ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 35
ผมพาลูกน้ำมาพักผ่อนที่ห้อง ให้เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและกินยาแก้ไข้กันไว้แล้วให้นอนพักผ่อน และเดินออกมาหาพวกไอ้มาร์คไอ้บีม
“ขอบใจมึงมากนะบีมที่ช่วยลูกน้ำ” พอเดินมาถึงผมก็เอ่ยขอบคุณไอ้บีมก่อนเป็นอันดับแรก
“ไม่เป็นไร มึงควรดูแลเธอให้ดี” มันพูดกับผมออกมาเสียงเรียบ ใช่อย่างที่มันพูดผมควรดูแลเธอให้ดีกว่านี้
“ถือว่าฟาดเคาะไปแล้วกัน เรามาหาทางจับคนร้ายกันดีกว่า” ไอ้มาร์คเสนอความคิดเห็น
“กูว่าต้องเป็นนักศึกษาที่มากับเราในครั้งนี้ และตอนนี้กูก็สงสัยแนน” ผมบอกพวกมันออกไปตอนนี้คนที่น่าสงสัยที่สุดเป็นแนน
“กูก็คิดแบบนั้น” ไอ้มาร์คก็คิดเหมือนผมส่วนไอ้บีมก็พยักหน้าให้เช่นกัน
“กูเห็นตรงนั้นมันมีกล้องวงจรปิดอยู่เราเริ่มจากตรงนั้นกัน” ข้อเสนอของไอ้มาร์คผมก็เห็นด้วยกับมัน ว่าแล้วพวกเราสามคนก็เดินไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดกับทางรีสอร์ตทันที เจ้าหน้าที่ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีผู้จัดการรีสอร์ตเป็นคนพาไปดู
“ขอดูตรงนั้นหน่อยครับ”
ผมดูภาพจากกล้องไปเรื่อยๆ ก็เห็นช่วงเวลาที่ลูกน้ำเดินออกไปหลังรีสอร์ต ในภาพดูเหมือนเธอจะยืนสูดอากาศอยู่ข้างลำธาร แล้วอยู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาเธอจากด้านหลังเงียบๆ และเหมือนลูกน้ำจะไม่รู้ตัว ผู้หญิงคนนั้นก็ผลักลูกน้ำตกลงไปในลำธาร ดูเหมือนลูกน้ำจะตกใจมาก เธอตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำอย่างน่าสงสาร ผมมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ลูกน้ำพยายามร้องขอให้คนช่วยแต่ผู้หญิงคนนั้นก็เดินออกมาจากตรงนั้น พวกเราสามคนลุ้นที่จะเห็นหน้าผู้หญิงใจร้ายโหดเหี้ยมคนนั้น และทันทีที่เธอหันหน้ามามันทำให้กำมือแน่นพยายามสะกดกลั้นความโกรธ ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ผมหันหน้าไปมองไอ้มาร์คกับไอบีมเพื่อจะถามว่ารู้จักรึเปล่าพวกมันก็ส่ายหน้าปฏิเสธ จะไปรู้จักได้ยังไงก็ผู้หญิงคนที่ผลักลูกน้ำเป็นพนักงานรีสอร์ต
“คุณรู้จักรึเปล่า” ผมหันไปถามพูดจัดการรีสอร์ต
“ครับ เธอเป็นพนักงานของที่นี่ เราพึ่งรับเธอเข้าทำงานได้แค่สามวันครับ”
“ไปเรียกเธอมาพบผมที” ผมบอกออกไปด้วยเสียงราบเรียบ ผู้หญิงคนนั้นทำอย่างนี้ทำไมทั้งที่เราไม่เคยรู้จักกัน ผมเคยไปทำอะไรให้เธอโกรธรึเปล่าหรือว่าอะไร คิดยังไงก็คิดไม่ออก
“ครับ เชิญพวกคุณไปรอที่ห้องทำงานผมก่อนครับ” ผู้จัดการรีสอร์ตบอกกับพวกเราและบอกให้ลูกน้องพาพวกเราไปที่ห้อง
รออยู่สักพักก็ได้ยันเสียงเปิดประตู้เข้ามา มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามเข้ามาแล้วเธอก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเรา ก้มหน้ามองมือตัวเอง
“เงยหน้าขึ้นมา” ผมสั่งเสียงเรียบ ตอนนี้ใจผมมันเดือดสุดๆ ถ้าไม่เห็นว่าเป็นผู้หญิงผมคงจัดการในแบบของผมไปแล้ว
“ฉันบอกให้เงยหน้าขึ้นมา” ผมตะโกนใส่เธอสุดเสียง เมื่อเธอยังก้มหน้าอยู่
“เอ่อ ฮือๆ ๆ” เวรแล้ว เธอร้องไห้ครับ
“ฉันสั่งให้เธอเงยหน้าขึ้นมา ไม่ใช่ให้ร้องไห้” เสียงผมมันไม่ได้เบาลงสักนิด การที่เธอร้องไห้มันไม่ได้น่าสงสารเลยสักนิด
“ไอ้เจ ใจเย็นๆ” ไอ้มาร์คเอ่ยขัดผมขึ้นมา ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อย ใครจะไปเย็นได้วะ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครผมก็ไม่รู้จักแล้วทำไมต้องคิดฆ่าลูกน้ำ ลูกน้ำก็ไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหน
“เงยหน้าขึ้น” ผมยังไม่ละความพยายาม ตอนนี้ผมลุกขึ้นและเดินไปหาเธอที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า พอเดินไปถึงตัวเธอผมก็จับหน้าเธอให้เงยขึ้นมาโดยการบีบคาง น้ำตาเธอไหลอาบแก้มทันทีที่ผมทำอย่างนั้น
“บอกมา เธอรู้จักฉันรึเปล่า” ผมถามเธอออกไป ผมกลัวว่าผมอาจจะเคยไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจโดยไม่ได้ตั้งใจแล้วกลับมาแก้แค้นรึเปล่า
“ฮือๆ” เธอส่ายหน้าปฏิเสธและร้องไห้ตัวสั่นไปด้วยนั้นมันทำให้ผมหงุดหงิดปล่อยมือจากเธอแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิมเพื่อสงบสติอารมณ์
“เอาล่ะๆ พวกเราของถามเธอหน่อย เธอเป็นคนที่ผลักลูกน้ำใช่หรือเปล่า” ไอ้มาร์คเมื่อเห็นผมเริ่มหงุดหงิดมันก็เอ่ยถามขึ้น แต่เธอก็ยังเฉยเอาแต่ร้องไห้ มันจะอะไรหนักหนาวะ
“ถ้าเธอไม่พูดเราคงต้องจับเธอส่งตำรวจ” และเป็นไอ้บีมที่พูดออกมาด้วยเสียงที่เรียบและเย็นตามแบบฉบับของมัน พอไอ้บีมพูดแบบนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
“อย่านะคะ อย่าจับฉันส่งตำรวจเลยนะ” แล้วเธอก็ยกมือไหว้อ้อนวอน
“แล้วตอนจะฆ่าคนอื่นทำไมไม่คิด คนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษ” ผมพูดออกไป
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฮือๆ อย่าจับฉันส่งตำรวจเลยนะคะฉันมีแม่ต้องดูแล”
“นี่มันเหตุผลของผู้ร้ายเวลาจะโดนจับชัดๆ” ผมพูดออกไปอย่างหัวเสีย พูดออกมาได้ไม่ได้ตั้งใจ
“พอๆ ไอ้เจ เราขอถามอีกคำถามเธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องฆ่าลูกน้ำ” ไอ้มาร์คเอ่ยถามเสียงเรียบ
“เอ่อ คือ” เธออึกอักที่จะตอบ ผมว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรมากกว่านี้
“ไม่อยากถูกส่งตัวตำรวจใช่ไหม ฉันมีทางเลือกให้เธออีกทางตามวิธีของฉันเอาไหม” ในเมื่อไม่ยอมพูดคงต้องข่มขู่กันหน่อย หรือผมอาจจะทำจริงถ้ามันเหลืออด
“ยังไงคะ”
“วิธีนี้มันจะทำให้เธอมีความสุขซะจนไม่มีวันลืมเลยละ หึ สารภาพออกมาดีกว่าฉันเชื่อว่าเธอคงไม่ต้องการวิธีของฉันหรอก” ผมพูดด้วยสายตาเหี้ยมใส่เธอ
“เอ่อ คือ” เธอยังอึกอักที่จะตอบ
“ไม่พูดแบบนี้คงอยากจะลองวิธีของฉันสินะ เธอคงดีใจถ้าจะได้ขึ้นสวรรค์พร้อมกับผู้ชายสักสิบคน เป็นไงสนไหม” ผมพูดออกไปด้วยเสียงที่เยือกเย็น ใครจะว่าผมใจร้ายไม่ได้ในเมื่อให้โอกาสดีๆ ไม่ชอบ
“ไม่นะคะ ฉันยอมแล้ว ยอมแล้ว” เธอยกมือไหว้ตัวสั่น
“ว่ามา”
“เอ่อ คือฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำผู้หญิงคนนั้นหรอกค่ะ ฉันไม่รู้จักเธอ แต่มีคนจ้างฉันให้ไปทำ” เธอพูดออกมายาวเหยียด ถูกจ้างวาน
“ใครเป็นคนจ้างเธอ”
“เอ่อ คือ มีผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกฉันว่าอยากจะแกล้งเพื่อน เธอเลยจ้างให้ฉันไปผลักผู้หญิงคนนั้นที่เธอบอกว่าเป็นเพื่อนของเธอให้ตกน้ำ เธอบอกว่าไม่ต้องกลัวเพราะผู้หญิงคนนั้นว่ายน้ำเป็น และไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายอะไรเพราะมันเป็นแค่เกมมีคนอื่นๆ ซ้อนตัวอยู่รอบๆ และฉันก็เห็นว่าตอนนี้มีคณะนักศึกษามาพักที่รีสอร์ต ฉันเลยไม่ทันคิดนึกว่าพวกเขาเล่นเกมกันจริงๆ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะคะ” คำสารภาพของเธอทำให้พวกผมมองหากันทันที ว่าควรเชื่อในสิ่งที่เธอพูดรึเปล่า
“แล้วผู้หญิงที่จ้างเธอเป็นใคร”
“ฉันเองก็ไม่รู้ค่ะไม่ได้ถามชื่อเธอ”
“หน้าตาเป็นยังไง” ไอ้มาร์คถามต่อ
“สูงๆ ขาวๆ ผมสีน้ำตาลแดง หน้าสวยๆ หุ่นดีๆ หน่อยค่ะ หน้าเธอจะร้ายๆ หน่อย” เธออธิบายรูปร่างของผู้หญิงคนนั้นให้พวกเราฟัง
“แนน” ไอ้บีมเป็นฝ่ายพูดขึ้น ใช่ผมก็คิดแบบเดียวกับมันลักษณะแบบนั้นมันแนน ผมคิดไว้ไม่มีผิด
“เราจะเชื่อเธอได้ยังไง”
“จริงๆ นะคะเรื่องทั้งหมดที่ฉันพูดมาฉันไม่ได้โกหก” เธอรีบพูดออกมา
“ตอนแรกที่ฉันถามทำไมไม่พูด” ผมยังจับผิดเธอต่อ
“ก็ฉันกำลังตกใจและกลัวด้วยค่ะ” เธอพูดออกมาเสียงสั่นๆ
“โอเคๆ เราจะตัดสินโทษเธออีกทีเมื่อจับคนร้ายได้ เธอไปได้และอย่าคิดหนี” ไอ้มาร์คพูดกับเธอออกไปและเธอก็เดินตัวสั่นออกไปจากห้อง
“ขอบคุณผู้จัดการมากนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับเรื่องมันเกิดที่รีสอร์ตเราและอีกอย่างพนักงานของเราก็มีความผิด ถ้าจะให้ผมช่วยอะไรบอกได้เลยนะครับ”
“ครับ” ตอนนี้ผมคงต้องหาตัวแนนให้เจอ ผมคงต้องจัดการขั้นเด็ดขาดไม่มีคำว่าสงสาร ให้อภัย หรือเกรงใจใครทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่หยุด
“ฮัลโหล ไอ้เก่งตามตัวแนนมาพบฉันที อะไรนะกลับไปแล้ว กลับไปตอนไหน เออๆ ขอบใจมาก” ผมยกโทรศัพท์โทรหานักศึกษาที่ผมแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากิจกรรมในครั้งนี้
“อะไรวะ”
“แนนหนีกลับไปแล้ว” ผมพูดออกมาเสียงเรียบเธอคงรู้ตัวและรีบหนีไป
“เอาไงต่อ” ไอ้บีมถามผม
“ไม่ต้องห่วงกูพอรู้จักกับตำรวจเดี๋ยวให้เขาจัดการให้” ไอ้มาร์คพูดขึ้น
“ฝากมึงด้วย กูจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” ผมบอกมัน
“แต่เรายังไม่มีหลักฐาน คนที่ทำก็ไมใช่เธอคงอยากที่เราจะเอาผิดเธอได้” ใช่สิ ถือว่าเธอฉลาดที่ยืมมือคนอื่นทำ
“ถ้าตำรวจจัดการเธอไม่ได้ กูจะจัดการด้วยวิธีของกูเอง” ในเมื่อกฎหมายจัดการเธอไม่ได้ผมคงต้องจัดการด้วยวิธีของผมเพื่อชีวิตอันสงบสุขของผม
“เดี๋ยวกูจะส่งหลักฐานให้ตำรวจดูก่อนว่าจะอาผิดกับเธอได้มาแค่ไหน”
“ขอบใจมึงมาก ไปล่ะ ไปดูลูกน้ำก่อนปานนี้คงตื่นแล้ว” พูดเสร็จผมก็เดินออกจากห้องไป ไม่รู้ว่ายัยตัวแสบของผมจะตื่นรึยัง กลับจากที่นี่ผมคงต้องสะสางจริงจังซะที