ยูโตะผู้มีความฝันกับตำนานแชแนลยูจัง - ตอนที่ 22 โซเม็ง
ตอนที่ 22 โซเม็ง
มุมของมิโดริคาวะ
「เพื่อขอบคุณสำหรับโยกังราคาแพงก่อนหน้านี้ ผมก็เลยอยากจะตอบแทนด้วยสิ่งนี้ครับ」
มิโดริคาวะแสดงสีหน้าเป็นกังวลออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างหลังเธอ
เขาคือเจ้าของดันเจี้ยนแห่งนี้
พอมองไปที่มือเขาก็เห็นว่ามีบะหมี่โซเม็งจำนวนมากอยู่บนถาด ซึ่งมาพร้อมกับชามและขวดใส่น้ำซุป
สัมผัสได้ถึงเรโซที่เป็นส่วนผสมของมันแล้วนอกจากนั้น
──เหมือนจะมีอย่างอื่นนอกจากเรโซทั่วไปอยู่ด้วย หรือว่านั่นจะเป็นเอย์เรโซ(หญ้าวิญญาณวีรชน)ที่มีรูปร่างคล้ายกับกระเทียมต้น? นี่เขาเอามันมาทำเป็นเครื่องปรุงอาหารเหรอ
มิโดริคาวะยื่นมือที่สั่นเทาของเธอออกไปรับก่อนจะยิ้มให้กับเขา ภายในถาดนั้นมีเอย์เรโซที่สามารถเก็บได้จากแค่ภายในดันเจี้ยนความยากระดับสูงเท่านั้นอยู่ด้วย มันคือสิ่งที่มีค่าเสียยิ่งกว่าเรโซปกติ
「ขอบคุณมากนะ ยูโตะคุง กำลังคิดอยู่พอดีเลยเชียวว่าจะทานอะไรกับทุกคนดี พอได้เพื่อนบ้านอย่างยูโตะคุงมาช่วยไว้ก็ได้จังหวะเลย」
──ทุกคน ช่วยฉันด้วย! แค่ฉันคนเดียวไม่ไหวหรอกน๊าาา!
「โฮ่ๆ ดูน่าอร่อยจริงๆ ขอบใจนะยูโตะคุง」
「ว๊าว โซเม็นนี่คะ」
แล้วก็เป็นรุ่นพี่คาโต้ กับเมกุโระรุ่นน้องของฉันซึ่งพวกเราทุกคนต่างก็เป็นคนของแผนกการจัดการยูจังแชแนลที่ออกมาช่วยฉันเอาไว้
ภายใต้สัญญาที่เธอทำไว้กับคุโระ มิโดริคาวะและอื่นๆจึงได้ทำการซื้อบ้านร้างบริเวณดันเจี้ยนคุโระที่ 1 มาเพื่อทำการจัดตั้งสาขาของดันเจี้ยนคอร์ปอเรชั่น
ไม่ใช่แค่เรโซ…แต่นี่ยังรวมไปถึงเอย์เรโซงั้นเหรอ จะดีจริงๆเหรอที่พวกเรารับของแบบนี้มา?!
หนึ่งในสัญญาที่พวกเราทำกับคุโระก็คือพวกเราต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการสร้างสัมพันธ์ฉันเพื่อนบ้านกับยูโตะที่อาศัยอยู่ในคุโระที่ 1 ให้มากที่สุด
ตอนแรกที่เซ็นสัญญาก็สงสัยอยู่หรอกว่ามันหมายถึงอะไร แต่พอได้เผชิญหน้าจริงๆแล้ว ความลึกลับและความไม่เข้าใจในการกระทำของเขามันยิ่งหนักกว่าเดิมอีก
มิโดริคาวะได้เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อที่ไหลย้อยลงไปถึงหลัง จากนั้นก็เห็นว่าด้านหลังของยูโตะก็มีโดรนสีดำบินอยู่แถวๆคุโระที่ 1
ตัวตนของโดรนนั้นช่างสร้างความน่าประหลาดใจให้กับพวกมิโดริคาวะและเหล่าคนของดันเจี้ยนคอร์ปอเรชั่น
จากรายงานที่เธอเคยได้รับ ก็มีกรณีที่เครื่องจักรกลายเป็นมอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนแบบไม่ทราบสาเหตุอยู่เหมือนกัน และจากเนื้อหาของรายงานที่เครื่องจักรที่มีระบบการทำงานที่ซับซ้อนก็ยิ่งสามารถกลายเป็นมอนสเตอร์บ้าคลั่งได้ง่ายกว่าเดิม
ทว่า ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน คุโระก็เป็นสิ่งที่มีสติปัญหาและสามารถเจรจากับมนุษย์ได้ นอกจากนี้การกระทำของเธอยังคำนึงถึงยูโตะผู้เป็นเจ้าของดันเจี้ยนซึ่งเป็นมนุษย์ด้วย
──คุณคุโระจะต้องเป็นมอนสเตอร์พิเศษแน่ๆ แต่การที่เธอยังไม่สามารถออกมาจากดันเจี้ยนคุโระที่ 1 ได้ก็หมายความว่าเธอยังไม่วิวัฒนาการไปถึงขั้นนั้น ดูจากการที่เธอก็ไม่ได้แสดงความผิดปกติอะไรออกมา แปลว่าพวกเราสามารถเอาเรโซกับเอย์เรโซไปได้สินะ?
มิโดริคาวะทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็วก่อนจะส่งถาดไปให้กับทางเมกุโระ ด้วยเหตุผลบางอย่างเมกุโระกลับแสดงสีหน้าที่สะดุ้งออกมา แต่ทางมิโดริคาวะก็ไม่ได้สนใจ
「เอ่อ」
ยูโตะพูดขึ้น
แค่เสียงของเขาก็ทำให้เหล่าสมาชิกการจัดการตัวสั่นกันหมดแล้ว
「ในขวดนี้จะเป็นเมนซึยุที่ผมเตรียมมาให้นะครับ」
「──อะ-อ๋อ ขอบใจมากนะยูโตะคุง」
เมกุโระที่ถือถามอยู่ในมือตอบกลับไป
「แล้วก็」
「อะไรอีกเหรอ?」
「ตรงนี้น้ำประปายังใช้ไม่ได้ใช่ไหมล่ะครับ ไว้กินเสร็จกันแล้วเดี๋ยวผมจะมาเก็บไปล้างเอง」
「ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะ ว่าแต่ยูโตะคุงนี่เป็นนักเรียนมอปลายจริงๆเหรอ?」
──เยี่ยม เมกุโระ ถามได้ดี
ส่วนหนึ่งก็คือทีมของพวกเธอต้องทำการตรวจสอบความเป็นมาของยูโตะผู้เป็นเจ้าของดันเจี้ยนไปด้วย แต่การจะถามอะไรสักทียังไงก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้เรื่องมันบานปลาย
เพราะอย่างแรกสิ่งที่พวกเรารู้คือเขาเป็นเพียงนักเรียนมอปลายธรรมดาคนหนึ่ง
หากจะให้มีเรื่องผิดปกติเพียงอย่างเดียวก็คงจะเป็นเรื่องที่พอของเขาเป็นนักธรณีวิทยาที่มีชื่อเสียงซึ่งเดินทางรอบโลกแล้วปล่อยให้ลูกชายของตัวเองอาศัยอยู่ตัวคนเดียว
ในสถานการณ์เช่นนี้แค่ข้อมูลเพียงเล็กน้อยก็มีค่ามากแล้ว
มิโดนริคาวะลังเลเล็กน้อยที่จะถามเพิ่มจากคำถามของเมกุโระ เพราะสกิลโชคอันแรงกล้าของเธอที่มีในครอบครองคราวนี้มันอาจจะสร้างความบรรลัยให้กับพวกเธอแทนก็ได้
──ยังไงเราก็ไม่ควรถามไปมากกว่านี้สินะ?
จากนั้นภายในดันเจี้ยนคุโระที่ 1 ที่มีคุโระลอยไปมาอยู่นั้น มิโดริคาวะสัมผัสได้ถึงบรรยากาศแปลกๆถูกส่งออกมาจากภายใน
ในขณะที่เธอกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทางยูโตะก็พุ่งกลับบ้านไปแล้ว