“เธอตั้งสติให้ดีนะ คิดถึงผลที่จะตามมาด้วย ถ้าเกิดเธอฆ่าฉันขึ้นมาเธอจะติดคุก พ่อแม่เธอจะเสียใจแค่ไหน” ฉันพยายามพูดให้เธอกลับใจ คนเราตอนทำไม่คิดหรอกแต่พอทำเสร็จแล้วมาคิดได้ทีหลังไม่ใช่แค่เราที่เสียใจแต่คนรอบข้างก็จะเสียใจไปด้วย
“แกไม่ต้องมาพูดให้ฉันใจอ่อน ไม่มีทาง ยังไงซะวันนี้แกต้องตาย ฮ่าๆ ๆ” ยัยป้าแนนหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ก๊อกๆ ๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นยัยป้าแนนก็หันไปทางต้นเสียง ฉันจึงใช้จังหวะนั้นวิ่งไปผลักเธอสุดแรงเกิดยัยป้าแนนก็ล้มลงฉันจึงรีบวิ่งไปที่ประตู
“แก กลับมาเดียวนี้ อีลูกน้ำ อ๊ายยๆ” ฉันไม่ฟังเสียงเรียกนั้นรีบวิ่งไปให้ถึงประตูแล้วเปิดออก
“ลูกน้ำ เป็นอะไรวิ่งหนีใครมา” ทันทีที่เปิดประตูออก ฉันก็กับคนที่ทำให้ฉันรอดชีวิตมาได้
“ยัยป้าแนนอยู่ในนั้น เธอเป็นบ้าไปแล้ว”
“แกจะหนีไปไหน” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ ยัยป้าแนนที่ลุกขึ้นได้ก็ตะโกนออกมาจากห้อง
“เธอหลบไปก่อน ไปตามคนมาช่วยเดี๋ยวฉันจะกันแนนไว้ให้ก่อน”
“แต่”
“ไป รีบไป” ฉันรีบวิ่งลงมาข้างล่าง ตรงไปยังห้องที่เจสันทำงานทันที ตอนนี้หัวใจฉันเต้นแรงมาก กลัวไปหมด กลัวว่าชาลีจะเป็นอะไร ใช่แล้วคนที่มาช่วยฉันคือชาลีฉันไม่รู้ว่าเขามาได้ยังไง แต่ก็ขอบคุณเขามากที่มาทันเวลา พอวิ่งมาถึงหน้าห้องฉันก็รีบเปิดประตูเข้าไปทันทีโดยไม่เคาะ
“พี่เจ” ฉันพูดพร้อมกับหอบหายใจแรงๆ เหนื่อย
“น้ำ มีอะไรถึงลงมาหาพี่ เป็นอะไรรึเปล่า” เจสันที่เห็นฉันรีบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาก็ถามขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ
“ช่วยด้วย ยัยแนนมาที่นี่ ตอนนี้ชาลีกำลังกันไม่ให้เธอลงมาข้างล่าง” ฉันรีบพูดกลัวจะไม่ทันการ
“อะไรนะครับแล้วน้ำเป็นอะไรรึเปล่า” พอฉันพูดแบบนั้นเขาก็ถามออกมาด้วยสีหน้าตกใจ แล้วเดินมาสำรวจตัวฉันหมุนซ้ายหมุนขวา
“ไม่ค่ะ รีบไปกันเถอะค่ะ น้ำกลัวชาลีจะรับมือไม่ไหว ดูเหมือนเธอจะบ้าไปแล้ว” ฉันพูดด้วยความร้อนรน
“ครับๆ” พูดจบฉันกับเจสันก็รีบวิ่งออกไป พอเราสองคนวิ่งมาถึงบนห้อง ก็เห็นชาลีกับยัยป้าแนนกำลังแย่งมีดกันอยู่
“ชาลี” ฉันเรียกชาลีออกไปด้วยความเป็นห่วง
“ปล่อยนะไอ้บ้า ปล่อย ถ้าแกไม่ปล่อยฉันจะฆ่าแกอีกคน ปล่อย” ยัยป้าแนนพูดด้วยเสียงอาฆาตและพยายามดิ้นออกจากจับกุมของชาลี
“แนนหยุดซะ” เสียงเจสันดังขึ้น นั้นทำให้ยัยป้าแนนหันมามองและหยุดทุกการกระทำ นั้นจึงทำให้ชาลีจับตัวเธอไว้ได้
“เจสัน คะ ช่วยแนนด้วย อ๊าย ปล่อยนะไอ้บ้า” เสียงกรีดร้องดังคับห้อง ดีหน่อยที่ห้องนี้เก็บเสียง แต่ถึงจะร้องยังไงก็ไม่มีใครได้ยินหรอกเพราะตอนนี้เสียงเพลงดังกระหึ่มทั่วทั้งผับ
“มอบตัวซะ ก่อนที่เธอจะไม่เหลืออะไร” เจสันพูดขู่ออกไป ส่วนชาลีที่ตอนนี้จับยัยป้าแนนเอามือไขว้หลังได้แล้ว
“น้ำหาเชือกมาให้เราหน่อย” ชาลีพยายามจับยัยป้าแนนที่ดิ้นอยู่ให้อยู่นิ่งแต่มันเหมือนจะยากเลยเรียกให้ฉันหาเชือกให้
“ปล่อยนะ ปล่อยฉัน ไอ้บ้า” เสียงโวยวายยังคงไม่หยุด ส่วนฉันก็เดินออกไปข้างนอกไปขอเนกไทกับการ์ดสักเส้น พอได้มาก็ส่งให้ชาลี
“เรียบร้อย เหนื่อยชะมัด” เสียงชาลีที่บ่นออกมาหลังจากที่จับยัยป้าแนนมัดได้สำเร็จ
“เจสัน ปล่อยแนนนะ ปล่อย แนนรักคุณนะคะ แนนรักคุณ ฮือๆ” ยัยป้าแนนพูดโอดครวญไม่หยุด ตอนนี้เธอร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม ฉันรู้สึกสงสารเธอนะที่เธอเป็นแบบนี้สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากฉัน
“ไม่จริงหรอกแนนเธอไม่ได้รักฉัน เธอรักตัวเอง เธอแค่อยากเอาชนะฉันก็เท่านั้น” เจสันพูดกับเสียงเรียบนิ่งและจริงจัง
“อ้าวเฮ้ยเกิดอะไรวะ” อยู่ๆ พี่มาร์คเข้ามาในห้องและตามด้วยพี่บีมกับพี่เจนี่
“เธอบุกเข้ามาทำร้ายฉันค่ะ” ฉันพูดออกไปเสียงเบา
“ไม่จริงแนนรักคุณ อิลูกน้ำมันไม่มีอะไรที่เทียบแนนได้เลย ทำไมคุณต้องเลือกมัน ทำไมฮือๆ” เสียงร้องไห้พร้อมกับคำพูดที่ตะโกนออกมาเวลาที่พูดถึงฉันมันแสดงถึงความเกลียดชัง
“เธอต่างหากที่ไม่มีอะไรสู้ลูกน้ำได้เลย” เจสันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่จริง ฮือๆ มันไม่เหมาะสมกับคุณสักนิด ฉันต่างหาก ฉัน ฮ่าๆ” ยัยป้าแนนที่ตอนนี้ร้องไห้อย่างหนัก ดูเหมือนเธอจะเสียสติไปเลย จนฉันรู้สึกสงสารทนมองภาพนั้นไม่ได้เลยต้องหันหน้าไปทางอื่น
“เธอต้องยอมรับความจริง”
“ไม่จริง ไม่จริง ฮือๆ คุณต้องรักแนน ฮ่าๆ” ยัยป้าแนนร้องไห้อย่างหนัก ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะไม่มีฤทธิ์หลงเหลือแล้ว เธอเอาแต่พร่ำเพ้อและหัวเราะอยู่อย่างนั้นสลับกันไปมา
“เป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอวะ” พี่มาร์คพูดขึ้นหลังจากที่มองสถานการณ์อยู่
“เจนี่ ว่าเราเรียกตำรวจดีกว่าค่ะ” พี่เจนี่พูดเสนอขึ้น
“ใช่ครับ” ชาลีด้วยอีกคน
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่นี้เธอก็เจ็บปวดมากพอแล้ว” ฉันพูดขัดขึ้น แค่นี้เธอก็ไม่เหลืออนาคตแล้ว ฉันไม่อยากซ้ำเติมเธอไปมากกว่านี้
“แต่ เขาทำผิดนะน้ำ คนทำผิดต้องโดนลงโทษ ถ้าไม่ให้ตำรวจจัดการ เขาอาจกลับมาทำร้ายเราอีก” เจสันพูดขึ้น มันก็จริง แต่ดูตอนนี้สิ สภาพเธอน่าสงสารมากกว่านะฉันว่า ฉันไม่อยากทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ แค่คิดว่าฉันก็มีส่วนทำให้เธอเป็นแบบนี้ฉันก็รู้สึกผิดแล้ว
“ฮือๆ ๆ ฮ่าๆ ๆ เจสัน แนนรักคุณ ฮ่าๆ ๆ” เสียงหัวเราะเสียงร้องไห้ของยัยป้าแนนที่ดังขึ้นมันทำให้ขอบตาฉันร้อนผ่าว
“ไม่หรอกค่ะ พี่เจดูเธอสิคะ น้ำไม่อยากรู้สึกผิดมากไปกว่านี้ที่มีส่วนให้เธอเป็นแบบนี้” ฉันพูดออกไปพร้อมกับกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล เจสันก็เข้ามากอดฉันไว้
"น้ำไม่ผิดหรอกครับพี่เองที่ผิด แนนเป็นแบบนี้พี่ก็มีส่วน"เจสันพูดพร้อมกับกอดปลอบฉัน
“แล้วจะเอายังไง ถ้าจะปล่อยไปเฉยๆ ฉันว่าไม่ดีแน่” พี่มาร์คเสนอความคิดเห็น ฉันก็เห็นด้วยแบบที่พี่มาร์คว่า
“น้ำว่าเราส่งตัวให้พ่อเขาดีกว่าค่ะ แล้วก็ให้อยู่ในความดูแลของหมอ นะคะพี่เจ” ฉันหันไปมองหน้าทุกคน
“เฮ้อ” เสียงถอดหายใจของเจสันดังขึ้นหลังจากฉันพูดแบบนั้น ฉันเชื่อว่าถ้าเธอได้รับการรักษาเธออาจจะหายก็ได้ (ฉันนี่นางเอกสุดๆ)
“ก็ได้ เดี๋ยวพี่จัดการให้” พอเราตกลงกันได้แล้วเจสันก็รับปากว่าจะไม่ส่งเธอให้ตำรวจ จัดการส่งตัวให้กับพ่อของเธอ ฉันว่าเธอได้รับกรรมที่เธอทำเรียบร้อยแล้ว ตอนที่ลูกน้องของเจสันพาเธอออกไปเธอเอาแต่เหม่อลอย พูดแต่คำเดิมซ้ำๆ ไม่มีแรงจะทำอะไรใครสักนิด
“เรื่องร้ายๆ ก็ผ่านไปสักทีนะ” มาร์คมากเป็นคนพูดขึ้นหลังจากทุกอย่างจบลง
“งั้นพี่ไปดูแลความเรียบร้อยก่อนนะ” พี่เจนนี่ก็ขอตัวไปทำงาน
“น้ำขอบคุณทุกคนนะคะ โดยเฉพาะชาลี” ฉันเอ่ยขอบคุณชาลี
“ไม่เป็นไรเราเต็มใจ คนที่บอกจะดูแลน้ำแต่ก็ทำไม่ได้” ชาลีแขวะเจสันทันทีที่มีโอกาส
“เออ กูผิดเอง” แต่ครั้งนี้ดูเหมือนเจสันจะไม่ตอบโต้ชาลีอย่างแต่ก่อน แต่ยอมรับว่าตัวเองผิด เขาพูดพร้อมกับมองฉัน
“พี่เจไม่ผิดหรอกค่ะ เรื่องมันนผ่านมาแล้ว อย่าพูดถึงมันเลย ว่าแต่ชาลีหายไปไหนมา เราติดต่อไม่ได้เลยอาทิตย์ก่อนว่าจะชวนไปค่ายอาสาก็ติดต่อไม่ได้” ฉันเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดไปมากกว่านี้ ชาลีหายไปโดยที่ฉันติดต่อไม่ได้
“อ่อ เราไปทำธุระให้ป๋าที่ต่างประเทศหน่ะ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก เรื่องมันกะทันหันแล้วก็ยุ่งๆ” ชาลีบอกเหตุผลฉันก็พยักหน้าเข้าใจ
“เราเข้าใจ แล้วชาลีตั้งใจมาหาเราที่นี้เลยเหรอ”
“เปล่าหรอก ตั้งใจจะมาเที่ยวน่ะ แต่เราคิดว่าน้ำน่าจะอยู่ที่นี่เลยลองถามเด็กข้างล่างดู ก็เลยขึ้นมาหาข้างบน” ชาลีอธิบายให้ฉันฟัง มันเป็นความโชคดีของฉันจริงๆ
“อ่อ”
“กลับก่อนนะ” เป็นพี่บีมที่เอ่ยขึ้น ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้พูดอะไรมีแต่มองดูเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ ฉัน
“รีบไปไหนของมึง” พี่มาร์คถาม
“เสือก” สั้นๆ ง่ายๆ แต่เจ็บ
“ไอ้เวร” ไม่รอให้พี่มาร์คได้พูดจบพี่บีมก็เดินออกไปทันที
“น้ำ พี่ว่าเรากลับกันเถอะ เหนื่อยมามากแล้ว” เจสันก็ชวนฉันกลับ
“ก็ดีเหมือนกันคะ ชาลีเรากลับก่อนนะ ขอบคุณอีกครั้งนะ สำหรับวันนี้ถ้าไม่ได้ชาลีเราคงแย่” ฉันเอ่ยขอบคุณชาลีอีกครั้งก่อนกลับ
“ไม่เป็นไรหรอกเราเพื่อนกันนิ คุณก็ดูแลเธอดีๆ หน่อย” ชาลีพูดกับฉันและหันไปพูดกับเจสัน
“อืม ขอบคุณมึงมาก” เจสันไม่ได้ว่าอะไรที่ชาลีพูดกับเขาแบบนั้น ทั้งที่แต่ก่อนทะเลาะกันอย่างกับอะไร แต่กลายเป็นขอบคุณแทน ฉันอยากเห็นสองคนนี้ปรองดองกันซะที
“ไปนะ เจอกันที่ ม.” พูดจบฉันก็เดินออกไปพร้อมกับเจสัน
MANGA DISCUSSION