ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 5
เจสัน
ผมขับรถมาส่งลูกน้ำที่หน้าคณะเสร็จก็ขับออกไปยังตึกผู้บริหารทันที จะต้องไปเซ็นเอกสารสักหน่อยค่อยไปเรียน ป่านนี้พวกเพื่อนตัวแสบคงรออยู่ที่คณะแล้ว
ทุกคงสงสัยล่ะสิว่าที่ผมขอเป็นแฟนกับลูกน้ำผมแค่อยากเล่นๆ กับเธอหรือว่าจริงจัง อย่าถามเลยเพราะผมก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจริงแค่ไหน
ผมแค่รู้สึกถูกใจเธอ คิดถึงแต่ใบหน้าลูกน้ำตลอดเวลา ผมก็ไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกนี้เรียกว่ารักรึเปล่าเพราะผมไม่เคยมีมัน คงต้องรอให้เวลาพิสูจน์ ผมยอมรับว่าผมชอบเวลาที่ได้อยู่กับเธอ ชอบเห็นเวลาที่เธอแสดงสีหน้าต่างๆ ออกมา
ซึ่งความรู้สึกนี้มันต่างไปจากผู้หญิงคนอื่นเพราะกับผู้หญิงคนอื่นผมรู้สึกแค่อยากให้ผ่านมาแล้วผ่านไปแต่กับเธอ ลูกน้ำผมอยากเห็นหน้าเธอ อยากมีเธออยู่ใกล้ๆ แต่ผมยังไม่อยากแสดงออกอะไรมากผมอยากจะดูๆ ไปก่อนเพื่อให้แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองด้วย
ที่เธอถามผมว่าไม่กลัวคนอื่นรู้เหรอว่าเราเป็นแฟนกัน ไม่อายเหรอที่มีแฟนเฉิ่มๆ เหมือนเธอ ผมตอบเลยว่าไม่ ผมเฉยๆ กับทั้งสองเรื่องที่เธอถาม เพราะไม่มีใครกล้ามายุ่งกับผมอยู่แล้วแต่กับเธอนี่สิไม่รู้จะเป็นยังไงกลัวว่าจะโดนแฟนคลับผมแกล้งลับหลังผมน่ะสิ ถ้าเรื่องของเธอและผมแพร่ออกไป
คิดอะไรไปสักพักผมก็มาถึงตึกของผู้บริหาร ผมเดินลงจากรถ เดินไปยังลิฟต์ทันทีเพื่อขึ้นไปยังห้องผู้บริหารมหาลัยเพื่อไปเซ็นเอกสาร พอเซ็นเสร็จผมก็ตรงไปยังตึกคณะที่ผมเรียน ถึงผมจะเป็นถึงผู้บริหารมหาลัยแต่ผมก็ใช้ชีวิตตามปกติ คือเรียนเท่าเพื่อนเรียนห้องเดี่ยวกันกับเพื่อนๆ ในมหาลัย ถึงทุกคนจะเกรงกลัวผมอยู่บ้างผมก็ไม่รู้จะทำยังไงนะแค่ทำตัวตามปกติ
“เฮ้ เจสันทางนี้” เสียงบีมเพื่อนสนิทผมเรียกขึ้นทันทีที่เห็นผมเดินเข้ามาที่ห้อง ผมจึงเดินเข้าไปหามันและเห็นมาร์คนั่งอยู่ด้วย
“มานานแล้วเหรอ” ผมถามพวกมันออกไป เห็นมาร์คทำหน้าเซ็งๆ หมอนี้ต้องมีเรื่องไม่สบายใจแน่ๆ แต่มันก็ไม่ยอมเล่าให้ใครฟังหรอกนอกจากมันจะสุดๆ จริงๆ แต่พอเพื่อนมีอะไรนิดหน่อยมันก็ชอบยื่นมือเข้ามาช่วย พอเป็นเรื่องของตัวเองเงียบไม่เล่าให้เพื่อนฟังซึ่งพวกผมก็ไม่อยากเซ้าซี้
“อืม” บีมตอบผมแค่สั้นๆ ไอ้นี่มันจะประหยัดคำพูดไปไหน
“เจสัน เด็กนายเป็นไงบ้าง” มาร์คที่เงียบอยู่นานถามผมขึ้นเรื่องของลูกน้ำ ที่มันถามผมแบบนี้เพราะวันนั้นผมให้มันไปเฝ้าลูกน้ำ ตอนผมขับรถเฉี่ยวเธอ และคืนนั้นที่เรียกเธอมาหามันยังรู้อีกด้วยว่าดีเจที่ผับกับลูกน้ำคือคนคนเดียวกัน และผมว่ามันยังดูออกอีกว่าผมสนใจในตัวลูกน้ำ
“ก็ไม่ไง ก็ดี” ผมพูดแค่นั้นเพราะไม่อยากพูดอะไรมากเดี๋ยวพวกมันก็เห็นเอง สักพักอาจารย์เข้ามาสอน
ผมคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับลูกน้ำรู้สึกว่าผมจะมีอะไรให้คิดมากขึ้นโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเธอจนผมไม่มีสมาธิในการเรียน จนกระทั่งหมดคาบเรียนของชั่วโมงนี้และวันนี้ผมก็ไม่ได้ฟังเลยว่าอาจารย์พูดเรื่องอะไร
“เจสัน นายจะไปไหนต่อ” มาร์คถามผมขึ้นผมจึงหันมาให้ความสนใจกับมัน
“ว่าจะกลับไปอ่านเอกสารที่ห้องซะหน่อยมีค้างอยู่น่ะ นายล่ะ”
“ฉันว่าจะกลับไปนอนวะเมื่อคืนหนักไปหน่อย แล้วคืนนี้ก็ว่าจะเข้าผับซะหน่อย นายล่ะ” มาร์คถามผมจบแล้วหันหน้าไปพูดกับบีม
“กลับ” บีมพูดแค่นั้นแล้วเดินออกไปทันที
ผมก็เดินมาที่รถขับออกไปที่ตึกผู้บริหารทันที เข้ามาอ่านเอกสารรอเวลาลูกน้ำเลิกเรียนดีกว่า สำหรับผมการเป็นผู้บริหารมหาลัยชื่อดัง มันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่มันก็ไม่เกินความสามารถของผมหรอก ผมเข้ามาเรียนรู้งานเกี่ยวกับการบริหารงานต่างๆ เกี่ยวกับกิจการในตระกูลตั้งแต่อายุสิบห้า หนึ่งในกิจการของตระกูลของผมก็คือมหาลัยแห่งนี้
ครอบครัวของผมมีธุรกิจอยู่หลายแห่งทั่วโลก จะว่ารวยล้นฟ้าก็ว่าได้ผมมีพี่น้องอยู่สามคน ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมดและผมเป็นคนสุดท้องต่างคนก็รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ส่วนพ่อกับแม่ของผมก็บริหารงานอยู่ที่สาขาใหญ่ในอเมริกา ซึ่งเป็นกิจการเกี่ยวกับโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา ท่านจึงมอบหมายมหาลัยนี้ให้ผมเป็นคนดูแล ผมจึงต้องมาเรียนที่นี่ด้วยเลย
ผมมาบริหารมหาลัยนี้ได้สองปีแล้วแต่ก่อนผมเรียนอยู่ที่อเมริกา แต่พอต้องมาบริหารมหาลัยแห่งนี้ผมจึงย้ายมาเรียนที่มหาลัยตัวเองซะเลย มันอาจจะดูแปลกๆ ที่ผู้บริหารจะมาเรียนกับคนในปกครองของตัวเอง ถึงความรู้ของผมไม่จำเป็นต้องเรียนแล้วก็ตามแต่ผมก็อยากจะใช้ชีวิตในช่วงวัยรุ่นให้คุ้มค่าเหมือนกัน ถึงมันจะไม่เต็มที่ก็เถอะ
ตอนมาที่นี่แรกๆ ทุกคนอาจมองว่าผมจะทำมันไม่ได้แต่ผมก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าผมทำได้ และดีเสียด้วยและเพราะบุคลิกของผมที่ทำตัวเย็นชาเด็ดขาดไม่เคยล้อเล่นกับใครจึงทำให้คนอื่นเกรงกลัวผมอยู่ไม่น้อย
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่านิสัยผมเป็นยังไง ผมไม่ค่อยแสดงออกให้ใครเห็นหรอกนอกจากเพื่อนสนิทของผมนั่นคือ มาร์ค และ บีม ทั้งมาร์คและบีมเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่ของพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกัน ทำให้เราสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ แต่มาร์คกับบีมอยู่ที่เมืองไทยไม่ได้อยู่เมกาเหมือนผม แต่พวกเราก็ติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ พอผมมาบริหารมหาลัยนี้ก็ได้พวกนี้แหละคอยช่วยเหลือ
นั่งอ่านเอกสารพักใหญ่ก็เป็นเวลาบ่ายโมง ไปรับยัยเฉิ่มดีกว่าป่านนี้คงจะเลิกเรียนแล้ว
ผมขับรถมาถึงหน้าตึกคณะของลูกน้ำ พยายามมองหายัยนั่นว่าอยู่ตรงไหน ผมบอกว่าให้รอที่หน้าคณะแล้วอยู่ไหนนะหรือว่ายังไม่เลิกเรียน สายตาผมสอดส่องไปทั่วหน้าคณะก็สะดุดกับชายหญิงคู่หนึ่ง ผมเม้มปากแน่น จ้องมองทั้งสองคนไม่วางตา เห็นเฉิ่มๆแบบนี้ก็มีผู้ชายเข้าหาเหมือนกันหนิ
ผมเดาว่าไอ้หมอนี่น่าจะเรียนอยู่คณะเดียวกันกับเธอ มันมาจีบเธองั้นเหรอ นี่ขนาดแต่งตัวเป็นยัยเฉิ่มยังเสน่ห์แรงขนาดนี้ถ้ายัยนั่นลอกคราบออกไม่อยากจะคิดเลย จะมีหนุ่มๆเข้ามาจีบมากขนาดไหนแต่ผมจะไม่มีวันยอมให้มันเป็นอย่างนั้นแน่นอน ถึงยัยนี่จะอยู่ในลุคไหนผมก็จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาจีบเธอได้ทั้งนั้น