ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน! - ตอนที่ 19 รุ่นน้องสาวแกลตัวแสบ โอบะ โมนากะ
- Home
- ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน!
- ตอนที่ 19 รุ่นน้องสาวแกลตัวแสบ โอบะ โมนากะ
ฉันจะช่วยรุ่นพี่
ฉันประกาศออกไปแบบนั้น แต่ฉันจะทำอะไรได้บ้างนะ
ฉันเดินวนไปวนมาอย่างไร้จุดหมาย คิดแล้วคิดอีก
ต่างกับรุ่นพี่ที่มีความสามารถ ฉันทำอะไรไม่เป็นเลย คิดหาทางแก้ไขอะไรไม่ออกเลย
「มัวแต่กังวลไม่ได้แล้วสินะ」
ฉันตบหน้าตัวเองเบาๆ แล้วพยายามรวบรวมสติ
ฉันต้องทำในสิ่งที่ฉันทำได้
「อรุณสวัสดิ์!」
ฉันเข้าไปในห้องเรียน แล้วทักทายทุกคนด้วยเสียงดัง
เพื่อนร่วมชั้นหยุดคุยกัน แล้วหันมามองฉันพร้อมกัน
…สายตาพวกนั้นมันช่างบาดใจ เพราะฉันไม่เคยทักทายใครมาก่อนเลย
แต่ฉันจะไม่หนีอีกแล้ว
「ทุกคน ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้อง!」
ฉันพูดพลางเดินขึ้นไปยืนหน้าชั้นเรียน มองหน้าทุกคน
มือสั่นไปหมด ฉันกำกระโปรงแน่น พยายามบังคับไม่ให้มือสั่น
ทั้งห้องเงียบกริบ
ทุกคนดูงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงมัตสึรินที่มองฉันด้วยความเป็นห่วง
「ในการประชุมวิสามัญนักเรียนที่จะถึงนี้ ขอให้โหวตให้ท่านประธานนักเรียนคนปัจจุบันให้หน่อยนะ!」
ฉันพูดออกไป แล้วก้มหัวลง
สิ่งที่เห็นในสายตามีเพียงโต๊ะหน้าชั้น ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมชั้นมีปฏิกิริยายังไง
หูไม่ได้ยินอะไรเลย
ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ
เพื่อนร่วมชั้นต่างมองหน้ากัน ทำอะไรไม่ถูก
ก็แน่อยู่แล้ว เพราะตั้งแต่เข้าเรียนมา ฉันก็พยายามหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับทุกคน
「โมนากะซัง…」
「ไม่เป็นไร」
ฉันห้ามมัตสึรินที่พยายามจะเข้ามาช่วย
นี่อาจเป็นการกระทำที่ล้มเหลว ฉันจะดึงมัตสึรินเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้
ฉันหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ
「อยู่ๆ ก็พูดอะไรออกมา ทุกคนคงคิดแบบนั้นสินะ ฉันคิดว่าคงไม่มีใครคิดว่าฉันเป็นเพื่อนหรอก ตอนแรกก็มีคนเข้ามาคุยกับฉันบ้าง แต่ฉันก็ทำตัวเย็นชาใส่」
ฉันอยู่คนเดียวมาตลอด
แทบจะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับตอนที่คุยกับเพื่อนในห้องอย่างสนุกสนานเลย
ต่อให้มีโอกาสได้คุย ฉันก็จะสร้างกำแพงขึ้นมา
「ฉันหนีมาตลอด เพราะกลัวถูกคนอื่นเกลียด」
ฉันถูกคนมากมายเกลียดตั้งแต่เด็ก
ตอนแรกก็มีเพื่อน แต่สุดท้ายพวกเขาก็เกลียดฉัน
ผู้ใหญ่มองว่าฉันเป็นเด็กมีปัญหา
น้ำเสียง คำพูด ท่าทางของฉัน ดูเหมือนจะไม่ถูกใจทุกคน
「ถ้ายังไงก็จะถูกเกลียดอยู่แล้ว ไม่เป็นเพื่อนกันซะตั้งแต่แรกยังจะดีกว่า เพราะมันง่ายกว่าการถูกเกลียดหลังจากเป็นเพื่อนกันแล้ว」
ฉันได้ยินเสียงคนพูดกันว่า นี่มันเรื่องอะไร
อืม ฉันเองก็เริ่มจะงงๆ แล้วเหมือนกัน
「แต่ว่า… รุ่นพี่ ท่านประธานนักเรียน ยอมรับในตัวฉัน เขาช่วยฉัน โดยไม่ได้มองฉันด้วยอคติหรือหวังอะไรแอบแฝงเลย」
ตอนสอบเข้า ตอนที่เกือบจะถูกไล่ออก แล้วก็ตอนที่รุ่นพี่เองก็เดือดร้อน
รุ่นพี่ก็ยังช่วยฉัน ทั้งๆ ที่ฉันมีรูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้
ฉันคิดว่ารุ่นพี่คงช่วยไม่ว่ากับใครก็ตาม
แต่ฉันก็ได้รับการช่วยเหลือจากรุ่นพี่ ถ้าไม่ได้เจอกับรุ่นพี่ ป่านนี้ฉันก็คงยังทำตัวไม่ถูก
ฉันเป็นตัวของตัวเองได้ ก็เพราะว่าฉันอยู่กับรุ่นพี่
ฉันรู้ว่าฉันจะไม่ถูกปฏิเสธ ก็เลยแสดงความอ่อนแอออกมาอย่างเต็มที่เพราะเป็นปฏิกิริยาตอบสนองจากที่ผ่านมา มันน่าอายจริงๆ เมื่อลองคิดย้อนกลับไป
「ฉันต้องขอบคุณรุ่นพี่ ที่ทำให้ฉันมีเพื่อน ฉันได้รับคำแนะนำจากเพื่อนคนนั้นว่าฉันเพียงแค่หนี และนั่นไม่ใช่วิธีที่จะทำให้ฉันก้าวไปข้างหน้าได้」
มัตสึรินเบิกตากว้าง
การที่ฉันได้เป็นเพื่อนกับมัตสึริน ก็ต้องขอบคุณรุ่นพี่ และต้องขอบคุณมัตสึรินที่มองมาที่ฉันอย่างตรงไปตรงมา
เธอไม่ได้เกลียดฉันและจบไป แต่เธอกลับบอกฉันถึงข้อเสียของฉันอย่างตรงไปตรงมา
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย
ดังนั้น วันนี้ฉันจะเปลี่ยนแปลง
เพื่อปกป้องรุ่นพี่ที่ฉันชอบ มัตสึรินที่ฉันชอบ
「ฉันพยายามหลีกเลี่ยงจากคนรอบข้างเพื่อที่ฉันจะได้ไม่ถูกเกลียด ถ้าฉันอยากให้คนอื่นชอบฉัน อย่างแรกฉันต้องชอบพวกเขาก่อน จากนี้ไป ฉันอยากจะสนิทกับทุกคน… ไม่สิ ต่อให้ถูกเกลียด ฉันก็จะเผชิญหน้ากับพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา」
นั่นคือสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ หลังจากที่ฉันได้ชอบรุ่นพี่
มันเป็นเรื่องง่ายๆ
ถ้าคุณชอบใครสักคนและอยากสนิทกับเขาอย่างจริงใจ อีกฝ่ายก็จะตอบสนองคุณ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่กับเรื่องความรัก แต่กับเพื่อนก็เหมือนกัน
「ฉันคิดว่าทุกคนคงไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงก้มหัวให้ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ฉันคิดว่าทุกคนคงไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง เพราะฉันพยายามหลีกเลี่ยงทุกคนมาตลอด แต่กลับมาทำตัวเห็นแก่ตัวในเวลาแบบนี้」
ถ้าเป็นรุ่นพี่ คงจะคิดหาวิธีที่ฉลาดกว่านี้ได้
รุ่นพี่เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นเก่ง โดยธรรมชาติแล้ว เขาคงไม่ต้องใช้วิธีแบบนี้ตั้งแต่แรก
「ถึงอย่างนั้น ฉันก็ทำได้แค่ขอร้องทุกคนเท่านั้น」
ฉันก้มหัวลงอีกครั้ง
「ได้โปรดโหวตให้รุ่นพี่มาซาจิกะด้วยค่ะ เพราะรุ่นพี่ ฉันถึงได้เปลี่ยนไป เขาเป็นคนเท่าเทียมกับทุกคน ไม่ลังเลที่จะช่วยเหลือผู้อื่น และคิดถึงนักเรียนเป็นอันดับแรก ฉันคิดว่านั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงควรเป็นประธานนักเรียนต่อไป」
เพราะฉันชอบเขา นั่นไม่ใช่เหตุผลเดียว
ฉันคิดว่ารุ่นพี่เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นประธานนักเรียน จากใจจริง
「ฉันไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกนะคะ」
ท่ามกลางความเงียบ มีเพียงคนเดียวที่ส่งเสียงออกมา
มัตสึรินลุกขึ้นยืน ดึงเก้าอี้ออก
「คุณกำลังบอกว่า คุณอยากให้ประธานนักเรียนคนปัจจุบันได้ดำรงตำแหน่งต่อ เพราะเขาเป็นคนที่เปลี่ยนคุณได้ อย่างนั้นหรือเปล่าคะ」
「จะว่าอย่างนั้น… ก็ได้มั้ง」
「คุณนี่นะ ไม่คิดก่อนพูดอีกแล้ว…」
「ขอโทษ ฉันพูดไปตามอารมณ์น่ะ…」
ฉันพลั้งปากพูดอะไรออกไปโดยไม่คิดอีกแล้ว เดี๋ยวมัตสึรินต้องโกรธฉันแน่ๆ
มัตสึรินถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินมาหาฉัน
เธอขึ้นไปยืนบนแท่นหน้าชั้นเรียน ยืนข้างๆ ฉัน
「ฉันเองก็จะขอร้องทุกคนเหมือนกันค่ะ」
「เดี๋ยว มัตสึริน…」
ฉันเป็นคนเริ่มเรื่องนี้เอง มัตสึรินไม่จำเป็นต้องก้มหัวขอร้องใครด้วย
ฉันคิดแบบนั้น เลยพยายามห้ามเธอเมื่อครู่
「ฉันจะบอกไว้ก่อนนะคะ ว่าฉันเองก็เป็นรุ่นน้องของท่านประธานเหมือนกัน」
เธอพูดเสียงเบาๆ ให้ได้ยินแค่ฉัน
เธอเงยหน้าขึ้น แล้วเริ่มพูดกับเพื่อนร่วมชั้น
「ฉันไม่ได้จะบังคับ และก็ทำแบบนั้นไม่ได้ แต่ฉันอยากให้ทุกคนคิดให้ดีก่อนโหวต ไม่ใช่แค่ตามกระแส หรือเพราะคิดว่ามันสนุก แต่ขอให้ทุกคนพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่า ประธานนักเรียนคนไหนจะทำให้โรงเรียนดีขึ้นได้」
ทั้งๆ ที่มัตสึรินไม่ใช่คนที่ชอบแสดงออก แต่เธอกลับพูดกับเพื่อนร่วมชั้นได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ
「รุ่นพี่สึจิโด เป็นคนที่ชี้แนะแนวทางให้กับนักเรียนที่มีปัญหาแบบนี้ค่ะ」
「เอ๊ะ ฉันไม่ใช่นักเรียนมีปัญหาสักหน่อย…?」
「อย่างที่เห็น บางทีลับหลัง เธออาจจะเป็นหัวโจกก็ได้ค่ะ」
「มัตสึริน คิดว่าฉันเป็นคนแบบนั้นจริงๆ เหรอ…?」
ช็อก!
ฉันกำลังตกตะลึง มัตสึรินก็หัวเราะคิกคัก
「จริงๆ แล้ว เธอน่ารักแบบนี้แหละค่ะ ตอนแรกฉันก็เข้าใจผิดเหมือนกัน แต่คนที่ดึงตัวตนจริงๆ ของเธอออกมาได้ ก็คือรุ่นพี่สึจิโดค่ะ」
น่ารักเนี่ยนะ
ฉันว่ามัตสึรินน่ารักกว่าอีกนะ น่ารักจนฉันกังวลว่ารุ่นพี่จะชอบเธอขึ้นมา
「เราหวังว่ารุ่นพี่สึจิโดจะได้เป็นประธานนักเรียนต่อไป เราอยากให้ทุกคนรับรู้ถึงเรื่องนั้น การที่โมนากะซังขึ้นมายืนหน้าชั้นเรียน ก็ด้วยจุดประสงค์นั้นค่ะ… น่าจะนะ」
ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจ แต่ฉันก็พยักหน้าอย่างมั่นใจ
… ให้มัตสึรินมาช่วยนี่ อาจจะคิดถูกแล้วก็ได้
「นั่นคือสิ่งที่ฉันประเมินในฐานะฝ่ายการเงินของสภานักเรียน เพราะฉะนั้น ฉันก็อยากให้ทุกคนประเมินรุ่นพี่สึจิโดด้วย ทั้งจากสิ่งที่เขาได้ทำลงไปแล้ว และสิ่งที่จะทำต่อไปในอนาคต ขอให้ทุกคนพิจารณาอย่างถี่ถ้วน แล้วค่อยโหวตนะคะ」
พูดจบ มัตสึรินก็ก้มหัวลงอีกครั้ง
ฉันรีบก้มหัวตาม
「ฝากด้วยนะคะ」
「ฝากด้วยนะคะ!」
ปฏิกิริยาของเพื่อนร่วมชั้นมีหลากหลาย ฉันไม่รู้ว่าคำพูดของเราจะส่งไปถึงพวกเขามากแค่ไหน
แต่อย่างน้อย ฉันคิดว่าพวกเขาก็คงจะเริ่มคิดทบทวนดูบ้าง
「เอ่อ…」
คนที่ยกมือขึ้นอย่างลังเล คือเด็กผู้ชายที่ฉันเคยเห็น ก็แหงล่ะ เป็นเพื่อนร่วมชั้นนี่นา แต่ฉันหมายถึง เคยเห็นเขานอกโรงเรียน
「อ๊ะ คนที่เป็นเพื่อนของฮายาโตะคุง…」
「ขอบคุณมากนะสำหรับคราวก่อน บรรยากาศของเธอห้องเรียนต่างกันมาก ฉันก็เลยลืมขอบคุณไปเลย แต่ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆ นะ」
เขาคือหนึ่งในสมาชิกวงดนตรีของฮายาโตะคุง
ตอนที่ฉันไปช่วยงานแสดงดนตรี ตอนสอบเข้า ฉันได้เจอกับเขา ไม่ได้คุยกันนาน แต่ก็พอจะจำหน้ากันได้
「ฉันรู้ว่าประธานนักเรียนเป็นคนที่พึ่งพาได้ ประธานนักเรียนช่วยเรื่องการแสดงดนตรีของพวกเรา ทั้งๆ ที่ไม่เกี่ยวกับโรงเรียน เพียงเพราะว่าบังเอิญเจอกัน แถมยังพูดว่า ‘เป็นประธานนักเรียน ก็ต้องช่วยเหลือเป็นธรรมดาอยู่แล้ว’」
แน่นอน ถ้าเป็นรุ่นพี่ เขาจะไม่ทอดทิ้งคนที่กำลังเดือดร้อน
「ฉันจะโหวตให้รุ่นพี่สึจิโด คนแบบนั้นแหละที่จะทำให้โรงเรียนดีขึ้นได้แน่นอน」
「ขอบคุณนะ!」
「ไม่จำเป็นต้องขอบคุณหรอก ฉันเองก็เป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้ เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทุกคน มาคิดกันอย่างจริงจังเถอะ! ว่าประธานนักเรียนคนไหนดีกว่า คิดด้วยตัวเองนะ」
เขาหันไปพูดกับเพื่อนร่วมชั้น
「จริงด้วย เคยช่วยจัดห้องชมรมให้ด้วย… ไม่ได้แค่จัด แต่แทบจะรีโนเวทใหม่เลย ใช้งานง่ายขึ้นเยอะเลย」
「ตอนงานโรงเรียนก็ให้คำแนะนำเยอะมาก… ตอนแรกคิดว่าเข้มงวด แต่ทุกคำแนะนำก็ตรงประเด็น」
「ฉันเคยถูกอาจารย์ดุ แล้วเขาก็มาช่วยไว้」
「เวลาเดือดร้อน ไม่รู้ทำไมเขาถึงโผล่มาได้ทุกที」
เพื่อนร่วมชั้นต่างก็พูดขึ้นมาทีละคน
รุ่นพี่ ทำอะไรแบบนั้นด้วยเหรอ?
แย่จัง! ฉันไม่ได้เป็นคนพิเศษคนเดียวนี่นา!… ล้อเล่นน่ะ
แต่ฉันกลับรู้สึกภูมิใจ ที่ได้ยินว่ารุ่นพี่เป็นคนสุดยอดขนาดนี้
รุ่นพี่คงไม่โอ้อวดเรื่องพวกนี้ด้วยตัวเอง สำหรับเขา มันเป็นเรื่องธรรมดาเกินไป
แต่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
ต่อให้หาทั่วทั้งโรงเรียน ก็ไม่มีทางเจอคนแบบนี้อีกแล้ว
「ทุกคนไม่ต้องรีบตัดสินใจ ขอให้คิดทบทวนให้ดีจนถึงวันศุกร์นะคะ」
「ทำไมล่ะ? กำลังไปได้ดีเลยนี่?」
「มันยังไม่จบแค่นี้หรอกค่ะ ความสุดยอดของท่านประธานน่ะ」
มัตสึรินทำหน้ามั่นใจอย่างที่แทบไม่เคยเห็น
เธอหันไปมองเพื่อนร่วมชั้นอีกครั้ง แล้วพูดอย่างหนักแน่น
「อีกสามวัน ตั้งตารอได้เลยค่ะ ทุกคนจะได้เห็นความสุดยอดที่แท้จริงของท่านประธาน」
ฉันเข้าใจความหมายของคำพูดของมัตสึรินในตอนพักกลางวันของวันนั้น
『ผมสึจิโด มาซาจิกะ ประธานนักเรียน ขอแจ้งให้ทราบ จากคณะกรรมการบริหารสภานักเรียน』
เสียงของรุ่นพี่ดังออกมาจากลำโพงในห้องเรียน
『เราได้ร่วมมือกับร้านเบเกอรี่ในท้องถิ่น และประสบความสำเร็จในการเปิดร้านขายขนมปังในโรงเรียน ร้านจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน แต่ในสัปดาห์นี้จะเป็นช่วงทดลองเปิด ขอเชิญทุกคนมาอุดหนุน และตอบแบบสอบถามด้วยนะครับ』
พอได้ยินแบบนั้น ทั้งห้องเรียนก็เริ่มส่งเสียงฮือฮา
「เอ๊ะ? ร้านขายขนมปัง?」
「หมายถึงร้านขนมปังเหรอ?」
โรงเรียนเราไม่มีทั้งโรงอาหารและร้านค้า ดังนั้น ตอนเที่ยงจึงต้องเตรียมอาหารมาเอง และถ้าไม่พอก็ไม่สามารถหาซื้อเพิ่มได้
แต่การมีร้านขายขนมปัง หมายความว่า…
『สถานที่คือชั้น 1 หน้าห้องคหกรรม เปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ』
ทุกคนค่อยๆ ทำความเข้าใจ… และทันทีที่ได้ยินสถานที่ ทุกคนก็ลุกขึ้นยืน
「โว้วววววววว!」
「ขนมปัง! อยากกิน!」 「ประธานนักเรียนสุดยอดเลย!」
ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีแผนที่จะเปิดร้านขายขนมปังในโรงเรียน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเริ่มเปิดในสัปดาห์นี้อีก ราวกับว่าดูจังหวะเวลามาอย่างดี…
「อย่าวิ่งในโถงทางเดินนะครับ …อ๊ะ ไม่มีใครฟังเลย」
ฉันเห็นภาพรุ่นพี่กำลังยิ้มแห้งๆ ผ่านลำโพง
รุ่นพี่สุดยอดจริงๆ แต่แน่นอนว่าทุกคนวิ่งกันสุดกำลัง! ฉันไม่ได้วิ่งหรอกนะ เพราะฉันตั้งใจฟังเสียงของรุ่นพี่อยู่ ไว้ค่อยให้รุ่นพี่ชมทีหลังดีกว่า
「เห็นว่าจริงๆ แล้วมีแผนจะทำอยู่แล้ว แต่ขอเลื่อนเวลาเปิดให้เร็วขึ้นน่ะค่ะ」
มัตสึรินที่เดินอ้อยอิ่งอยู่ข้างๆ บอกกับฉันที่กำลังเดินไปอย่างช้าๆ
「หือ ทำไมมัตสึรินถึงรู้ล่ะ? ฉันยังไม่รู้เลย…」
「อย่าหึงกันสิคะ ในเมื่อเป็นเรื่องที่สภานักเรียนกำลังดำเนินการอยู่ การที่ฉันรู้ก็เป็นเรื่องธรรมดานี่คะ ถึงแม้ว่าคนที่ดำเนินการจะเป็นท่านประธานคนเดียว ฉันก็ไม่รู้รายละเอียดหรอกค่ะ」
นักเรียนจำนวนมากเบียดเสียดกันอยู่ที่ร้านขายขนมปัง ดูวุ่นวายมาก
อาจเป็นเพราะยังอยู่ในช่วงทดลองเปิด เลยมีพนักงานตั้งห้าคน คอยบริการอย่างรวดเร็ว
…พอมองดูดีๆ ก็เห็นอาจารย์คุเงะนุมะร่วมวงอยู่ด้วย นอกจากนั้นก็มีอาจารย์อีกสองสามคนที่คุ้นตา
「ที่พูดตอนเช้าก็คือเรื่องนี้นี่เอง แต่แบบนี้ คะแนนเสียงของรุ่นพี่น่าจะเพิ่มขึ้นแล้วนะ!」
「ใครจะไปรู้ล่ะคะ」
มัตสึรินยิ้มปฏิเสธ
「แค่นี้ยังไม่พอหรอกค่ะ」
「เอ๊ะ…?」
วันพุธและวันพฤหัสบดี มีการประกาศจากรุ่นพี่อย่างต่อเนื่อง
เนื้อหาในการประกาศ ทำให้นักเรียนฮือฮากันมาก
ไม่ใช่แค่เรื่องร้านขายขนมปัง
มาตรการต่างๆ ที่ทุกคนคาดไม่ถึง ถูกประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งการเพิ่มหนังสือการ์ตูนและนิยายในห้องสมุด การติดตั้ง Wi-Fi ฟรีในโรงเรียน การร่วมมือกับร้านค้าในท้องถิ่นเพื่อมอบส่วนลดสำหรับนักเรียน การเพิ่มเงินสนับสนุนชมรมและจัดซื้ออุปกรณ์จากการบริจาคของศิษย์เก่า การอนุญาตให้แต่งชุดไปรเวทมาเรียนเดือนละครั้งในวัน Dress Code Free Day และอื่นๆ…
แต่ละอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นมาตรการที่จะทำให้นักเรียนมีความสุข
มีหลากหลายแนวทาง และเนื้อหาก็ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
บางอย่างก็เริ่มใช้แล้วในสัปดาห์นี้ บางอย่างก็แค่ประกาศออกมาเฉยๆ แต่จะเริ่มใช้ในภายหลัง
「ตั้งแต่รุ่นพี่สึจิโดเป็นประธานนักเรียนนี่ สุดยอดไปเลยเนอะ」
「มีการเปลี่ยนแปลงเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?」
เพื่อนร่วมชั้นต่างก็พูดคุยกัน มีแต่หัวข้อเกี่ยวกับรุ่นพี่
โดยเฉพาะ ฉันดีใจมากกับวัน Dress Code Free Day ฉันชอบชุดเครื่องแบบนะ มันน่ารัก แต่บางครั้งฉันก็อยากแต่งตัวสวยๆ มาโรงเรียนบ้าง
「รุ่นพี่สุดยอด… ทำงานเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?」
ฉันเผลอพึมพำออกมา
ช่วงหลังเลิกเรียนสัปดาห์นี้ รุ่นพี่ยุ่งมาก จนแทบไม่ได้คุยกันเลย
ก็แน่ล่ะ เพราะรุ่นพี่พยายามจะทำทุกอย่างที่เตรียมไว้ให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ ได้ยินมาว่าต้องรีบเร่งพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง แล้วก็ขออนุญาตประกาศ
「โมนากะซัง เราจะมัวแต่ยืนเฉยๆ ไม่ได้แล้วนะคะ」
「รู้แล้ว!」
แน่นอน ฉันไม่ได้อยู่เฉยๆ
ฉันกับมัตสึรินเดินสายไปตามห้องเรียนต่างๆ ทุกวัน
ฉันขอร้องให้เพื่อนร่วมชั้นโหวตให้รุ่นพี่ เหมือนกับที่ทำกับห้องอื่นๆ
การกระทำของฉันอาจจะดูไร้พลัง เมื่อเทียบกับรุ่นพี่
แต่ถ้าสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มคะแนนให้รุ่นพี่ได้สักหนึ่งคะแนนก็ยังดี… ฉันคิดแบบนั้นแล้วทำต่อ
…แต่ว่ารุ่นพี่สุดยอดขนาดนี้แล้ว จริงๆ ไม่ต้องกังวลอะไรก็น่าจะชนะอยู่แล้วนี่นา?
แต่เรื่องมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
「พักกลางวันจะมีการแสดงดนตรีสด!」
คนที่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับแจกใบปลิวคือสมาชิกของชมรมดนตรี
ฉันเองก็รับมาหนึ่งใบ แล้วอ่านไปพร้อมกับมัตสึริน
ตรงกลางใบปลิวมีรูปของรุ่นพี่รุยอยู่
「แย่แล้ว ต้องไปดูให้ได้!」
「การแสดงสดของรุ่นพี่คาตาเสะยามะ!」
「แถมรุ่นพี่คุสึฮาระก็จะร้องเพลงด้วยนะ」
เสียงโห่ร้องยินดีดังขึ้นรอบๆ
รุ่นพี่รุยเองก็ไม่ยอมอยู่เฉยๆ สินะ…
ทั้งสองคนไม่สามารถเลียนแบบรุ่นพี่ได้ เพราะไม่ใช่ประธานนักเรียน
แต่รุ่นพี่รุยก็มีจุดแข็งของเธอ
ดูเหมือนว่าเธอจะมาเอาคะแนนนิยมแบบตรงๆ
「สมกับเป็นท่านรองประธานเลยนะคะ…」
มัตสึรินมองดูใบปลิวแล้วพูดออกมา
「ศึกหนักเอาเรื่องเลยนะ…」
แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้โจมตีกันและกัน
ต่างฝ่ายต่างก็แสดงจุดดีของตัวเองออกมา เหมือนกับที่รุ่นพี่พูด
แน่นอน รุ่นพี่รุยได้รับความนิยม
แต่ฉันกับมัตสึรินก็กำลังพยายามบอกทุกคนว่า อยากให้มองว่าใครที่อยากให้เป็นประธานนักเรียนมากกว่ากัน
「โมนากะซัง ไปกันเถอะค่ะ」
「อื้ม!」
ศึกตัดสินคือวันพรุ่งนี้
******
「ในที่สุดก็ถึงวันนี้สินะ」
ผมนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องสภานักเรียนตั้งแต่เช้า
ผมได้ประกาศทุกอย่างที่สามารถประกาศได้ออกไปหมดแล้ว
ผมขอร้องให้ฝ่ายต่างๆ และอาจารย์ เร่งดำเนินการตามแผนที่วางไว้ โดยเลื่อนกำหนดการให้เร็วขึ้น
เพราะแบบนั้น ช่วงสองสามวันที่ผ่านมาผมเลยต้องวิ่งวุ่นไปทั่ว หลังจากการประชุมวิสามัญนักเรียนจบลง ผมก็ต้องไปจัดการเรื่องต่างๆ และกล่าวขอบคุณ
แต่ผมไม่สามารถใช้ไพ่ตายที่ยังไม่มีได้
เป็นไปไม่ได้ที่จะเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ ภายในเวลาสามวัน ดังนั้น ผมจึงต้องต่อสู้ด้วยไพ่ที่มีอยู่ในมือ
ถ้ามีเวลามากกว่านี้ ก็คงจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้มากกว่านี้… แต่ก็ช่วยไม่ได้
อย่างน้อย มาตรการต่างๆ ก็น่าจะโดนใจนักเรียนบางส่วน
…ปัญหาคือ นักเรียนชั้นปี 3
สำหรับนักเรียนชั้นปี 3 ที่กำลังจะจบการศึกษา ไม่ว่าโรงเรียนจะเปลี่ยนไปยังไง มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาแล้ว
ถึงแม้ว่ามาตรการต่างๆ จะน่าสนใจสำหรับนักเรียนชั้นปี 1 และ 2 แต่นักเรียนชั้นปี 3 คงไม่สนใจ
การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างความหวังว่า “ถ้าทำได้ขนาดนี้ ต่อไปโรงเรียนจะต้องดีขึ้นแน่นอน” แต่กับนักเรียนชั้นปี 3 มันคงไม่มีผลอะไร
ส่วนการดึงคะแนนเสียงจากนักเรียนชั้นปี 3 ผมคิดไม่ออกจริงๆ
รุ่นพี่คุสึฮาระมีอิทธิพลอย่างมากต่อนักเรียนชั้นปี 3 และคาตาเสะยามะก็ได้รับความนิยมมากกว่าเมื่อเทียบกับชั้นปีอื่น รุ่นพี่ที่กำลังจะจบการศึกษาคงโหวตเพราะเห็นเป็นเรื่องสนุก เพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเอง
ผมไม่คิดว่าทุกคนจะโหวตให้คาตาเสะยามะ แต่สัดส่วนน่าจะเยอะ
「รุ่นพี่คาตาเสะยามะ หาเสียงกับรุ่นพี่ปี 3 ไว้เยอะเลยนี่นา…」
ผมไม่ได้ตรวจสอบ เพราะมัวแต่ยุ่งกับเรื่องของตัวเอง คาตาเสะยามะใช้วิธีหาเสียงที่ต่างจากผม เธอไปที่ห้องเรียนจริงๆ และเพิ่มคะแนนนิยมจากการพูดคุยกับนักเรียน
เป็นการกระทำที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่นี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับคาตาเสะยามะ
ถ้าได้คุยกัน ผมมั่นใจว่าหลายคนจะต้องชอบคาตาเสะยามะ ต่างกับผมมากเลยนะ
「เราจะดึงคะแนนเสียงจากรุ่นน้องได้มากแค่ไหน… ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตรงนั้นแล้วล่ะ」
ผมน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้หรือเปล่า ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวผมไม่หยุด
ช่วงสามวันที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้คุยกับโมนากะหรือคาวานะเลย ผมคิดอยู่คนเดียว เลยทำให้ความกังวลมันไม่หายไป
…เมื่อก่อน ไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย
ผมตัดสินใจทุกอย่างด้วยตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ผมคิดว่าแบบนั้นมันง่ายกว่า และไม่มีอะไรผิดพลาด
ผมคิดว่าตัวเองมีความสามารถพอที่จะทำแบบนั้น และที่ผ่านมาก็ทำได้
แต่ตอนนี้ ผมกลับรู้สึกเจ็บปวดที่ปรึกษาใครไม่ได้
ผมอ่อนแอลงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
โมนากะ คาวานะ ฮายาโตะ… และคาตาเสะยามะ
ตอนที่ผมพึ่งพาพวกเขาในฐานะประธานนักเรียน ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่สามารถขยับตัวคนเดียวได้อีกแล้ว
แต่ ผมกลับไม่รู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้มันแย่
ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกดี
มีเพื่อนที่ร่วมยินดี มีคนที่ไว้ใจได้ การได้เป็นคณะกรรมการนักสภาเรียน ทำให้ผมได้เรียนรู้สิ่งนั้น
ไม่ใช่เพราะคำพูดของคาวานะ แต่ผมเองก็อยากจะรักษาสภานักเรียนตอนนี้ไว้
เพราะสำหรับผมแล้ว มันคือสถานที่ที่อยู่แล้วสบายใจ
「รุ่นพี่」
เหมือนกับว่าเธอดูออกว่าผมกำลังจมอยู่กับความคิด โมนากะก็เข้ามาในห้องสภานักเรียน
「ในที่สุดก็มาถึงแล้วสินะ」
「อืม」
การประชุมวิสามัญนักเรียน จะจัดขึ้นในชั่วโมงแรกของวันนี้
ใกล้จะถึงเวลาแล้ว
「ไม่เป็นไรหรอก! ทุกคนบอกว่ารุ่นพี่ดีที่สุดเลย」
พอผมเงียบ ไม่พูดอะไร โมนากะก็พยายามปลอบ
แต่สีหน้าของโมนากะก็ยังดูกังวล เธอก็คงจะกังวลอยู่เหมือนกัน
แต่เธอก็ยังทำตัวสดใสเพื่อผม
ความอ่อนโยนของโมนากะ มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด
「ไม่แพ้ก็เรื่องหนึ่ง แต่การที่ต้องสู้กับคาตาเสะยามะ มันก็ยังไงๆ อยู่นะ」
「อ่า…」
ต่อหน้าคาตาเสะยามะ ผมพูดไปอย่างมั่นใจว่าจะ 「รับคำท้า」 แต่ถ้าเป็นไปได้ ผมก็ไม่อยากสู้
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ก็คงจะทิ้งบาดแผลไว้บ้างไม่มากก็น้อย
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ」
โมนากะยืนยันอีกครั้ง
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ต้องทำได้แน่นอน ก็เพราะเป็นรุ่นพี่ไงล่ะคะ」
「มันไม่เห็นจะสมเหตุสมผลตรงไหนเลย…」
「ฉันว่ารุ่นพี่เป็นคนที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอคะ?」
ไม่หรอก ผมล้มเหลวมาตลอด
มีน้อยครั้งมากที่จะได้ทุกอย่างเป็นไปตามที่หวังไว้ อย่างน้อยที่สุด ผมก็แค่ปกป้องสิ่งที่ผมอยากปกป้อง และตัดปัญหาที่ไม่จำเป็นออกไป ผมเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก
แต่ครั้งนี้ ผมอยากจะได้ทุกอย่างมา
ทั้งรักษาตำแหน่งประธานนักเรียน และจะไม่สูญเสียอะไรไป
「รุ่นพี่เหมือนกับคุณพ่อจริงๆ นะคะ」
เธอย้ำในสิ่งที่เคยพูดไว้ที่สวนสาธารณะเมื่อวันก่อน
…อ่า ผมรู้สึกเหมือนจะเข้าใจความรู้สึกของพ่อแล้ว บางทีพ่อเองก็อาจจะรู้สึกแบบนี้
เพียงแค่อยากปกป้องสิ่งสำคัญของตัวเอง
เหมือนกับที่คาวานะพูดไว้ เพราะรูปแบบในตอนนี้คือสิ่งสำคัญ
มีฮายาโตะ มีคาวานะ มีโมนากะ และก็มีคาตาเสะยามะ
ผมจะสู้ เพื่อรักษาวันคืนที่มีความสุขแบบนี้ไว้
「ถ้าเอาแค่ชนะ จะใช้วิธีเขี่ยรุ่นพี่รุยออกไปเลยก็ยังได้ ถึงมีความเสี่ยง แต่ถ้ารุ่นพี่ทำ ก็คงเป็นเรื่องง่ายๆ แต่รุ่นพี่กลับเลือกทางที่ยากกว่า」
「…ก็ประมาณนั้น」
「เรื่องนี้ทุกคนคงจะเข้าใจดีนะคะ ส่วนฉันน่ะ เข้าใจดีที่สุดเลยล่ะ」
โมนากะนั่งยองๆ จับมือผมด้วยมือทั้งสองข้าง
ตั้งแต่เจอกัน ผมได้รับความช่วยเหลือจากโมนากะมาตลอด
เธอบอกว่าผมเป็นคนช่วยเธอ แต่จริงๆ แล้วตรงกันข้าม ผมต่างหากที่ได้รับความช่วยเหลือทางด้านจิตใจ
「ฉันรู้ดีว่ารุ่นพี่เป็นคนที่วิเศษที่สุดในโลก เพราะฉะนั้น รุ่นพี่ต้องไม่เป็นไรแน่นอนค่ะ」
โมนากะยิ้มอย่างอ่อนโยน ดวงตาเรียวเล็ก
ตอนนั้นเอง เสียงระฆังบอกเวลาก่อนเริ่มคาบเรียนโฮมรูมก็ดังขึ้น
ผมลุกขึ้นยืน สะพายกระเป๋านักเรียน
「เอาล่ะ」
ผมพูดออกมา แล้วก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
「เอาเป็นว่า คอยดูให้ดีแล้วกัน」
ผมพยายามยิ้มอย่างมั่นใจและไม่เกรงกลัว
ถ้าชนะ จะเกลี้ยกล่อมคาตาเสะยามะ และจะให้โมนากะเป็นกรรมการฝ่ายธุรการ นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด และผลลัพธ์นอกเหนือจากนี้ ไม่ขอยอมรับ
「โมนากะ」
「คะ?」
「ขอบคุณนะ」
「ฉันก็ขอบคุณเหมือนกันค่ะ」
หลังจากพูดคุยกันอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ผมก็ออกจากห้องสภานักเรียน
「ต่อไปนี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมการประชุมวิสามัญนักเรียนค่ะ」
เสียงของคาวานะดังขึ้นในโรงยิม
พิธีกรคือคาวานะและฮายาโตะ ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และเนื่องจากเป็นเสมือนการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงนั่งอยู่ในที่นั่งของผู้ดำเนินรายการ
ผมกับคาตาเสะยามะ อยู่ตรงปีกข้างเวที เราจะขึ้นไปบนเวทีตามสัญญาณของผู้ดำเนินรายการ
「ไม่คิดเลยว่ามาซาจิกะจะเอาจริงขนาดนี้」
「ขอโทษทีนะ แต่ฉันไม่ต้องการจะเสียอะไรไปทั้งนั้น」
ผมพูดคุยกับคาตาเสะยามะ ระหว่างที่คาวานะกำลังอธิบายหัวข้อและวิธีการลงคะแนนเสียง
「กำลังกังวลว่าจะแพ้เหรอ?」
「นิดหน่อย แต่ฉันไม่ได้คิดว่าจะแพ้หรอก」
「ฉันต่างหากที่จะชนะ …ไม่สิ มันไม่ใช่เรื่องแพ้ชนะ」
ตลอดมา ผมคิดว่านี่คือการแข่งขัน
มันก็ใช่ และผมจะแพ้ไม่ได้ แต่ว่า มันมีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น
「ฉันจะชนะ นั่นคือสิ่งที่ต้องเป็น และในการประชุมวิสามัญครั้งนี้ ฉันอยากจะเข้าใจเธอให้มากขึ้นด้วย」
「อะไรกัน ฉันไม่ได้อยากให้นายมาเข้าใจสักหน่อย」
「ไม่เกี่ยวว่าคาตาเสะยามะจะต้องการมันหรือเปล่า ฉันอยากจะเข้าใจเอง ไม่ใช่ในฐานะคู่หู แต่ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอ」
ผมรู้ความสามารถของเธอ เรามีความไว้เนื้อเชื่อใจกัน
แต่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวตน หรือเรื่องส่วนตัวของเธอเลย เพราะเราไม่เคยอยู่ห้องเดียวกัน และไม่เคยเจอกันนอกเวลางาน
และนั่น คือสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้
「เรื่องนี้จบลงเมื่อไหร่ ไปกินข้าวกันเถอะ」
「ไม่เอา ไม่อยากไปกันสองคน」
「พูดตรงไปตรงมาดีจังนะ… ไปกันทั้งคณะกรรมการเเน่นอนอยู่เเล้ว」
「ไม่อยากมีปัญหากับแฟนสาวสุดน่ารักนี่เนอะ」
หืม หมายถึงใครกันนะ
การเลือกตั้งประธานนักเรียนจบไปนานแล้ว แต่การประชุมวิสามัญครั้งนี้ และการได้โมนากะมาเป็นคณะกรรมการ ทำให้ทุกอย่างลงตัวในแบบที่ควรจะเป็น
「เอาล่ะ ถึงเวลาลงมติไม่ไว้วางใจแล้วค่ะ」
คาวานะพูดขึ้น แล้วเรียกชื่อผมกับคาตาเสะยามะตามลำดับ
เราสองคนเดินขึ้นไปบนเวที แล้วยืนเรียงกัน
นักเรียนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นไมโครโฟนให้
「ผมสึจิโด มาซาจิกะ ประธานนักเรียนครับ」
เวลาพูดผ่านไมค์ ต้องพูดให้ช้ากว่าปกติ
ผมสงบใจกว่าที่คิด ผมมองเห็นสีหน้าของนักเรียนที่นั่งเรียงรายอยู่ในโรงยิมได้อย่างชัดเจน
「ในสัปดาห์นี้ ผมได้ดำเนินมาตรการต่างๆ โดยเลื่อนกำหนดการให้เร็วขึ้น ถึงจะต้องขอความร่วมมือ แต่ผมคิดว่าทุกคนคงจะสัมผัสได้ถึงผลลัพธ์ แน่นอนว่ายังต้องปรับปรุงแก้ไขโดยอ้างอิงจากผลสำรวจความคิดเห็น แต่ผมก็ตั้งใจจะเตรียมมาตรการต่างๆ ที่ทำให้นักเรียนใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น」
ท่ามกลางนักเรียนมากมาย โมนากะโดดเด่นมาก คงเพราะมีคนทำผมสีทองแบบนี้น้อย
หรือว่า ผมจะเผลอมองหาเธอโดยไม่รู้ตัว
「ตราบใดที่ผมยังเป็นประธานนักเรียน ผมจะผลักดันการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้นักเรียนทุกคนสามารถใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ยังประกาศไม่ได้ในตอนนี้ แต่ขอให้ทุกคนตั้งตารอด้วยนะครับ」
โรงเรียนเป็นองค์กรที่ค่อนข้างปิด และภายในเวลาเพียงสามปี นักเรียนทั้งหมดก็จะเปลี่ยนรุ่น ทำให้การเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นได้ยาก กฎระเบียบและธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาแต่เดิม ยังคงอยู่ แม้จะไม่สอดคล้องกับยุคสมัย
บางอย่างก็ไม่สมเหตุสมผล และผมก็รับเรื่องพวกนั้นไม่ได้
แน่นอน ภายใต้กฎระเบียบที่เหมาะสม และตั้งใจเรียนหนังสือซึ่งเป็นหน้าที่หลัก ผมก็อยากจะทำให้โรงเรียนดีขึ้น และในการทำสิ่งนั้น จำเป็นต้องมีตำแหน่งประธานนักเรียน ไม่ใช่เพราะความยุติธรรม หรือสำนึกอะไรที่สูงส่ง ผมก็แค่ ทำในสิ่งที่ผมอยากทำเท่านั้นเอง
「ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ」
ผมพูดจบ แล้วโค้งคำนับ
ผมไม่ได้พูดอะไรกับนักเรียนชั้นปี 3 ผมมองไปยังรุ่นน้อง ที่ยังต้องมาโรงเรียนอีกอย่างน้อยหนึ่งปี
ต่อมา ไมโครโฟนก็ถูกส่งไปอยู่ในมือของคาตาเสะยามะ
หลังจากที่เธอโค้งคำนับเหมือนกัน เธอก็เริ่มพูด
「ฉันทำงานร่วมกับสึจิโดในฐานะกรรมการนักเรียนมาตั้งแต่ปี 1 ความสามารถในการบริหารจัดการของเขานั้นยอดเยี่ยม และอย่างที่ทุกคนทราบ เขายังมีพลังในการขับเคลื่อนอีกด้วย ไม่มีใครเหมาะสมกับตำแหน่งประธานนักเรียนมากไปกว่าเขาอีกแล้วค่ะ」
คำพูดของคาตาเสะยามะที่ควรจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ ทำให้นักเรียนต่างก็แสดงสีหน้าสับสน
ก็แน่อยู่แล้ว ทั้งๆ ที่บอกว่าไม่ไว้วางใจ แต่กลับพูดขัดแย้งกันว่าเหมาะสมกับตำแหน่งประธานนักเรียน
「ถึงอย่างนั้น เหตุผลที่ฉันมายืนอยู่ตรงนี้มีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือการประชาสัมพันธ์ค่ะ」
อย่างนี้นี่เอง เป็นแบบนั้นสินะ… ผมเข้าใจในทันที แต่นักเรียนส่วนใหญ่ยังคงสับสน
「ฉันอยากจะประชาสัมพันธ์ให้คนภายนอกได้รับรู้ถึงข้อดีของโรงเรียนนี้ โดยที่ฉันจะยืนอยู่แถวหน้า ฉันถึงอยากได้ตำแหน่งประธานนักเรียนค่ะ」
ผมรู้สึกยอมรับในเหตุผลของเธอ
ในการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นประธานหรือรองประธาน ก็สามารถทำได้ไม่ต่างกัน แต่การประชาสัมพันธ์สู่ภายนอกอย่างเป็นทางการ จำเป็นต้องมีตำแหน่งประธานนักเรียน และสำหรับสิ่งนั้น คาตาเสะยามะเหมาะสมกว่าผม นั่นเป็นสิ่งที่ผมต้องยอมรับ
「ฉันอยากจะทำให้โรงเรียนเป็นที่ภาคภูมิใจ สำหรับนักเรียนปัจจุบัน และศิษย์เก่าที่จบการศึกษาไปแล้ว นั่นคือสิ่งที่ฉันปรารถนา และฉันสามารถทำมันได้ค่ะ」
เธอยังไม่ลืมที่จะพูดกับนักเรียนชั้นปี 3
คาตาเสะยามะมีทั้งความงดงาม พรสวรรค์ด้านการร้องเพลง และความนิยม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่มี
สิ่งเหล่านั้น ยิ่งปรากฏชัดเมื่อมายืนเรียงกันแบบนี้
「มาร่วมกันสร้างโรงเรียนที่น่าภาคภูมิใจกันเถอะค่ะ」
สุดท้าย เธอพูดเชิญชวนต่อนักเรียน
การหาเสียงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผมมุ่งเป้าไปที่การเปลี่ยนแปลงภายใน ส่วนคาตาเสะยามะมุ่งเป้าไปที่การประชาสัมพันธ์ภายนอก
ทั้งสองอย่างล้วนเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
ที่เหลือ ก็ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะเลือกแบบไหน…
「สึจิโดซัง คาตาเสะยามะซัง ขอบคุณมากค่ะ ต่อไป จะเป็นการลงคะแนนค่ะ」
ถึงจะเหมือนการเลือกตั้ง แต่นี่คือการลงมติไม่ไว้วางใจ
ไม่มีการลงคะแนนแบบการเลือกตั้ง
「เห็นด้วยกับญัตติไม่ไว้วางใจ… หมายความว่า เห็นด้วยกับการถอดถอนสึจิโดซังออกจากตำแหน่งประธานนักเรียน และการแต่งตั้งคาตาเสะยามะเป็นประธานนักเรียน หากมีคะแนนเสียงเกินครึ่ง ญัตติไม่ไว้วางใจจะผ่านการอนุมัติค่ะ」
ผมคิดว่าเธอได้อธิบายไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่คาวานะก็พูดซ้ำอีกครั้ง
วันจันทร์คาวานะก็เอาแต่สับสน แต่เธอก็ทำหน้าที่พิธีกรได้อย่างราบรื่น เธอเป็นคนเก่งจริงๆ
「ถ้าอย่างนั้น ผู้ที่เห็นด้วย กรุณาลุกขึ้นยืนค่ะ」
ในที่สุด ช่วงเวลาแห่งโชคชะตาก็มาถึง
บอกตามตรง ผมเสียเปรียบ ผมคิดแบบนั้นหลังจากที่ได้ฟังคำปราศรัยของคาตาเสะยามะ
ถ้าผมนั่งอยู่ข้างล่าง ผมอาจจะยืนขึ้นตอนนี้ก็ได้
ขนาดนั้นเลย คำพูดของเธอมีพลังโน้มน้าวและมีเสน่ห์
ผมเบิกตากว้าง มองดูนักเรียนที่ค่อยๆ ทยอยยืนขึ้น
ต่างจากการเลือกตั้ง วิธีนี้จะทำให้รู้ได้ทันทีว่าใครเห็นด้วย นักเรียนที่ค่อนข้างประหม่า ต่างก็ค่อยๆ ยืนขึ้น จำนวนคนที่ยืนขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หัวใจผมเต้นเร็วขึ้น
มีคนเห็นด้วยมากแค่ไหนกันนะ
ผมเองก็สับสน เลยนับจำนวนไม่ถูก
ดูเหมือนจะสูสี อย่างน้อยก็ไม่เห็นความแตกต่างมากพอที่จะนับได้
ในที่สุดนักเรียนก็ทยอยนั่งลง และคณะกรรมการการเลือกตั้งก็เริ่มนับคะแนน
「สรุปผลคะแนนเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ」
เมื่อได้รับรายงานจากประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คาวานะก็จับไมโครโฟน
「ผลการลงมติ ญัตติไม่ไว้วางใจ…」
คาวานะสูดหายใจเข้าลึกๆ
「ไม่ผ่านการอนุมัติค่ะ」
ไม่ผ่าน หมายความว่า… ผมชนะ
ผมเผลอมองไปทางคาตาเสะยามะ
เธออ้าปากค้าง เหม่อมองไปในอากาศ สักพัก เหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ เธอก็มองกลับมาที่ผม ด้วยแววตาที่ดูเศร้า
「หัวข้อการประชุมในวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณทุกคนมากค่ะ」
ผมกับคาตาเสะยามะรีบโค้งคำนับ ตามสัญญาณนั้น
เสียงนักเรียนทยอยเดินออกจากโรงยิมดังขึ้น พร้อมกับม่านบนเวทีที่ค่อยๆ ปิดลง
เสี้ยววินาทีก่อนที่ม่านจะปิดสนิท… โมนากะก็กระโดดขึ้นมาบนเวทีจากทางด้านหน้า
「รุ่นพี่…!」
เธอพุ่งเข้ามากอดผม
「ดีใจจัง… ดีใจจริงๆ」
「โมนากะ ตรงนี้ยังอยู่บนเวทีนะ กอดกันแบบนี้มันจะ…」
「ทำไมถึงใจเย็นได้ขนาดนี้คะ! มาร่วมยินดีกันหน่อยสิ!」
「ทำไมน่ะเหรอ… ก็เพราะว่ามันยังไม่จบไง」
ใช่ เป้าหมายของผมไม่ใช่แค่ชนะ
ผมดึงโมนากะออก แล้วหันหน้าไปหาคาตาเสะยามะ
คาตาเสะยามะทรุดตัวนั่งอย่างหมดแรง เหม่อมองมาที่ผม
「อะไร แพ้แล้วก็ทิ้งฉันไปเลยสิ」
「ทำแบบนั้นไม่ได้หรอก」
「แล้วจะทำอะไร? จะเอาคืนเหรอ?」
คาตาเสะยามะฝืนยิ้ม แต่น้ำเสียงของเธอกลับสั่นเครือ
「เปล่า ฉันจะขอร้องให้คาตาเสะยามะอยู่เป็นรองประธานต่อ」
「ไม่มีทางทำได้หรอก ฉันสร้างเรื่องเอง แต่กลับจะยึดติดกับตำแหน่ง ฉันทำเรื่องน่าสมเพชแบบนั้นไม่ได้หรอก」
「ใครสนกัน」
ก็จริง ที่มันอาจจะน่าสมเพช
แต่ผมไม่ต้องการให้คาตาเสะยามะลาออกจากตำแหน่งรองประธาน
「ท่านประธาน…」
「มาซาจิกะคุง」
ดูเหมือนว่าคาวานะกับฮายาโตะที่ทำหน้าที่พิธีกร จะขึ้นมาบนเวทีแล้ว
ทั้งสองคนมองมาที่ผมด้วยความเป็นห่วง ผมพยักหน้าอย่างหนักแน่น สื่อความหมายว่า “วางใจได้”
「ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคาตาเสะยามะคิดเรื่องการประชาสัมพันธ์ด้วย เป็นเรื่องที่ฉันไม่ถนัด ก็เลยรู้สึกขอบคุณมาก」
「บ้าชัดๆ ใครจะไปเชื่อเรื่องพรรค์นั้นกัน」
คาตาเสะยามะเบ้ปาก พูดอย่างประชดประชัน
「ฉันก็แค่อยากจะก้าวขึ้นไปให้สูงกว่านี้ ฉันมันก็แค่คนเห็นแก่ตัวที่สร้างความเดือดร้อน สมควรแล้วที่จะแพ้」
「ขึ้นไปสูงกว่านี้ เหรอ」
「ใช่ ฉันน่ะคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง ในใจก็เอาแต่หัวเราะเยาะเพื่อน คิดอยู่ตลอดว่าคนอื่นมองตัวเองยังไง ฉันอยากให้คนอื่นมองว่าฉันดูดี อยากใช้ชีวิตในโรงเรียนม.ปลายอย่างสมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่น คิดอยู่แต่เรื่องพวกนี้ ฉันถึงได้คิดอยากจะเป็นประธานนักเรียน」
คาตาเสะยามะตำหนิตัวเอง เหมือนกับกำลังร้องไห้ หรือบางทีก็เหมือนกับกำลังสำนึกผิด
「ฉันไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ถ้าไม่มีใครยอมรับ ถ้าไม่รู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ฉันก็อยู่ไม่ได้ ฉันคิดว่าคนที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนแบบมาซาจิกะ คงไม่มีทางเข้าใจหรอก」
แน่นอน ผมไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกนั้นได้อย่างแท้จริง
ผมเข้าใจความหมาย เข้าใจว่าเธอคิดอะไร แต่สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ตัวเองทำ สำคัญกว่าการประเมินจากคนอื่น
แต่ถึงจะคิดต่างกัน ผมก็ไม่ได้คิดจะปฏิเสธความรู้สึกนั้น
「…ฉัน อิจฉามาซาจิกะ ที่สามารถทุ่มเทเพื่อคนอื่นได้ ยอมเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ได้รับความรักจากผู้คน… ฉันเอง ก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง」
คาตาเสะยามะพูดแล้วก็ก้มหน้าอย่างหมดแรง
สำหรับผมแล้ว คาตาเสะยามะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ
เป็นคนที่มีความมั่นใจ ไม่เคยแสดงช่องโหว่ออกมาให้เห็น
แต่ใครจะรู้ว่าในใจ เธอจะกังวลเรื่องพวกนี้… น่าอายจริงๆ ที่มองไม่ออก
「ขอบคุณที่เล่าให้ฟังนะ」
ผมนั่งชันเข่าลงบนเวที เพื่อให้สายตาอยู่ในระดับเดียวกับคาตาเสะยามะ
「แต่มันก็ดูไร้สาระนะ」
ผมพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา
「ไร้สาระ? อย่ามาพูดเหมือนเข้าใจความรู้สึกของฉันง่ายๆนะ!」
「ก็มันง่ายจริงๆ เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เธอไม่รู้ตัว」
กังวลว่าจะไม่มีใครยอมรับ?
อยากให้คนอื่นมองว่าดูดี?
อืม ไร้สาระ
「ไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น ก็มีคนที่ยอมรับและต้องการเธออยู่ตั้งเยอะ」
ผมจับไหล่ทั้งสองข้างของคาตาเสะยามะ แล้วบังคับให้เธอหันมา
「ฉันต้องการคาตาเสะยามะ ฉันคิดว่ารองประธานต้องเป็นคาตาเสะยามะเท่านั้น นั่นไม่ใช่เพราะเธอเป็นคนดัง แต่เพราะเธอเป็นคนที่มองคนรอบข้างได้ดีที่สุด และถนัดในการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คน」
「…นั่นมัน ก็แค่การเสแสร้งให้ดูดีเท่านั้นเเหละ」
「ถึงเหตุผลจะเป็นแบบนั้น แต่มันก็เป็นความสามารถที่คาตาเสะยามะฝึกฝนมาไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันน่ะยอมรับในตัวเธอมาตั้งนานแล้ว」
ไร้สาระจริงๆ ทั้งๆ ที่มีคนยอมรับเธออยู่แล้ว แต่คาตาเสะยามะกลับไม่รู้ตัวเลย
「ผมเอง! ผมเองก็รู้ว่ารุ่นพี่รุยเป็นคนที่ยอดเยี่ยม แน่นอนว่าทั้งเรื่องการร้องเพลงและความนิยมก็สุดยอด แต่เหตุผลที่ฉันชื่นชม ไม่ใช่เรื่องนั้น」
ฮายาโตะนั่งลงข้างๆ ผม แล้วพูดกับคาตาเสะยามะ
「เพราะผมรู้ว่ารุ่นพี่รุยเป็นคนที่พยายามมากกว่าใคร ผมถึงได้ชื่นชมรุ่นพี่」
「พยายามอะไร…」
「มีสิครับ ถึงรุ่นพี่รุยจะปฏิเสธ แต่ผมยืนยันได้เลย」
คำพูดของฮายาโตะที่มองคาตาเสะยามะในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมชมรมและเป็นคณะกรรมการนักเรียนเหมือนกัน คำพูดนั้น ไม่มีทางที่คาตาเสะยามะจะไม่รู้สึกอะไร
「อีกอย่าง การพยายามเพื่อให้คนอื่นยอมรับมันไม่สุดยอดเหรอ? ปกติแล้ว คนเราก็อยากให้คนอื่นยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น หรือไม่ก็ยอมแพ้ไปเลย เหมือนผม」
「นั่นสินะคะ การพยายามเปลี่ยนมุมมองของคนอื่น ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแย่นะคะ」
โมนากะที่เคยชินกับการถูกประเมินค่า และยอมแพ้ทุกอย่างไปแล้ว คาวานะที่บอบช้ำจากการไม่ถูกประเมินค่า และพยายามดิ้นรนเพื่อจะเอาคืน ทั้งสองคนก็ยอมรับในตัวคาตาเสะยามะ
ไม่สิ ไม่ใช่แค่คณะกรรมการนักเรียน ในโรงเรียน ยังมีคนที่ยอมรับในตัวเธออีกมากมาย นั่นก็เป็นเพียงผลลัพธ์จากความพยายามของคาตาเสะยามะเท่านั้น แต่ถึงแม้ว่าเธอจะแสดงตัวตนจริงๆ ออกมาบ้าง ก็คงไม่มีใครหนีหายไปหรอก
เพราะทุกคนต่างก็ชื่นชมในความเป็นคาตาเสะยามะ ไม่ใช่การเสแสร้งปั้นแต่งภายนอก
「ฉันจะพูดอีกครั้งนะ คาตาเสะยามะ อยู่เป็นรองประธานต่อเถอะนะ」
「…ได้เหรอ? ฉันน่ะ เป็นคนนิสัยไม่ดีนะ? แย่มากๆ เลยนะ?」
「ฉันต้องการคนแบบนั้นแหละ」
ฉันไม่คิดว่าการที่เธออยากให้คนอื่นมองตัวเองในแง่ดี เป็นคนนิสัยไม่ดีหรอกนะ และเธอก็ไม่ได้ทำตัวก้าวร้าว แต่กลับพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง… นั่นก็ยิ่งเป็นผลดีเข้าไปใหญ่
「แพ้แล้วยังจะให้อยู่ต่อ เดี๋ยวคนอื่นก็หัวเราะเยาะเอาหรอก」
「แต่ว่า ทุกคนก็สู้กันอย่างเต็มที่แล้วนี่… อีกอย่าง ไม่เป็นไรหรอก ถ้าคณะกรรมการนักเรียนทุกคนยอมรับได้」
แล้วเธอก็ยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนกับว่าได้ปลดปล่อยอะไรบางอย่าง
「แน่นอนอยู่แล้วครับ!」
「แน่นอนอยู่เเล้วค่ะ」
「ฉันเองก็อยากทำงานกับรุ่นพี่รุยนะ!」
เหล่ารุ่นน้องตอบรับอย่างหนักแน่น
คาตาเสะยามะรู้สึกวางใจ แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
เธอลุกขึ้นยืน แล้วมองพวกเราตามลำดับ
「ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจนะ! ต่อจากนี้ก็ขอฝากตัวด้วยนะ!」
เธอพูดออกมา พร้อมกับก้มหัวลงอย่างสุดแรง
「แล้วก็ คาวานะจัง ขอโทษจริงๆ นะ ช็อกโกแลตอร่อยมากเลย」
「…ค่ะ」
「ทั้งๆ ที่ทำเรื่องไม่ดีแท้ๆ ขอบคุณนะ」
คนที่ลำบากใจที่สุดในเรื่องนี้ก็คือคาวานะ
เมื่อทุกอย่างคลี่คลายไปด้วยดี คาวานะก็เอามือปิดปาก กลั้นน้ำตาไว้
น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลออกมาจากดวงตาของเธอ แต่ครั้งนี้ เป็นน้ำตาแห่งความดีใจและความโล่งอก
「คาวานะจัง ร้องไห้มากกว่าฉันอีกนะ…」
「ก็เพราะว่า…!」
「อ่า พอแล้ว พอแล้ว」
คาตาเสะยามะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋า แล้วซับน้ำตาให้คาวานะ
เธอมองมาที่ผม ด้วยแววตาที่ยังคงร้องไห้อยู่
「มีรุ่นน้องที่ดีจังเลยนะ พวกเราน่ะ」
「นั่นสินะ」
การที่มีรุ่นน้องที่คิดถึงสภานักเรียนมากขนาดนี้ถึงสามคน พวกเรานี่โชคดีจริงๆ
「…ก็ประมาณนี้แหละครับ ขอรองประธานคนสำคัญของผมคืนได้หรือยังครับ รุ่นพี่คุสึฮาระ」
ผมหันไปมองทางปีกเวที
คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นคืออดีตประธานนักเรียน รุ่นพี่คุสึฮาระ
「ให้ตายสิ ดูท่าฉันจะแพ้แล้วล่ะนะ」
「ต้องขอบคุณรุ่นพี่เลยนะครับ ที่ทำให้พวกเราแน่นแฟ้นกันยิ่งกว่าเดิม」
「ฉันนึกว่าจะชนะได้แท้ๆ จริงๆ นะ ถ้าแค่สึจิโดคนเดียว ฉันคงชนะไปแล้ว」
รุ่นพี่คุสึฮาระมองไปที่โมนากะกับคาวานะด้วยความเสียดาย
「กุญแจสำคัญ คงเป็นเพราะการโน้มน้าวของสองคนนั้น พวกเธอมาขอร้องถึงห้องเรียนของพวกเราชั้นปี 3 เลย คงจะเดินสายไปทุกห้องเลยล่ะมั้ง ก็พวกเราที่เป็นรุ่นพี่ปี 3 น่ะ แพ้ทางรุ่นน้องที่น่ารักนี่」
ผมตกใจกับคำพูดของรุ่นพี่คุสึฮาระ แล้วหันไปมองสองคนนั้น
ผมมัวแต่ยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเอง เลยไม่รู้เลยว่าโมนากะกับคาวานะทำอะไรไว้บ้าง
จริงด้วย จำนวนคนที่เห็นด้วยจากชั้นปี 3 น้อยกว่าที่คาดไว้
ทั้งๆ ที่สำหรับรุ่นพี่ปี 3 คำสัญญาของคาตาเสะยามะน่าจะดึงดูดใจมากกว่าแท้ๆ
「พวกเราก็พยายามเหมือนกันนะ」
「…ฉันไม่ได้ทำเพื่อท่านประธานสักหน่อย」
วันจันทร์ ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะชนะ ผมขอความร่วมมือจากโมนากะ
เธอทำอะไรไว้มากมาย โดยที่ผมไม่รู้
ถ้าไม่มีสองคนนี้ สถานการณ์ก็คงไม่เป็นแบบนี้ รู้สึกขอบคุณจริงๆ
「เอาเถอะ อย่างน้อยฉันก็สนุกจนวินาทีสุดท้าย ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นตัวเกะกะซะแล้ว ขอตัวก่อนนะ」
「เดี๋ยวก่อนครับ ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่รุ่นพี่ลืมไป」
ผมเรียกไม่ให้รุ่นพี่คุสึฮาระไป แล้วหันไปส่งสัญญาณให้โมนากะ
โมนากะตกใจ แล้วหยิบกระดาษที่พับไว้จากกระเป๋าเสื้อ
ใบทดสอบที่ถูกละเลยมานาน
การทดสอบเพื่อรับโมนากะเข้าเป็นฝ่ายธุรการของสภานักเรียน
「จริงด้วยสินะ」
รุ่นพี่คุสึฮาระเซ็นชื่อลงในใบทดสอบอย่างรวดเร็ว ด้วยปากกาที่ผมยื่นให้
「ขอบคุณมากค่ะ!」
「ถ้าสึจิโดทำอะไรรุนแรงกับเธอ ก็มาบอกฉันได้นะ ฉันถนัดเรื่องการเป็นศัตรูกับสึจิโดอยู่แล้ว」
「ถ้ารุ่นพี่จะทำอะไรให้ฉันร้องไห้ ก็คงมีแต่น้ำตาแห่งความดีใจเท่านั้นแหละค่ะ」
สุดท้ายแล้ว รุ่นพี่คุสึฮาระก็คงไม่ชอบผมนั่นแหละ
ในแง่นั้น คาตาเสะยามะก็เป็นผู้รับเคราะห์เหมือนกัน
…บางที ผมคงต้องขอให้คาตาเสะยามะสอนวิธีเข้าหาคนให้บ้างแล้ว
รุ่นพี่คุสึฮาระเดินลงจากเวทีไปก่อน
「อ่ะ รุ่นพี่ด้วย」
「อืม อ่า」
จริงสิ ผมยังไม่ได้เซ็นชื่อเลยนี่นา
การประชุมวิสามัญนักเรียนครั้งนี้ คือการทดสอบครั้งสุดท้ายของโมนากะ ตอนที่เริ่มการทดสอบ ผมไม่คิดเลยว่าเรื่องราวมันจะใหญ่โตขนาดนี้
ตอนนี้ คงไม่มีใครคัดค้านการเข้ารับตำแหน่งของโมนากะแล้ว
「ผ่านแล้วล่ะ โมนากะ」
「เย้!」
ผมส่งใบทดสอบที่เติมเต็มทั้งหกช่อง ให้กับโมนากะ
โมนากะรับมันไปเหมือนกับใบประกาศนียบัตร แล้วชูขึ้นเหนือหัวอย่างดีใจ
「ฉันได้เป็นฝ่ายธุรการของสภานักเรียนแล้ว โอบะ โมนากะค่ะ! ทุกคน ฝากตัวด้วยนะคะ!」
ผมยังคงเป็นประธานนักเรียน โดยไม่สูญเสียคาตาเสะยามะไป
และโมนากะ ก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมการสภานักเรียน