ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - ตอนที่ 56 : โกรธมาก!
ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 56 : โกรธมาก!
บทที่ 56 : โกรธมาก!
ซู่ซู่และเฟยเฟยต่างก็เป็นเพื่อนนักเรียนหญิงของซูอาน ทั้งคู่ต่างก็เป็นเด็กสาวหน้าตาน่ารักและมีเสน่ห์ แม้แต่ซูอานเองยังรู้สึกประทับใจไม่น้อย และซู่ซู่ก็เองก็เกือบจะนับว่าเป็นแฟนของเจียงเชาแล้ว
ทันทีที่ซูอานได้ฟังคําบอกเล่าของเจียงเขา เขาก็รีบวิ่งตรงไปที่ห้องคาราโอเกะโดยมีเจียงเชาวิ่งตามไปติดๆ ในเวลานั้นซูอานได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังออกมาจากด้านในห้อง
และทันทีที่ไปถึงเขาก็ยกเท้าขึ้นถีบประตูห้องให้เปิดออกสายตาของซูอานที่กวาดมองไปรอบๆนั้นมีเพียงความเย็นชาและปากก็ร้องตะโกนออกไปว่า “หยุดเดี๋ยวนี้”
ภายในห้องมีชายหนุ่มที่ราวกับผุดออกมาจากขุมนรกอยู่หลายคน เพียงแค่เหลือบมองก็เห็นแล้วว่าแต่ละคนพร้อมที่จะข่มเหงรังแกคนอื่นมากเพียงใด
คนสารเลวพวกนี้ดูเหมือนว่าจะเมามากด้วย มือของพวกมันช่วยกันดึงเสื้อผ้าของเด็กสาวหลายคนที่อยู่ภายในห้อง เวลานี้เสื้อผ้าของซู่ซู่ เฟยเฟย และเด็กสาวคนอื่นๆล้วนถูกพวกมันช่วยกันดึงจนฉีกขาด
ส่วนเพื่อนนักเรียนชายคนอื่นๆของซูอานต่างก็นอนกลิ้งอยู่บนพื้น ทุกคนล้วนแล้วแต่อยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น
ซูอานเห็นเช่นนั้นก็ถึงกับเดือดดาลอย่างที่สุด คนสารเลวพวกนี้กล้ารังแกเพื่อนของเขาได้อย่างไร? ซูอานไม่สามารถทนต่อไปได้
แต่ยังไม่ทันที่คนสารเลวพวกนั้นจะได้ตอบโต้อะไร ชายที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าก็หันไปมองซูอานด้วยสีหน้าเย็นชา พร้อมกับร้องตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน
“มีอีกคนที่ไม่กลัวตายสินะ!”
ชายคนนี้ดูเหมือนจะโกรธมากที่จู่ๆ ซูอานก็เข้ามาขัดจังหวะความสุขของตนเอง
เวลานี้ซู่ซู่ และเพื่อนนักเรียนหญิงคนอื่นๆของซูอาน บ้างก็ถูกจับแขนจับขาไว้ บ้างก็ขดตัวอยู่บนโซฟาตัวสั่น และกําลังร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความหวาดกลัว
เจียงเชาเห็นเช่นนั้นเขาก็โมโหจนแทบคลั่ง เขาไม่สนใจอะไรอีก และกําลังจะพุ่งเข้าใส่ชายที่เป็นหัวหน้า แต่ซูอานรีบห้ามไว้เสียก่อน
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้า!”
เจียงเขาได้แต่พยักหน้าหมึกๆ ในขณะที่ชายสารเลวอีกคนก็วิ่งตรงเข้าไปหาซูอานพร้อมขวดไวน์ในมือ ลักษณะท่าทางของมันนั้นบ่งบอกว่ากําลังเมามายอย่างมาก และต้องการที่จะสั่งสอนซูอานให้หราบจํา…
แต่เมื่อเข้าไปใกล้ ร่างของซูอานก็หายวับไปทันที ชายผู้นั้นถึงกับงุนงง และในขณะที่มันกําลังหันมองไปรอบๆนั้น เขาก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ตําแหน่งกลางหว่างขาของตนเองอย่างมาก
นั่นเพราะซูอานย้ายไปอยู่ด้านหลังของชายสารเลวผู้นี้ และจัดการเตะไปที่หว่างขาของมันอย่างแรง ซึ่งไม่ใช่การเตะธรรมดา เพราะซูอานได้เดินลมปราณไปที่เท้าของตนเองด้วย
เพียงแค่เป็นการเตะธรรมดาๆเข้าที่จุดยุทธศาสตร์เช่นนั้นก็ยังเจ็บปวดแทบแย่แล้ว แต่นี่เขาได้ถ่ายเทลมปราณไปที่เท้าด้วย จึงแทบไม่ต้องพูดถึงว่าจุดสงวนของมันจะเป็นเช่นใด?
ความเจ็บปวดอย่างที่สุดได้ทําให้เหงื่อเย็นผุดขึ้นเต็มหน้าผากของมัน และร่างของมันก็โค้งงอเป็นกุ้งพร้อมกับร้องครวญครางโหยหวน
ซูอานไม่หยุดเพียงแค่นั้น เขาคว้าขวดไวน์จากมือของมันขึ้นมา และฟาดลงไปบนศรีษะของมันอย่างแรง จนขวดไวน์แตกกระจายเต็มพื้น
นักเลงหนุ่มคนอื่นๆที่อยู่ในห้องต่างก็พากันจ้องมองด้วยความงุนงง เพราะทั้งหมดยังไม่ทันได้เห็นซูอานเตะเพื่อนของมันด้วยซ้ำ พวกมันเห็นเพียงแค่ว่าจู่ๆเพื่อนของมันก็ล้มลงไปกองกับพื้น แล้วซูอานก็ฟาดหัวด้วยขวดไวน์เท่านั้น
เวลานี้ทั้งเลือด ไวน์ และเศษแก้ว ต่างก็กระจัดกระจายเต็มพื้นห้องไปหมด ซูอานปาขวดแก้วไวน์ที่แตกในมือทิ้ง พร้อมกับจ้องมองกลุ่มชายอันธพาลด้วยสีหน้าและแววตาเอาเรื่อง
เพื่อนนักเรียนกลุ่มนี้นับว่าเป็นสหายของเขาแล้ว และในเมื่ออันธพาลกลุ่มนี้กล้าข่มเหงรังแกเพื่อนของเขา ย่อมหมายความว่าพวกมันรนหาที่ตายเช่นกัน!
เวลานี้สีหน้าของชายผู้เป็นหัวหน้าดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นถึงหัวหน้ากลุ่มจึงไม่อาจแสดงความหวาดกลัวออกมาให้เห็นได้ และได้ส่งเสียงร้องตะโกนหวังข่มขวัญซูอานแทน
“แกกล้าทําร้ายเพื่อนของฉันเชียวเรอะ?”
แต่ดูเหมือนชายผู้นี้จะคิดผิดไปถนัด เพราะซูอานตอบกลับมาอย่างไร้ความหวาดกลัว “ข้าไม่เพียงทําร้ายสหายของเจ้า แต่ยังจะจัดการกับเจ้าด้วย!”
ระหว่างที่พูดนั้น ซูอานก็ย่างสามขุมเข้าไปหาชายชุดดําด้วยสีหน้าและแววตาเย็นชา สีหน้าท่าทางของซูอานนั้นได้สร้างความกดดันให้กับชายชุดดําอย่างมาก เวลานี้มันเริ่มรู้สึกหวาดกลัวจนระล้ำระลักพูดออกไปว่า
“แกรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?”
“ฉัน.. ฉันเป็นประธานของซานช่าโข่วกรุ๊ปเชียวนะ!”
“ฉัน.. ฉันมีทรัพย์สินมากมายกว่าห้าร้อยล้านที่เดียว..”
“ฉัน ฉันรู้จักเฉินหนาน ผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งมาก..”
“อย่า.. อย่าเข้ามา…”
ซูอานย่างสามขุมเข้าไปอย่างน่าหวาดกลัว จนชายชุดดําค่อยถอยหลังออกไปด้วยความหวาดกลัว และเวลานี้ร่างกายของเขาก็สั่นเทาราวกับลูกนก ไม่มีท่าทียะโสโอหังอย่างเช่นตอนแรก
“หนวกหู!”
ซูอานจับลําคอของชายชุดดํายกขึ้นจนเท้าพ้นจากพื้น และเวลานี้มือของซูอานที่บีบลําคอแน่นนั้นก็ทําให้มันแทบหายใจไม่ออก เท้าทั้งสองข้างที่ลอยอยู่กลางอากาศ พยายามที่จะเตะเข้าใส่ร่างของซูอานแต่ก็ไร้ผล
“เจ้าพวกปีศาจชั่วช้า วันนี้ข้าจะอบรมสั่งสอนพวกเจ้าให้ได้ซึ่งความเป็นชายอีกต่อไป!”
ซูอานใช้มืออีกข้างของตน กําเข้าที่เป้ากางเกงของชายชุดดําพร้อมกับบีบอย่างแรง แล้วเลือดสีแดงก็ค่อยๆหยดลงพื้นและนับจากนี้ไปชายชุดดําผู้นี้ก็หาใช่ชายชาตรีอีกต่อไป..
ซูอานจับร่างของชายชุดดําโยนออกไปกระแทกกับผนังอย่างไม่ใยดี จากนั้นจึงหันไปมองยังกลุ่มชายอันธพาลที่เหลือ แต่ความโกรธเกรี้ยวในแววตาของเขาก็ยังไม่จางหายไป
กลุ่มชายชั่วช้าที่เหลือต่างก็พากันคุกเข่าลงกับพื้น พร้อมกับโขกศรีษะร้องขอความเมตตาจากซูอานไม่หยุด จนกระทั่งหน้าผากของพวกมันเวลานี้ต่างก็แดงเถือกไปหมด
หลังจากที่เจียงเขาได้สติ เขาจึงรีบเข้าไปห้ามซูอานไว้พร้อมกับร้องตะโกนออกไปเสียงดัง “ลูกพี่ๆ หยุดๆ หยุดเดี๋ยวนี้! เดี๋ยวพวกมันก็ตายหมดหรอก..”
เจียงเชาทั้งตื่นตระหนกและตกอกตกใจอย่างที่สุด เพราะเวลานี้ซูอานดูไม่ต่างจากปีศาจร้ายที่กําลังคลุ้มคลั่ง ชายสองคนซึ่งหนึ่งในนั้นคือหัวหน้าของมัน ล้วนถูกซูอานทําร้ายร่างกายเจียนตาย และได้สูญเสียสัญลักษณ์แห่งชายชานตรีไปแล้ว
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าเจียงเชาเวลานี้ แม้แต่ตัวเขาเองยังแทบไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริง ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินได้ฟังกิตติศัพท์ของซูอาน และรู้มาบ้างว่าซูอานเป็นผู้รู้วรยุทธ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะเก่งกาจ ดุดัน และโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้
เจียงเขาร้องเตือนซูอานด้วยสีหน้าท่าทางตื่นตระหนก และได้แต่หวังว่าซูอานจะฟังคําเตือนของตนบ้าง!
สีหน้าและแววตาของซูอานเองก็เปลี่ยนไปทันทีเช่นกัน รังสีอํามหิตบนใบหน้าเลือนหายไป เขาเริ่มได้สติและครุ่นคิดว่าเวลานี้ตนอยู่ในโลกที่มีกฎหมาย จึงไม่อาจกระทําการใดตามใจชอบได้
ชายทั้งสองคนที่นอนกองอยู่กับพื้นเวลานี้ หากซูอานยังลงมือซ้ำอีก เชื่อว่าคงยากที่จะมีชีวิตรอดอย่างแน่นอน!
“เห็นแก่หน้าสหายของข้า ข้าจะละเว้นโทษตายแก่เจ้า!”
“เสี่ยวเชา เจ้าพาเพื่อนๆกลับออกไปก่อน!”
เจียงเขารีบเข้าไปช่วยเพื่อนๆ และพาทุกคนออกไปจากสถานบันเทิงแห่งนี้โดยเร็ว เหลือเพียงซูอานกับกลุ่มชายสารเลวอยู่ในห้องเท่านั้น
กลุ่มนักเรียนทั้งหมดที่ออกมาจากสถานบันเทิงได้แล้วนั้นต่างก็ยังอยู่ในอาการช็อค และจ้องมองเข้าไปยังสถานบันเทิงแห่งนี้ด้วยความรู้สึกหวาดผวา
พวกเขาต่างก็เป็นเพียงเด็กนักเรียนมัธยมปลายอายุเพียงแค่สิบหกหรือสิบเจ็ดปีเท่านั้น ยังไม่นับว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวด้วยซ้ำไป เมื่อต้องมาพบเจอกับคนชั่วช้าเช่นนี้มีหรือที่จะไม่รู้สึกหวาดผวา?
“เสี่ยวเชา ลูกพี่จะเป็นอะไรมั้ย?”
หนึ่งในกลุ่มเพื่อนนักเรียนเอ่ยถามเจียงเชาด้วยสีหน้า และน้ำเสียงกระวนกระวายใจ เพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของซูอาน
แต่เจียงเขากลับตอบไปว่า “ฉันว่านายอย่าห่วงลูกพี่เลยห่วงคนพวกนั้นจะดีกว่า! นายก็เห็นกับตาแล้วไม่ใช่เหรอว่าสองคนนั้นเกือบถูกลูกพี่ฆ่าตาย…”
เพื่อนๆคนอื่นๆต่างก็หันไปมองหน้ากัน และหนึ่งในนั้นก็ถามขึ้นอย่างกังวลใจ..
“แล้วซูอานจะถูกตํารวจจับมั้ย?”
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง ต่อให้เขาถูกจับ ก็มีคนพร้อมช่วยเขาอยู่ดีล่ะ!”
เจียงเขาตอบกลับไป เพราะเมื่อเร็วๆนี้เขาเพิ่งจะได้ข่าวมาว่า ผู้ที่คอยสนับสนุนซูอานอยู่ก็คือผู้เฒ่าตั๋วที่ทรงอิทธิพลและอํานาจ
หลังจากนั้น นักเรียนทั้งยี่สิบกว่าคนต่างก็ช่วยเหลือกัน และพากันออกไปจากสถานที่น่ากลัวแห่งนี้ คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาลรักษาก่อน จากนั้นต่างคนต่างค่อยแยกย้ายกันกลับบ้าน
ซูอานที่อยู่ในห้องคาราโอเกะตามลําพังกับกลุ่มชายอันธพาล ยังคงยืนจ้องหน้าพวกมันด้วยสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้ซูอานจะเว้นโทษตายให้พวกมัน แต่ก็ไม่มีทางเว้นโทษเป็นให้พวกมันแน่!
“จะให้หน้าบวม หรือก้นบวม พวกเจ้าเลือกกันเอง!”
ระหว่างที่กําลังตัดสินใจอยู่นั้น พนักงานเสริฟที่ถือถาดไวน์เข้ามาเสริฟในห้อง เห็นคนนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น และสภาพเละเทะภายในห้อง ก็ถึงกับตกใจจนถาดไวน์หล่นจากมือและรีบวิ่งกรีดร้องออกไปด้วยความตกใจ
แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก ก็มีชายผู้หนึ่งที่ดูเหมือนมีวรยุทธเดินเข้ามาภายในห้อง และเขาก็คือเฉินหนานที่ประธานบริษัทซานชาโข่วพูดถึงก่อนหน้านี้นั่นเอง
ทันทีที่เห็นเฉินหนานก้าวเดินเข้ามาในห้อง สีหน้าของชายทั้งหมดในห้องก็ดูมีความหวังขึ้นมาอย่างมาก และหนึ่งในนั้นก็รีบร้องคร่ำครวญออกไปอย่างรวดเร็ว
“ท่านอาจารย์หนาน หมอนี่ทําร้ายร่างกายท่านประธานซานชาโข่ว!”
“ใช่แล้วครับ ท่านประธานเอ่ยชื่อของอาจารย์ มันยังไม่แยแสเลย..”
“อาจารย์หนาน ท่านต้องจัดการสะสางบัญชีนี้แทนท่านประธานด้วยนะครับ!”
เฉินหนานผู้นี้มักมีใบหน้าทิ้งตั้งอยู่ตลอดเวลา ความจริงแล้วเขายังไม่เก่งกาจถึงขั้นปรมาจารย์ด้วยซ้ำ การที่ทุกคนเรียกเขาว่าอาจารย์นั้น ดูเหมือนจะเกินจริงไปมาก..
เฉินหนานถอดเสื้อออกเผยให้เห็น กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ สีหน้าที่บึงตึงของเขานั้นดูหยิ่งจองผยองยิ่งนัก แต่ในสายตาของซูอานนั้น คนผู้นี้ยังเทียบหลิวเหลี่ยงไม่ได้ด้วยซ้ำไป
“เจ้าหนู กล้ามาอวดเบ่งที่นี่ เพื่อชีวิตมากหรือยังไง?” เฉินหนานถามขึ้นด้วยน้ำเสียงและใบหน้าดุดัน
“คนสารเลวชั่วช้าเช่นพวกมัน กําจัดทิ้งไม่ดีหรอก”
“เก่ง เก่งมาก! ฉันชื่นชมที่แกใจกล้าบ้าบินแบบนี้ แกรู้มั้ยว่าแกเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับคนอย่างเฉินหนานแบบนี้”
สีหน้าของเฉินหนานเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิม..
เฉินหนานกําหมัดแน่น เขาต้องการให้ซูอานลิ้มรสความโกรธของตน แต่ในระหว่างที่เฉินหนานกําลังจะลงมือนั้น ผู้จัดการสถานบันเทิงแห่งนี้ก็เข้ามาในห้องพอดี เมื่อเห็นสภาพภายในห้องจึงได้แต่ร้องถามออกไปด้วยความตกอกตกใจ..
“อาจารย์หนาน นี่ท่านกําลังทําอะไร? ทําร้ายแขกของที่นี่ได้ยังไงกัน?”
อาจารย์หนานตอบกลับด้วยความโมโห “คุณตาบอกหรือยังไงผู้จัดการ? นี่มันคนของฉันทั้งนั้น ฉันจะทําร้ายพวกเขาทําไมกัน?”
ในเวลานั้นผู้จัดการเพิ่งจะเป็นประธานบริษัทซานชาโข่วและนักเที่ยวอีกหนึ่งคนนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น จึงได้แต่ร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโห
“ไอ้สารเลวที่ไหนกันกล้าทําร้ายประธานบริษัทซานชาโข่วขนาดนี้?”