ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 37
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นที่เกิดขึ้นกับฉัน เจสันก็ให้ตามหาตัวยัยป้าแนนนั่นแต่ตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปหลบอยู่ที่ไหน ส่วนพนักงานคนนั้นก็ถูกกันไว้เป็นพยาน พอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบเราก็ทำโครงการจิตอาสาสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และก็ได้กลับมาที่กรุงเทพแล้ว
“น้ำวันนี้เข้าผับนะ” เสียงเจสันเอ่ยขึ้นหลังจากเรานั่งดูทีวีกันเงียบๆ
“ค่ะ น้ำว่าวันนี้จะไปทำงานซะหน่อยหยุดมาหลายวันเกรงใจพี่เจนนี่” ฉันบอกเจสันออกไปฉันหยุดงานมาหลายวันแล้ว เกรงใจคนที่ทำงานแทนด้วย
“เกรงใจอะไร พี่ให้เจนนี่หาคนแทนน้ำแล้ว ไม่ต้องทำแล้ว” สิ่งที่เขาบอกฉันมันทำให้ฉันตาโตทันที
“อะไรกันพี่เจ น้ำไม่ไปทำงานแค่ไม่กี่วันถึงกับไล่กันออกเลยเหรอ” ฉันโวยออกไปและทำหน้างอนๆ แค่ไม่ไปทำงานแค่ไม่กี่วันไล่กันออกเลยเหรอ
“ไล่ออกอะไรครับ เป็นเมียเจ้าของผับไม่ต้องทำแล้ว พี่หวง น้ำเป็นดีเจแต่ละทีพวกผู้ชายมองตาเป็นมันเชียว” เขาพูดพร้อมกับนอนลงบนตักฉันแล้วก็หันหน้าไปทางทีวี เขาจับมือฉันขึ้นจูบแล้วก็เอามือฉันไปวางไว้บนแก้ม
“ไม่เอา แล้วน้ำจะเอาอะไรกินอ่ะ” ถ้าไม่ทำงานฉันจะเอาอะไรกิน ไม่ได้รวยเหมือนเขานะ ฉันไม่ยอมก้มหน้าพูดกับเขาต่อ
“เป็นเมียพี่ยังกลัวอดตายอีกเหรอ หืม” เขาพูดพร้อมกับเอาหน้ามาซุกเข้ากับท้องฉัน จักจี้อ่ะ
“แต่น้ำอยากทำงานนี่น่า ไม่อยากอยู่เฉยๆ ฮ่าๆ พี่เจหยุดจักจี้ ฮ่าๆ” เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลย แถมยังเอามือมาจี้เอวฉันอีกต่างหาก มันทำให้ฉันจักจี้และหัวเราะขึ้นมา
“ไม่เอาๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้วยังไงพี่ก็ไม่ให้น้ำทำ ตอนนี้เรายังจับตัวแนนไม่ได้น้ำต้องไม่อยู่ห่างจากพี่ เข้าใจไหม” เขาหยุดรังแกฉันพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ใช่ เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆ นี่จะจบสักที
“จริงด้วยค่ะ” ฉันพูดออกไปด้วยเสียงแผ่วเบาแล้วเอามือลูบผมเขาเบาๆ
“ไม่ต้องห่วง ยังไงพี่ก็จะจับแนนให้ได้” เจสันพูดด้วยเสียงหนักแน่นพร้อมกับกอดเอวฉันแน่น
“ค่ะ” ฉันพูดออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา
“พี่เจนนี่สวัสดีค่ะ ไม่เจอกันนานคิดถึงจัง” ฉันเอ่ยทักทายพี่เจนนี่ทันทีที่มาถึงผับ ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มลูกค้ายังไม่เยอะเท่าไหร่
“ดีจ๊ะ เป็นไงบ้างสบายดีไหม”
“สบายดีค่ะ” ฉันตอบออกไปด้วยเสียงร่าเริงฉันไม่อยากให้พี่แกไม่สบสบายใจ พี่เจนนี่ดีกับฉันมากเป็นคนที่รับฉันเข้าทำงานและช่วยเหลือฉันทุกอย่าง
“ดีแล้ว งั้นพี่ไปดูความเรียบร้อยทางนั้นก่อนนะ ไม่อยากอู้งานนานเดี๋ยวเจ้านายดุเอา” พี่เจนี่บอกฉันพร้อมกับเดินออกไป ฉันยังอดชื่นชมพี่แกไม่ได้เลย ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่สามารถคุมผับได้ตอนที่พวกเจสันไม่อยู่ แต่บางครั้งพี่แกก็หายไปไหนนานๆ เหมือนกันนะ ไม่รู้ไปไหน ฉันยังสงสัยอยู่เลยพี่แกทำงานอะไรบ้าง
“พี่เจคะ น้ำสงสัยนานแล้วเรื่องพี่เจนนี่ บางครั้งพี่แกหายไปไหนคะนานๆ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย
“เขาก็มีงานของเขาสิ สงสัยอะไร หืม” สิ่งที่เจสันตอบมามันไม่ได้ทำให้ฉันกระจ่างเลย แต่ช่างเถอะเรื่องของพี่แกแล้วกัน
“ค่ะๆ ๆ”
“ไปๆ ขึ้นข้างบนดีกว่า” พูดจบเขาก็พาฉันขึ้นข้างบน ตลอดทางพนักงานก็หันมาสวัสดีดีเราเต็มเลย บางคนรู้จักฉันบ้างตอนเป็นดีเจเราก็ยืนทักทายกันนิดหน่อยจนเจสันได้แต่ครางอยู่ในลำคอ ไม่รู้จะอะไรของเขานักหนา
“น้ำนั่งรอพี่อยู่ในห้องนี้นะ เดี๋ยวพี่ไปดูบัญชีก่อน สักพักพวกไอ้มาร์คคงเข้ามาแต่อาจจะดึงหน่อย”
“ได้ค่ะ ไม่ต้องห่วงน้ำอยู่ได้”
“เคครับ อยากได้อะไรเรียกเด็กเอานะ และอย่าออกไปเพ่นพ่านละ มันอันตราย” ก่อนไปยังกำชับส่งท้ายอีกต่างหาก
“คร๊า คุณพ่อ” ฉันพูดพร้อมกับลากเสียงยาวๆ ให้กับเขา แต่ก็ขอบคุณที่เขาเป็นห่วงฉันมากขนาดนี้
“คุณพ่ออะไร คุณผัวต่างหาก” พูดพร้อมกับทำหน้าล้อเลียนให้ฉัน
“บ้า ไปได้แล้ว” ฉันพูดออกไปด้วยความเขินอาย เขาก็เดินออกไปจากห้องทันที
ฉันเลยเดินมานั่งมองคนที่อยู่ด้านล่าง ตรงโซฟาที่ติดกระจก ตอนนี้คนเริ่มทยอยเข้ามาแล้ว ผับของเจสันเป็นที่นิยมมากสำหรับพวกวัยรุ่น เป็นผับที่มีชื่อเสียง แต่ลูกค้าที่มาใช้บริการก็มีทุกรูปแบบแต่ส่วนมากจะเป็นวัยรุ่นมากกว่า ฉันนั่งคิดอะไรเพลินๆ มองคนไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงคนเปิดประตูเข้ามา
“พี่มาร์คมาแล้วเหรอคะ พี่เจไปดูบัญชีที่ห้องทำงานค่ะ” ฉันพูดออกไปโดยไม่ได้หันไปมอง แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบรับ ทำไมเงียบๆ นะ
“หึ แกคงจะดีใจสินะที่เจสันเขาให้ความสำคัญ นางคางคกขึ้นวอ” เสียงแหลมๆ ที่ดังขึ้นจากด้านหลังฉัน ทำให้ฉันรู้ทันทีว่าคนที่เข้ามาไม่ใช่พี่มาร์คแต่เป็นยัยป้าแนน
“นี่เธอเข้ามาได้ไง” ฉันถามออกไปด้วยความตกใจ
“แกไม่จำเป็นต้องรู้ รู้ไว้แค่ว่าวันนี้เป็นวันตายของแก” เสียงเยือกเย็นและแววตาที่เต็มไปด้วยความพยาบาทของเธอส่งต่อมาให้ฉัน
“ฉันจะไม่ยอมให้เธอทำร้ายฉันอยู่ฝ่ายเดียวหรอก” ฉันพูดโต้ตอบออกไป ฉันจะไม่ยอมอยู่เฉยๆ ให้ยัยป้าประสาทนี่มาทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวแน่ ถึงสู้ไม่ได้ฉันก็จะสู้
“แกคิดว่าแกแน่เหรอ” ยัยป้าแนนพูดพร้อมกับควักมีดออกมา แล้วเดินมาหาฉัน สีหน้าท่าทางของเธอเหมือนคนโรคจิตไม่มีผิด ฉันได้แต่เดินถอยหลัง และภาวะนาขอให้เจสันหรือไม่ก็พี่มาร์คเข้ามาห้องนี้ไวๆ
“เธอคิดว่าเธอฆ่าฉันแล้วเจสันเขาจะรักเธอเหรอ” ฉันพยายามพูดถ่วงเวลาเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ฉันต้องหาทางเอาตัวรอดและไม่เสียสติตามหล่อน
“ไม่รัก เหรอ ฮ่าๆ ๆ เขาไม่เคยรักใคร ไม่เคย แม้แต่แกก็จะถูกเขาเขี่ยทิ้ง ฮ่า” ยัยป้าพูดออกมาเหมือนคนเสียสติ และแสดงสีหน้าหลายอารมณ์ ฉันเริ่มกลัวจริงๆ แล้วนะ ทีแรกว่าจะขอสู้ตายแต่ตอนนี้สู้กับคนบ้าท่าจะไม่ไหว
“เธอมันบ้าไปแล้ว” ฉันพูดพร้อมกับเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ ตอนนี้ฉันต้องหาทางถอยออกไปทางประตู ฉันเดินถอยหลังอ้อมไปหลังโซฟา และระวังด้วยว่ายัยป้าประสาทนี่จะพุ่งเข้ามาหาฉันตอนไหน เธอชูมีดขึ้นชี้หน้าฉันและเดินตามฉันมาติดๆ
“บ้าเหรอ แกสิบ้า ยังไงแกก็ไม่รอด” เขาว่ากันว่าคนบ้ามักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองบ้าคงจะจริง
“เธอฆ่าฉันเธอก็จะติดคุก” ฉันพยายามหลอกล้อเธออย่างเต็มที่ ตอนนี้ฉันใกล้จะถึงประตูแล้ว แต่เหมือนว่าเธอจะรู้ตัวเดินมาดักหน้าประตูไว้
“นี่แกคิดจะทำอะไร หยุดอยู่ตรงนั้นห้ามเดิน” เสียงยัยป้าแนนสั่งฉันให้หยุดเดินแล้วเธอก็เดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ เจสันๆ มาสักทีสิ ฉันได้แต่ภาวนาให้มีคนเปิดประตูเข้าม