ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 28
“ใจร้ายจัง จำไว้เลยแล้วอย่ามาร้องขอนะ บอกเลยว่า ถึงพี่จะขี้อ่อยแต่พี่ก็ได้ยาก ฮ่าๆ” อะไรคือขี้อ่อยแต่ได้ยาก แล้วใครจะไปร้องขอ ไอ้คนหื่น
“ไอ้…หือ” ฉันบอกเลยฉันเขินกับมุกของเขาฉันได้แต่กลบเกลื่อนด้วยการจะอ้าปากด่าเขาแต่เขาก็หัวเราะเสียงดังแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวgfboเข้าห้องน้ำเฉยเลย สักพักฉันก็ได้ยินเสียงน้ำไหลและเสียงครางของเขาปะปนมาด้วย ฉันรู้ทันทีเลยว่าเขากำลังให้แม่นางทั้งห้าบริการให้อยู่ ไอ้คนหื่น
“ที่รักตื่นได้แล้วครับ ไปอาบน้ำ ไหนว่าหิวแอบหลับเฉยเลย”
“อืม เสร็จแล้วเหรอคะ” นี่ฉันเผลอหลับไปเหรอเนี่ย เขาอาบน้ำนานหรือว่าฉันง่วงมาก เพราะความหื่นของเขานั่นแหละมันทำให้ฉันเหนื่อย (หรือฉันก็หื่นด้วย ฮ่าๆ ๆ)
“ครับ พี่อาบให้ไหม ไหวรึเปล่า พี่อาบอีกรอบก็ได้นะ” ฉันรู้เลยว่าความหวังดีของเขามีอะไรแอบแฝง
“ไม่ค่ะ อาบเองดีกว่าเยอะ” ว่าแล้วฉันก็รีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำทันที
"ตอนนี้อลิชอยู่ไหนครับ” ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินเสียงเขาคุยโทรศัพท์ คงจะเป็นอลิชเพราะได้ยินเขาเรียกชื่อ
“อ่อ โอเค ครับๆ เจอกัน ครับสวัสดีครับ” เขาคุยโทรศัพท์อยู่แล้วหันหน้ามาที่ฉันที่กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วยังมาทำสายตากรุ้มกริ่มใส่ฉันอีกต่างหาก
“พี่เจ ทำไมไม่แต่งตัวคะ” เพราะว่าตอนนี้เขามีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบเอวสอบอยู่ ฉันว่าฉันก็อาบน้ำนานอยู่นะ
“พี่คุยโทรศัพท์กับอลิชอยู่ครับ นี่ออกมาอย่างนี้ยั่วพี่ใช่ม่ะ” เขาพูดพร้อมกับจะเดินเข้ามาหาฉัน
“หยุดๆ เลยอย่าเดินเข้ามา ไปแต่งตัวของใครของมันเลยค่ะ” ฉันเอ่ยห้ามก่อนที่เขาจะมาถึงตัว เขาหยุด กึก อยู่กับที่ทันที
“อะไรครับ พี่จะเดินไปตู้เสื้อผ้า กลัวอะไรพี่นักหนา หึ” หน้าตาเจ้าเล่ห์ซะขนาดนั้นไว้ใจได้ที่ไหน
“พี่มันไว้ใจไม่ได้”
“ชิ แค่นี้ทำเป็นห่วง ซุกไซ้ทุกซอกทุกมุมยังทำมาแล้ว” อ๊ายยย อิพี่เจทำไมชอบเอาเรื่องน่าอายมาพูดด้วยนะ แล้วท่าทางงอนๆ นั้นอีกคือไร
“อ๊ายยย พี่เจหยุดพูดเลยนะ รีบไปแต่งตัวเลย” ฉันไม่รู้ว่าจะโกรธหรือจะเขินดี รีบหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปใส่ในห้องน้ำทันที
“เรื่องจริง รับไม่ได้เหรอจ๊ะฮ่าๆ ๆ ๆ” ยังๆ ยังไม่หยุดฉันไม่สนใจรีบแต่งตัวดีกว่า
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งเรานัดเจอกันกับน้องอลิชเพื่อที่จะทานข้าวก่อนจะไปส่งเธอขึ้นเครื่อง ตอนที่เจสันคุยโทรศัพท์เขาบอกว่าน้องอลิชอยู่กับพี่มาร์คแล้ว แล้วเราสองคนก็มานั่งรอน้องอลิชกับพี่มาร์คอยู่ อยู่ๆ เจสันก็ทำหน้าไม่พอใจใส่ฉัน เป็นอะไรของเขา
“พี่เจเป็นไรคะ ทำไมต้องทำหน้าอย่างนั้นใส่น้ำด้วย” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย
“วันนี้แต่งตัวอะไร รู้งี้พี่เลือกชุดให้น้ำใส่เองดีกว่า” อะไรของเขา เป็นอะไรกับเสื้อผ้าฉัน มันก็ปกติดีทุกอย่างนะ แค่ใสชุดเดรสแขนกุดตาข่ายสีดำซึ่งมันก็ไม่ได้รัดรูปและไม่ได้สั้นอะไรมากแค่เลยเข่าขึ้นมานิดหน่อยเอง เป็นไรมากป่ะเนี่ย
“นี่พี่เจ เป็นไรมากป่ะเนี่ยชุดน้ำก็ไม่เห็นจะมีอะไรน่าเกลียดหรือว่ามันไม่สวย” ฉันพูดออกไปอย่างอารมณ์เสีย
“ก็มันสวยเกินไปไง ดูสิพวกผู้ชายมองกันตรึมเลย พี่หวงอ่ะ” โอ๊ย อยากจะบ้า ช่วงนี้ไม่รู้เขาเป็นอะไรหวงอะไรไม่รู้ใครมองก็ไม่ได้ยิ้มให้ใครก็ไม่ได้ ทีตัวเองนะผู้หญิงมองตาเป็นมันฉันยังไม่เห็นว่าอะไรเลย
“เวอร์ล่ะพี่เจ”
“ก็จริงอ่ะ” ท่าทางแสนงอนแบบนั้นมันเข้ากับหน้าตาเขาไหมพูด
“ไม่คุยกับพี่แล้ว นู่นพี่มาร์คกับอลิชมาแล้ว อ้าวนั้นพี่บีมก็มาด้วยอ่ะ”
“เฮ้ย ไอ้เจมานานยังวะ” พอเดินมาถึงพี่มาร์คก็เอ่ยทักทันที
“นานแล้ว แล้วไอ้บีมมากับมันได้ไงวะ”
“พอดีไปหาไอ้มาร์ค เลยมาด้วย” พี่บีมตอบพอให้เราเข้าใจ ฉันรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยนะ แต่ไม่มากเพราะพี่เจยังไม่เป็นไรเลย แสดงว่าพวกเขาเคลียร์กันแล้ว ฉันก็ควรทำให้พวกเขาสบายใจ
“สวัสดีค่ะ พี่น้ำ พี่เจ” อลิชเอ่ยทักเราสองคน
“ดีจ๊ะ น้องอลิชนั่งๆ เลยค่ะจะได้สั่งอาหารกัน” ฉันบอกให้ทุกคนนั่ง
“สั่งอาหารดิ รออะไร กูรอพวกมึงจนไส้จะขาดแล้ว”
“พี่เจ เยอะไปค่ะ” ฉันเอ็ดพี่เจด้วยท่าทางดุๆ
“น้ำอ่ะ” ยังมาทำหน้างอนๆ ใส่ฉันอีกไม่อายเพื่อนรึไง
“ฮ่าๆ ๆ ไอ้คนกลัวเมีย”
“อย่าให้มึงมีมั่งนะ” พี่มาร์คกับเจสันทะเลาะกันเหมือนเด็กดูๆ แล้วพวกเขาเป็นเพื่อนที่รักกันมาก คอยช่วยเหลือกันตลอดไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรถึงนิสัยจะแตกต่างกันสุดขั้วก็เถอะ เราสี่คนสั่งอาหารมาท่านเสร็จสับแล้วมาส่งอลิชที่สนามบิน
“เดินทางปลอดภัยนะคะน้องอลิช” เราร่ำลาอลิชกันอยู่
“ขอบคุณนะคะพี่ลูกน้ำ”
“ค่ะ ครั้งหน้ามาเที่ยวที่ไทยอีกเดี๋ยวพี่จะพาเที่ยวนะคะ รอบนี้เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันเลย”
“ได้สิคะ เสียดายจังที่ไม่ได้เที่ยวด้วยกัน”
“สองสาวล่ำลากันพอรึยังเดี๋ยวอลิชตกเครื่องนะ” เราสองคนคงจะพูดเยอะไปพวกหนุ่มๆ เลยขัดขึ้น
“อลิช อย่าลืมคิดถึงพี่นะครับ” พี่มาร์คได้ทีก็ม่อใส่อลิชทันที
“คิดถึงทำไมค่ะ พี่มาร์คมีสาวๆ คิดถึงเยอะแล้ว อลิชไม่คิดถึงสักคนก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“โถ่ สาวที่ไหนไม่มี๊ พี่อยากให้อลิชคิดถึงนี่น๊า” สองคนหยอกล้อกันพี่มาร์ก็ทำท่าทำทางงอนๆ
“อลิชเขาไม่คิดถึงมึงหรอกไอ้มาร์ค พอกลับไปที่นู่นก็มีหนุ่มๆ ฝรั่งหล่อๆ เยอะแยะเขาจะคิดถึงคนหน้าม่อไปเรื่อยอย่างมึงทำไม” นี่ก็กัดเพื่อนจัง จะใครซะอีกละก็เจสันน่ะสิถ้าให้พี่บีมกัดคงไม่มีทางพูดน้อยอย่างนั้น
“ไอ้ เพื่อนเวร” พี่มาร์คทำหน้างอนๆ
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ไปดีกว่าค่ะ เดี๋ยวตกเครื่อง อลิชจะคิดถึงทุกคนนะคะ” อลิชพูดแล้วหันไปมองหน้าทุกคนแล้วจบอยู่ที่พี่มาร์คนานหน่อยจนพี่มาร์คอมยิ้มอย่างพอใจ
“ครับ ฝากความคิดถึงมัมด้วยนะครับ ถ้าว่างพี่จะกลับไปเยี่ยม”
“ค่ะ ไปแล้วนะคะพี่บีม” อลิชเอ่ยล่าอีกครั้ง คงจะเห็นพี่บีมไม่พูดเลยหันไปพูดกับพี่บีม
“เดินทางปลอดภัยนะครับ” พี่บีมพูดขึ้น อลิชก็เดินออกไป โบกมือบ๊ายบายเราสี่คน หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้ายกันกลับ
“น้ำมานี่หน่อย” ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่คอนโด ฉันกำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว ส่วนเจสันก็นั่งดูทีวีอยู่ให้ห้องนั่งเล่นที่แรกเขาบอกจะมาช่วยแต่ฉันปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเขาทำเคยทำให้ฉันทานแล้วฉันเลยอยากทำให้เขาทานบ้าง และตอนนี้ฉันก็ทำเสร็จแล้วก็ได้ยินเสียงเรียกของเขาดังเข้ามา ฉันจึงเดินออกไปหา
“มีไรคะ”
“แม่สามีอยากคุยด้วย” ห๊า แม่สามี แม่เขาน่ะเหรอฉันยังไม่ทันได้คิดอะไรเขาก็เดินมาลากฉันไปนั่งบนโซฟาตัวเดี๋ยวกับเขาที่มีโน้ตบุ๊กเปิดอยู่ ซึ่งพอเดินเข้าไปก็เห็นผู้หญิงวัยกลางคนแต่สวยมากคนหนึ่งอยู่บนจอ
“เอ่อ สวัสดีค่ะ” ฉันยกมือไหว้ท่าน ฉันทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันทีที่สบตาท่าน
“มัมครับนี่ไง ว่าที่ลูกสะใภ้ น่ารักไหมครับ” เจสันเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนเพราะเขาฉันนั่งเกร็งอยู่
“เจ นี่ลูกไปหลอกหนูน้อยคนนี้มารึเปล่าลูก”
“อะไรครับมัม มัมเห็นผมเป็นคนยังไง” แม่เขาบอกว่าเขาไปหลอกฉัน ฉันก็นึกขำ
“ชื่ออะไรจ๊ะหนู” ฉันมัวแต่คิดอะไรเพลินๆ อยู่เจสันก็เข้ามากระซิบบอกว่าแม่เขาเรียกถามชื่อฉัน
“เอ่อ หนูชื่อลูกน้ำค่ะ” ฉันตอบออกไปเสียงตะกุกตะกักนิดหน่อย
“ชื่อน่ารักจัง นี่เจสันรังแกหนูรึเปล่าลูกบอกมัมได้นะ หรือว่าเจสันไปหลอกหนูมา กักขังหน่วงเหนี่ยวหนูรึเปล่า” แม่เขาพูดออกมายาวเหยียดว่าให้ลูกชายต่างๆ นานา ฉันๆ ได้แต่กลั้นหัวเราะอยู่
“มัมครับ ผมไม่ใช่โจรโรคจิตนะครับ” เจสันแก้ตัวด้วยท่าทางงอนๆ น่ารักจริงๆ
“มัมไม่เชื่อหรอก จนกว่าจะได้ยินจากปากหนูน้ำ”
“มัมอ่ะ ก็ได้ครับตอบไปสิครับที่รัก ถ้าตอบไม่ดีมีลงโทษ” เขาหันมาหาฉันและบอกให้ฉันตอบและยังมีขู่ส่งท้ายอีกต่างหากมัมน่านักใส่ไฟดีไหมเนี้ย
“เจ้าเจไม่ทันไรก็ขู่น้องซะแล้ว จะให้มัมเชื่อได้ยังไง ว่าไงจ๊ะหนูน้ำพูดความจริงกับมัมเลยนะลูกไม่ต้องกลัวพี่เขา ถึงอยู่ไกลมัมก็จัดการให้ได้” แม่เขาเปิดโอกาสให้ฉันเต็มที่
“เอ่อ คือ พี่เจเขาหญิงเยอะมากเลยค่ะคุณน้า” ฉันพูดออกไปในที่สุดทีแรกว่าจะไม่แกล้งแต่หมั่นไส้ไง
“เฮ้ย น้ำอะไรอ่ะ ไม่จริงนะครับมัม” ส่งสัยจะกลัวแม่มาก ตอนนี้เขาได้แต่ส่งสายตาคาดโทษฉันอยู่
“จริงเหรอหนูน้ำ แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณน้าหรอกจ้ะเรียกมัมดีกว่า”
“เอ่อ ค่ะ” ฉันไม่คิดว่าแม่เขาจะเมตตราฉันขนาดนี้ซึ่งฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าจนๆ คนหนึ่ง
“พอแล้วครับมัม ผมไม่ให้มัมคุยกับเมียผมแล้วครับ”
“ไอ้ลูกคนนี้นิ”
“แค่นี้ล่ะครับมัม ฝากความคิดถึงแด๊ดกับพี่ๆ ด้วยนะครับไว้ว่างๆ ผมจะพาลูกสะใภ้ไปเยี่ยม บาย” ลูกสะใภ้นี่คงไม่ได้หมายถึงฉันใช่ไหมพูดจบเขาก็ปิดหน้าจอลงทันที
“นี่ คนไม่มีมารยาทปิดไปแบบนั้นได้ยังไง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ มัมแค่อยากเห็นหน้าลูกสะใภ้ นี่ก็เห็นแล้วแถมยังถูกใจด้วยนะ”
“บ้า” ฉันเขินอายทันทีที่เขาพูดแบบนั้น
“มัมพี่ไม่รังเกียจน้ำใช่ไหมคะ” ฉันถามออกไปตามที่อยากรู้เพราะว่าฉันกับเขานั้นเราต่างกันมาก ครอบครัวเขาจะยอมรับฉันรึเปล่า ฉันรู้สึกกังวลไปหมด รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเขา
“ไม่หรอกครับ ครอบครัวพี่เราไม่ถือเรื่องแบบนี้ ถ้าเรารักใครคนในครอบครัวก็จะรักด้วย”
“ขอบคุณนะคะที่ไม่รังเกียจน้ำ” ฉันดีใจที่ครอบครัวเขาไม่รังเกียจฉัน
“ใครจะไปรังเกียจหอมซะขนาดนี้ อ่า ชื่นใจ” ไม่ว่าเปล่าเขาลากไล้จมูกไปตามพวงแก้มใสอีกต่างหาก
“พี่เจ” ฉันตีเขาไปที่แขนหนึ่งทีด้วยความเขินอาย เขาทำให้ฉันอายอยู่ตลอดเวลาจริงๆ
“เจ็บนะ กล้าทำร้ายร่างกายผัวเหรอ อย่างนี้ต้องโดนลงโทษ”
“อ๊ายย ไม่นะ ฮ่าๆ ๆ” เขาเวอร์มากตีไม่แรงทำเป็นมารยาเจ้าเล่ห์จริงผู้ชายคนนี้ พอฉันได้ยินคำว่าจะลงโทษฉันก็รีบวิ่งหนีเขาทันทีส่วนเขาก็วิ่งตามฉันเราสองคนวิ่งไล่จับกันจนทั่วห้อง เสียงหัวเราะของเราสองคนอบอวลไปทั่วห้อง ฉันมีความสุขมากที่มีเขาอยู่อย่างนี้ฉันไม่รู้หรอกว่าความสุขแบบนี้จะอยู่กับฉันไปนานแค่ไหน ฉันรู้แค่ว่าวันนี้ฉันจะเก็บเกี่ยวมันให้ได้มากที่สุด