ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 34
“พี่เจ เดินดีๆ สิคะ” ตอนนี้เราสองคนเดินออกมาจากห้องและกำลังจะไปห้องอาหารของรีสอร์ต แต่เจสันหน่ะสิเขาเอาแต่กอดฉันอยู่ได้ไม่รู้จะอะไรนักหนา
“แค่นี้หวงเหรอ ชิ” อะไรของเขา นับวันเขาเริ่มจะเหมือนเด็กเข้าไปทุกทีแล้วนะ ดูสิแค่ว่านิดว่าหน่อยทำเป็นงอน สะบัดหน้าใส่ฉันแล้วเดินหนีเฉยเลย ฉันตามอารมณ์เขาไม่ทันจริงๆ ฉันได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินตามเขาไป
“ไอ้เจเป็นไรวะหน้าบูดเป็นตูดเลย” พอเดินไปถึงโต๊ะอาหารพี่มาร์คก็ถามขึ้นทันทีที่เห็นเจสันทำหน้าบูดๆ เดินมาที่โต๊ะ เขาก็หันมาหาฉันเพื่อเอาคำตอบ ฉันได้แต่ส่ายหน้าตอบกลับไป
“ยุ่ง ชิ” โอ๊ย อยากจะบ้าตาย รักษาภาพพจน์ด้วยค่ะท่านผู้บริหาร ก็ดูเขาทำสิหันหน้าบูดบึ้ง มาหาฉันแล้วทำเสียง ชิ ใส่แล้วสะบัดหน้าไปอีกทาง น่ารักตายแหละ นี่ฉันผิดอะไร ฉันได้แต่หันไปขอความเห็นจากผู้ร่วมโต๊ะ ซึ่งก็มีพี่มาร์ค พี่บีม แล้วก็น้องหนูดี ทุกคนต่างส่ายหน้าระอากับพฤติกรรมเหมือนเด็กของเขา
“พี่เจ เล่นเยอะไปค่ะ” ฉันหันไปต่อว่าคนที่เล่นเยอะเกินจริง แค่ไม่ให้กอดตอนเดินมาเนี่ยทำมาเป็นงอน ก่อนออกจากห้องก็นอนกอดกันตั้งนานแล้ว มันจะอะไรนักหนา
“ไอ้ประสาท” พี่มาร์คด่าพี่เจออกไป สงสัยจะเหลืออด
“เสือก เรื่องผัวเมีย”
“พี่เจ หยาบคาย” พูดออกไปได้ไม่อายคนอื่น เราไม่ได้อยู่กันแค่สองสามคนนะ มีเหล่านักศึกษานั่งกินข้าวข้างๆ โต๊ะเราเต็มไปหมด พอฉันพูดออกไปแบบนั้นเขายังไม่ยอมมองหน้าฉันอีก อะไรของเขานี่งอนฉันจริงๆ ใช่ไหม มันไร้สาระมากนะถ้าเราจะมาทะเลาะเรื่องแบบนี้
“เยอะวะ” พี่มาร์คยังไม่ละความพยายามจะช่วยฉัน แต่พี่เจก็ไม่สนใจนั่งกินข้าวต่อ เคี้ยวตุ้ยๆ โดยไม่สนใจใคร ไม่สนใจฉันที่นั่งอยู่ข้างๆ ฉันก็ไม่มีอารมณ์จะกินแล้วเหมือนกันในเมื่อเขาไม่สนใจ ออกไปเดินเล่นดีกว่า ไม่สนก็ไม่ง้อโว้ย ฉันลุกขึ้นโดยไม่บอกกล่าวใคร
“น้ำไปไหน” พี่บีมเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามฉันขึ้นมาทันทีที่ฉันลุกขึ้น
“ไปเดินเล่นค่ะ เบื่อ” พูดจบฉันก็สะบัดตูดเดินออกมา ฉันไม่ได้โกรธเขาหรอกนะที่เขาทำแบบนั้น เพียงแต่ไม่อยากง้อไม่อยากยอมเขามากเกินไปเดี๋ยวจะได้ใจ ฉันเดินออกมาหลังรีสอร์ต ตรงนี้มีต้นไม้ร่มรื่นและเป็นลำธารข้างหลังด้วย
“หืม สดชื่นจัง” ฉันสูดอากาศเข้าปอดเต็มๆ อากาศดีสุดๆ ไปเลย ตอนนี้ฉันยืนอยู่ข้างๆ ลำธารกางแขนออกเพื่อสูดอากาศเข้าปอด ในเมืองมีแต่มลพิษพอมาอยู่ที่นี่รับอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดแล้วรู้สึกดีเป็นบ้า ฉันยืนหลับตาคิดอะไรเพลิงๆ อยู่ดีๆ ก็เหมือนมีใครมาผลักหลังฉัน
“ว๊าย” แล้วร่างของฉันก็ตกลงน้ำทันที ด้วยความตกใจและฉันก็ว่ายน้ำไม่เป็นด้วย วินาทีนี้ฉันได้แต่ตะเกียกตะกายขึ้นจากผิวน้ำเพื่อเอาตัวรอด
“ช่วยด้วย ค่ะ ช่วยด้วย” ฉันผุดขึ้นผุดลงอยู่ในน้ำและพยายามร้องให้คนช่วย ใครกันกล้าทำแบบนี้ถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันเลยไม่โหดร้ายไปหน่อยเหรอ ตอนนี้ร่างกายของฉันกำลังจะหมดแรง
“ช่วยด้วย เฮือก ช่วยด้วย” ฉันว่าฉันคงหมดโอกาสที่จะรอดแล้วล่ะ ฉันพยายามตะเกียกตะกายสุดแรงเพื่อจะโผล่พ้นขึ้นมาจากน้ำเพื่อร้องให้คนช่วยแต่มันก็ไม่เป็นผล เพราะร่างกายฉันหมดแรงแล้ว ตอนนี้ฉันนึกถึงพ่อแม่ หวังว่าท่านจะมารับฉันไปอยู่ด้วยจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันซะที พ่อจ๋าแม่จ๋ามารับน้ำด้วยนะคะ พี่เจน้ำขอโทษที่อยู่กับพี่ไม่ได้ ฉันคิดวนไปวนมานึกถึงคนที่ตัวเองรัก แล้วร่างฉันก็ค่อยๆจมลงไปและสติของฉันก็หมดไป ลาก่อน
เจสัน
“ไอ้เจแกจะไปตามลูกน้ำไปหน่อยเหรอวะ” เสียงไอ้มาร์คดังขึ้นหลังจากลูกน้ำเดินออกไป ถามว่าผมเป็นอะไรเหรอ ผมตอบเลยว่าไม่รู้ ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรทำไมเรื่องแค่นี้ถึงงอนเธอ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
“สักพัก” ผมบอกมันออกไป อยากจะตามออกไปอยู่หรอกของเล่นตัวก่อน
“อ้าวไปไหนวะไอ้บีม” อยู่ๆ ไอ้บีมก็ลุกขึ้น ไอ้นี่ก็มีหญิงจริงๆ อย่างที่ลูกน้ำว่าแต่ว่ามันจะรักผู้หญิงของมันรึเปล่านั้นผมเองก็ไม่รู้ เพราะดูแล้วมันเหมือนจะสนใจน้องเขาแต่อีกในทางก็เหมือนไม่สนใจ
“เข้าห้องน้ำ” พูดจบมันก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองน้องที่นั่งอยู่ข้างๆ มัน ชื่ออะไรนะ ถ้าจำไม่ผิด หนูๆ อ่อ หนูดี ชื่อน่ารักดีหน้าตาก็ถือว่าสวย
“ไอ้นี่ก็อีกคน น้องหนูดีทนมันได้ไงครับ เย็นชาขนาดนั้น” ไอ้มาร์คมันแขวะเพื่อนแล้วหันไปถามน้องหนูดีที่ยิ้มเจื่อนๆ ให้เป็นคำตอบ ป่านนี้ยัยนั้นจะไปเดินเล่นที่ไหนนะ ผมนั่งคิดอะไรเพลินๆ กะว่าอีกสักพักจะเดินไปตามลูกน้ำ ปล่อยให้เธอได้หายใจบ้างผมกลัวเธอจะอึดอัดที่ต้องตัวติดกันกับผมตลอดเวลา ที่งอนใส่เธอแบบนั้นก็กลัวเธอรำคาญจะแย่ทำไงได้ล่ะอารมณ์มันเป็นไปของมันเอง
“คุณเจสันคะ คุณเจสัน” แต่แล้วอยู่ๆ ก็มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบมาหาผม
“ครับ”
“เอ่อ อือ พี่ลูกน้ำค่ะ พี่ลูกน้ำ ตกน้ำที่ลำธารด้านหลังค่ะ” ไม่รอให้เธอพูดจบผมก็วิ่งออกไปทันที ตอนนี้ในหัวผมคิดอะไรไม่ออกสมองมันตื้อไปหมด ความกลัวเริ่มครอบง้ำ หัวใจเต้นโครมครามเหมือนมันจะหลุดออกมาข้างนอก อย่าเป็นอะไรไปนะลูกน้ำตลอดการวิ่งผมได้แต่พึมพำถึงแต่ชื่อลูกน้ำ
“น้ำ” ผมตะโกนออกไปทันทีที่เห็นเธอ ลูกน้ำที่ตัวเปียกปอนอยู่ในอ้อมแขนไอ้บีม เธอหลับตามสนิท
“ไอ้บีมถอย” ผมบอกไอ้บีมแล้วรีบเข้าไปดูลูกน้ำ วัดชีพจร ยังหายใจอยู่ ผมรีบทำการปั๊มหัวใจและก้มลงไปผายปอดให้เธอทันที อย่าเป็นอะไรนะน้ำ น้ำต้องอยู่กลับพี่ ผมทำอย่างนั้นจนได้ยินเสียเธอไอออกมา เธอสำลักน้ำออกมาแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นพร้อมเสียงหอบหายใจ
“พี่เจ” ลูกน้ำเอ่ยเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงที่หมดแรง
“พี่ขอโทษ ขอโทษ” ผมได้แต่พึมพำแล้วกอดเธอไว้แนบอก ผมมันงี่เง่า ไม่น่างอนเธอแล้วปล่อยเธอออกมาเดินคนเดียวเลย ถ้าผมเสียเธอไปจะทำยังไง
“พี่เจ หายใจไม่ออก แฮ่ๆ” สงสัยผมจะกอดเธอแน่นไป พอรู้แบบนั้นแล้วผมก็คายอ้อมกอดออกแล้วปัดผมที่ปรกหน้าเธอออกก้มลงจูบหน้าผากเธอหนึ่งที ตอนที่รู้ว่าเธอตกน้ำใจผมเหมือนจะขาดลงตรงนั้นให้ได้ ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองถ้าเธอเป็นอะไรไป
“น้ำบอกพี่ได้ไหมทำไมถึงตกลงไป” ผมถามเธอออกไปเมื่อลมหายใจเธอเข้าภาวะปกติ ตอนนี้เหมือนว่าเหล่านักศึกษาและพนักงานรีสอร์ตจะมามุงดูเหตุการณ์กันเยอะทีเดียว
“เหมือนมีคนผลักน้ำค่ะ น้ำก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เห็น พี่เจช่วยน้ำไว้เหรอคะ” มีคนผลักเธองั้นเหรอ ใครกัน หรือว่าจะเป็นแนน ผมคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นใครนอกจากแนน ถ้าเธอเป็นคนทำจริงๆ ผมไม่ปล่อยเธอไว้แน่ จะไม่มีความเกรงใจใครอีก ที่ผมไม่จัดการเธอขั้นเด็ดขาดตอนนั้นเพราะเห็นแก่พ่อเธอที่ทำงานให้มหาลัยมานาน แต่เรื่องนี้ถ้าเธอเป็นทำผมคงปล่อยไปไม่ได้
“เอ่อ ไม่ใช่หรอกครับ” เธอถามว่าผมเป็นคนช่วยเธอรึเปล่า ผมก็บอกออกไปตามตรงถึงแม้จะไม่ได้เป็นฮีโร่ของเธอก็ตาม
“แล้วใครคะช่วยน้ำไว้น้ำอยากขอบคุณเขาค่ะ” พอเธอพูดจบผมก็พยักหน้าหันไปมองทางไอ้บีมที่ยืนมองเราสองคนอยู่ใกล้ๆ มันคงจะเป็นห่วงลูกน้ำไม่แพ้ผม ครั้งนี้ผมต้องยกความดีให้มันจริงๆ ถ้ามันไม่ช่วยน้ำไว้ผมคงต้องเสียเธอไป
“พี่บีมเหรอคะ” เธอถามผมออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ตอนนี้เธอเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และลุกขึ้นนั่ง พอผมบอกว่าไอ้บีมเป็นคนช่วยเธอก็หันไปมองมันทันที
“ครับ”
“ขอบคุณนะคะพี่บีมที่ช่วยชีวิตน้ำไว้” เธอหันไปขอบคุณไอ้บีม
“ครับ น้ำปลอดภัยพี่ก็ดีใจ” ไอ้บีมเดินมานั่งลงแล้วเอามือลูบผมลูกน้ำ ถ้าเป็นเวลาปกติผมคงไม่ยอมให้มันทำอย่างนี้ แต่ตอนนี้ผมต้องยอม
“เฮ้ยไอ้เจ เป็นไงมั้งวะ” ไอ้มาร์ควิ่งเข้ามาถาม แล้วก็ตามมาด้วยน้องหนูดีที่วิ่งมาแล้วมองไอ้บีม
“เฮีย” เสียงหนูดีเรียกไอ้บีมเสียงแผ่ว แต่มันก็ไม่ได้หันกลับไปมองเธอมันยังคุยกับลูกน้ำต่อ
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่บีม ถ้าไม่ได้พี่น้ำคงแย่”
“ครับ” มันพูดตอบรับลูกน้ำออกไปแล้วมันก็ดึงลูกน้ำเข้าไปกอด
“ไอ้บีม” ผมร้องเตือนมันออกไปเสียงแข็ง ที่มันกล้าทำอย่างนี้ทั้งที่ผมและน้องหนูดียืนอยู่ตรงนี้ด้วย ดูเหมือนลูกน้ำก็ตกใจกับการกระทำของมันเช่นกันแต่ก็ไม่ได้ผลักมันออก แต่คนที่ตกใจยิ่งกว่าคงจะเป็นหนูดีมากกว่า ผมมองดูมันที่กอดลูกน้ำอยู่โดยไม่ทำอะไร ผมจะให้มันสักวันเพราะเห็นว่ามันเป็นคนช่วยชีวิตเธอและมันคงจะหวงลูกน้ำจริงๆ ผมดูแววตามันออก
มันกอดลูกน้ำอยู่สักพักโดยไม่ได้พูดอะไรแล้วละอ้อมกอดออก
“กูว่าพาลูกน้ำไปพักเถอะ” ไอ้มาร์คเป็นคนเอ่ยขึ้น
“ไปพักนะครับแล้วเรื่องนี้พี่จะไม่ปล่อยไปพี่ตามหาตัวคนที่ทำกับน้ำให้ได้” ผมพูดออกไปเสียงเย็นๆ ใครที่มันกล้าทำแบบนี้ผมไม่ปลอดมันไว้แน่ พูดจบผมก็อุ้มเธอขึ้นแล้วเดินตรงไปที่พักทันที โดยที่ไทยมุงทั้งหลายแหวกทางให้ ก่อนจะไปผมหันกลับไปบอกนักศึกษาที่อยู่ตรงนั้นก่อน
“ทุกคนกลับไปพักผ่อนตามอัธยาศัย พรุ่งนี้เราค่อยเริ่มงานกัน” ผมพูดเสร็จก็เดินออกไป วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ผมคงไม่มีอารมณ์ทำอะไรถือว่าปล่อยให้นักศึกษาได้พักผ่อนหลังจากเดินทางมาเหนื่อยๆ อีกอย่างผมต้องการจะหาตัวคนร้ายด้วยผมคิดว่าหน้าจะเป็นนักศึกษาคนใดคนหนึ่งที่เดินทางมากับเราในครั้งนี้แน่นอน