ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - ตอนที่ 57 : บ่อโลหิตมังกร
บทที่ 57 : บ่อโลหิตมังกร
เฉินหนานยกมือขึ้นชี้ไปทางซูอานพร้อมกับตะโกนตอบกลับไป ด้วยความเดือดดาล “เจ้าเด็กนั่นไงล่ะ!คืนนี้ฉันจะฆ่ามันทิ้งซะ!”
เมื่อผู้จัดการหันไปยังทิศทางที่เฉินหนานชี้ สีหน้าที่โกรธเกรี้ยวก็ เปลี่ยนเป็นหวาดกลัวขึ้นมาทันทีแล้วร่างทั้งร่างก็สั่นสะท้านอย่าง ไม่อาจควบคุมได้
เฉินหนานถึงกับมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย เพราะปกติแล้วผู้จัด การกับเขานั้นต่างก็คุ้นเคยกันดีและมีนิสัยใจคอดุร้ายโหดเหี้ยมไม่ ต่างกัน แต่เพราะอะไรเมื่อเห็นเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งถึงได้มีท่าที่หวา ดกลัวจนตัวสั่นขนาดสิ้น
“ผู้จัดการคุณเป็นอะไรไป?”
แต่ตอนนี้ผู้จัดการกลับมีอาการหวาดกลัวจนถึงกับพูดอะไรไม่อ อก และปากคอสั่นไปหมดเพราะนี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเรียกซูอา นว่า ไอ้สารเลว แต่เมื่อตั้งสติได้จึงรีบหันไปบอกเฉินหนานทันที
“อาจารย์หนาน อย่ายุ่งกับคนคนนี้จะดีกว่า!”
เฉินหนานตอบกลับด้วยความโมโห “ทําไมจะยุ่งไม่ได้! ในเมื่อมัน ทําร้ายคนของฉันไปถึงสองคนมันต้องชดใช้ในสิ่งที่มันทํา!”
“ไม่ได้! อย่ายุ่งกับเขา! ห้ามยุ่งกับเขา!”
“คุณต่างหากที่ไม่ต้องยุ่ง คอยเก็บกวาดหลังจากนี้ก็พอ!”
เฉินหนานขุ่นเคืองในตัวผู้จัดการอย่างมาก และไม่ต้องการฟัง เขาพล่ามไร้สาระอีก เฉินหนานคิดไม่ถึงว่าจู่ๆผู้จัดการจะกลับกลายเป็นคนขี้ขลาดขนาดนี้ไปได้!
“อาจารย์หนาน ห้ามยุ่งกับเขา เชื่อผม!”
เมื่อเห็นสีหน้าไม่พอใจของเฉินหนาน ในที่สุดผู้จัดการจึงตัด สินใจเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้เขาฟัง
“อาจารย์หนาน คุณรู้มั้ยว่าเมื่อครู่ก่อนหน้านี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น บ้าง?”
“เด็กคนนี้คือคนที่เอาชนะหลิวเหลียงได้ และยังบังคับให้หลิวเห ลี่ยงคุกเข่าโขกศรีษะยอมรับผิดต่อหน้าเขาด้วย!”
เมื่อหันไปเห็นสีหน้าและแววตาเฉยชาของซูอาน ผู้จัดการก็แทบ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากห้องนี้ทันทีแต่ก็ไม่กล้า
สีหน้าของเฉินหนานบ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อคําบอกเล่าของผู้จัด การ จนเขาต้องย้ําว่า “อาจารย์หนานที่ผมพูดมาทั้งหมด ล้วนเป็นเรื่องจริง แต่ถ้าคุณไม่เชื่อผม ผมก็คงช่วยอะไรคุณไม่ได้แน่!”
ผู้จัดการรีบหันไปทางซูอานพร้อมกับพูดขึ้นด้วยใบหน้าอ้อนว อนขอร้อง “น้องชาย.. ไม่ใช่สิ..ท่าน.. อย่าทําอะไรผมเลยผมกลัว แล้ว!”
ซูอานมองผู้จัดการอย่างนึกขันพร้อมกับสั่งว่า “เจ้าคลานออกไป ได้!”
ผู้จัดการไม่รอช้ารีบย่อตัวลง และคลานสี่ขาหนีออกไปจา กห้องทันที ทําให้เฉินหนานรู้สึกประหลาดใจอย่างมากว่าเหตุใดผู้ จัดการจึงต้องหวาดกลัวและเชื่อฟังเด็กหนุ่มมากถึงเพียงนี้?และยังคงไม่เชื่อเรื่องที่หลิวเหลียงคุกเข่าโขกศรีษะต่อหน้าซูอาน จึงได้ แต่ตะโกนเสียงดังใส่หน้าเขา..
“ไม่ว่าแกจะเป็นใครก็ตาม วันนี้อย่างได้คิดว่าจะออกไปจากที่นี่ ได้เลย!
“เหตุใดข้าจึงจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้เล่า? หรือเจ้าคิดที่จะสังหาร ข้างั้นรึ?” ซูอานถามกลับด้วยสีหน้าท้าทาย
“หึ.. แกรนหาที่ตายเองนะ!”
เฉินหนานพูดจบ ก็พุ่งกําปั้นเข้าใส่หน้าอกของซูอานทันที แต่ห มัดของเขากลับไม่สามารถทําอันตรายซูอานได้เลยแม้แต่น้อยตรงข้ามเลือดสีแดงกลับไหลออกจากมุมปากของเขาทั้งสองข้างและตอนนี้เขาก็นึกถึงคําพูดของผู้จัดการขึ้นมาทันที..
“เจ้าหนู ทําไมแกถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!”
แต่ซูอานไม่ตอบ และเพียงแค่จ้องมองเฉินหนานด้วยสีหน้าเรียบ เฉย ในขณะที่เฉินหนานค่อยๆก้าวเท้าถอยหลังเพื่อหาทางหลบ หนีออกไปจากห้องนี้
“คิดจะหนีไปตอนนี้ มันสายเกินไปแล้ว!”
ร่างของซูอานพุ่งเข้าใส่ร่างของเฉินหนานอย่างรวดเร็ว และ กําปั้นของเขาก็พุ่งตรงเข้าใส่หน้าอกของเฉินหนานเป็นครั้งที่สอง ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เลือดไหลมุมปาก แต่เขากระอักเลือดออกมาคําโตก่อนที่ร่างจะทรุดลงไปกองกับพื้นทันที!
ซูอานไว้ชีวิตเฉินหนาน แต่อย่างน้อยเขาก็ต้องเข้าไปนอนรักษา ตัวในโรงพยาบาลเป็นปีอย่างแน่นอน
หลังจากจัดการสะสางเรื่องราวทุกอย่างแล้ว ซูอานก็เดินออก จากสถานบันเทิงแห่งนี้ไปทันที
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานบันเทิงเฉินเจียนแห่งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ อาจปล่อยให้ล่วงรู้ออกไปภายนอกได้เพราะเกี่ยวพันถึงชื่อเสียง และความน่าเชื่อถือของสถานบันเทิงแห่งนี้
เวลานี้ อู๋ซินซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุด และประธานของสถานบัน เทิงแห่งนี้ กําลังนั่งอยู่ในห้องทํางานที่หรูหราและฟังเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นด้วยความเดือดดาล เพราะผู้ที่กล้ามามีเรื่องในสถานบันเทิงของเขาเช่นนี้ ย่อมหมายความว่าคนผู้นี้ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย..
เวลานี้ผู้จัดการยืนอยู่ต่อหน้าอู๋ซินผู้เป็นเจ้านายด้วยร่างกายที่สั่น เพิ่ม เพราะอู๋ซินนั้นมีนิสัยที่ดุร้าย
“เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟังใหม่อีกครั้งอย่างละเอียด ย้ําว่าอย่า งละเอียด!” อู่ซินตบโต๊ะทํางานเสียงดังพร้อมกับเน้นคําด้วยน้ําเสีย งหนักแน่น
“ครับ.. ครับ…” ผู้จัดการรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้จัก อารมณ์ของอู๋ซินดี
“คืนนี้มีกลุ่มเด็กนักเรียนมาเที่ยวที่นี่กันยี่สิบกว่าคน ทั้งหมดนั่งรู้ องเพลงอยู่ในห้องคาราโอเกะชั้นหกระหว่างนั้นก็มี เด็กหนุ่มคนหนึ่งแยกไปเข้าห้องน้ํา แต่แล้วก็พบกับคุณชายหลิว เข้า”
ดวงตาของอู๋ซินหรี่ลงทันทีพร้อมกับถามย้ําว่า “หมายถึงหลิวเห ลียง?”
“ใช่ครับ! แล้วทั้งคู่ก็มีเรื่องกัน!”
“หมอนั่นไม่ตายก็พิการสินะ?”
“ไม่ใช่ครับท่าน! เด็กหนุ่มนั่นไม่ต่างจากอสูรร้าย แม้แต่คุณชายห ลิวยังต้องคุกเข่าโขกศรีษะของโทษเขา!”
“ห้ะ.. อะไรนะ?”
อู๋ซินผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความตกใจ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยาก จะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“นี่แกพูดเพ้อเจ้ออะไรกัน?”
“คุณชาย ผมพูดเรื่องจริงนะครับ! ไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อย ผมจะกล้าเล่าเรื่องไม่จริงให้คุณชายฟังได้ยังไงกัน?”
อู๋ซินนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ และได้แต่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า คนที่สา มาถทําให้หลิวเหลียงคุกเข่าโขกศรีษะขอโทษได้นั้นต้องไม่ธรรมดา อย่างแน่นอน!
“แล้วเหตุการณ์ในห้องคาราโอเกะล่ะ?”
“ก็เป็นห้องที่นักเรียนกลุ่มนั้นร้องเพลงอยู่ครับ แต่ชื่อห่าวและ พวกกลับเข้าไปหาเรื่อง แล้วก็ต้องการที่จะลวนลาม เด็กนักเรียนหญิงในห้อง…”
“สวะ! พวกมันอวดดียังไงกล้าทําเรื่องแบบนี้ในที่ของฉัน! สม แล้วที่ถูกฆ่าตาย” อู๋ซินร้องตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ
อู๋ซินไม่ต้องการรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เขาต้องการรู้แค่ว่า ใครกันที่สามารถฆ่าชื่อห่าวตายได้และทําให้หลิวเหลียงถึงกับต้อง โขกศรีษะให้
“เด็กนั้นแต่งตัวยังไง?”
“ใส่เสื้อผ้าถูกๆเหมือนซื้อจากตามตลาดนัด ดูเหมือนจะ เป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนผู้หลงอ่อ.. ผมจําได้ว่าเด็กนักเรียนห ญิงคนหนึ่งเรียกเขาว่าซูอาน!”
“ซูอาน?!”
อู๋ซินถึงกับผงะ และชื่อนี้ก็ผุดขึ้นมาในความทรงจําของเขาทันที!
“ซูอานอีกแล้วสินะ? แกแน่มาก แน่มากจริงๆ!”
อู๋ซินพึมพําออกมาพร้อมกับกําหมัดทุบลงบนโต๊ะทํางานอย่าง
แรง..
ซูอานเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เสื้อและของใช้ส่วนตัว บางอย่างของเขาเสียหายและจําเป็นต้องหาซื้อใหม่
หลังจากได้เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ถุงใหญ่แล้ว เขาก็นั่งแท็ก ซี่กลับไปที่บ้าน ระหว่างนั้นก็ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ แต่ แล้วจู่ๆโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นสายจากเจียงเชาซูอานจึงกดรับทัน
“ลูกพี่ซู พี่ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”
“ไม่.. นี่ข้ากําลังกลับบ้าน!”
“เพื่อนๆกลับบ้านกันหมดแล้ว ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บก็ไปโรง พยาบาลเรียบร้อยแล้ว”
“ดีมาก.. เสี่ยวเชา สั่งทุกคนให้ปิดปากเรื่องนี้ อย่าได้แพร่งพราย ออกไปโดยเด็ดขาด เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงลูกพี่ซู!”
หลังจากวางเจียงเชาวางสายไปแล้ว เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอี กครั้ง และเมื่อเห็นว่าเป็นผู้เฒ่าฮัวที่โทรเข้ามาซูอานถึงกับขมวดคิ้ว เข้าหากันแน่น..
ซูอานไม่ต้องการที่จะรับสาย เพราะไม่คิดที่จะข้องเกี่ยวกับผู้เฒ่า ชั่วอีกแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเหล่าฮัวนั้นได้ขาดสะบั้นลงแล้ว!
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องบัตรเครดิตสีดําที่เหล่าฮั่วเคยมอบให้ขึ้นมาได้ ซูอานจึงกดรับสายพร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงที่เย็นชาและห่างเห็น
“เหล่าฮั่ว ข้าจะนําบัตรเครดิตสีดําไปคืนให้เจ้าทันทีที่ข้าว่าง!”
แต่ก็มีเสียงถอนหายใจหนักหน่วงดังมาจากปลายสายสองสามค รั้ง จากนั้นเสียงสั่นเทาของเหล่าฮั่วก็ดังขึ้น
“ซูอาน.. สองสามวันมานี้ ฉันได้แต่คิดว่าฉันได้ทําบางอย่างผิด พลาดไปแล้วจริง!”
ซูอานนิ่งเงียบไม่ตอบ และได้แต่คิดว่าเหล่าฮั่วไม่เพียงแค่ทําบาง อย่างผิดพลาด แต่เขาทําผิดพลาดทั้งหมด!
“ฉันทําร้ายเธอกับว่านว่านยังไม่พอ มิหนําซ้ํายังทําให้ ตระกูลถั่วต้องกลายเป็นตัวตลกไปอีกด้วย!”
“เหล่าฮั่ว หากไม่อะไร ข้าจะวางสายแล้ว ข้ายังมีธุระต้องทําอีก
มา!”
น้ําเสียงของซูอานยังคงเย็นชาและห่างเหิน เขาถูกเหล่าฮั่วหลอก มาถึงสองครั้งสองคราและแค่นั้นก็เพียงพอแล้วสําหรับเขา!
“เดี๋ยวก่อน! ฉันยังมีเรื่องสําคัญที่ยังไม่ได้บอกกับเธอ!”
“เจ้าพูดมา!”
“เธอยังจําเรื่องดินแดนพลังชีวิตที่ฉันบอกได้มั้ย?”
“เหล่าฮัว.พอที่! หยุดโกหกข้าได้แล้ว!”
“ไม่นะ! ฉันไม่ได้โกหก เรื่องนี้เป็นความจริง เพียงแต่คืนนั้นเกิดเรื่ องเสียก่อนฉันก็เลยไม่มีโอกาสได้บอกเธอ”
“ดินแดนพลังชีวิตแห่งนี้อยู่บนภูเขาที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างเมื องตงเฉิงกับหลิงเฉิง..”
ซูอานรู้สึกได้ว่าครั้งนี้เหล่าฮั่วไม่ได้โกหกเขาจริงๆ จากนั้นเหล่า ฮั่วก็ได้เปิดเผยชื่อสถานที่ให้ซูอานรู้
“สถานที่แห่งนี้มีชื่อว่าบ่อโลหิตมังกร ว่ากันว่าสถานที่แห่งนี้จะ คล้ายกับมีโลหิตไหลอยู่ตลอดทั้งปีและไม่ค่อยมีผู้คนอาศัยอยู่ในบริ เวณใกล้นัก!”
“เหล่าฮั่ว นี่เจ้าพูดจริงหรือไม่?”
“เป็นความจริง!”
“ได้! ถ้าเช่นนั้นข้าจะตรวจสอบอีกครั้งว่าอยู่ตําแหน่งใด กันแน่?!”
“ซูอาน ให้ฉันไปกับเธอจะดีกว่ามั้ย?”
“ไม่ได้! เจ้าเองก็อายุมากแล้ว หากต้องปีนเขาที่ทั้งสูงและชั้น แล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเจ้าคนตระกูลฮั่วจะตําหนิข้าได้ข้าเองก็ไม่อาจรับผิดชอบไหว!”
ผู้เฒ่าฮั่วถึงกับผิดหวังขึ้นมาทันที เพราะตามแผนการเดิมของ เขานั้น เขาตั้งใจที่จะไปยังสถานที่แห่งนี้พร้อมกับซูอานและหากที่นั่นเป็นดินแดนพลังชีวิตจริง เขาก็จะขอร้องให้ซูอานช่วยฟื้นคืนขั้นกําลังภายในให้กับเขาด้วย
แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้ความปรารถนาของเขาจะไม่มีทางสมหวัง อีกแล้ว ถึงแม้เหล่าฮั่วจะผิดหวังแต่ก็ไม่รู้สึกเสียใจเพราะอย่าง น้อยนี่ก็เป็นการรักษาสัมพันธภาพกับซูอานไว้..
ซูอานนั้นรับรู้ได้ถึงความรู้สึกผิดหวังของเหล่าสั่ว หลังจากนิ่ง เงียบไปครู่ใหญ่ ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นว่า
“เจ้าอย่าได้กังวลใจไป หากสถานที่แห่งนั้นมีพลังชีวิตอยู่จริง การฟื้นคืนกําลังภายในของเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป..”
ทันทีที่ได้ยินคําพูดของซูอาน มือของเหล่าฮั่วที่ถือโทรศัพท์ก็ถึง กับสั่นระริก และในที่สุดโทรศัพท์ก็หล่นจากมือของเขากระแทกกับ พื้นจนหน้าจอแตกแต่เหล่าฮัวก็รีบเอื้อมมือที่สั่นเทิ้มนั้นไปหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยออกไปว่า
“ซูอาน ขอบใจเธอมาก ขอบใจจริงๆ!”
“ไม่ต้องขอบคุณข้า นี่เรียกว่าผลประโยชน์ร่วมกัน!”
เมื่อกลับไปถึงบ้าน ซูอานก็ตรงดิ่งเข้าไปเปิดคอมพิวเตอร์ และ ทําการค้นหาบ่อโลหิตมังกรทันทีแต่น่าเสียดายที่มีเรื่องราวและ รูปภาพเกี่ยวกับบ่อโลหิตมังกรนี้น้อยมาก ภาพที่มีอยู่ก็ล้วนเป็นภาพที่ถ่ายจากมุมซึ่งไกลมาก เห็นเพียงแค่หน้าผา แทบ ไม่เห็นบ่อโลหิตมังกรเลย
ซูอานปิดคอมพิวเตอร์แล้วจึงล้มตัวนอนลงบนเตียง ความคิดมา กมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของเขาจนไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้เพราะภูมิประเทศที่เขาเห็นในภาพนั้น ดูน่าจะมีพลังชีวิตอยู่จริงๆ
หน้าผา น้ําตก ดอกท้อ บ่อน้ํา ผืนดินที่สูงชัน และกว้างใหญ่ ส ถานที่เช่นนี้ย่อมต้องเป็นแดนมังกรอย่างแน่นอน!