“ไม่เป็นไร” ฉันปฏิเสธไปแล้วเดินหนีเขา จนมาหยุดรออยู่หน้าห้อง รอให้เขามาเปิดประตู พอเขาเปิดประตูเสร็จฉันก็เดินมานั่งที่ห้องรับแขก
เอนตัวลงนอนหลับตาลงรู้สึกง่วงยังไงไม่รู้ ฉันไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปนอนในห้องนอนของเขา จึงเลือกที่จะนอนที่โซฟาแทน ส่วนเขาก็เดินไปไหนสักที่ในห้องซึ่งฉันก็ไม่ได้มอง เพราะตอนนี้ฉันอยากพักมากๆ แต่สักพักในขณะที่จะกำลังจะหลับฉันก็เห็นเจสันถือกล่องประถมพยาบาลมานั่งข้างๆ ฉัน
เขาจะทำแผลให้ฉันเหรอ และตอนนี้เขาก็หยิบสำลีกับยามาล้างแผลที่มุมปากของฉันที่มันแตกและเขาก็ทายาให้ฉันตรงบริเวณแก้มทั้งสองข้างที่เป็นรอยฝ่ามือของยัยพริมตลอดการทำแผลเขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ฉันจึงเลือกที่จะไม่พูดเหมือนกันสักพักฉันก็เผลอหลับไป
“อือ” มันกี่โมงแล้วเนี้ย ฉันลืมตาขึ้นหลังจากที่นอนหลับไปนาน มือควานหาโทรศัพท์เพื่อดูเวลา สองทุ่มแล้วเหรอฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
เจสันไปไหนนะ ฉันมองไปรอบๆ ห้องก็ไม่เห็นเขา ไปไหนของเขานะ แต่ช่างเถอะฉันกลับคอนโดไปเปลี่ยนชุดไปทำงานดีกว่า ขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกจากห้อง ฉันก็เหลือบไปเห็นเจสันอยู่ในห้องครัวทำอะไรของเขา อย่าไปสนใจเลยไปดีกว่า
“น้ำมากินข้าว”
“เอะ” เขาเห็นฉันด้วยเหรอ
“จะไปไหนมากินข้าว”
“ฉันจะกลับคอนโดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน” เขาทำกับข้าวให้ฉันกินเหรอไม่น่าเชื่อ
“ไม่ต้อง วันนี้ฉันให้หยุด มานี่มา” เขาเดินมาลากฉันไปที่โต๊ะอาหารแล้วให้ฉันนั่งบนตักเขา
“นี่ปล่อยนะ นั่งดีๆ ก็ได้”
“แบบนี้แหละดีแล้ว” ตอนนี้เขากอดฉันไว้หลวมๆ คางว่างอยู่ที่ไหล่ของฉันทำไมชอบให้ฉันนั่งตักอยู่เรื่อย เขินนะ
“ฉันกินข้าวไม่ถนัด”
“ขอโทษนะ” เขาพูดออกมาเสียงเบา ป่านนี้พึ่งจะมาขอโทษฉันเหรอยะ นานเกินไปไหม
“เรื่อง” ฉันทำเป็นไม่รู้เรื่องที่เขาพูด
“กินข้าวเถอะฉันทำสุดฝีมือเลยนะ” เขาไม่พูดต่อว่าเรื่องไหน ทำไมแค่นี้พูดไม่ได้รึไง
“ทำกับข้าวเพื่อง้อฉันเหรอ” พอฉันพูดจบเขาหน้าแดงด้วยแหละ ฉันรู้สึกว่าเขาต้องมีเรื่องอะไรที่โกรธฉันแน่ๆ
“กินๆ ไปเหอะพูดมาก” พูดจบแล้วตักข้าวต้มเตรียมจะป้อนฉัน
“ฉันกินเองได้”
ว่าแล้วฉันก็แย่งช้อนออกจากมือเขามาตักกินเอง แต่กินไม่ค่อยได้เท่าไหร่เพราะเจ็บปากอยู่ ค่อยๆ กิน ส่วนเขาก็เอาแต่กอดฉันและจ้องฉันที่ตักข้าวต้มเข้าปากอย่างช้าๆ
“อร่อยไหม” ที่มองขนาดนี้อยากให้ชมว่างั้น
“งั้นๆ แหละ”
ดูตอนนี้สิ หน้าเขาบึ้งทันทีที่บอกว่าข้าวต้มที่เขาทำมันงั้นๆ ตลกชะมัด ที่จริงไม่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอก มันออกจะอร่อยด้วยซ้ำ แต่ฉันแค่อยากแกล้งเขานิดหน่อย
“เหรอ ฉันขอโทษนะสำหรับเรื่องวันนี้ ฉันสัญญาว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธออีก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นทันทีที่พูดถึงเรื่องวันนี้ กว่าจะพูดออกมาได้นะ
“อืม”
“นี่ เธอจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ คงไม่ต้องหรอกเพราะเธอเองก็มีความผิด” ความผิดของฉันงั้นเหรอเรื่องอะไรฉันไม่เห็นว่าฉันจะทำอะไรผิดเลยมีแต่เขานั่นแหละที่ผิด
“เรื่องอะไรมิทราบ อย่ามาใส่ร้ายกันนะ”
“ก็ไอ้หน้าวอกนั่นไง” ไอ้หน้าวอกไหน ฉันนิ่งคิด อ่อ ชาลีน่ะเหรอ แล้วเขาเกี่ยวอะไรด้วยเขาแค่มาขอเป็นเพื่อนฉันเองนะ
“อ่อ ชาลีเหรอ เขาเกี่ยวอะไรด้วย”
“เกี่ยวสิ ก็มันมาจีบเธอ” เขาพูดเสียงแข็งขึ้นมาทันทีที่ฉันพูดถึงชาลี
“เขาไม่ได้มาจีบ เขาแค่มาขอเป็นเพื่อน”
“ไม่จริง มันมาจีบเธอ”
ตอนนี้ฉันกับเขานั่งเถียงกันเรื่องชาลี เขาไม่ฟังเลย ฉันบอกว่าชาลีไม่ได้มาจีบก็ไม่เชื่อ เขาแค่มาขอเป็นเพื่อนฉันเท่านั้นเอง จะมีใครมาจีบยัยเฉิ่มอย่างฉันกันล่ะมีแต่เขาเท่านั้นแหละที่เข้ามาในชีวิตฉัน
“พอแล้ว ฉันไม่เถียงกับนายแล้วเหนื่อย แล้วก็ปล่อยได้แล้วฉันจะกลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงาน”
“ไม่ต้อง วันนี้ฉันให้หยุด”
“ได้ไง ไม่เอาไม่หยุด” ได้ไงฉันไม่อยากหยุดงานนะ เกรงใจพี่เจนนี่เพราะฉันพึ่งจะเข้ามาทำงานได้แค่เดือนเดียวเอง
“ฉันโทรบอกเจนนี่แล้วว่าวันนี้เธอลา ไปอาบน้ำแล้วกินยานอนได้แล้วไป หรือว่าจะมาออกกำลังกายก่อนนอนกับฉันก่อน”
ดูเขาสั่งฉันสิ วันนี้ฉันก็ต้องนอนที่นี่เหรอ แล้วประโยคสุดท้ายที่ล่อแหลมของเขานั่นอีกพูดจบแล้วยังมาทำหน้าหื่นใส่ฉันอีก
“ไม่ ฉันจะไปอาบน้ำนอนแล้ว” ฉันไม่อยากเถียงกับเขาเถียงไปก็แพ้เปล่าๆเลยเลือกที่จะทำตามดีกว่า ไม่ไปทำงานก็ดีเหมือนกัน ฉันก็ไม่อยากเอาหน้าบวมๆ ของตัวเองไปเจอใครเหมือนกัน นอนดีกว่า
ว่าแล้วฉันก็เข้าไปอาบน้ำและกินยานอนรู้สึกเหมือนตัวเองจะมีไข้ด้วย ถึงเมื่อตอนกลางวันฉันจะนอนไปเยอะแต่ก็ยังรู้สึกง่วงอยู่ดี พอกินยาเสร็จก็ล้มตัวลงนอน ตอนนี้ฉันได้ยินทีวีเปิดอยู่ข้างนอกเป็นเสียงการแข่งขันฟุตบอลเจสันคงจะดูบอลอยู่เขาคงไม่มากวนฉันแล้วแหละ นอนดีกว่า
เจสัน
กริ๊งงงง
“ฮัลโหล” ตอนนี้ผมนั่งดูบอลอยู่ข้างนอกส่วนลูกน้ำผมก็ให้เธอเข้าไปอาบน้ำนอน สักพักเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น เป็นไอ้มาร์คที่โทรมา
“ (อยู่ไหนวะ) ” เสียงปลายสายถามกลับมา
“คอนโด” ผมตอบออกไปเสียงเรียบ
“ (ไม่เข้าผับเหรอวะ) ”
“คงไม่ ฝากนายดูแลความเรียบร้อยด้วย” ผมว่าวันนี้ผมจะไม่เข้าไปที่ผับแล้วล่ะเพราะผมเป็นห่วงยัยเฉิ่ม
“ (ได้ยินว่าประกาศเปิดตัวแฟนที่หน้าคณะศิลปกรรมมาเหรอวะ) ”
ไอ้มาร์คมันพูดแซวผมอย่างกวนๆ ข่าวมันไวจริงๆ ตอนนี้มันคงดังไปทั่วมหาลัยแล้วแน่ๆ
“เออ”
ผมตอบออกไปแค่นั้น เพราะไม่อยากพูดอะไรมาก ผมบอกตามตรงตอนนั้นผมโกรธมากที่เห็นเธอโดนตบ ผมไม่เห็นตอนที่ผู้หญิงกลุ่มนั้นเดินมาหาเรื่องเธอเพราะตอนนั้นผมมัวแต่คุยโทรศัพท์อยู่กับพี่ชายที่โทรทางไกลมาจากอเมริกา
พอคุยเสร็จผมก็หันกลับไปมองเธอก็เจอตอนที่เธอโดนตบไปสองทีแล้ว ตอนนั้นผมรีบลงจากรถแล้วรีบเดินไปหาเธอทันทีบอกตามตรงผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร เธออาจจะเป็นคู่ควงของผมหรือแฟนคลับของผมก็เป็นได้
ดีนะที่ผมไปทันก่อนที่ผู้หญิงคนนั้นจะตบยัยเฉิ่มของผมเป็นครั้งที่สาม บอกตามตรงว่าโกรธมากที่พวกนี้บังอาจมาทำให้แก้มขาวๆ ของยัยนี่เป็นรอย ผมจึงลากยัยเฉิ่มออกมา
และที่ผมไม่พูดกับเธอเพราะผมกำลังเก็บอารมณ์ของตัวเองอยู่ ผมกลัวว่าผมจะระเบิดอารมณ์กับเธอผมจึงเลือกที่จะเงียบดีกว่า แล้วค่อยกลับมาคุยกันที่ห้อง
อีกอย่างผมยังหงุดหงิดเรื่องของไอ้พูดชายหน้าวอกนั้น เธอบอกว่ามันแค่มาขอเป็นเพื่อน ผมไม่เชื่อหรอกดูจากสายตาที่มันมองเธอสิ ผู้ชายด้วยกันดูออกว่าไอ้หน้าวอกนั่นมันชอบเธอแต่เธอคงไม่รู้
“ (แกจริงจังเหรอวะ กับยัยนั่นน่ะ) ” เสียงของไอ้มาร์คพูดขึ้นทำให้ผมหลุดออกจากความคิดของตัวเอง
“ไม่รู้”
“ (เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ ไปประกาศว่าเขาเป็นแฟนแต่ไม่รู้ว่าจริงจังแค่ไหน ไอ้เจสันแกไม่เคยคิดจะมีแฟนเลยนะเว้ยแล้วตอนนี้มาประกาศว่ายัยนั่นเป็นแฟน แกยังไม่รู้อีกเหรอว่าคิดกับยัยนั่นยังไง) ”
มันพูดออกมายาวเหยียด ที่จริงผมก็พอรู้หรอกว่าผมคิดยังไงกับลูกน้ำเพียงแต่ตอนนี้ยังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์แค่นั้นเอง รู้แค่ว่าตอนนี้ผมหวง ห่วงเธอมากก็พอ ไม่อยากผู้ชายหน้าไหนเข้าใกล้
ไม่อยากเห็นเธอโดนทำร้ายและอีกอย่างช่วงเวลาที่เรารู้จักกันมันสั้นเกินไป ผมจึงไม่แน่ใจว่ามันใช่ความรักรึเปล่า
“เออน่ามึงเป็นอะไรมากป่ะ ถามอยู่ได้”
“ (เออ เรื่องของมึงเหอะ กูแค่ไม่อยากให้มึงไปให้ความหวังเขา กูว่ายัยนั่นไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ถ้ามึงไม่จริงจังก็ปล่อยเขาไปเหอะ) ”
ที่มันพูดมาผมรู้ว่าลูกน้ำไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น เธอแตกต่าง ผมยังไม่มั่นใจเปล่าวะ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าผมไม่จริงจังซะหน่อยแค่รอให้มั่นใจเต็มร้อยก่อนแค่นั้นเอง
“เออ แค่นี้รำคาญ” ผมตัดบทไม่อยากจะพูดกับมันแล้ว พูดแค่นั้นเลยกดว่างสายไป เข้าไปดูยัยนั่นหน่อยดีกว่าว่าหลับรึยัง
ผมนั่งลงที่ขอบเตียงนั่งมองหน้าลูกน้ำ ตอนหลับดูเหมือนเด็กไม่มีผิด แต่พอตื่นทำไมดื้อชะมัด หึ ยัยเฉิ่ม ผมนั่งมองเธอสักพักก็เข้าไปอาบน้ำแล้วมาล้มตัวลงนอนบนเตียงกับเธอ ดึงร่างบางเข้ามากอดก้มลงหอมที่หน้าผากเธอเบาๆ ที่จริงก็อยากทำมากกว่านี้แต่ก็กลัวว่าเธอจะตื่นมาโวยวาย ตอนนี้ขอแค่นี้ก่อนแล้วกัน ผมกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเธอกอดตอบผมเหมือนกัน รู้สึกดีชะมัดถ้ามีเธอนอนกอดทุกคืนคงดีไม่น้อย ฝันดีนะยัยเฉิ่มของฉัน
MANGA DISCUSSION