละ ถ้ายังไม่พอ ก็ต้องเบิกเงินจากบัตรเครดิตเพิ่มแล้ว ”เหรินห้าวกล่าวอย่างไม่มั่นใจ
ฉินหลั่งถอนหายใจอย่างลับๆ แต่เขาก็ไม่พูดอะไร ถึงเวลาไม่พอขึ้นมา ตนค่อยก็แทนจ่ายก็ได้แล้ว
คุยกันสักพักในหอพัก เหรินห้าวพวกเขาก็ไปรับน้องสาวที่สนามบินจีนหลิง
ในเวลานี้ สองสาวงามออกมาจากสถานีขนส่งจีนหลิง คนที่มัดผมหางม้าคือน้องสาวของเหรินห้าว ชื่อเหรินซิน อีกคนที่ปล่อยผมตรงลงไหล่คือหวางเหยาเพื่อนสนิทของเธอ เธอและเหรินซินมาจีนหลิงเพื่อเข้าร่วมการแข่งทักษะวิชาการ ได้ยินว่าเหรินซินบอกว่าอยากเจอพี่ชายของเธอ หวางเหยาเลยมาที่นี่ด้วยกัน
“ซินซิน พี่ชายของคุณเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆเหรอ เป็นคนมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยจีนหลิงจริงๆเหรอ?” หวางเหยาควงแขนเหรินซินแล้วถาม
“แน่นอนอยู่แล้ว ทุกครั้งที่พี่ชายของฉันโทรหาฉัน ก็จะเล่าให้ฟังว่าเขาอยู่ในมหาวิทยาลัยจีนหลิง ได้รับทุนการศึกษาทุกครั้ง เขายังใช้เวลาว่าง ทำงานพาร์ทไทม์ด้วย ทำเพียง 2 หรือ 3 ชั่วโมงต่อวัน ได้5 ถึง 6000 หยวนต่อเดือนแน่ะ ที่มหาวิทยาลัยจีนหลิง พี่ชายของฉันถือว่าเป็นคนมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยคนนึงเลยแหละ"เหรินซินกล่าวอย่างภาคภูมิใจ
“อืม ฉันก็รู้สึกว่า พี่ชายของคุณต้องเยี่ยมมากแน่ๆ! ” หวางเหยายิ้ม แล้วเข้าใกล้เหรินซิน พูดเบาๆว่า “พี่ชายคุณยังไม่มีแฟนเลยใช่ไหม?”
เหรินซินเข้าใจสิ่งที่หวางเหยาพูด เธอใช้มือแตะจมูกของหวางเหยา แล้วยิ้ม “คุณนี่ คิดอะไรเนี่ย ฉันยังเขินแทนคุณเลย …ฮิฮิ”
เหรินซินกล่าวแบบนี้ ใบหน้าของหวางเหยาแดงระเรื่อเหมือนแอปเปิล
“ทำไมพี่ชายคุณยังไม่มาอีก?”รอมา20 กว่านาทีแล้วที่หน้าสถานีขนส่ง หวางเหยารู้สึกร้อนใจแล้ว
“คุณอย่าใจร้อนสิ พี่ชายของฉันบอกบนวีแชตแล้ว ตอนนี้เขากำลังรีบมาที่นี่ เดี๋ยวก็มาถึงแล้ว”เหรินซินมองไปรอบ ๆ และกล่าว
“คนสวย พวกคุณรอผมใช่ไหม?” ในเวลานี้ ชายสองคนสวมเสื้อกล้ามลาย พวกเขาเดินไปที่ด้านข้างของเหรินซินพวกเธอทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มแบบมีเลศนัย สองคนนี้คนนึงย้อมสีผมเป็นสีทอง อีกคนมีรอยสักมังกรอยู่ที่แขน ท่าทีดูมีไม่มีความเรียบร้อยไม่น่าไว้ใจเลย
“หวางเหยา เราไปกันเถอะ ”เหรินซินกระซิบกับหวางเหยา ดึงเธอและเตรียมจะหลีกไป นอกสนามบินควรอยู่ห่างจากผู้คนที่ไม่มีไรทำแบบนี้จะดีกว่า
“อย่าเพิ่งไปสิ”
ทั้งสองคนรีบขวางทางที่เหรินซินพวกเธอกำลังไป พวกเขามองลงไปที่สองสาวน้อยที่บอบบางทั้งสอง แสงแห่งความชั่วร้ายปรากฏขึ้นในดวงตา “นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาเมืองจีนหลิงใช่ไหม? ไป พี่พาไปเดินเล่นรอบๆ……”
พูดจบ ทั้งสองก็เอื้อมมือไปดึงมือของเหรินซินพวกเธอ
“อย่านะ พวกคุณจะทำอะไร?”เหรินซินและหวางเหยารู้สึกกลัวมาก พวกเธอตบตีมือที่พวกเขาเอื้อมมา และถอยหลังทีละก้าว
“อุ๊ย พวกคุณกล้าตบคน ผมก็จะตบพวกคุณ……”ชายทั้งสองกล่าวอย่างไร้ยางอาย คนหนึ่งจับมือทั้งคู่ของหญิงสาว แล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนของตัวเอง
“อย่านะ…ช่วยด้วย…”เหรินซินและหวางเหยาตะโกนด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
“ปล่อย!”
“นี่ นี่จะทำไร!”
……
ในเวลานี้ เหรินห้าวฉินหลั่งพวกเขาก็มาถึงเช่นกัน เห็นสถานการณ์นี้ ตกใจมาก พวกเขาไม่สนใจว่าชายสองคนนั้นเป็นใคร ทั้งสามคนรีบพุ่งไป
ฉินหลั่งใช้เท้าถีบเขาจนตัวกระเด็น ยินถิงและเหรินห้าวทุบศีรษะของชายอีกคน ต่อยพวกเขาจนล้มลงกับพื้น
“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ”เหรินห้าวถามเหรินซินทันที เมื่อเหรินซินเห็นพยักหน้า เหรินห้าวมองไปที่ชายทั้งสองอีกครั้ง ฉินหลั่ง ยินถิง จัดการพวกเขากับผม”
เมื่อเห็นเหรินห้าวพวกเขาเข้ามาอย่างดุเดือดอีกครั้ง ทั้งสองคนไม่รู้ว่าเหรินห้าวคือใคร กลัวโดนทุบต่อยอีก เลยวิ่งหนีทันที
“ไม่ได้ทำให้พวกคุณตกใจใช่ไหม ผิดที่พี่เอง ถ้ามาเช้ากว่านี้ก็ไม่เกิดเรื่องอะไรแล้ว”เหรินห้าวเดินไปที่ด้านข้างของเหรินซิน กล่าวอย่างรู้สึกผิด
“พี่ นี่พี่พูดอะไรเนี่ย! พวกเราไม่โทษพี่เลย เมื่อกี้พี่เก่งมาก ที่ต่อยไอ้สารเลวพวกนั้นจนหนี ” เหรินซินจับมือเหรินห้าวแล้วพูด
มองไปที่เสื้อผ้าของเหรินห้าว เป็นเสื้อผ้าแบรนด์ดังทั้งหมด ใส่แพงกว่าที่เธอใส่อีก ความภาคภูมิใจของเหรินซินเพิ่มขึ้น เธอมองไปที่ฉินหลั่งและยินถิงอีกครั้ง “พี่ นี่คือ…”
เมื่อกี้ตอนฉินหลั่งพวกเขาวิ่งไปท่าทีหล่อมาก เหมือนฉากในหนังที่ฮีโร่ไปช่วยสาวงามเลย เหรินซินและหวางเหยามีความประทับใจที่ดีต่อฉินหลั่งและยินถิงมาก
“ออ พวกเขาเป็นเพื่อนร่วมห้องพักของพี่ คนนี้คือฉินหลั่ง และคนนี้คือยินถิง……”เหรินห้าวแนะนำให้เหรินซิน
“พี่ฉิน พี่ยิน สวัสดี เมื่อกี้ขอบคุณพวกพี่มาก พวกคุณกับพี่ชายฉันหล่อมาก ”เหรินซินหัวเราะ พูดจบ เธอก็แนะนำตัวเองและหวางเหยาให้ฉินหลั่งและยินถิงรู้จัก
หวางเหยามองไปที่เหรินห้าวอีกครั้ง แล้วยิ้ม “พี่เหริน เมื่อกี้ซินซินบอกกับฉันแล้วว่า คุณอยู่ดีกินดีที่มหาวิทยาลัยจีนหลิง ดูชุดแบรนด์เนมที่คุณใส่ คงต้องหาเงินได้เยอะแล้วแน่ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกับซินซินมาจีนหลิง ฉะนั้นคุณต้องพาเราไปเที่ยวจีนหลิงให้สนุกนะ”
“ไม่หรอกๆ ฮ่าฮ่า แค่อยู่ดีกว่านักเรียนทั่วไปเพียงเล็กน้อย……”เหรินห้าวเกาหัวอย่างเขินอาย มีร่องรอยของความลำบากบางอย่างในใจ ฉินหลั่งและยินถิงแอบยิ้ม
“พี่เหรินก็ถ่อมตัวเกินไป แล้วเราจะไปไหนต่อจากนี้?” หวางเหยายิ้ม เธอรอคอยที่จะสนุกกับเหรินห้าวในเมืองจีนหลิง เหรินห้าวมีเงิน ยังไงก็คงจะไม่ให้เธอออกเงินแน่นอน
“ออ ผมจะพาพวกคุณไปดูที่หยู่ฮัวไท๋ ทำเนียบประธานาธิบดี นั่นคือสถานที่ที่คนมาเมืองจีนหลิงพลาดไม่ได้ และยังสามารถให้พวกคุณได้เจออะไรใหม่ๆด้วย ”เหรินห้าวกล่าว
เพื่อดูแลเหรินซินให้ดีในครั้งนี้ เหรินห้าวทำการบ้านมาดีมาก
“งั้นดีเลย พี่ เราไปกันเถอะ”หลังพูด เหรินซินควงแขนเหรินห้าว ไปที่ถนนเพื่อโบกรถ แท็กซี่สองคันถูกโบกมาอย่างรวดเร็ว เหรินห้าว เหรินซิน หวางเหยานั่งคันเดียวกัน และฉินหลั่งกับยินถิงนั่งอีกคันนึง
“พี่ คุณทำงานพาร์ทไทม์อะไร ที่สามารถหาเงินได้มากขนาดนี้?”ในรถแท็กซี่ เหรินซินถาม ได้เจอกับพี่ชาย เธอรู้สึกใจดีและมีความสุขมาก
“ใช่แล้ว ทำวันละ 3 ชม เท่านั้น 6000 หยวนต่อเดือน หนึ่งชั่วโมงตกอยู่ที่ 70 หยวน โห 70 เลยรึ คนในอำเภอของเราต้องทำงานทั้งวันถึงจะได้ 70 หยวน พี่เหริน คุณรีบบอกกับพวกเราสิ!” หวางเหยามองเหรินห้าวอย่างมีคาดหวังเป็นพิเศษ
“เอ่อ…”เหรินห้าวสีหน้าลำบากใจ ใช้มือเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก คิดอย่างรวดเร็วในใจพร้อมกับกล่าวไปว่า “ผมเป็นวิชาเอกภูมิทัศน์ วาดรูป…ได้ ผมก็เลยไปที่หน้าโรงเรียน…สอนคนอื่นวาดรูป เมืองจีนหลิงเป็นเมืองที่ใหญ่ คนรวยไม่สนใจเรื่องเงินหรอก หนึ่งชั่วโมงแค่70 หยวนเองไม่สูงมากหรอก”
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง พี่ พี่นี่เก่งจริงๆเลย”เหรินซินยิ้ม
“ต่อไปฉันจะเรียนวิชาเอกภูมิทัศน์ด้วย ตอนฉันเรียนจบ พี่เหรินคงกลายเป็นเสาหลักของ บริษัท ใหญ่แล้ว ถึงเวลาพี่ต้องช่วยฉันด้วยล่ะ”ยิ่งหวางเหยาเห็นเหรินห้าวก็ยิ่งเพลินตา ในใจอยากสนิทกับเขามากจริงๆ
“เอ่อ…ถึงเวลาค่อยว่ากันดีกว่า………”เหรินห้าวมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ในใจซับซ้อนมาก เขาอดไม่ได้ที่จะจินตนาการ หากเหรินซินพวกเธอรู้ ที่พูดมาทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก พวกเธอต้องผิดหวังในตัวของตนมากเลย ถึงเวลา เหรินห้าวคงอายหน้าแตกจนต้องหาหลุมพรางตัวเพื่อหลบเข้าไปข้างในเลย
จากนั้น เหรินห้าวพวกเขาก็พาเหรินซิน หวางเหยาไปเดินเล่นที่หยู่ฮัวไท๋ ทำเนียบประธานาธิบดี พาพวกเธอชิมขนมท้องถิ่นในจีนหลิง และซื้อของที่ระลึกจากจุดชมวิวให้พวกเธอด้วย เล่นถึงบ่าย 5 โมง เหรินซินพวกเธอถึงเที่ยวพอใจแล้ว
เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ใช้เงินเหรินห้าวไปแล้ว8 ถึง 900 เขาเหลือเพียง 1,000 ต้น ๆ เท่านั้น
นึกถึงต้องชวนเหรินซินพวกเธอไปทานอาหารเย็น เช่าห้อง ในใจเหรินห้าวเริ่มไม่รู้ว่าจะเอาไงดีแล้ว
“ไป เล่นนานขนาดนี้แล้ว ท้องหิวจนแบนราบแล้ว!”หวางเหยาพัดสายลมและกล่าวว่า “พี่เหริน พี่จะชวนเราไปดินเนอร์ที่ไหนคะ พวกเราไปตอนนี้เลย”
“ครับ…” จิตใจของเหรินห้าวสับสนเล็กน้อย เมื่อกี้เขายังคงคิดอยู่ ว่าจะพาพวกเธอไปเดินดูรอบ ๆ มหาวิทยาลัยของตัวเองดีไหม จากนั้นก็รับประทานอาหารใน “Food moment”ของมหาวิทยาลัย ถ้าเป็นอย่างนั้น 1,000 หยวนนี้ก็จะสามารถอยู่รอดได้
แต่เมื่อหวางเหยาถามเขาอย่างคาดหวัง เหรินห้าวก็พูดไรไม่ออกเลย ได้แต่รู้สึกว่า “Food moment”ดูต่ำต้อยเกินไป
“พี่เหริน คุณเป็นไรไหม? คุณยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเชิญเราไปทานอาหารค่ำที่ไหนใช่ไหม? ไม่เป็นไร ค่อยๆคิด ซึ่งคุณอยู่เมืองจีนหลิง2ปีแล้วนิ ต้องรู้ว่าที่ไหนอร่อยอยู่แล้ว! ฉันกับเหรินซินเป็นคนบ้านนอก เดี๋ยวไปถึงที่ร้านอาหาร เราถ่ายรูปและโพสต์ลงโซเชียล พี่เหริน พี่ก็อย่าหัวเราะเราที่ไม่เคยเห็นอะไรใหม่ๆแบบนี้นะ”หวางเหยากล่าวอย่างแปลกๆ
“เหยาเหยาพี่ชายของฉันจะไม่หัวเราะเยาะเราหรอก เดี๋ยวฉันจะถ่ายรูปอาหารที่เราสั่ง และบรรยากาศบริเวณรอบๆร้าน เพื่อนๆในโรงเรียนของฉันจะต้องอิจฉาฉันแน่เลย แต่พวกเขาอิจฉาก็ไม่ได้อะไรเพราะพวกเขาไม่มีพี่ชายที่มีความสามารถขนาดนี้ "
ระหว่างการเล่นเมื่อกี้ เหรินห้าวมีพฤติกรรมที่ใจกว้างมาก เหรินซินและหวางเหยาก็เช่นเดียวกัน ในใจยิ่งมั่นใจมากขึ้น ว่าเหรินห้าวอยู่สบายที่จีนหลิง และหาเงินได้เยอะมาก
เมื่อเห็นใบหน้าที่ผ่อนคลายของน้องสาวและหวางเหยา บนใบหน้าของเหรินห้าวก็มีรอยยิ้ม ถ้าสังเกตดูดีๆก็ดูออกว่า ในรอยยิ้มของเขามีความขมขื่นและตึงเครียด ในใจเหรินห้าวกังวลใจมาก คราวนี้ควรทำอย่างไรดี?
“อ้อ เหรินห้าวอยากชวนพวกคุณมาทานอาหารที่ " หยูถังเซียน " ยินถิงเปิดปากพูดช่วยแก้สถานการณ์ให้เหรินห้าว
หยูถังเซียนเป็นร้านอาหารบ้านไร่นอกมหาวิทยาลัยจีนหลิง ยังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักศึกษา แม้ว่าการบริโภคจะไม่เยอะเท่า ‘เซียนหย่าจุน ’ ‘ร้านอาหารก่างลี่’ซึ่งเป็นร้านอาหารแถวหน้าในมหาลัย แต่ก็มีความโดดเด่นและสามารถเอาออกมาพูดถึงเช่นกัน
ที่สำคัญกว่านั้นเมื่อพิจารณาถึงจำนวนเงินในมือของเหรินห้าว นี่เป็นร้านที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
“ หยูถังเซียน?คืออะไรเนี่ย?”
หวางเหยาได้ยินชื่อนี้แล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา แล้วค้นหามันในอินเทอร์เน็ต ผลลัพธ์ที่ก็ออกมา
“ หยูถังเซียน เป็นร้านอาหารแบบบ้านไร่?ดูแล้วหน้าประตูก็คล้ายกับร้านอาหารในมณฑลของเรา? พี่ยิน พี่ต้องล้อเล่นกับเราแน่เลย พี่เหรินจะไม่ชวนเราไปทานอาหารที่นั่นหรอก เขาสามารถหารายได้มาตั้ง 6,000หยวนต่อเดือน รับประทานอาหารที่ร้านอาหารที่ใช้จ่ายเพียงค่าหัวแค่ 150 หยวนเนี่ยนะ เป็นไปไม่ได้หรอก”
เมื่อได้ยินสิ่งที่หวางเหยาพูดแล้ว ใบหน้าของเหรินห้าวก็แข็งทื่อขึ้น ยิ่งรู้สึกอายจนทำตัวไม่ถูกมากขึ้น
“พี่”
เหรินซินสังเกตเห็นเหรินห้าวเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ กล่าวอย่างเบาๆ คิดในใจว่าหรือพี่ชายตนมีความลำบากใจ จึงพูดว่า“จริงๆแล้วที่ หยูถังเซียนก็ดีเหมือนกันนะ ฉันก็ชอบกินปลาด้วย กินที่นี่ก็ได้นะ”
“ซินซิน พี่เหรินไม่ขาดเงินแค่นี้หรอก นี่เรากว่าจะได้มาจีนหลิงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ ให้พี่ชายของคุณพาเรากินอาหารดีๆเลย เมื่อกี้คุณยังบอกเลยว่าจะถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงโซเชียล ไม่ใช่หรือ? หยูถังเซียนนั้นคล้ายกับร้านอาหารบ้านๆเลย ถ้าคุณโพสต์ไว้ในโซเชียล คงจะถูกเพื่อนๆในโรงเรียนหัวเราะเยาะแน่เลย ถึงเมืองจีนหลิงแล้ว ยังรับประทานอาหารในสถานที่เช่นนี้ เสียหน้ามากเลย"
“จะสนใจพวกเขาทำไมล่ะ พี่ชายฉันให้กินอะไร ฉันก็กินอย่างนั้น "เหรินซินพูด แม้ว่าเธอจะสับสนและผิดหวังเช่นกัน แต่เธอจะยืนเคียงข้างพี่ชายของเธอแน่นอน
สองสาวยังคงเถียงกันว่าจะกินข้าวที่ไหน เหรินห้าวที่อยู่ตรงกลาง ทรมานมาก เขาอยากจะยืนขึ้นและตะโกนว่า “หยุดเถียงได้แล้ว ผมจะพาพวกคุณไปกินร้านอาหารที่ดีที่สุดของจีนหลิงสำหรับมื้อเย็นนี้!” แต่เขาไม่มีกำลังมากขนาดนั้น
“เหรินห้าว คุณหยุดโกหกน้องสาวได้แล้ว”
ในเวลานี้ ฉินหลั่งตบไหล่เหรินห้าว กล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามองไปที่เหรินซินพวกเธอทั้งสองอีกครั้ง “ก่อนมา เหรินห้าวได้วางแผนกับเราแล้ว ว่าจะชวนพวกคุณไปทานอาหารเย็นที่หย่งเหอหยวนในคืนนี้ พวกคุณรู้สึกเป็นไงบ้าง ถ้าไม่พอใจเราก็เปลี่ยนที่”
“อะไรนะ…เหรินห้าวและยินถิงตกตะลึง
หย่งเหอหยวนเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนานในเมืองจีนหลิง ราคาก็แพงมากด้วย มีคน 5 คนแล้วยังต้องจ่ายราคาอย่างน้อย 1,500 หยวน ทั้งตัวเขาเหลือแค่1,000 กว่าหยวนแล้ว และยังต้องรับผิดชอบที่พักของเหรินซินอีก จะให้หาเงินจากไหน
เหรินห้าวมองอย่างฉินหลั่งทำอะไรไม่ถูก ราวกับจะบอกว่า :“ฉินหลั่ง นี่นายล้อเล่นใช่มั้ย ผมจะมีเงินไปกินในหย่งเหอหยวนได้ยังไง?”