รถเมล์สาย 18 - ตอนที่ 22 การค้นพบใหม่
บทที่ 22 การค้นพบใหม่
หลังจากวางสายจากเย่เหอ สีหน้าของเย่ปินก็ดิ่งลง
“ปินจื่อ? เกิดอะไรขึ้น?” เมื่อมองเห็นสีหน้าของเย่ปิน เฉินฮุ่ยก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“ข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูลพลเรือนของผู้คนในหมู่บ้านเฮยสุ่ย จนถึงตอนนี้มี 114 คน” เย่ปินพูดด้วยเสียงต่ำ
“114 คน” เฉินฮุ่ยพึมพํา ก่อนจะนึกขึ้นได้ “เดี๋ยวนะ ทําไมเป็น 144 คน? มันต้องเป็น 115 คนไม่ใช่เหรอ?”
“หรือว่าต้าส่าจําผิดไป? เรื่องผ่านไปแล้วตั้ง 5 ปี จะจําผิดไปก็ไม่ใช่เรื่องแปลก” จ้าวเจิ้นรู้สึกว่าซ่งเฟยอาจจําจํานวนคนผิด
“ไม่ ฉันนับรายชื่อแล้ว เมื่อนับโจวหย่าเผิงด้วย ก็จะมีทั้งหมด 115 คน” เหล่าสวีทํางานอย่างละเอียดมาก เขาได้ตรวจดูบัญชีรายชื่อทั้งหมดที่เพิ่งได้มาเรียบร้อยแล้ว
“โจวหย่าเผิงคนนี้ เป็นใครกันแน่” จางหลานขมวดคิ้วครุ่นคิด
เปินมองไปที่บัญชีรายชื่อสีเหลืองในมือ และคิดถึง “บุคคลไร้ตัวตน” ก่อนจะกดโทรศัพท์หาเย่เหออีกครั้ง
“เฮ้ เย่เหอ ช่วยตรวจสอบ โจวหย่าเผิง คนขับรถเมล์ “สาย 18” คนสุดท้ายให้หน่อย”
ไม่ถึง 1 นาที เย่ปินก็ได้รับข้อความจากเย่เหอ
“ก่อนที่รถเมล์ผี “สาย 18” จะปรากฏขึ้น มีคนขับรถที่วิ่งสายนี้อยู่ 5 คน” คนทั้งหมดที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ให้ความสนใจกับข้อความที่เย่เหอส่งมา
“จางจุน, หลิวหยู, หลี่กั๋วฟู, หลี่หลิน, หวังหู่ซาน”
เย่ปินจ้องไปที่รายชื่อทั้ง 5 บนหน้าจอ แล้วหรี่ตาลง ราวกับคิดอะไรบางอย่าง “หลานเกอ ชื่อของหัวหน้าเหล่าหวังที่นายไปคุยด้วยก่อนหน้านี้คืออะไร” เย่ปินหันมามองจางหลาน
(ปล.ต่อไปสรรพนามระหว่าง 6 คนนี้จะเป็น ฉันกับนาย เนื่องจากความสนิทสนม….หมายเหตุไว้เตือนความจําของผู้แปลเองกันลืม )
“นายคิดว่าหัวหน้าเหล่าหวังอาจเป็นหวังหู่ซานคนนี้ใช่ไหม?” ตอนที่เห็นชื่อหวังหู่ซาน จางหลานก็มีความคิดเช่นเดียวกับเย่ปิน
“อืม” เย่ปินพยักหน้า
“ฉันไม่รู้ชื่อหัวหน้าเหล่าหวัง แต่จะไปถามให้”
“ฉันจะไปกับนายด้วย”
“อืม”
เพื่อตรวจสอบว่าหัวหน้าเหล่าหวังจะใช่หวังหู่ซานหรือไม่ เย่ปินกับจางหลานจึงไปที่บริษัทรถเมล์อีกครั้งเพื่อสอบถาม
“พวกคุณอยากทราบชื่อจริงของหัวหน้าเหล่าหวังงั้นเหรอ?”
“ครับ” เย่ปินกับจางหลานตอบพนักงานต้อนรับของบริษัทรถเมล์
“ผมมักเรียกเขาว่าหัวหน้าเหล่าหวัง หัวหน้าเหล่าหวัง จนลืมไปแล้วจริงๆว่าเขาชื่ออะไร” พนักงานต้อนรับเกาหัวเล็กน้อย “เดี๋ยวนะ เสี่ยวลู่ นายรู้ไหมว่าหัวหน้าเหล่าหวังมีชื่อจริงว่าอะไร?” พนักงานต้อนรับสอบถามกับเพื่อนร่วมงานของเขา
“อ๋อ หัวหน้าเหล่าหวังนะเหรอ! เขามีชื่อว่าหวังหู่ซาน!” เพื่อนร่วมงานพูดชื่อของหัวหน้าเหล่าหวังออกมาอย่างไม่ลังเล
“โอ้ ใช่ ใช่ ใช่! เขาชื่อว่าหวังหู่ซาน” พนักงานต้อนรับยิ้ม แล้วพูดกับเย่ปินและจางหลาน
“ขอบคุณครับ” เป็นยิ้มเล็กน้อย กล่าวขอบคุณและกล่าวอําลา แล้วออกจากบริษัทรถเมล์ไปพร้อมกับจางหลาน
“หวังหู่ซาน ฉันไม่เคยคิดเลยว่า หัวหน้าเหล่าหวังจะเป็นคนขับรถเมล์ “สาย 18” หลังจากได้ยินผลลัพธ์นี้ จางหลานก็ไม่อาจสงบจิตใจลงได้
“หลานเกอ ฉันเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก” หลังจากเหตุการณ์ของหัวหน้าเหล่าหวัง เย่ปินดูเหมือนจะค้นพบอะไรบางอย่าง
“อะไรเหรอ?”
“ไปชุมชนบ้านหลิวหลินกับฉันก่อน”
“บ้านหลิวหลิน? นายหมายถึงชุมชนที่ซุนสี่เทาอาศัยอยู่ใช่ไหม?” จางหลานรู้สึกงง ไม่เข้าใจว่าทําไมเป็นถึงอยากไปที่ชุมชนบ้านหลิวหลิน
“ฉันเจอเงื่อนงําบางอย่าง”
“งั้นก็ไปกันเลย”
ประมาณ 40 นาทีต่อมา ทั้งสองคนก็มาถึงชุมชนบ้านหลิวหลินที่เกิดคดี “ศพในแท่นปูน” แต่หลังจากมาถึงชุมชน เย่ปินก็ไม่ได้เข้าไปในชุมชน แต่กลับเดินไปตามถนนรอบๆชุมชน และดูเหมือนกําลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง
“ขอถามหน่อย ปินจื่อ นายกําลังมองหาอะไร?” จางหลานสับสนเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นกําลังมองหาอะไรอยู่
“ป้ายรถเมล์” เย่ปินตอบเบาๆ และยังคงกวาดสายตามองไปรอบๆ
“นายเพิ่งเดินผ่านป้ายรถเมล์มาไม่ใช่เหรอ?” จางหลานถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง
“ฉันกําลังหาป้ายรถเมล์ “สาย 18”
“ป้ายรถเมล์ “สาย 18?” แม้จางหลานจะไม่เข้าว่าทําไมเย่ปินถึงได้มองหาป้ายรถเมล์ “สาย 18” แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรอีก และเดินตามเย่ปินค้นหาต่อไป
หลังจากเดินผ่านถนนไปสองสาย ทั้งสองคนก็พบป้ายรถเมล์ร้างในพื้นที่ห่างไกล ตรงประตูทิศตะวันตกของชุมชนบ้านหลิวหลิน หลังจากตรวจสอบดูก็พบว่านี่เป็นป้ายรถเมล์ “สาย 18” ในอดีตจริงๆ
“มีป้ายรถเมล์ “สาย 18” อยู่ที่นี่จริงๆด้วย!” จางหลานรู้สึกประหลาดใจที่เห็นป้ายรถเมล์ เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีป้ายรถเมล์ “สาย 18” อยู่ใกล้ๆชุมชนบ้านหลิวหลิน
“หลานเกอ เราไปที่บริษัทของหลิวเจียซิ่งกันเถอะ” หลังจากพบป้ายรถเมล์ เป็นเพียงเหลือบมองเส้นทางเดินรถโดยไม่ได้ตรวจสอบสถานที่อย่างละเอียด และบอกกับจางหลานให้ไปที่บริษัทของหลิวเจียซิ่งด้วยกัน
“เอ๋” จางหลานสับสนเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นความจริงจังของเย่ปิน เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก จากนั้นพวกเขาก็ขับรถไปที่บริษัทของหลิวเจียซิ่ง
บริษัทของหลิวเจียซึ่งตั้งอยู่ค่อนข้างห่างไกล แม้ว่านี่จะเป็นการมาตามหาครั้งที่สอง แต่ทั้งคู่ก็เกือบจะหลงทาง
“ป้ายรถเมล์ “สาย 18” ที่ใกล้กับบริษัทของหลิวเจียซิ่ง จางหลานก็ได้เห็นป้ายรถเมล์ “สาย 18” อีกครั้ง
ครั้งนี้ พอเย่ปินมั่นใจว่ามันเป็นป้ายรถเมล์ “สาย 18” แน่ๆ เขาก็ไม่แม้แต่จะชายตามองมันอีก และกระตุ้นเตือนจางหลานไปยังตําแหน่งต่อไป
ครั้งนี้จางหลานติดตามเย่ปินไปยังตําแหน่งถัดไป โดยไม่ได้เอ่ยปากถาม
ตําแหน่งสุดท้ายอยู่ใกล้กับบริษัทของคนที่ให้การเรื่องรถเมล์ “สาย 18″ ในตอนที่พวกเย่ปินสืบสวนคดีก่อนหน้านี้ ก่อนที่เขาจะถูกไฟเพดานตกลงมาทับเสียชีวิต แล้วคนทั้งคู่ก็พบป้ายรถเมล์ “สาย 18” ที่นี่ด้วยเหมือนกัน
“ทั้งสามแห่งมีป้ายรถเมล์ “สาย 18” เหมือนกัน?” ครั้งแรกเขาสับสน ครั้งที่สองเขางุนงง แต่ตอนนี้จางหลานเข้าใจอย่างชัดเจน
“อืม” เย่ปินพยักหน้ายืนยันความคิดของจางหลาน
“ด้วยเหตุนี้ คนที่เสียชีวิตทั้งหมดไม่ได้ถูกฆ่าเพราะเราสืบสวนเรื่องรถเมล์ “สาย 18” แต่พวกเขาเกี่ยวข้องกับรถเมล์ “สาย 18” จางหลานกล่าวหลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และรู้สึกว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เริ่มซับซ้อนมากขึ้น
“ตั้งแต่เด็กสองคนนั่น จนถึงหัวหน้าเหล่าหวัง หลิวเจียซิ่ง ซุนสี่เทา และเหยื่อที่เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุพวกเขาล้วนรู้จักรถเมล์ “สาย 18” พวกเขาไม่ได้ถูกฆ่าเพราะเราสืบสวนเรื่องรถเมล์ “สาย 18” แต่พวกเขามีการเชื่อมโยงบางอย่างกับรถเมล์ “สาย 18” ฉันยังสงสัยว่าพวกเขาเคยเห็นรถเมล์ “สาย 18” มาแล้ว” เย่ปินอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการค้นพบของเขา
“ดังนั้นการตายของพวกเขาจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การสืบสวนของพวกเราเป็นเพียงการจุดชนวนระเบิด ที่ทําให้เวลาตายของพวกเขาเร็วขึ้น!” จางหลานคาดเดา
เริ่มตั้งแต่เด็กที่หายตัวไป ทุกคนที่เสียชีวิตล้วนแต่เคยเห็นรถเมล์ “สาย 18” มาแล้วทั้งนั้น
“เด็กที่ถูกฆาตกรรมก็เคยเห็นรถเมล์ “สาย 18” พร้อมกับเด็กที่หายไป หัวหน้าเหล่าหวังเคยเป็นคนขับรถสายนี้ ส่วนหลิวเจียซิ่งกับซุนสี่เทา คนหนึ่งอธิบายให้เราฟังถึงการเห็นรถเมล์ “สาย 18” อีกคนหยิบโทรศัพท์มือถือที่ตกอยู่ตรงป้ายรถเมล์ไป ส่วนเหยื่อคนสุดท้ายที่เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน แม้จะบอกว่าไม่ได้เห็นรถเมล์ “สาย 18” ตรงๆ แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นใกล้ๆกับบริษัทของเขา และที่นั่นก็มีป้ายรถเมล์ “สาย 18” ดังนั้นเขาอาจเคยเห็นรถเมล์ สาย18” ด้วยเช่นกัน”
เย่ปินเล่าถึงเหยื่อทั้งหมดทีละคน และค้นพบเบาะแสบางอย่าง