ยัยเฉิ่มแสนเชยมัดใจนายหล่อร้าย - ตอนที่ 14
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ นี่ก็ผ่านมาอาทิตกว่าแล้วเขาก็ยังไม่กลับมา ฉันไม่เห็นหน้าเขาอีกเลยไปทำงานที่ผับก็ไม่เห็นเพราะเขาไม่ได้เข้าไป เจอก็แต่พี่บีมกับพี่มาร์คแต่ฉันก็ไม่ได้ถามว่าเขาหายไปไหน
ฉันดำเนินชีวิตของฉันไปเรื่อยๆ ตามปกติ อ่อ…ฉันลืมบอกไปว่าฉันย้ายออกมาจากคอนโดเขาแล้วตั้งแต่สองวันแรกที่เขาไม่กลับมา ฉันรอว่าเขาจะกลับมาอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฉันฟังเพราะฉันพร้อมแล้วที่จะรับฟังแล้วแต่เขาก็เงียบหายไปเลยโทรมาก็ไม่โทร ฉันจึงตัดสินใจกลับมาอยู่ห้องตัวเอง บอกตัวเองว่าฉันควรตัดใจเขาคงเบื่อฉันแล้วจริงๆ กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมดีกว่า
และวันนี้ฉันก็มาทำงานที่ผับตามปกติ ตอนนี้ก็เป็นเวลาพักเบรกของฉัน ฉันนั่งอยู่ตรงบาร์เครื่องดื่มสั่งน้ำพั้นซ์มาดื่มเพราะไม่อยากจะเมาพรุ่งนี้มีเรียนเช้าด้วย นั่งสักพักก็มีหนุ่มเข้ามาทักแต่พอหันไปเท่านั้นแหละฉันถึงกับตกใจทันที
“สวัสดีครับขอนั่งด้วยคนได้ไหมครับ ลูกน้ำ”
“เอ่อ.. “ฉันติดอ่างไปเลยค่ะ
“ผมจำลูกน้ำได้ครับ ไม่ต้องตกใจ ไม่บอกใครเหรอว่าสาวเฉิ่มแสนเชยตอนกลางวันคนนั้นเป็นสาวสวยเซ็กซี่ตอนกลางคืนคนนี้” เขาพูดพร้อมกับส่งสายตาล้อเลียนมาทางฉัน บอกเลยว่าวันนี้เขาหล่อมากเขาไม่เหมือนคนที่ฉันเจอที่มหาลัย วันนี้เขาดูเท่ระเบิดไปเลย
“เอ่อ นายจำเราได้ด้วยเหรอ”
“จำได้สิ นั่งด้วยคนได้ไหม” เขาพูดจบพร้อมกับนั่งลงข้างๆ ฉันโดยไม่ให้ฉันตอบตกลง แล้วจะมาถามฉันทำไม
“นายมาเที่ยวเหรอ” ในเมื่อเขาจำฉันได้ฉันไม่อยากให้เขามาถามฉันเรื่องที่ฉันแต่งตัวคนละแนว กลางวันแบบหนึ่งกลางคืนแบบนึ่ง ขี้เกียจตอบและเหมือนเขาจะรู้เขาถึงไม่พูดถึงมัน
“มาเที่ยวสิ เธอเป็นดีเจที่นี่เหรอ”
“อืม”
“เราจะเป็นเพื่อนกันได้อยู่ไหม ที่ฉันถามเธอวันนั้น ฉันอยากเป็นเพื่อนกับเธอ” ใช่แล้วค่ะ ผู้ชายที่มาขอนั่งกับฉันก็คือ ชาลี คนที่มาขอเป็นเพื่อนฉันที่มหาลัย
“ได้สิ ถ้านายไม่รังเกียจเรา”
“เราจะรังเกียจลูกน้ำทำไมล่ะ ลูกน้ำออกจะสวย หึ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงล้อเรียนและสายตาแพรวพราว แนะยังจะมีมาหยอดฉันคิดถูกรึเปล่าที่รับเขาเป็นเพื่อน
“อย่ามาเจ้าชู้ใส่เรา เป็นเพื่อนก็คือเพื่อนเข้าใจ แล้วก็เรียกเราว่าน้ำเฉยๆ ก็ได้”
“แหม พูดดักทางไว้เลยนะ ใจร้ายจัง” อย่ามาทำท่าทางหงอยๆ แบบนั้นนะน่ารักตายแหละ แต่ก็น่ารักจริงแหละ พอได้คุยกับชาลีฉันก็สบายใจขึ้นหน่อย บางทีการมีเขาเป็นเพื่อนมันก็อาจจะดีก็ได้ เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเราคุยกันถูกคอมาก เรานั่งคุยกันจนถึงเวลาที่ฉันต้องขึ้นเวทีอีกครั้งและเขาบอกว่าจะไปส่งหลังจากฉันเลิกงานฉันบอกไม่เป็นไรเกรงใจ แต่เขาก็ยังอาสาอยู่นั่นแหละฉันเลยตอบตกลงไป
“ขอบใจมากนะชาลีที่มาส่ง” ฉันบอกเขาหลังจากที่จอดรถหน้าคอนโดของฉัน
“ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันแล้วหนิ”
“จ้า ฉันไปนะ”
“น้ำ พรุ่งนี้เรามารับไปเรียนนะ” ฉันกำลังจะเปิดประตูลงจากรถเขาก็พูดขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก เราเกรงใจ”
“เกรงใจทำไม เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ ถ้าเธอไม่ตอบตกลง ฉันจะคิดว่าเธอไม่อยากเป็นเพื่อนกับเราจริงๆ” นี่เขาเล่นอย่างนี้เลยเหรอ
“ก็ได้ๆ เจ็ดโมงเช้าเจอกัน”
“เดี๋ยว เอาเบอร์เธอมาก่อนสิ เราจะได้โทรเรียกเธอลงมาไงตอนเรามารับ”
“อ่ะ” ฉันก็ลวงโทรศัพท์ของฉันให้เขาไป เขาก็จัดการโทรเข้าเครื่องเขาแล้วส่งคืนให้กับฉัน
“ขึ้นห้องดีๆ”
“จ๊ะ บาย ขับรถกลับดีๆ นะ”
ฉันก้าวลงจากรถกำลังจะเดินขึ้นห้องแต่ก็มีมือใครไม่รู้มาคว้าแขนฉันไว้ ฉันตกใจมากจึงรีบหันหน้ากลับไปดูว่าใคร ฉันเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่
“เอ่อ…. พี่บีมมีอะไรรึเปล่าค่ะ” ใช่แล้วค่ะผู้ชายที่มาหาฉันตอนนี้คือพี่บีม
“เอ่อ…พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ” คุยกับฉันคุยเรื่องอะไร
“เรื่องอะไรคะ”
“ขึ้นรถสิ” เขาไม่ตอบแต่ลากฉันขึ้นรถเฉยเลย ฉันไม่ทันได้ขัดขืนอะไรเขาก็ยัดฉันเข้าไปนั่งในรถซะแล้ว เห็นเงียบๆ แบบนี้เอาแต่ใจชะมัดสมกับเป็นเพื่อนกับนายเจสันจริงๆ
“พี่จะพาน้ำไปไหนคะ” เงียบค่ะ ฉันถามเขา เขาก็ไม่ตอบ อะไรของเขาเนี่ยฉันงงไปหมดแล้ว ฉันเลยไม่ถามต่อเขาคงไม่พาฉันไปทำอะไรไม่ดีหรอกมั้งเพราะเขาก็รู้อยู่แล้วว่าฉันเป็นแฟนเพื่อนเขาถึงตอนนี้สถานะเรามันเป็นยังไงฉันยังไม่รู้เลย
“ถึงแล้วครับ” เขาพาฉันมาที่สวนสาธารณะที่ติดกับแม่น้ำที่ไหนสักแห่งสวยมากเลยล่ะทำไมฉันไม่เคยรู้นะว่าที่กรุงเทพมีที่แบบนี้ด้วย
“พี่มีอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ” เงียบอีกแล้วค่ะ ทำไม่พูดยากจังนะ ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องเศร้านะ
“เปล่าหรอกพี่แค่อยากมีคนนั่งเป็นเพื่อน” พูดแค่นั้นเขาก็นั่งลงบนพื้นหญ้า อยากมีเพื่อนคุยแล้วลากฉันออกมาตอนตีสองนี่นะ เขาไม่คิดว่าฉันจะง่วงบ้างเหรอ อยากจะบ้ากับผู้ชายพูดน้อยคนนี้ ฉันเลยได้แต่ถอนหายใจแล้วนั่งลงตามเขาแต่เพราะฉันใส่กระโปรงเลยนั่งไม่ค่อยถนัดเลยนั่งพับเพียงพอนั่งได้ที่ ก็มีเสื้อแขนยาวลอยหวือมาว่างลงที่ตักฉัน
“เอ๋ ขอบคุณค่ะ” ฉันเอียงคอมองเขา พี่บีมถอดเสื้อมาให้ฉันเองหล่ะแต่สายตาเขายังมองไปข้างหน้าไม่ได้สนใจฉันด้วยซ้ำ แล้วมันก็เป็นอย่างนี้อยู่เกือบสามสิบนาที เขาลากฉันมาแค่นั่งเป็นเพื่อนจริงๆ และตอนนี้ฉันก็เริ่มง่วงมากแล้วด้วย
“กลับกันเถอะ” ห๊า อยู่ๆดีเขาก็ลุกพรวดขึ้นแล้วเดินไปที่รถทันทีโดยไม่รอฉันเลย ฉันเลยรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งตามไปพอเข้ามานั่งในรถฉันเก็บความสงสัยไว้ไม่อยู่
“พี่บีมมีอะไรหรือเปล่าคะบอกน้ำมาตรงๆ เลยดีกว่าค่ะ ว่าที่ลากน้ำมามีอะไรกันแน่” ฉันกลั้นใจถามออกไปเพราะอยากรู้จริงๆ เขามีเหตุผลอะไรที่ต้องลากฉันออกมาทั้งที่แต่ก่อนเราแทบจะไม่เคยได้พูดคุยค่ะ
“อยากรู้จริงๆ เหรอ”
“ค่ะ”
“ฉันชอบเธอ”