ย้อนชีวิตพิชิตเซียน - ตอนที่ 22 : จางเฉียงถูกกระทืบ
บทที่ 22 : จางเฉียงถูกกระทืบ
ทุกคนต่างก็เดินตามผู้จัดการเข้าไปในห้องส่วนตัว ..
“คืนนี้ฉันจะเลี้ยงไวน์ Lafite ปี 1995 ลูกพี่เว่ยเอง !”
ผู้จัดการร้านยิ้มกริ่มเมื่อได้ยินว่าจะได้ขายไวน์ราคาแพงอีกแล้ว Lafite ปี 1990 นั้นราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นหยวนเช่นกัน
“ผู้จัดการคุณสนใจเป็นเจ้ามือมั๊ยล่ะ ? ” เกาเว่ยเอ่ยขึ้น
“ไม่ได้นะผู้จัดการ คืนนี้ผมตั้งใจจะมาเลี้ยงลูกพี่เว่ย !” จางเฉียงร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก
“ได้ๆ ให้นายเป็นเจ้ามือ ส่วนฉันก็รอรับมิตรภาพ !” กัวเว่ยเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“เอาล่ะ .. ผู้จัดการไปเปิดไวน์และจัดค็อกเทลมาได้แล้ว ทุกคนรอดื่มอยู่ !”
ผู้จัดการเดินออกไปจากห้องที่กำลังสนุกสนานมีชีวิตชีวา และเวลานี้ภายในห้องก็มีคนอยู่มากถึงสิบกว่าคนเลยทีเดียว
สาวๆในกลุ่มก็ล้วนแล้วแต่หน้าตาสะสวย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจียงเหวินเหวินที่สวยสะดุดตาที่สุดในกลุ่ม และพ่อของเธอกับพ่อของจางเฉียงก็ค่อนข้างสนิทสนมกัน ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ได้มาด้วยแน่ๆ
ซูอานยังคงนั่งมองสิ่งต่างๆรอบตัวด้วยท่าทางสงบนิ่งเช่นเคย และยังไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“เร็วเข้าทุกคน .. ดื่มให้กับลูกพี่กัวก่อน !”
แก้วไวน์สิบกว่าแก้วบนโต๊ะต่างก็ถูกยกขึ้นดื่มให้กับกัวเว่ย มีเพียงแก้วของซูอานเท่านั้นที่ยังคงวางนิ่งอยู่ที่เดิม
เจียงเหวินเหวินรีบส่งซิกบอกกับซูอานให้หยิบแก้วขึ้นดื่มทันที แต่ซูอานกลับนิ่งเฉย และนั่นทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองซูอานเป็นตาเดียว
จางเฉียงจ้องมองซูอานด้วยแววตาที่ไม่คุ้นเคยนักพร้อมกับถามขึ้นว่า “หมอนี่เป็นใครกัน ? ทำไมไม่ให้หน้าฉันบ้างเลย !”
เจียงเหวินเหวินรีบร้องบอกทันที “เขาเป็นเพื่อนที่โรงเรียนฉันเอง ฉันเป็นคนลากเขาเข้ามาด้วยเองล่ะ !”
จางเฉียงมองจางเหวินเหวินแล้วจึงหันไปมองแก้วไวน์บนโต๊ะ และนั่นบ่งบอกถึงสิ่งที่เขาต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี
แต่ซูอานกับยังคงนั่งนิ่งราวกับท่อนไม้ !
“นี่ .. ต้องให้ฉันป้อนให้ถึงปากหรือยังไง ถึงจะยอมให้หน้าฉันบ้าง ?”
จางเฉียงขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับหน้าเปลี่ยนสีทันที ในขณะที่คนอื่นๆต่างก็หันไปมองซูอานด้วยสายตาเย็นชา
กัวเว่ยที่นั่งเงียบมานานในที่สุดจึงพูดขึ้นยิ้มๆ “อาเฉียง อย่าทำแบบนี้เลย น้องชายคนนี้อาจจะไม่ชอบดื่มไวน์ก็ได้ !”
ซูอานตอบกลับทันที “เจ้าพูดได้ถูกต้อง ! ไวน์แดงนี่รสชาดแย่มาก ค็อกเทลรสชาดดีกว่ามากนัก !”
จางเฉียงถึงกับหน้าตาบึ้งตึงขึ้นมาทันที และตอบกลับไปอย่างไม่พอใจ “น้องชาย นายรู้มั๊ยว่านี่ไวน์อะไร ? นี่น่ะ Lafite ปี 1990 เชียวนะ ! ราคาขวดละสองหมื่นกว่าหยวนทีเดียว เทียบไม่ได้เลยกับค็อกเทลกระจอกๆที่นายพูดถึง !”
และถึงแม้ว่าราคาค็อกเทลของที่นี่จะสูงถึงแก้วละหลายร้อยหยวน แต่ก็เทียบไม่ได้จริงๆกับราคาไวน์ Lafite
ซูอานหันไปมองจางเฉียงด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นเคย ใบหน้าของเขายังคงนิ่งและไม่แม้แต่จะพูดอะไรออกมา
เจียงเหวินเหวินตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และเริ่มกระวนกระวายใจไม่รู้ว่าควรทำเช่นไรดี ?
“นี่ทุกคนต่างก็ชอบไม่เหมือนกัน ! เขาไม่ดื่มก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ให้หน้านายสักหน่อยนะอาเฉียง อย่าโมโหเลยนะฉันขอร้อง ..”
“ไวน์แดงนั่นรสชาดไม่ได้เรื่องจริงๆนี่ !” ซูอานอดไม่ได้จึงพูดต่ออีกว่า “ข้าเองก็เพิ่งเปิด Lafite ปี 1982 สองขวด รสชาดของมันช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก !”
เจียงเหวินเหวินรีบสะกิดซูอาน และไม่เข้าใจว่าเพราะอะไรซูอานจึงคิดที่จะมาพูดเรื่องตลกในตอนนี้ !
จางเฉียงถึงกับยิ้มหยันพร้อมกับพูดประชดประชัน “หึ ! เปิด Lafite ปี 1982 สองขวดงั้นเหรอน้องชาย ? นี่นายบ้ารึเปล่า ?”
ซูอานแต่งตัวซอมซ่อดูเหมือนคนที่มีเงินไม่ถึงสองร้อยหยวนด้วยซ้ำไป แต่กลับโอ้อวดว่าตัวเองเปิดไวน์ขวดละเป็นแสนถึงสองขวด !
แล้วเด็กวัยรุ่นในกลุ่มคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “เท่าที่ฉันรู้ ไวน์ Lafite ปี 1982 ที่ร้านนี้ตกขวดละหนึ่งแสนหยวนขึ้นไป แต่นายกลับบอกเปิดทีเดียวสองขวดเชียวเหรอ ?”
“นั่นสิ .. ดูจากสารรูปการแต่งตัวของนายแล้ว ยังไม่มีแม้แต่เงินจะซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมใส่เลย !”
“ฮ่าๆๆ นั่นสิ ! สภาพนี้ดูเหมือนจะใส่เสื้อผ้าลดราคา หรือไม่ก็เสื้อผ้าตามแผงตลาดมากกว่า !”
จางเฉียงนั่งมองซูอานด้วยสีหน้าขุ่นเคืองและไม่พอใจอย่างมาก ส่วนคนอื่นๆก็พากันพูดจาดูถูกซูอานกันใหญ่
เจียงเหวินเหวินได้แต่นึกเสียใจที่ลากซูอานเข้ามาในนี้ด้วย เพราะลืมคิดถึงฐานะของซูอานไปว่าเขาอาจถูกคนอื่นดูถูกแล้วก็หัวเราะเยาะเอาได้
“ซูอาน .. ไปกันเถอะ !”
“เหตุใดข้าจึงต้องไปด้วยเล่า ?”
“นี่นาย ..”
เจียงเหวินหวินเม้มริมฝีปากแน่น พร้อมกับหันไปมองซูอานที่ยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ..
“ในเมื่อข้าพูดความจริง แต่พวกเขาไม่เชื่อ แล้วจะให้ข้าทำเช่นใดได้ !”
“ฮ่าๆๆ พวกเราเชื่อก็ได้พ่อคนร่ำรวย !”
“ถ้าพวกเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะให้พนักงานเสริฟนำไวน์ที่ข้าเปิดไว้ออกมากลั้วปากแล้วบ้วนทิ้งให้พวกเจ้าดูดีหรือไม่ ? ข้ายังมีเหลืออยู่อีกมาก ..”
“น้องชาย .. อย่าขี้โม้ให้มันมากนัก !”
จางเฉียงอดรนทนไม่ได้อีกต่อไป เขามองซูอานด้วยสายตาเย็นชา คล้ายเตรียมที่จะไล่ซูอานออกไป ในขณะที่กัวเว่ยเองก็เริ่มโมโหเช่นกัน !
ซูอานเห็นหน้าจางเชียนก็นึกสนุกขึ้นมา จึงได้พูดขึ้นว่า “หากเจ้าไม่เชื่อที่ข้าพูด เจ้ากล้าพนันกับข้าหรือไม่เล่า ?”
“พนัน ? พนันอะไรกัน ?” ชายหนุ่มร่างสูงผอมจ้องมองซูอานพร้อมกับถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็พนันว่าข้าจะมีไวน์ Lafite ปี 1982 จริงหรือไม่น่ะสิ ?”
จางเฉียงหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างมีความสุข “ได้เลย ! พวกเราจะยอมถอนคำพูดที่พูดดูถูกแกไปเมื่อครู่ทั้งหมด แล้วจะยอมก้มหัวขอโทษแกด้วย !”
“แต่ถ้าแกไม่ได้เปิดไวน์ Lafite 1982จริง โน่น .. แกต้องดื่มค็อกเทลถาดนั้นให้หมดทั้งถาด” จางเฉียงตอบพร้อมกับชี้ไปทางถาดค็อกเทลกว่าสามสิบแก้ว
กัวเว่ยทำท่าจะห้ามจางเฉียง แต่จางเฉียงกลับรีบโบกมือห้ามพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ลูกพี่เว่ย .. มันเป็นคนท้าเองนะ !”
กัวเว่ยจึงได้แต่นิ่งเงียบและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นจึงเหลือบมองซูอานก่อนจะถอยกลับไปนั่งพิงพนักด้วยใบหน้าเย็นชา
เจียงเหวินเหวินรีบร้องปฏิเสธทันที “ไม่พนัน ! พวกเราไม่พนัน !”
“เจียงเหวินเหวิน นี่เป็นเรื่องของพวกผู้ชาย เธออย่ายุ่ง !”
จางเฉียงทั้งโมโหทั้งอับอายที่ซูอานไม่ไว้หน้าตนเองเช่นนี้ มีหรือจะยอมปล่อยซูอานไปง่ายๆ
เจียงเหวินเหวินหวาดกลัวจางเฉียงที่กำลังโมโห จึงไม่กล้าพูดอะไรอีกเลย และได้แต่มองซูอานด้วยความเป็นห่วง
“เรียกพนักงานเสริฟมาได้เลย !”
ซูอานยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งเช่นเคย ไม่มีท่าทีตื่นตระหนกตกใจแม้แต่น้อย ทำให้ทุกคนในกลุ่มได้แต่นึกประหลาดใจ
ทุกคนในกลุ่มต่างก็คิดในใจว่าไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ และได้แต่สะกดความตื่นเต้นภายในใจไว้ และเฝ้ารอคอยกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
….
พนักงานเสริฟเดินเข้ามาภายในห้อง และถามซูอานด้วยท่าทีเคารพนบนอบ “คุณลูกค้าต้องการอะไรครับ ?”
“เจ้ายังจำข้าได้หรือไม่ ?”
“จำได้ครับคุณลูกค้า !”
และคำตอบของพนักงานเสริฟก็ทำให้ทุกคนในห้องถึงกับประหลาดใจ และได้แต่คิดว่าเด็กหนุ่มท่าทางยากจนคนนี้มาใช้บริการที่นี่จริงๆงั้นหรือ ?
จางเฉียงถึงกับหน้าเสียขึ้นมาทันที แต่ก็พยายามข่มความรู้สึกที่หวาดหวั่นไว้ในใจ พร้อมกับพูดออกไปว่า
“เคยมาที่นี่แล้วยังไง ? อาจจะมาดื่มค็อกเทลก็ได้ ไม่เห็นแปลก ..”
คนอื่นๆต่างก็พากันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของจางเฉียง ..
เจียงเหวินเหวินนั้นรู้ดีกว่าใครๆว่า ซูอานเพิ่งจะถูกลุงของเขาไล่ออกจากบ้าน แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาเที่ยวสถานบันเทิงที่มีราคาแพงเช่นนี้ ความจริงเธอยังนึกสงสัยว่าซูอานเอาเงินที่ไหนไปซื้ออาหารแล้วก็หาที่อยู่ให้ตัวเอง
“นี่ .. นายมาเที่ยวที่นี่จริงๆน่ะเหรอ ?” เจียงเหวินเหวินกระซิบถามเสียงเบา
“นี่เจ้าก็คิดว่าข้าโกหกเหมือนกันรึ ?” ซูอานกรอกตาและคร้านที่จะอธิบายให้เจียงเหวินเหวินฟัง แล้วหันไปบอกกับพนักงานเสริฟ
“เจ้าไปนำไวน์สองขวดที่ข้าฝากไว้มา !”
“ครับผม .. คุณลูกค้ากรุณารอสักครู่นะครับ”
คนอื่นๆภายในห้องต่างไม่สามารถสงบนิ่งต่อไปได้อีก สีหน้าของจางเฉียงถึงกับเปลี่ยนไปทันทีเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนใจ
จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง พนักงานเสริฟชายคนเดิมก็ได้ถือขวดไวน์แดงเข้ามาสองขวด และยืนรอว่าลูกค้าจะสั่งการเช่นใดต่อ
“จางเฉียง .. พนักงานนำไวน์มาแล้ว เชิญเจ้าตรวจสอบดูด้วยตัวเองได้เลย !”
ความจริงแล้วซูอานควรจะเรียกจางเฉียงว่าพี่เฉียงเหมือนเช่นคนอื่นๆ แต่จนถึงตอนนี้คำนั้นก็ยังไม่หลุดออกจากปากของเขา
“หึ .. ไวน์ปลอมรึเปล่าก็ไม่รู้ แกนึกว่าฉันโง่มากหรือยังไง ?” จางเฉียงยังคงยืนกรานไม่เชื่อ
แต่พนักงานเสริฟของร้านรีบตอบกลับทันที “ซิงยู๋ KTV ไม่เคยขายไวน์ปลอมนะครับท่าน ไวน์สองขวดนี้เป็นไวน์ Lafite ปี 1982 จริงๆ !”
และครั้งนี้ทุกคนต่างก็พากันตกใจสุดขีด และอ้าปากหวอเป็นวงกลมขนาดเท่าไข่ไก่ พร้อมกับส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ !
จางเฉียงถึงกับเหงื่อออกเต็มหน้าผาก และยังคงยืนกรานไม่เชื่อเช่นเดิม เขาร้องตะโกนออกไปราวกับคนคลุ้มคลั่ง
“ไม่ .. ฉันไม่เชื่อ !”
“หากเจ้าไม่เชื่อก็ลองจิบดูสิ จะได้รู้ว่าใช่ไวน์ที่ว่าจริงหรือไม่ ?” ซูอานตอบกลับด้วยสีหน้าสงบนิ่ง แต่เจือด้วยรอยยิ้มจางๆ
จางเฉียงถือแก้วไวน์ที่พนักงานเสริฟรินให้ด้วยมือที่สั่นเทิ้ม จากนั้นจึงค่อยๆยกแก้วขึ้นจิบ แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวน่าเกลียดขึ้นมาทันที !
ทุกคนในห้องเห็นสีหน้าของจางเฉียงต่างก็รู้ผลได้ในทันที ทุกคนหันไปมองซูอานด้วยสีหน้าตกตะลึงอย่างพร้อมเพรียงกัน ราวกับว่ากำลังพบเจออสูรร้ายก็ไม่ปาน ..
เจียงเหวินเหวินถึงกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ และไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้อีกเลย ..
ไวน์สองขวดนี้รวมกันมีมูลค่ามากกว่าสองแสนหยวน ซูอานเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหนกัน ?
“เอาล่ะ .. ได้เวลาที่เจ้าต้องทำตามสัญญาแล้ว !”
ใบหน้าของจางเฉียงเปลี่ยนเป็นแดงก่ำ เขาทั้งอับอายแล้วก็โกรธมาก และเวลานี้ก็แทบอยากจะระบายอารมณ์ใส่ใครสักคน !
แต่ในเมื่อทุกคนในที่นี้ต่างก็เป็นคนที่เขารู้จักทั้งสิ้น จางเฉียงจึงได้แต่ต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง
“ได้ ! ฉันขอโทษที่เข้าใจแกผิดไป !”
“ไม่ใช่แบบนี้ !”
ซูอานไม่ใช่คนดีอะไรนัก และเวลานี้เขาก็กำลังต้องการที่จะทำให้จางเฉียงได้อับอายขายหน้าเหมือนที่คนอื่นๆได้ทำกับเขาก่อนหน้านี้
“นี่แกยังจะเอายังไงอีก ?” จางเฉียงร้องตะโกนถามออกมาด้วยความโมโห
“เจ้าต้องทำตามคำพูดที่ได้พนันไว้กับข้าเมื่อครู่ !”
ใบหน้าของเจียงฉางเย็นชามากขึ้น จากนั้นจึงโน้มศรีษะลงและเอ่ยขอโทษซูอานเหมือนที่เคยรับปากไว้ !
ในเวลานั้นเอง กัวเว่ยที่เอาแต่นั่งเงียบมานานก็ลุกขึ้นยืนทันที เขาจ้องมองซูอานด้วยความสนอกสนใจพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“น้องชายคนนี้นับว่าเป็นคนจริง ปกปิดฐานะที่แท้จริงจองตัวเองไว้ได้อย่างมิดชิดจนพวกเราไม่มีใครดูออกเลย !”
“ผู้ใดปกปิดฐานะของตัวเองกัน ข้าก็เป็นของข้าเช่นนี้มาตลอด ..” ซูอานตอบเสียงเบาพร้อมกับหยิบแก้วค็อกเทลบนโต๊ะขึ้นมาดื่มช้าๆ
“น้องชาย .. นายชื่อว่าอะไรนะ ?”
“ซูอาน !”
“ซูอาน .. ฉันขอเป็นเพื่อนกับนายด้วยจะได้มั๊ย ?”
“ข้ามีเพื่อนมากมายแล้ว !”
“ก็ไม่เป็นไรนี่ ! เพิ่มฉันเข้าไปเป็นเพื่อนอีกคนก็แล้วกัน !”
กัวเว่ยตอบกลับไปอย่างมั่นอกมั่นใจว่าซูอานจะต้องรับเขาเป็นเพื่อนอย่างแน่นอน เขาตั้งใจว่าหลังจากนั้นจะค่อยไปสืบประวัติซูอานทีหลัง !
ใบหน้าของจางเฉียงเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวยิ่งกว่าเดิมมาก เขาเดินเข้าไปกัวเว่ยพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ลูกพี่เว่ย .. ผมออกไปหาแฟนก่อนดีกว่า !”
พูดจบจางเฉียงก็รีบเดินออกไปจากห้องคาราโอเกะทันที ทุกคนในห้องต่างพากันเงียบไปหมด และต่างก็เริ่มรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่เคยพูดจาดูถูกซูอานไปก่อนหน้านี้
ซูอานได้แต่ยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ทุกคนนั่งลงได้แล้ว หากพวกเจ้าชอบดื่มไวน์สองขวดนี้ ก็เชิญพวกเจ้าดื่มได้เลย ข้าไม่ชอบรสชาดของมันนัก !”
ได้ยินเช่นนั้นหลายคนต่างก็อยากลองลิ้มรส Lafite ปี 1982 ที่แสนแพงนี้บ้าง เพราะหลายคนในห้องก็ไม่เคยได้ลองลิ้มรสมาก่อนเช่นกัน
เจียงเหวินเหวินรีบยกขวดไวน์รินใส่แก้วให้กับทุกคนในห้อง และรู้สึกว่าคืนนี้ตัวเองได้หน้าอย่างมาก
กัวเว่ยหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม และบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนใจเมื่อครู่ก็ได้ถูกเจียงเหวินเหวินช่วยทำลายให้แล้ว ทุกคนจึงกลับมาสนุกแล้วก็มีชีวิตชีวาเช่นเดิม
“เหวินเหวิน .. นี่แฟนเธอเหรอ ?”
เจียงเหวินเหวินหน้าแดง “ไม่ใช่สักหน่อย แค่เพื่อนนักเรียนห้องเดียวกัน !”
“แค่เพื่อนไม่เห็นต้องสนิทสนมกันขนาดนี้เลย !”
ใครบางคนพูดขึ้นเพราะคิดว่าเจียงเหวินเหวินแก้ตัวเพราะเขินอาย แต่หารู้ไม่ว่าเธอพูดความจริง
ในขณะที่ซูอานนั่งมองจอทีวี และฟังคนอื่นร้องเพลงด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
…
“จางเฉียงออกไปหาแฟนแล้วคงกลับบ้านเลยมั๊ง ?”
“เดี๋ยวฉันออกไปดูเอง !”
หนึ่งในนั้นอาสาออกไปดูจางเฉียง ในขณะที่คนอื่นๆยังคงดื่มไวน์ ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน
มีเพียงกัวเว่ยกับซูอานเท่านั้นที่นั่งนิ่งไม่พูดไม่จา สีหน้าของทั้งคู่ยังคงนิ่งเฉยไร้อารมณ์ความรู้สึก ซูอานเห็นเด็กวัยรุ่นเล่มเกมกันสนุกสนาน แต่เขากลับมองว่าเป็นเรื่องของเด็กๆและไม่ต้องการร่วมสนุกด้วย
แต่ในระหว่างนั้นประตูห้องก็เปิดออก เด็กวัยรุ่นคนเดิมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาพร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า
“แย่แล้ว ! จางเฉียงถูกคนกระทืบ !”
กัวเว่ยลุกขึ้นยืนทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นดุดันพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ออกไปดูกันเร็ว ! ใครกันที่กล้าทำร้ายจางเฉียง ?”
ทุกคนต่างก็พากันวิ่งกรูออกไปจากห้องคาราโอเกะ มีเพียงซูอานคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้องอย่างไม่ใส่ใจ
เพราะการที่จางเฉียงถูกทำร้าย ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย !