ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน! - ตอนที่ 14.2 เลขานุการสภานักเรียน ทาเทอิชิ ฮายาโตะ
- Home
- ยัยตัวแสบแอบปิ๊งรุ่นพี่เข้าเเล้ว น่ารักเกินต้าน!
- ตอนที่ 14.2 เลขานุการสภานักเรียน ทาเทอิชิ ฮายาโตะ
เราชนหมัดกันเบาๆ แล้วออกจากห้องพัก
แยกกันไปประจำตำแหน่งงานของตัวเองทันที
ผ่านไปครู่หนึ่ง… ประตูด้านหน้าก็เปิดออก
「อ่ะ…」
ผมเผลอส่งเสียงแปลกๆ ออกมา
คนเยอะกว่าที่คิด นี่ขนาดเป็นไลฟ์เฮาส์ขนาดเล็ก ไม่คิดว่าจะรวมตัวกันได้มากขนาดนี้
「ขอดูตั๋วหน่อยค่า!」
เสียงของโมนากะดังขึ้น
หน้าที่ของเธอคือการตรวจตั๋วและนำทาง
「ค่าเครื่องดื่ม 500 เยนค่ะ!」
เธอยืนต้อนรับลูกค้าอยู่ตรงทางเดินที่ค่อนข้างมืดใกล้ทางเข้า
ตรวจสอบตั๋ว แลกเงินค่าเครื่องดื่ม 500 เยนกับตั๋วเครื่องดื่ม… นั่นคืองานของโมนากะ
ยิ่งไปกว่านั้น ต้องถามด้วยว่าลูกค้ามาดูวงไหน แล้วให้เอาตั๋วใส่ลงในกล่องที่แยกไว้สำหรับแต่ละวง
แค่อธิบายก็ดูง่าย แต่การนำทางคนหลายสิบคนแบบนี้ ต้องใช้แรงกายแรงใจมากทีเดียว
จากตำแหน่งที่ผมอยู่ มองไม่เห็นโมนากะ แต่คงจะยุ่งจนหัวหมุนเลยล่ะ
「เสียงโมนากะนี่ ดังฟังชัดดีนะ」
ที่ให้ใส่ชุดน่ารักๆ ก็เพราะกะจะให้มาอยู่ตรงจุดต้อนรับนี่เอง
ทั้งผมสีบลอนด์สว่าง ดูเข้ากับไลฟ์เฮาส์ดีเหมือนกัน
…หรือว่า ที่จริงแล้ว ฉันต่างหากที่ไม่เข้ากับที่นี่่?
「ใกล้ได้เวลาแล้วสินะ」
ลูกค้าจะมาถึงที่ผมช้ากว่าโมนากะเล็กน้อย
ลูกค้าเดินผ่านเข้ามาทางเดินเป็นกลุ่ม
「จะแสดงฝีมือให้ดูเอง…!」
พูดจาเท่ๆ ไป แต่สิ่งที่ต้องทำมันก็ง่ายๆ
「ขอชาเขียวค่ะ」
「น้ำเปล่า」
「โค้กครับ」
「ขอน้ำเปล่าค่ะ」
ลูกค้าแต่ละคนยื่นตั๋วเครื่องดื่ม พร้อมกับบอกสิ่งที่ต้องการ
ผมรินเครื่องดื่มตามที่ลูกค้าต้องการลงในแก้วพลาสติก แล้วแลกกับตั๋วเครื่องดื่ม
เครื่องดื่มที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่มันก็ยังไม่พอ
「ครับ ครับ ครับ ครับ」
ไม่มีเวลามาคิดอะไรฟุ้งซ่าน
ทุกครั้งที่รินต้องเอียงขวดขนาดสองลิตร จริงๆ แล้วก็ใช้แรงเยอะอยู่
ตั้งใจรินเครื่องดื่มแล้วส่งให้ รินแล้วส่ง… ซ้ำไปซ้ำมา…
นี่มันเมื่อยแขนใช่เล่นเลยนะ…
แต่เพราะดันพูดโม้ไว้ต่อหน้าโมนากะซะเยอะ จะมาเหลาะแหละไม่ได้เด็ดขาด ความรวดเร็วของผม จะเป็นตัวตัดสินว่าจะสามารถเข้าไปได้อย่างราบรื่นรึเปล่า
จะไม่ให้มีการรอเกิดขึ้นเด็ดขาด!
「แฮ่ก… แฮ่ก…」
ในที่สุดก็จัดการกับแถวจนหมด แล้วถอนหายใจ
รู้สึกเหมือนนานมาก แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาไปแค่สิบห้ากว่านาที…
ไม่รู้ว่ากี่คนกันแน่ แต่รู้สึกว่าน่าจะประมาณห้าสิบคนได้
「เสร็จแล้ว…」
แต่ก็ใช่ว่าแค่นี้จะจบ
ลูกค้าที่มาถึงพร้อมกับเวลาเปิดทำการ คือลูกค้าที่มาดูวงแรก
วันนี้มีกำหนดการแสดงทั้งหมดสี่วง หลังจากนี้ก็น่าจะมีลูกค้าทยอยมาเรื่อยๆ
โมนากะเองก็น่าจะยังละจากตำแหน่งตัวเองไม่ได้อีกสักพัก
แต่เห็นว่าช่วงที่เปิดให้เข้าจะวุ่นวายที่สุด หลังจากนั้นก็จะค่อยๆ ซาลง
「มาซาจิกะคุง เหนื่อยหน่อยนะ」
ตอนที่ผมกำลังยืนพิงกำแพงพักอยู่ ฮายาโตะก็แวะมาดู
「จะดื่มอะไรก็ได้นะครับ」
「พูดอย่างกับเป็นนักโทษประหารเลยนะ」
「อ๊ะ ผู้จัดการร้านบอกมาน่ะครับ」
ผมก็เลยรินน้ำโซดาใส่แก้ว ตามที่ได้รับอนุญาต
พอดื่มลงไป ก็รู้สึกสดชื่นซาบซ่านไปทั่วร่างกาย ดูท่าจะเสียเหงื่อมากกว่าที่คิด
「วงของฮายาโตะเล่นลำดับที่เท่าไหร่?」
「ลำดับสองครับ สมาชิกในวงก็เป็นคนในชมรมดนตรีครับ」
「เฮ้อ ไม่ยักรู้ว่าทำกิจกรรมนอกโรงเรียนกันขนาดนี้」
ผมรู้อยู่แล้วว่าชมรมดนตรีเคยเข้าร่วมการประกวด แต่ไม่คิดว่าจะเล่นไลฟ์เป็นประจำแบบนี้
ในฐานะประธานนักเรียน นี่เป็นเรื่องที่ต้องจับตามอง
ฮายาโตะจะแสดงเป็นลำดับถัดไป ดูท่าจะมาคุยกับผมเพื่อคลายความตื่นเต้น
「ที่จริงจังขนาดนี้ก็มีแค่วงของผมกับวงของรุ่นพี่รุย เท่านั้นแหละครับ」
「คาตาเสะยามะก็เล่นด้วยเหรอ」
「วันนี้ไม่ได้มาครับ」
ระหว่างที่คุยกับฮายาโตะ ดูเหมือนว่าวงแรกจะเริ่มแสดงแล้ว แม้จะมีประตูเก็บเสียงกั้นอยู่ แต่ก็ยังได้ยินเสียงกลอง
「ผมชอบเสียงนี้จัง ผมเองก็เล่นกลองน่ะครับ」
ฮายาโตะพูดพลางเท้าศอกกับเคาน์เตอร์ แล้วมองไปทางฟลอร์ (พื้นที่แสดง)
อินโทรจบลง เสียงร้องของนักร้องชายก็ดังขึ้น ฟังไม่ออกว่าเป็นเนื้อเพลงอะไร
แต่เป็นเสียงที่ไพเราะ สมกับที่มีลูกค้าตั้งใจมาดู
「ไม่คิดเลยว่านายจะชอบอะไรอย่างอื่นนอกจากผู้หญิงด้วย」
「แน่นอนว่าผมชอบผู้หญิงมากกว่าครับ」
「อ่า งั้นเหรอ…」
เป็นคนที่ซื่อตรงกับความต้องการของตัวเองดีจริงๆ
ผมรู้จักฮายาโตะน้อยมาก อย่างมากก็แค่รู้ว่าอยู่ชมรมดนตรี
คนที่ชวนเข้าสภานักเรียนก็คือคาตาเสะยามะ ถ้าคิดดูแล้ว ผมแทบไม่มีโอกาสได้รู้จักตัวตนจริงๆ ของฮายาโตะเลย
「ตอนแรก ผมเข้าชมรมดนตรีเพราะคิดว่ามันน่าจะสนุกดี แล้วก็เผื่อจะเนื้อหอมขึ้นบ้าง ไม่ได้ชอบวงดนตรีอะไรเป็นพิเศษ หรือมีประสบการณ์เล่นดนตรีมาก่อนหรอกครับ」
「สมกับเป็นนายดีนะ」
「ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่าจะเป็นชมรมดนตรี ชมรมอื่นๆ หรือสภานักเรียนก็เถอะ ก็เพราะมันดูสนุกดี อยากสัมผัสชีวิตวัยรุ่น หรือไม่ก็แค่ฆ่าเวลา ประมาณว่าอยากรู้สึกว่าได้ทุ่มเททำอะไรสักอย่างน่ะครับ」
ผมตั้งใจฟังฮายาโตะพูดคนเดียว ดูเหมือนจะตื่นเต้นจนพูดมากกว่าปกติ
ผมเองก็เหมือนกัน ไม่ได้อยากทำสภานักเรียนอะไร แต่คิดว่าจะเป็นก็แค่เลือกเพราะคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้นเอง
ในบรรดานักเรียนที่เป็นนักกีฬา มีน้อยคนนักที่จะมุ่งมั่นเอาดีทางด้านนี้จนถึงระดับมืออาชีพ ผมไม่ได้คิดว่านั่นเป็นเรื่องไม่ดี และคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งผม ฮายาโตะ และนักเรียนในชมรมอื่นๆ ก็ไม่ได้ละเลยกิจกรรมชมรมแต่อย่างใด
「รุ่นพี่รุยต่างออกไป」
พอถึงท่อนฮุค ความบ้าคลั่งในฟลอร์ก็ยิ่งทวีคูณขึ้นไปอีก
「ตอนที่ได้ฟังเสียงร้องกับกีต้าร์ของรุ่นพี่รุยครั้งแรกในงานแสดงต้อนรับนักศึกษาใหม่ ผมทึ่งไปเลย ผมคิดว่า ‘อ่า คนแบบนี้นี่เองสินะที่เรียกว่าอัจฉริยะ’」
ผมเองก็รู้จักคาตาเสะยามะแค่ในฐานะสมาชิกสภานักเรียน
ในงานวัฒนธรรมเธอก็ขึ้นแสดง แต่ตอนนั้นผมติดธุระ เลยรู้จักวงของเธอแค่ว่าได้รับคำชมล้นหลามจากแบบสอบถาม
การที่ฮายาโตะตามจีบคาตาเสะยามะ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
「แต่ว่า มันไม่ใช่แค่พรสวรรค์อย่างเดียว」
ฮายาโตะวางแขนทั้งสองข้างลงบนเคาน์เตอร์ แล้ววางคางลง สายตาทอดมองลงต่ำ ไม่รู้ว่ากำลังมองอะไรอยู่
「รุ่นพี่รุยน่ะ ถ้ามีเวลาว่างก็จะฝึกซ้อม วันหยุดก็เล่นไลฟ์แทบทุกวัน… เธอพยายามมากกว่าใครๆ ครับ พอเห็นแบบนั้น ผมก็คิดว่า ‘ที่ผ่านมา ฉันมันคนไม่ได้เรื่องขนาดไหนกันนะ’」
「ฮายาโตะก็เลยเล่นไลฟ์ด้วยสินะ?」
「ครับ อยากจะเข้าใกล้รุ่นพี่เขาขึ้นไปอีก… บ้าสุดๆเลยใช่ไหมล่ะครับ」
「…ฉันไม่คิดว่ามันบ้าหรอกนะ」
「แถมรุ่นพี่รุยยังทำสภานักเรียนอีก ผมก็เลยเลียนแบบบ้าง ก็เลยยิ่งคิดว่าตัวเองบ้าชะมัด ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น ดูไม่เท่เลยใช่ไหมล่ะครับ」
ในชีวิตคนเรา การได้ค้นพบสิ่งที่อยากทุ่มเท และได้ทุ่มเทกับมันจริงๆ จะมีสักกี่คนกันที่ทำแบบนั้นได้
ผมทำไม่ได้ ถึงจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่ทุกอย่างมันก็ครึ่งๆ กลางๆ
เพราะฉะนั้นผมถึงเคารพและชื่นชมคาตาเสะยามะและฮายาโตะ
「แต่… ผมไม่อยากใช้พรสวรรค์เป็นข้ออ้างในการหลีกหนี ก็เลยเล่นไลฟ์แบบไม่คิดหน้าคิดหลังอะไรแบบนี้แหละครับ เพราะไม่มีผลงาน เลยหาที่เล่นได้ยากมาก ในที่สุดก็มาเจอที่นี่ครับ」
ฮายาโตะเงยหน้าขึ้น แล้วหัวเราะอย่างขมขื่น
「ขอโทษครับ จู่ๆ ก็พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แน่นอนว่าทั้งผมและรุ่นพี่รุย ไม่ได้ละเลยงานสภานักเรียนหรอกนะครับ」
「รู้อยู่แล้ว แล้วก็รู้ด้วยว่านายเป็นคนที่คิดอะไรรอบคอบ」
「อย่าพูดแบบนั้นสิครับ ผมใช้ชีวิตตามอารมณ์นะ ไม่ใช่คนแบบนั้นซะหน่อย สิ่งที่ผมอยากจะพูดมีเพียงอย่างเดียวครับ」
ฮายาโตะชูนิ้วชี้ขึ้นมา ทำท่าทางเหมือนกำลังพูดเล่น
「ช่วยเพิ่มงบให้ชมรมดนตรีทีครับ ถ้ามีเงิน ผมอาจจะเป็นมือหนึ่งได้นะ」
「ไปคุยกับฝ่ายบัญชีของพวกเราเอาเองนะ」
「อูย ไม่ไหวหรอกครับ~」
พอเถอะ พอเถอะ ฮายาโตะพูดพลางเอามือลูบท้ายทอ
การที่ต้องมาคุยเรื่องจริงจังแบบนี้ คงจะทำให้รู้สึกอาย เหมือนกับผมนี่แหละ
「ฉันคิดว่านายที่ทำอะไรอย่างจริงจังน่ะ เท่ดีออกนะ」
เพราะผมไม่สามารถทุ่มเทกับอะไรได้
คนที่ทุ่มสุดตัวเพื่อไล่ตามความรัก คนที่รักในการวาดรูป แต่ก็ต้องยอมแพ้
คนที่เล่นดนตรีอย่างจริงจัง และคนที่ไล่ตามคนเหล่านั้นอย่างจริงจัง
อย่างน้อย ผมก็อยากจะสนับสนุนคนเหล่านั้น
「ตอนที่ฮายาโตะแสดง ฉันจะแอบหนีออกไปดู พยายามเข้าล่ะ」
「น่าอาย อย่ามาเด็ดขาดเลยนะ」
ประโยคสุดท้ายพูดด้วยน้ำเสียงปกติ แล้วฮายาโตะก็หัวเราะ
ฮายาโตะเปิดประตูเก็บเสียง พลางพูดว่า 「ขอบคุณคร้าบ」
ตอนนั้นเอง
จู่ๆ การแสดงของวงดนตรีก็เกิดความผิดพลาด
「เอ๊ะ…?」
ฮายาโตะที่อยู่ในท่ากำลังเปิดประตู อุทานออกมาอย่างงุนงง
จังหวะเริ่มผิดเพี้ยน และแล้วเสียงกลองก็หยุดลง การแสดงค่อยๆ หยุดลงตามไปด้วย
ในหมู่ผู้ชมก็เริ่มส่งเสียงซุบซิบกันว่าเกิดอะไรขึ้น
「เกิดอะไรขึ้นเหรอ?」
ผมออกจากเคาน์เตอร์ แล้วถามฮายาโตะ
「ไม่รู้ครับ แต่คิดว่าน่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกลองชุด…」
ฮายาโตะยืนนิ่ง จ้องมองไปที่เวที
บนเวที มือกลองก้มตัวลง เหมือนกำลังยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่างตรงที่วางเท้า สมาชิกวงคนอื่นๆ ก็มารวมตัวกันที่รอบๆ กลองชุด
คงจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นสินะ?
ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องเครื่องดนตรี แต่จะว่าเสียหรือพัง… จากตรงนี้ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดปัญหาขึ้น
「ฮายาโตะ เกิดอะไรขึ้น?」
「เป็นอะไรไป?」
น่าจะเป็นสมาชิกวงของฮายาโตะ ผู้ชายที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากที่โรงเรียน เดินออกมาจากห้องพัก แล้วมายืนข้างๆ ฮายาโตะ
เสียงซุบซิบบนฟลอร์ยังไม่สงบลง
ในที่สุด ผู้จัดการร้านที่เป็นผู้หญิงก็ขึ้นไปบนเวที และเริ่มตรวจสอบกลอง
「ไม่จริงน่า… ต่อไปก็ตาพวกเราแล้วแท้ๆ…」
ฮายาโตะพึมพำเสียงเบา ฮายาโตะเล่นกลอง ถ้าซ่อมได้เร็วก็ดี แต่ถ้าไม่ได้ การแสดงของพวกเขาคงจะมีปัญหา
ที่แย่ที่สุด อาจจะไม่สามารถเล่นไลฟ์ต่อได้เลย
「พวกเราไปกันเถอะ」
ผมตบไหล่ฮายาโตะ แล้วชวน สมาชิกวงมองหน้าผมแล้วพูดอย่างสงสัยว่า
「เอ๊ะ ท่านประธาน?」
「ทำไมมาอยู่ที่นี่?」
ขอโทษนะ แต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาตอบคำถามพวกนั้น
ผมพาฮายาโตะที่ยังคงยืนนิ่ง ผ่านห้องซ้อม แล้วมุ่งหน้าไปยังเวที
พอไปถึงหลังเวที ผู้จัดการร้านก็กลับมาพอดี
「เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?」
「อืม ดูเหมือนว่า แพดเดิลจะเสียแล้วน่ะ」
ผู้จัดการร้านอธิบายสถานการณ์สั้นๆ
ข้างๆ ผม หน้าของฮายาโตะซีดลง
「ถ้า แพดเดิลเสียแล้วจะเป็นยังไงเหรอ?」
「…มันจะไม่เด้งกลับหลังจากเหยียบ ถ้าไม่มีแพดเดิล ก็คุมจังหวะไม่ได้ครับ」
「แล้วถ้าไม่มี จะเล่นได้ไหม?」
「ไม่เคยเล่นแบบนั้นมาก่อน… ผมทำไม่ได้หรอกครับ」
วงแรกก็เลือกที่จะหยุดการแสดง แทนที่จะเล่นต่อ
คงเป็นส่วนที่สำคัญมากในการแสดงดนตรีจริงๆ
「ขอโทษด้วยนะคะ ฉันดูเเลมันไม่ดีเอง…」
「ซ่อมไม่ได้เหรอครับ?」
「เปลี่ยนเป็นอันใหม่เร็วกว่าค่ะ แต่ที่นี่ไม่มีสำรองไว้…」 ผู้จัดการร้านพูดพลางขบปาก ดูท่าทางลำบากใจ
ผมที่เป็นมือสมัครเล่น จะพูดแทรกมากเกินไปก็คงไม่ดี
แต่ตอนนี้ ลูกค้ากำลังรออยู่
ถึงจะเป็นแค่การทำงานเพียงวันนี้วันเดียว แต่ผมก็เป็นสตาฟของที่นี่ ไม่ใช่คนนอก
「พอจะมีอะไหล่ที่หาได้เร็วๆ นี้ไหมครับ?」
「ถ้าไปที่ไลฟ์เฮาส์ที่สนิทกัน หรือไม่ก็ร้านขายเครื่องดนตรี… แต่ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามสิบนาทีค่ะ」
จะเล่นต่อทั้งแบบนี้ก็ไม่ได้
จะไปเอาอะไหล่ก็ต้องใช้เวลาถึงสามสิบนาที ถึงจะกลับมาเล่นต่อได้ แต่มันนานเกินไป
…เข้าตาจนแล้วสินะ
ตอนที่กำลังคิดหาหนทางอยู่ ฮายาโตะก็ยกมือขึ้นอย่างลังเล
「ถ้าร้านคนรู้จักของผม น่าจะใช้เวลาสิบห้านาทีก็กลับมาได้ครับ」
「ดี เอาตามนั้นเลย」
「แต่ว่า ระหว่างนั้นจะทำยังไงครับ?」
ผมมองดูสถานการณ์บนฟลอร์จากหลังเวที
ลูกค้าเริ่มอยู่ไม่สุข บางคนก็เริ่มกลับบ้านเพราะคาดว่าน่าจะเกิดปัญหา สิบห้านาที ระหว่างนั้นจะมีคนรอสักกี่คน
「เดี๋ยวฉันจัดการเอง」
ผมพูดออกไปโดยไม่ทันคิด
สมาชิกวงของฮายาโตะทำตาโต 「เอ๊ะ」
「ทำไมล่ะมาซาจิกะคุง… ผมลากนายมาเองแท้ๆ」
「พูดอะไรน่ะ นี่มันการแสดงของชมรมดนตรีโรงเรียนเรานะ ประธานนักเรียนจะไม่ช่วยได้ยังไง」
อีกอย่าง ผมได้ยินมาหมดแล้ว
ว่าหาที่แสดงได้ยากแค่ไหน วันนี้เป็นโอกาสที่ในที่สุดก็ได้มา รุ่นน้องกำลังลำบาก มีหรือที่ผมจะยืนดูเฉยๆ ได้
「อีกอย่าง การรับมือกับปัญหาก็เป็น หน้าที่ของประธานนักเรียนไม่ใช่เหรอ?」
「มาซาจิกะคุง…」
「รีบไปได้แล้ว」
「…ครับ! ฝากด้วยนะครับ!」
ฮายาโตะตอบรับ แล้ววิ่งออกไป ดูท่าทางแบบนี้แล้ว อาจจะกลับมาเร็วกว่าที่คิดก็ได้นะ สิบห้านาที เป็นเวลาที่ดูเหมือนจะสั้น แต่ก็ยาวนาน
ถ้าไม่ทำอะไรเลย คนจำนวนหนึ่งก็คงจะยังอยู่
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ก็อยากให้พวกเขาได้แสดงในฮอลล์ที่เต็มไปด้วยผู้ชม
「รุ่นพี่ ฉันได้ยินเรื่องหมดแล้วค่ะ!」
โมนากะวิ่งมาแทนที่ฮายาโตะ ดูเหมือนเธอจะรู้สึกถึงความผิดปกติ เลยมาที่นี่ 「ฉันจะช่วยด้วย」
「…งั้นเหรอ ฝากด้วยนะ」
นี่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบเหมือนกันนะ
「พวกนายสองคน ช่วยดูแลตรงที่ตรวจตั๋วกับเครื่องดื่มที ผู้จัดการร้านครับ ขอไมโครโฟนสองตัวได้ไหมครับ?」
「คะ? อ่า ค่ะ」
ผมขอให้สมาชิกวงของฮายาโตะช่วยงานแต่ละอย่าง แล้วรับไมโครโฟนมาจากผู้จัดการร้าน น้ำหนักที่คุ้นเคย การถือไมโครโฟนก็เป็นหนึ่งในงานหลักของประธานนักเรียน
「โมนากะ ไปกันเถอะ」
「อื้ม!」
ผมส่งไมโครโฟนให้โมนากะอีกตัว แล้วเดินออกจากหลังเวที
บนเวที วงดนตรีที่เป็นคิวแรกกำลังสับสน
เมื่อกี้ผมเช็คดูจากรายชื่อ เห็นว่าชื่อวง “เพอร์สเลน”
พอขึ้นมาบนเวที ก็รับรู้ได้ถึงจำนวนผู้ชม เกือบทั้งหมดเป็นคนที่ตั้งใจมาดูวงเพอร์สเลน
เพดานของฟลอร์ต่ำ และค่อนข้างมืด ระยะห่างกับลูกค้าใกล้มากจนเอื้อมมือถึง แสงไฟที่ส่องสว่างเพียงเล็กน้อยสาดส่องไปยังผู้ชมอย่างบางเบา
ผมยืนอยู่กลางเวที แล้วยกไมโครโฟนจ่อปาก
「ต้องขออภัยที่ทำให้ต้องรอ ผมสึจิโด ฝ่ายบริหารจัดการของไลฟ์เฮาส์ครับ」
ก็แค่พนักงานพาร์ทไทม์ (ไร้ค่าจ้าง) ชั่วคราวแท้ๆ
เมื่อผมพูด ลูกค้าที่กำลังเล่นสมาร์ทโฟนระหว่างรอก็เงยหน้าขึ้น
「ขณะนี้ เรากำลังหยุดการแสดงชั่วคราวเนื่องจากปัญหาอุปกรณ์ขัดข้อง คาดว่าจะกลับมาเล่นได้อีกครั้งในอีก 15 นาที จนกว่าจะถึงตอนนั้น สถานการณ์คือไม่สามารถเล่นดนตรีได้ ดังนั้น…」
ผมยิ้มแย้มให้กับผู้ชมที่ทำหน้าผิดหวังเหมือนอย่างที่คิดไว้ 「ทางเราจึงจะจัดกิจกรรมพูดคุยกับเพอร์สเลนแบบกะทันหันครับ!」
สมาชิกวงเพอร์สเลนมองผมด้วยความประหลาดใจ
สมาชิกประกอบด้วยนักร้องชาย มือกีตาร์ชาย มือกลองชาย และมือเบสหญิง ทุกคนดูอายุไม่ต่างจากผมเท่าไหร่ น่าจะยังเป็นนักเรียนมัธยมอยู่
ดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับการรับมือกับปัญหาแบบนี้ เลยได้แต่อึกอักอยู่บนเวที
ถ้าอย่างนั้นผม… ไม่สิ พวกเราจะนำเอง
ผมส่งสัญญาณให้โมนากะ เธอก็ยิ้มอย่างมั่นใจ
「ค่าาา! ฉันโมนากะ พิธีกรค่า!」
เธอชูมือขึ้นอย่างร่าเริง แล้วทักทายอย่างสดใส
เธอจูงมือมือกลองที่กำลังหดหู่อยู่ด้านหลังออกมาข้างหน้า
ทั้งๆ ที่จู่ๆ ก็เริ่มเอง แต่ก็ปรับตัวได้เร็ว ค่อยยังชั่ว
「เอาล่ะ ชื่ออะไรเหรอคะ?」
「เอ่อ ซาบิกิ จุน ครับ ขอโทษที่ต้องหยุดการแสดงกะทันหัน…」
「จุนคุงสินะ! กลองนี่ยากไหม? ฉันเล่นเครื่องดนตรีไม่เป็นเลย」
「ก็ยากนะครับ แต่ก็ชอบความรู้สึกที่เป็นหนึ่งเดียวกันเวลาเล่นได้ดี」
「อย่างนั้นเหรอ!」
「เวลาเล่นไลฟ์ จะรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ชมด้วย… เรียกว่ากรูฟหรืออะไรทำนองนั้นครับ」
โมนากะดึงบทสนทนาออกมาอย่างคล่องแคล่ว
ที่เลือกคุยกับมือกลองคนนี้ก่อน คงเพราะดูเหมือนเขาจะหดหู่ที่สุด ถึงจะไม่ใช่ความผิดของเขา แต่การแสดงก็ต้องหยุดชะงักเพราะกลองมีปัญหา ก็คงจะรู้สึกแย่
แต่ด้วยความสดใสของโมนากะ เขาก็ค่อยๆ ยิ้มแย้มขึ้นมา
โมนากะพูดคุยกับสมาชิกแต่ละคนตามลำดับ เริ่มจากนักร้องนำ แล้วก็มือเบส
ตอนแรกสมาชิกก็ดูสับสน แต่พอได้คุยกับโมนากะ การสนทนาก็ค่อยๆ ลื่นไหล
「เอาล่ะ เรื่องพูดคุยก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโมนากะ…」
สิ่งที่ผมจับจ้องอยู่คือสีหน้าของผู้ชม
ดูจากปฏิกิริยา ก็จะรู้ว่าพวกเขากำลังสนุกหรือรู้สึกเบื่อ การสังเกตปฏิกิริยาจากบนเวที เป็นสิ่งที่ผมทำอยู่เสมอในฐานะประธานนักเรียน
「ดูท่าจะไม่มีปัญหาอะไรนะ」
สายตาของผู้ชมจับจ้องไปที่สมาชิกวง และทุกครั้งที่โมนากะหรือสมาชิกวงพูดอะไรตลกๆ
เสียงหัวเราะคิกคักดังขึ้นจากผู้ชม การตอบรับดีมาก
เรื่องพูดคุยปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโมนากะ ส่วนผมก็คิดถึงเรื่องหลังจากที่เปลี่ยนเพดเดิลเรียบร้อยแล้ว
ผมปรึกษากับทีมงาน และออกคำสั่งเรื่องการกำกับเวที
「ลองจับกีตาร์ดูไหม?」
「เอ๊ะ ได้เหรอคะ?」
…รู้สึกเหมือนว่า แทนที่จะเป็นทอล์คโชว์ จะกลายเป็นการแสดงของโมนากะไปแล้วแฮะ แต่ในเมื่อผู้ชมดูสนุกสนาน ก็คงไม่เป็นไร
เหลือเวลาอีกประมาณห้านาที
สำหรับเวลาที่ใช้กลเม็ดเล็กๆ น้อยๆ โดยไม่ได้เตรียมการมาก่อน ก็ถือว่าฉิวเฉียด
「มาซาจิกะคุง!」
เสียงของฮายาโตะดังมาจากข้างเวที
ฮายาโตะเอามือยันกำแพง หายใจหอบ ดูท่าจะวิ่งมาอย่างเต็มที่
แต่ในมือที่เขาชูขึ้นนั้น มีเพดเดิลสำรองอยู่ในมือ
「เยี่ยม」
เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
ผมส่งสัญญาณให้ทีมไฟส่องสปอตไลท์ไปที่โมนากะ
「ว้าว รู้สึกเหมือนเป็นคนดังเลย!」
โมนากะร่าเริงท่ามกลางแสงไฟ
ตรงกันข้าม ผมเดินไปหาสมาชิกวงที่กลายเป็นเงา แล้วอธิบายเรื่องการแสดง
เมื่อแน่ใจว่าเปลี่ยนเพดเดิลเรียบร้อยแล้ว ผมก็จับไมโครโฟน
「ทุกท่าน ต้องขออภัยที่ทำให้ต้องรอ」
ควันที่พวยพุ่งออกมาจากทั้งสองฝั่ง ปกคลุมทั่วทั้งเวที
แสงไฟสาดส่องไปที่ควัน ผมกับโมนากะเคลื่อนตัวไปยังขอบเวที
เงาของสมาชิกวงปรากฏขึ้น เสียงเชียร์ดังขึ้นจากผู้ชม
「การแสดงจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง ณ บัดนี้ครับ」
เสียงกลองดังก้องไปทั่วเวที
การแสดงของทั้งสี่วงที่กำหนดไว้ได้จบลง ผมก็ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ในห้องพัก
ผมเอาหัวพิงพนักเก้าอี้แบบท่อเหล็ก แล้วเหม่อมองเพดาน
「เหนื่อยจัง…」
ความล่าช้าที่เกิดจากปัญหา และการที่ต้องเล่นเพลงสุดท้ายซ้ำ ดูเหมือนว่าจะชดเชยได้โดยการลดช่วงเวลาเปลี่ยนเวที
ที่บอกว่าดูเหมือนก็เพราะ ผมมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำเครื่องดื่ม ลูกค้ายังคงหลั่งไหลเข้ามา ผมก็เลยได้แต่รินเครื่องดื่มใส่แก้วอย่างต่อเนื่อง
ถึงจะช่วยเรื่องการแก้ไขปัญหาไปบ้าง แต่ที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ก็ต้องขอบคุณวงดนตรีแต่ละวงและผู้จัดการร้าน แล้วก็โมนากะที่ช่วยถ่วงเวลาเกือบทั้งหมด และฮายาโตะที่วิ่งไปเอาเพดเดิล ที่จริงแล้ว ผมน่าจะสำนึกที่ทำตัวเกินหน้าเกินตาไปด้วยซ้ำ
「รุ่นพี่ เหนื่อยหน่อยนะคะ」โมนากะโผล่หน้าเข้ามาจากด้านหลัง เส้นผมของโมนากะแตะแก้มของผมที่เงยหน้ามองอยู่
「อ่า โมนากะก็เหนื่อยหน่อยนะ」
「อ่ะนี่ จากผู้จัดการร้านค่ะ」
สิ่งที่โมนากะยื่นให้ก็คือกาแฟกระป๋องแบบหวานน้อย
ผมลุกขึ้นนั่ง แล้วเปิดฝากระป๋อง โมนากะนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ
「สนุกจังเลยนะ!」
「โมนากะนี่ แข็งแรงดีจังนะ」
「พูดเหมือนกับฉันเป็นเด็กเลย! 」
「จริงๆ ก็ประมาณนั้นแหละ」
「อ๊ะ ทำเหมือนฉันเป็นเด็กสิ ฉันก็เป็นผู้หญิงเต็มตัวแล้วนะคะ」
ผู้หญิงเต็มตัว… ? ผมรู้สึกว่าจะเห็นแต่ด้านเด็กๆ ของโมนากะอยู่เรื่อย
เมื่อเห็นผมทำหน้างง โมนากะก็ไขว่ห้างแล้วโน้มตัวมาข้างหน้า
「ฮึ่ม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปเถอะค่ะ」
「หมายความว่าไง?」
「ฉันน่ะ เนื้อหอมกับพวกคุณลูกค้ามากเลยนะคะ」
เธอยิ้มอย่างภูมิใจ
「ประมาณว่าเสน่ห์ของผู้ใหญ่สินะ มันเปล่งประกายสุดๆ ตอนอยู่บนเวทีน่ะค่ะ ไม่แน่อาจจะโดนแมวมองทาบทามก็ได้ ไม่รู้ว่ามีคนในวงการบันเทิงมาดูบ้างรึเปล่า」
「อิจฉาคนที่มีจินตนาการล้ำเลิศจริงๆ เลยน้าาา」
「ถึงฉันจะกลายเป็นคนดัง ก็จะแอบมาพบกับรุ่นพี่นะคะ ถ้ามีข่าวเรื่องรักลับๆ โผล่ขึ้นมาจะทำยังไงดีคะ?」
「ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง」
「เอ๋~ ทั้งๆ ที่จะทำให้เป็นเรื่องจริงเลยก็ได้แท้ๆ」
รู้สึกว่าวันนี้โมนากะจะฮึกเหิมเป็นพิเศษ…
ไลฟ์เฮาส์ เป็นสถานที่ที่เรียกได้ว่า “อยู่นอกเหนือจากชีวิตประจำวัน” ฟลอร์ที่ค่อนข้างมืด ระบบเสียง และแสงไฟ ยิ่งขับเน้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
จริงๆ แล้ว ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้น บรรยากาศค่อนข้างแตกต่างจากการกล่าวเปิดงานในกิจกรรมของโรงเรียน เลยรู้สึกว่าตัวเองเผลอทำตัวเท่เกินจำเป็น
「ทำตัวเกินหน้าเกินตาไปหน่อยแฮะ…」
「เหรอ? ฉันว่าเท่ดีออกนะ?」
「ถึงไม่มีฉัน ทุกอย่างมันก็น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีอยู่แล้ว」
「อืม ก็อาจจะใช่」
แค่กำลังร้อนรนกับปัญหาก็เท่านั้น ทั้งผู้จัดการร้านและสมาชิกวงเพอร์สเลน ถ้าเวลาผ่านไปสักพัก ก็น่าจะสงบสติอารมณ์และจัดการได้ ผมก็แค่ช่วยย่นระยะเวลาให้เร็วขึ้นเท่านั้น
โมนากะตอบรับ พลางยิ้มบางๆ
「แต่รอยยิ้มนั้น รุ่นพี่เป็นคนสร้างขึ้นมานะคะ」
โมนากะชี้ไปที่ทางเข้าห้องพัก
ตรงนั้น มีสมาชิกวงเพอร์สเลนอยู่
「คนที่สร้างรอยยิ้มให้กับลูกค้า คือคนพวกนั้นต่างหาก」
「อืม สุดยอดไปเลยเนอะ การทำให้คนจำนวนมากสนุกได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย」
โมนากะพูดพลางหรี่ตาลง ดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง
「ฉันเอง จะทำแบบนั้นได้บ้างไหมนะ」
「ไม่รู้สิ คนเราก็ถนัดไม่เหมือนกันนี่นะ」
「ตรงนี้ ต้องพูดว่า ‘ทำได้อยู่แล้ว!’ สิ!」
「ก็มันเป็นความจริงนี่」
ฮายาโตะและคนอื่นๆ เตรียมตัวกันอย่างหนัก ฝึกซ้อม และในวันนี้ ก็แสดงจริงจนสำเร็จ ไม่ใช่สิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้
「ถ้างั้น ถ้างั้น ฉันตั้งเป้าว่าจะทำให้คนๆ เดียวมีรอยยิ้มดีกว่าค่ะ」
「ฉันน่ะ ยิ้มมาตั้งนานแล้วนะ」
「อ๊ะ อย่าเพิ่งชิงพูดก่อนสิคะ!」
ยังไงก็ต้องพูดอะไรประมาณว่า อยากทำให้ฉันยิ้มอยู่แล้ว…
วันนี้ ถึงจะบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ แต่ผมก็สนุก
ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็คิดว่าเวลาที่อยู่กับเธอมันช่างสบายใจ
「อ๊ะ สึจิโดซัง!」
ตอนนั้นเอง สมาชิกวงเพอร์สเลนก็วิ่งเข้ามาหาพวกเรา
「ขอบคุณมากเลยครับ! ต้องขอบคุณมากๆ เลย วันนี้เป็นวันที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลย!」
「โอบะซังก็ช่วยได้เยอะเลยค่ะ」
พวกเขาพูดขอบคุณกันอย่างต่อเนื่อง …พอได้ยินแบบนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไร
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน ผู้จัดการร้านก็เข้ามา
「อ๊ะ อยู่กันตรงนี้นี่เอง」
「คุณผู้จัดการ เหนื่อยหน่อยนะครับ」
「เหนื่อยหน่อยนะ ดีใจมากเลยที่ทั้งสองคนมาช่วย อ่ะนี่」
ผู้จัดการร้านยื่นซองให้พวกเรา
「นี่คือ…?」
「ค่าจ้าง ขอบคุณที่มาช่วยงานวันนี้นะ」
「แต่ไหนบอกว่าจะหักจากค่าตัวของฮายาโตะไม่ใช่เหรอครับ?」
「อันนั้นคนละส่วนกัน นี่เป็นค่าตอบแทนสำหรับการทำงานของพวกเธอ」
ถ้าอย่างนั้นก็… ผมก็รับไว้อย่างยินดี
ถึงจะไม่ได้ทำเพราะหวังเงิน แต่การได้รับรางวัลในรูปแบบของการประเมินผลงานก็ทำให้รู้สึกดีใจ
「ว้าว! ขอบคุณค่า!」
「ถ้าว่างก็มาทำงานอีกนะ ร้านเราขาดคนตลอดเลย」
ผู้จัดการร้านโบกมือ แล้วกลับไปทำงานที่ค้างอยู่ต่อ
ทั้งๆ ที่เป็นไลฟ์เฮาส์ขนาดเล็ก แต่ก็มีลูกค้าเยอะ เธอคงจะยุ่งมากถ้าต้องทำคนเดียว ตัวเลือกสถานที่ทำงานพาร์ทไทม์ของผมเพิ่มขึ้นอีกแล้วสินะ…
สมาชิกวงเพอร์สเลนก็ออกไปแล้ว คราวนี้ฮายาโตะโผล่หน้าเข้ามาในห้องพัก
「ผมน่ะ จะติดตามมาซาจิกะคุงไปตลอดชีวิตเลยครับ」
「จู่ๆ พูดอะไรเนี่ย…」
「ก็มันยอดเยี่ยมมากเลยนี่ครับ การรับมือสถานการณ์แบบนั้น! ขนาดเป็นผู้ชายด้วยกัน ยังหลงเสน่ห์เลย!」
「ใครๆ ก็ทำได้น่า」
「ไม่มีทางซะหรอกครับ」
ต่อจากโมนากะ ฮายาโตะก็ยังร่าเริงดีแฮะ
ถ้าเป็นประธานนักเรียน ก็ต้องทำให้ได้ประมาณนั้นแหละ ไม่งั้นก็อยู่ต่อไปไม่ได้
อย่างเช่น… ถ้ารุ่นพี่คุสึฮาระล่ะก็ คงจะควบคุมสถานการณ์ได้ด้วยตัวคนเดียว โดยไม่ต้องพึ่งโมนากะ
「ฮายาโตะคุงเองก็หลงเสน่ห์งั้นเหรอ… คู่แข่ง…」
โมนากะพึมพำอะไรบางอย่างเบาๆ แต่ผมทำเป็นไม่สนใจ
「ฮายาโตะก็เท่ดีนะ」
「อ๊ะ ได้ดูด้วยเหรอครับ? เขินจัง」
「ไม่ต้องเขินหรอก มันเป็นผลจากการที่ฮายาโตะพยายามนะ」
「นั่นแหละที่เขิน สิ่งที่อยากให้ยอมรับ ไม่ใช่ความพยายามครับ」
ฮายาโตะเอนตัวพิงโต๊ะอย่างหมดแรง แล้วหัวเราะอย่างขมขื่น
「ผมทำเต็มที่แล้ว แล้วก็แสดงสิ่งที่ดีที่สุดของผมในตอนนี้ออกมาแล้ว ก็เลย… รู้สึกว่ายังห่างไกลอีกเยอะ แบบนี้ ยังไงก็ไม่มีทางไล่ทันรุ่นพี่รุย」
「แล้วจะยอมแพ้เหรอ?」
「ไม่มีทาง」
ในสายตาคนทั่วไป ผมคิดว่าเป็นวงดนตรีที่ยอดเยี่ยม แต่สำหรับฮายาโตะ คงจะยังไม่พอ บางที อาจเป็นเพราะตั้งเป้าหมายไว้สูง เลยต้องทนทุกข์กับช่องว่างระหว่างอุดมคติกับความเป็นจริง
แต่ผมไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องไม่ดี มันเป็นความเจ็บปวดที่จำเป็นสำหรับการเติบโต ดูเหมือนฮายาโตะเองก็ไม่ได้ท้อแท้
「ผมก็จะพยายามต่อไปจนกว่าจะไล่ทันครับ」
「ยังไงก็ช่วยมาดูอีกนะครับ」
「อื้ม」
เราชนหมัดกันเบาๆ
มีรุ่นน้องดีๆ แบบนี้ก็ดีนะ เด็กปีหนึ่งของสภานักเรียนแต่ละคนก็เป็นคนดีๆ ทั้งนั้น
「เอ่อ…」
โมนากะที่ไม่มีส่วนร่วมในบทสนทนาของผู้ชาย ก็ยื่นหน้าเข้ามาจากด้านข้าง
「ฉันน่ะ เป็นประเภทที่อยากให้คนอื่นยอมรับในความพยายามค่ะ!」
สิ่งที่เธอยื่นออกมาคือใบให้คะแนน… พูดตามตรง ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย
ผมสบตากับฮายาโตะ แล้วเราก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
「พูดอะไรน่ะครับ โมนากะจัง ผ่านอยู่แล้วครับ」
「จริงเหรอ? ขอบคุณนะ ฮายาโตะคุง!」
การทดสอบเพื่อที่จะได้เป็นกรรมการฝ่ายธุรการของสภานักเรียน
ช่องกรอกคะแนนช่องที่สองจากทั้งหมดห้าช่องถูกเติมจนเต็ม
{ จบตอนที่ 3 เล่ม 2 }