ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 49 ตอนพิเศษ 1
“น้ำเสร็จรึยังจ๊ะลูก” คุณแม่แพรไหมเข้ามาเรียกฉันที่กำลังแต่งตัวอยู่ ที่จริงเจสันให้ฉันเรียกแม่แพรไหมว่ามัมเหมือนกับเขาแต่ฉันก็ปฏิเสธอยากเรียกแม่มากกว่าเพราะมันชินปากและฉันก็คิดถึงแม่ด้วยพอมาอยู่ใกล้ท่านมันทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น
“เสร็จแล้วค่ะคุณแม่” ฉันตอบท่านออกไปหลังจากช่างแต่งหน้าที่ทำหน้าที่อยู่ล่ะออกจากใบหน้าฉัน ฉันก็ลุกขึ้นสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจก ไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้
“สวยมากเลยจ้ะ ไปดีกว่าพี่เขามารอแล้ว” แม่แพรไหมเดินเข้ามาหาฉันชวนฉันเข้าไปในงาน ฉันจึงยิ้มให้ท่านและพากันเดินออกไปวันนี้ฉันอยู่ในชุดสีขาวแสนสวย ช่วงบนจะเป็นแบบเกาะอกรัดรูปจนถึงช่วงเอวขอดส่วนกระโปรงจะเป็นแบบทรงสุ่มบานฟู่ฟองสไตล์แนวเจ้าหญิงในเทพนิยาย เป็นแบบที่ฉันฝันไว้ไม่มีผิด ช่วงเช้าเราได้แต่งงานแบบไทยๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอตกมาถึงตอนเย็นเป็นงานเลี้ยงและเราจะไปเข้าพิธีที่โบสถ์อีกทีเนื่องจากแด๊ดของเจสันอยากจะให้เข้าฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเป็นธรรมเนียมของฝ่ายเจ้าบ่าว
ฉันกับแม่แพรไหมเดินออกมาถึงหน้าห้องจัดเลี้ยงก็เห็นเจสันยืนอยู่ก่อนแล้วเพื่อต้อนรับแขก พอเขาเห็นฉันก็ทำหน้าตะลึงนิดหน่อยแล้วก็รีบเดินมาหาฉัน
“เจ้าสาวของพี่สวยที่สุดเลยครับ” พอเดินมาถึงตัวฉันเจสันก็เอ่ยชมฉันพร้อมกับมือที่มาโอบเอวฉัน ก้มหน้าลงมาใกล้ๆ เจสันอยู่ในชุดสูทสีขาวเรียบหรูที่ปกปิดร่างกายกำยำเอาไว้อย่างหล่อเหลาสมกับเป็นเจ้าบ่าวในวันนี้
"ขอบคุณค่ะ เจ้าบ่าวของน้ำก็หล่อที่สุด"ฉันพูดออกไปพร้อมกับยิ้มให้เขา
“อิจฉาเว้ย”
“อิจฉาก็รีบหาสิวะ” เป็นพี่มาร์คที่เอ่ยแซวเราเมื่อเดินมาถึง
“กูยังไม่อยากมี”
“ไม่อยากมีหรือเขาไม่เอามึงกันแน่” เจสันเอ่ยแซวต่อ ทำไมถึงพูดอย่างนั้นแสดงว่าพี่มาร์คมีผู้หญิงที่หมายปองแล้วแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบพี่แกเหรอ ใครกันช่างใจร้ายฉันว่าพี่มาร์คเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดในสามคนนี้นะ เป็นคนอารมณ์ดีอยู่ด้วยแล้วน่าจะมีความสุข
“พูดมาก วันนี้น้องลูกน้ำของพี่สวยที่สุดเลยครับ” พี่มาร์คเปลี่ยนเรื่องแล้วหันมาคุยกับฉันแทน
“ของมึงที่ไหนของกู” เจสันพูดพร้อมกับทำหน้าดุๆ ให้กับเพื่อน พร้อมกับดึงฉันเข้าไปกอดให้แน่นขึ้น พ่อคนขี้หวง พี่มาร์คได้แต่ยิ้มกับท่าทางนั้นของเจสัน
“ขอบคุณมากนะคะพี่มาร์ค” ฉันเอ่ยขอบคุณพี่มาร์คไม่สนใจคนที่ทำหน้าอึดฮัดของคนที่อยู่ข้างๆ
“พี่ลูกน้ำ พี่เจ ยินดีด้วยนะคะ” เสียงหวานใสเอ่ยเข้ามาเมื่อเดินมาถึงเราทั้งสามคน ตอนนี้แขกในงานเริ่มทยอยมากันมากแล้วส่วนมากจะเป็นญาติๆ ของเจสันเพราะฉันไม่มีญาติที่ไหน
“น้องอลิช นึกว่าจะไม่มาสะแล้ว” เป็นฉันที่เป็นฝ่ายยิ้มดีใจเมื่อเห็นอลิชเดินเข้ามาหาเรา
“มาสิคะ งานแต่งของพวกพี่ทั้งที ยินด้วยนะคะ” อลิชพูดพร้อมกับเดินเข้ามากอดฉันเพื่อแสดงความยินดี
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่ลูกน้ำก็สวย พี่เจก็หล่อเหมาะสมกันมากเลยค่ะ” อลิชยังไม่หยุดชมเราสองคน พร้อมกับรอยยิ้มสดใสของเธอ น่ารักจริงๆ เด็กคนนี้
“มองขนาดนี้เอากลับบ้านไปด้วยเลยไหม” เจสันหันไปพูดกับพี่มาร์คเมื่อเห็นพี่มาร์คมองอลิชนานเกินไป
“ถ้าเขากลับด้วยก็ดีสิ” เป็นฝ่ายพี่มาร์คที่เอ่ยรับมุกเจสัน สองคนนี้เห็นพูดหยอกล้อกันตั้งแต่อลิชมาไทยครั้งก่อนแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าความสัมผัสของสองคนนี้ไปถึงไหนแล้ว
“ไม่กลับด้วยหรอกค่ะ กลัว” อลิชพูดขึ้นพร้อมกับมองไปยังพี่มาร์คแล้วทำหน้าเชิดๆ นิดหน่อย
“กลัวอะไรครับ บ้านพี่ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว” พี่มาร์คก็หันไปพูดกับอลิช
“กลัวเจอหนูค่ะ” อลิชก็ไม่ยอมแพ้
“หนูอะไรบ้านพี่ไม่มีหนูนะคะ” พี่มาร์คยังพูดต่อสองคนนี้ทะเลาะกันน่ารักจริงๆ คราวก่อนที่อลิชมายังเข้ากันได้ดีอยู่เลยแต่พอทำไมมาตอนนี้กับทะเลาะกันซะได้
“อิหนูไงคะ ชิ อลิชไปสวัสดีคุณลุงคุณป้าก่อนนะคะพี่เจพี่ลูกน้ำไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆ” พูดจบอลิชก็สะบัดหน้าเดินออกไปไม่สนใจพี่มาร์คพี่กำลังจะเอ่ยปากพูด อิหนูพี่แกมีอิหนูเหรอ
“พี่มาร์คไปทำอะไรให้น้องอลิชโกรธรึเปล่าคะ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย
“เอ่อ”
“ก็มันแอบไปมีอิหนูตอนอลิชไม่อยู่หน่ะสิครับ” เป็นเจสันที่เป็นฝ่ายเอ่ยข้อข้องใจให้ฉัน และฉันได้รู้อีกอย่างหนึ่งคืออลิชกับพี่มาร์คครบกันงั้นเหรอ ฉันก็เลยพยักหน้าเข้าใจได้แต่ยิ้มแหย่ๆ ให้พี่มาร์ค
“ไม่มีสักหน่อย” พี่มาร์คเอ่ยออกมาแต่เป็นเสียงที่เบา
“อ้าว พี่บีมกับน้องหนูดีมาแล้วค่ะ” ฉันพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นพี่บีมกับน้องหนูดีควงคู่เข้ามาในงานคู่นี้ก็เป็นอีกคู่ที่น่ารัก
“ยินดีด้วยนะคะ พี่ลูกน้ำพี่เจสัน” หนูดีพูดพร้อมกับยิ้มให้ฉัน
“น้องสาวพี่สวยที่สุดครับ” พี่บีมเดินเข้ามาหาฉันพร้อมกับมือที่ยกขึ้นลูบหัวฉันเบาๆ พี่บีมใจดีกับฉันและเอ็นดูฉันเสมอ
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มขอบคุณทั้งสองคนออกไป
"น้ำเรายินดีด้วยนะ” เป็นชาลีที่เดินเข้ามาสมทบอีกคน
“ขอบคุณนะ” ฉันก็ขอบคุณออกไป
“พี่เจนนี่” ฉันร้องทักขึ้นเมื่อเห็นพี่เจนนี่เดินเข้ามา
“ยินดีด้วยนะจ๊น้องสาวของพี่” พี่เจนนี่พูดพร้อมกับเข้ามาสวมกอดฉัน
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“ไอ้เจได้เวลาขึ้นเวทีแล้ว” เป็นพี่จิมมี่ที่เดินเข้ามาหาพวกเรา บอกว่าจะได้เวลาแล้ว
“เออๆ” เจสันพูดตอบรับออกไป
และตอนนี้เราสองคนก็ยืนอยู่บนเวทีที่จัดไว้อย่างสวยงาม พิธีกรในงานก็เริ่มพูดฉันกับเจสันก็ยืนจับมือกันอยู่เขาจับมือฉันไว้ตลอดเวลา
“เอาละครับเรามาถามเจ้าบ่าวเจ้าสาวดีกว่าครับ มีใครอยากรู้บ้างว่าทั้งสองคนรักกันได้ยังไง” พิธีกรหันมาหาเราสองคน
“อยากรู้” เสียงแขกในงานพูดขึ้น
“โอเคครับ เริ่มจากเจ้าบ่าวก่อนก็แล้วกันนะครับ ถามว่าเจ้าบ่าวเจอกับเจ้าสาวครั้งแรกที่ไหน” พิธีกรเริ่มถามคำถามแรก
“ครับ เอ่อ เจอกันที่ไหนเหรอ เจอที่ริมถนนครับตอนนั้นมียัยเฉิ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาตัดหน้ารถผมครับ” เจสันตอบออกไปพร้อมกับมองหน้าฉันไปด้วย
“ว้าว พรหมลิขิตชัดๆ ว่าไหมครับ” พิธีกรเอ่ยแซว ใช่ฉันก็คิดว่ามันเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ฉันได้เจอกับเขา
“มาถึงฝั่งเจ้าสาวบ้าง รู้สึกว่าตัวเองรักเจ้าบ่าวตอนไหนครับ” พิธีกรถามคำถามฉัน ฉันก็หยุดคิดไปเพราะฉันเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าเริ่มรักเขาตั้งแต่ตอนไหนพอเวลาผ่านไปจากที่แค่เริ่มหวั่นไหวไปกับเขา กลายเป็นรักแล้ว
“อืม คงจะเป็นตอนที่เขาทำกับข้าวเพื่อง้อฉันครั้งแรกมั้งคะ จำไม่ได้แล้วเหมือนกันคะพอรู้ตัวอีกทีก็รักไปแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับหน้าที่ฉันรู้แล้วว่ามันเริ่มแดงด้วยความเขิน
“ว้าว ผมว่าหลายๆ คนในที่นี้คงมีคนอิจฉาตาร้อนกับความหวานของเขาทั้งคู่ใช่ไหมครับ” ฉันกับเจสันยิ้มหวานให้กัน
“มาถึงฝ่ายเจ้าบ่าวแล้วครับ เป็นคำถามเดียวกัน ว่าคุณเริ่มรักเจ้าสาวของคุณตั้งแต่ตอนไหน” พอพิธีกรพูดจบเจสันก็หันหน้ามองมองฉัน ฉันได้แต่ยิ้มให้เขา เขาก็เริ่มพูด
“เริ่มรู้สึกว่าตัวเองรักเจ้าสาวแสนสวยของผมตั้งแต่ตอนที่ไม่มีเขาอยู่ด้วยครับ คิดถึง โหยหา อยากเจอ อยากกอด และวันที่ผมทำเธอเสียใจทำเธอร้องไห้ มันทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ชอบน้ำตาของผู้หญิงคนนี้เสียเลย มันทำให้ผมเจ็บไปกับเธอด้วย นั่นแหละครับผมถึงรู้และมีคำตอบให้กับตัวเอง ว่ารักเธอ” เจสันพูดพร้อมกับกอดฉันไปด้วย
กรี๊ดดดดด เสียงกรีดของผู้หญิงในงานดังขึ้น ฉันก็เขินสิคะ
“เลี่ยนวะ อิจฉาโว้ย” เป็นเสียงพี่เจมส์พูดขึ้นหลังจากที่เจสันพูดจบ แล้วเสียงแขกในงานก็พากันหัวเราะ
“เอาละครับพอหอมปากหอมคอต่อไปให้เขาไปสวีทกันสองต่อสองดีกว่า มาถึงช่วงสุดท้ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวมีอะไรจะพูดไหมครับ
“เอ่อ ผมก็ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ครับ ขอบคุณมัมกับแด๊ด และก็ขอบคุณเจ้าสาวสวยของผมที่เธอมายืนอยู่ข้างๆ ผมในวันนี้ ขอบคุณในความรักที่เธอมีให้ผม ผมจะไม่สัญญาอะไรเพราะคำสัญญาเมื่อพูดไปแล้วแต่ทำไมได้ผมกลัวว่าจะทำให้เธอเสียใจและยึดติดกับมัน แต่ผมจะทำทุกวันให้ดีที่สุดทำให้เธอเห็นว่าผมรักเธอมากแค่ไหน” เจสันพูดพร้อมกับกอดฉันแน่นขึ้น ฉันน้ำตาไหลกับคำพูดของเขา เขาก็ยกมือเช็ดน้ำตาให้กับฉันด้วยแววตาที่อ่อนโยนฉันคิดไม่ผิดที่ฝากชีวิตให้กับผู้ชายคนนี้
“ว้าว ตาร้อนผ่าวกันเลยทีเดียว เจ้าสาวล่ะครับ” พิธีกรเอ่ยต่อ
“สำหรับน้ำก็ขอบคุณทุกคนเช่นกันนะคะที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอบคุณแม่แพรไหม แด๊ดโจเชพที่เอ็นดูน้ำไม่รังเกียจผู้หญิงคนนี้ และขอบคุณผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ น้ำตอนนี้ ที่เขารักผู้หญิงธรรมดาคนนี้ ที่เขาเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดในชีวิต ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณจริงๆ น้ำจะเป็นภรรยาที่ดีให้พี่เจนะคะ” ฉันพูดออกไปพร้อมกับสวมกอดเขา แขกในงานก็ปรบมือแสดงความยินดีกับเรา และพิธีกรก็บอกให้เราจูบกัน เจสันก็มอบจูบแสนหวานให้กับฉันจูบที่สื่อถึงทุกสิ่งอย่าง ว่าเขาจะปกป้องดูแลฉันไปตลอดชีวิต
งานเลี้ยงเมื่อตอนเย็นก็ผ่านพ้นไปตอนนี้ฉันกับเจสันก็อยู่ในห้องหอ ห้องที่มีแต่เราสองคน
“พี่เจรูดซิปข้างหลังให้หน่อยสิคะ” ฉันพูดบอกเจสันเมื่อรูดซิปข้างหลังไม่ถึง ว่าจะถอดชุดและไปอาบน้ำซะหน่อยเหนื่อยมากเลยวันนี้แต่ก็เป็นวันที่ฉันมีความสุดที่สุดเลย
“ยั่วพี่รึเปล่าเนี่ย” เจสันเมื่อได้ยินสิ่งที่ฉันพูดเขาก็เดินมาข้างหลังฉันแล้วรูดซิปลงให้แต่มือเขาก็ยังมิวายลูบไล้แผ่นหลังเปลือยเปล่าของฉันตามรอยแยกที่เขารูดซิปลง
“ยั่วอะไรกันคะสามีขา” ฉันตอบกลับไปเสียหวานแล้วหันหน้าไปหาเขาพร้อมส่งสายตายั่วยวนไปให้ฉันก็เจอสายตาพิฆาตตอบกลับมา ใบหน้าของเข้าโน้มลงมาหาฉันพร้อมกับมือที่กอดกระชับเอวฉันเข้าไปหา
“นี่ไม่ได้ยั่วเลยเนอะ ไปอาบน้ำดีกว่าเดี๋ยวสามีจะบริการให้” เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาแพรวพราวมาให้ฉันซึ่งฉันเองก็ไม่ขัด วันแต่งงานของเรา เราก็ควรจะทำให้มันมีความสุขที่สุดให้ครบสูตรว่าไหมถึงแม้จะเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม
“รออยู่ค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับถอยหลังส่งสายตาเชิญชวนไปให้เขา เจสันก็เดินตามฉันเข้าในห้องน้ำ
“หยุดก่อนค่ะ” เมื่อฉันเดินถอยหลังเข้ามาในห้องน้ำฉันก็บอกให้เขาหยุดเดินซะก่อน เขาก็ยอมหยุดแต่สายตาเราสองคนยังไม่ละออกจากกัน ฉันจึงเริ่มถอดชุดแต่งงานแสนสวยออกอย่างช้าๆ รูดลงมาเผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มของฉัน
“ว้าว ห่างกันสองปีร้อนแรงขึ้นนะเนี่ย” เขาเอ่ยแซวเมื่อฉันเริ่มถอดชุดออก ตอนนี้เสื้อเกาะอกมากองอยู่ที่เอวขอด ข้างบนเปลือยเปล่าแต่ข้างล่างยังไม่กระโปรงฟู่ฟองอยู่
“แล้วสามีขาคิดว่าไงละคะ” ฉันพูดพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนไปให้เขา ฉันจะต้องหาวิธีมัดใจสามีไม่ให้ออกจากบ้าน ฉันจะต้องเป็นภรรยาที่ดีและทำให้เขาอิ่มไม่ออกไปหากินข้างนอกฉันรู้ว่าเจสันเขาหื่นขนาดไหนและความต้องการสูงด้วย
“อืม ต้องลองครับถึงจะรู้” เขาพูดพร้อมกับย่างสามขุมเข้ามาหาฉัน โดยที่ฉันเปลือยหน้าอกอยู่ เขาเดินเข้ามาพร้อมกับจับฉันขึ้นนั่งที่เค้าเตอร์อ่างล้างหน้า
“อ่ะ” ฉันตกใจรีบกอดเขาไว้เพราะกลัวจะตก
“ใหญ่ขึ้นป่ะเนี่ย” เจสันพูดพร้อมกับมือที่กำลังนวดเฟ้นหน้าอกฉันอยู่ ฉันจึงตีแขนเขาไปหนึ่งที
ตุบ
“พี่เจ” ฉันเอ็ดออกไปด้วยความเขิน เห็นฉันทำอย่างนี้ฉันก็เขินเป็นเหมือนกันนะเมื่อเขาพูดตรงๆ
“จริงนี่น่า ดูสิเต็มมือพี่ยิ่งกว่าเดิมอีกขอชิมหน่อยนะ” ไม่พูดเปล่าเขากอบโกยทรวงอกของฉันขึ้นมาแล้วครอบครองมันด้วยความอ่อนนุ่มที่เปียกชุ่มของเขาจากค่อยๆ ละเมียดละไมชิมทีละนิดกลายเป็นดุดันและร้อนแรงขึ้นเรื่องจนฉันเผลอจิกหัวเขาแล้วแอ่นหน้าอกให้เขาได้ดูดดึงมากขึ้น เผลอครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
“อืม เจ็บอย่ากัดนะ” ฉันเอ็ดเขานิดหน่อยเมื่อเขาใช้ฟันกัดหน้าอกฉัน
“มันเขี้ยว อืม” เขาเงยหน้าขึ้นมาพูดแล้วก้มลงไปหามันต่อ แลบลิ้นออกมาไล่วนรอบเม็ดทับทิมของฉันจนตอนนี้มันมีแต่น้ำลายของเขาเปียกชุ่มไปหมด ฉันได้แต่แอ่นหน้าอกให้เขาได้ทำอย่างสะดวกขึ้น
“อ่าส์ อืม” ฉันเผลอครางออกมาเสียงเบาๆ มือฉันสางเข้าไปในกลุ่มผมดกดำของเขามากขึ้น เจสันยังอยู่กับหน้าอกของฉัน
“เกะกะ แต่ก็ไม่เลวเซ็กในชุดเจ้าสาวเพราะมันจะได้ทำให้นึกถึงวันแต่งงานของเรา ว่าไหม” เขาสบถออกมาเบาๆ แล้วเขาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉันสายตาเต็มไปด้วยไฟสวาทที่พร้อมจะแผดเผาฉันได้ทุกเมื่อ
“พี่เจพูดมากจัง จะทำอะไรก็รีบเลยค่ะน้ำง่วงแล้ว” ฉันไม่ตอบเขาเพราะเขินมากกว่า เซ็กในชุดเจ้าสาวงั้นเหรอพูดอะไรของเขา
“เขินเหรอ หรือทนไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆ” เขาพูดพร้อมกับหัวเราะออกมายังจะมาแซวฉันอีกนะคนบ้าก็รู้อยู่ว่าเขิน
“งั้นปล่อยเลยน้ำจะไปอาบน้ำแล้ว” ตอนนี้ฉันไม่มีความกล้าอีกต่อไปเมื่อเขาเอาแต่ล้อฉันไม่เลิก ความกล้ามันอันตรธานหายไปหมด
“โอ๋ๆ ไม่ล้อแล้วครับ มาเริ่มกันดีกว่าวันแต่งงานของเรา เราก็ต้องทำให้มันสมบูรณ์สิครับ ไม่ได้เข้าห้องหอกับเมียได้ไง” เมื่อเขาเริ่มเห็นฉันงอน ก็ยื่นหน้าเข้ามาพูดใกล้พร้อมกับมือที่เริ่มที่จะสะกิดยอดอกของฉันอีกครั้ง
“อือ” เมื่อฉันไม่พูดอะไรเจสันก็เข้ามาจูบฉันแบบดูดดื่มร้อนแรงอารมณ์ฉันก็เริ่มกลับมาอีกครั้ง ฉันเริ่มจูบตอบเขา เราสองคนสอดประสานลิ้นเกี่ยวพันกันไปมาตามต้องการของอารมณ์ มือไม้ฉันก็ไม่อยู่นิ่งเริ่มถอดชุดสูทของเขาออกเขาก็ให้ความร่วมมือกับฉันอย่างดีโดยที่ปากของเราสองคนยังไม่ละออกจากกัน ฉันดึงทึ่งเสื้อเขาออกจนหมดทั้งชั้นนอกและชั้นในเหลือเพียงกางเกงที่ยังไม่ถอดตอนนี้เราสองเสมอกัน
“พี่เจทำอะไรคะ” ฉันร้องถามเมื่อเจสันผละออกจากตัวฉันเขาเลิกกระโปรงฉันขึ้นซึ่งมันก็ยากลำบากเหลือเกินเพราะกระโปรงฉันมันเป็นแบบฟองฟู่ยาวคุมลงไปถึงเท้า ตอนนี้เขาเลิกมันขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จเขาก็เลยเอาหน้ามุดเข้าไปในนั้นแล้วดึงกางเกงในฉันออกมา
“อืม มืดจัง” เขาพูดออกมาเมื่อเข้าไปในนั้นได้สำเร็จฉันรับรู้ได้ถึงมือหนาที่สะกิดติ่งเสียวฉันอยู่ตอนนี้ฉันได้แต่เอามือทั้งสองค้างค้ำเค้าเตอร์อ่างล้างหน้าไว้แล้วเอนตัวไปด้านหลัง
“อืม คนบ้า เล่นอะไรคะเนี้ย” ฉันโวยวายขึ้น เข้าไปแบบนั้นจะหายใจออกรึไงพ่อคุณ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เป็นอุปสรรคกับเขาสักนิดเมื่อฉันรับรู้ได้ว่าเขาเริ่มใช้ลิ้นที่เปียกชื้นสัมผัสกับส่วนเบาะบางของฉันอย่างแผ่วเบา มันทำให้ฉันสะดุ้งเบาๆ และยกสะโพกขึ้นอัตโนมัติ
“หวานไม่เปลี่ยน” เสียงพูดงึมงำอยู่ข้างล่างมันทำให้ฉันก้มหน้าลงไปมองเห็นแต่กระโปรงตัวเองที่ขยับขึ้นลงเบาๆ เมื่อเจสันเขาเริ่มรุกล้ำฉันมากขึ้น ลิ้นหน้าสอดเข้ามาข้างในตัวฉันกระดกขึ้นลงตามจังหวะที่เขานำพา
“อ๊าส์ พี่เจ อืม” ฉันครางเรียกชื่อเขาเมื่อความเสียวเข้ามาเป็นระลอก ปากและลิ้นเขาร้ายกาจกับฉันเสมอ สะโพกฉันกระดกเด้งขึ้นตามเขาเมื่อรับรู้ว่าตัวเองใกล้เสร็จสม
“อ๊าส อ๊ายย กรี๊ดด” ฉันกรีดร้องออกมาเมื่อลิ้นของเจสันทำให้ฉันได้ไปเตะขอบสวรรค์รอบแรก ฉันหอบหายใจอย่างหนัก เจสันก็เอาหน้าออกมาจากตรงนั้นพร้อมกับแลบลิ้นเลียริมฝีปากไปด้วย
“หึ อร่อยจัง” เขาหัวเราะในลำคอพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาพูดชิดริมฝีปากฉัน
“ดีไม่ขาดอากาศหายใจตายไปก่อน” ฉันพูดออกไปมุดเข้าไปขนาดนั้นไม่กลัวว่าจะขาดอากาศหายใจรึไงกระโปรงไม่ใช่บางๆ
“ไม่ขาดเหรอ เพราะพี่ได้ผายปอดเรียบร้อยแล้ว” เขาพูดพร้อมกับสายตาล้อเรียนฉันไปในตัว
“คนบ้า” ฉันทุบหน้าอกของเขาไปหนึ่งทีด้วยความเขิน ผายปอดบ้าอะไร
“เปลี่ยนที่บ้างดีกว่า” เจสันพูดแบบนั้นพร้อมกับยกฉันลงมายืนข้างล่างส่วนเขาก็ขึ้นไปนั่งข้างบนแทนฉัน
“อะไรคะ” ฉันถามออกไป ตอนนี้ฉันมองเห็นตัวเองอยู่ในกระจกข้างหลังเขาแล้วรู้สึกเขินอายจะยังไงไม่รู้
“จัดการสามีหน่อยสิครับเมียจ๋า” เจสันพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับฉันพร้อมกับคว้ามือฉันลงไปที่เป้ากางเกงของเขา ตอนนี้กล้ามท้องเป็นลอนสวยโชว์หราอยู่ตรงหน้าฉัน ดูเหมือนว่าเขาจะหุ่นดีกว่าสองปีก่อนด้วยซ้ำ
“จัดการยังไงดีคะ” ทั้งที่ฉันรู้อยู่แล้วแต่ก็แกล้งถามพร้อมกับมือที่ขยับน้องชายเขาไปด้วย
“โอ้ววว ที่รักเอามันออกมาข้างนอกดีกว่า” เจสันร้องขึ้นทันทีที่ฉันเล่นกับน้องชายของเขา มันเรียกร้องที่จะออกมาข้างนอกฉันจึงจัดการรูดซิปกางเกงเขาพร้อมกับดึงชั้นในของเขาลง เจ้าน้องชายเขาก็ดีดพึ่งออกมาสูดอากาศข้างนอกทันที มันทำให้ฉันตาโต
“ไม่เจอมันนาน มันโตขึ้นใช่รึเปล่า” เจสันพูดขึ้นเมื่อเขาเห็นตาโตเมื่อฉันเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“ก็ เอ่อ ไม่เห็นเท่าไหร่เลย” ฉันพูดออกไปไม่เต็มเสียงนัก มือคอยๆ เขาไปกอบกุมมันไว้ปรากฏว่ามันเกือบจะกุมไม่รอบมือฉันมันโตขึ้นจริงๆ ด้วย
“หึๆ” เจสันหัวเราะในลำคอเบาๆ เมื่อทำเห็นฉันทำหน้าตาแบบนั้น ฉันตวัดสายตามองเขานิดหน่อย แล้วกลับลงมาจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือฉันต้องยอมรับว่าเขินเพราะไม่ได้เจอมันนาน แต่ฉันยังมีความกล้าอยู่ขยับมือขึ้นลงเบาๆ และดูเหมือนสะโพกสอบของเจสันจะเด้งตามมือฉันด้วย ฉันได้แต่ยิ้มกริ่มอยู่ตรงมุงปาก
“ขอเร็วกว่านี้หน่อยเมียจ๋า ซี๊ด” เมื่อฉันเริ่มขยับเจสันก็ร้องขอให้ฉันขยับเร็วขึ้นฉันจึงทำตามคำขอของเขาครางออกมาเมื่อฉันเร่งความเร็ว
“ขอปาก อ๊าส์” เสียงครางกระเส่าพร้อมกับเสียงพูดที่ร้องขอฉันออกมาอย่างแผ่วเบาของเจสันทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมองเขาเห็นเขาทำหน้าบิดเบี้ยวเงยเกด้วยความเสียวซ่าน ฉันจึงก้มลงใช้ปากครอบครองตัวตนของเขาตามคำร้องขออีกรอบ
“โอ้ววว สุดยอด เมียจ๋าเร็วหน่อย” เสียงครางกระเส่าพร้อมกับสะโพกที่เด้งสวนขึ้นลงกับปากของฉันมือเขาจับอยู่ที่ผมฉันของแต่ไม่ได้ขย้ำหรือจิกให้ฉันเจ็บ ฉันจึงเร่งขยับปากเร็วขึ้นพร้อมกับดูดดึงรัวลิ้นใสส่วนปากยอดของน้องชายเขามากขึ้น
“อือ”
“โอ้ว จะเสร็จแล้ว เมียจ๋า เมียจ๋า อ๊าสสส” เจสันรัวสะโพกใสฉันไม่ยั้งเมื่อเขาจะเสร็จฉันได้แต่ครางในคอเมื่อเริ่มจะหายใจไม่ออก เขาใช้มือหนึ่งค้ำยันตัวเองไว้อีกข้างจับผมฉันอยู่สะโพกก็เด้งสวนขึ้นมา
“แค๊กๆ แค๊กๆ” ฉันไอออกมาเมื่อเขาฉีดพ่นน้ำรักของเขาเข้ามาเต็มปากฉันเต็มเป่า
“อืม ขอโทษครับมันยั้งไม่อยู่” เจสันขอโทษฉันพร้อมกับจับฉันขึ้นไปจูบพร้อมกับกวาดชิมน้ำรักที่เขาปล่อยใส่ปากฉันไปด้วยเหมือนต้องการจะขอโทษ