ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 8 พบ
ตอนที่ 8
“คิดว่าไงวะ ?“
”เอิ่ม ไม่รู้ แต่แน่ใจเหรอว่าจะดี ?“
”ไม่รู้ ถึงได้ถามไง“
“เอิ่ม…”
หัวหน้า กับพชรยืนในโรงเรียนมองภาพวาดขนาดใหญ่ภาพที่เป็นงานชิ้นแรกซึ่งได้รับมอบหมายให้ทำแบบคู่ พชรได้คู่กับหัวหน้าด้วยการจับคู่ด้วยสลาก ตอนแรกทั้งสองมีไอเดียมากมายผุดมาในหัว
เพราะคุณครูบอกแค่ให้วาดรูปในกระดาษ A0 โดยกำหนดหัวข้อหลวม ๆ แค่วาดที่เกี่ยวกับสัตว์ ตอนแรกหัวหน้าเสนอเป็นสิงโตทว่าพชรกลับดูสนใจแมวพันธุ์ทางมากกว่า
เพราะความคิดต่างกัน ในตอนแรกเกือบทั้งสองได้วาดอย่างอื่น ทว่าโชคดีที่หัวหน้าเป็นพวกชอบเล่นมินิเกมง่าย ๆ ทุกอย่างจึงจบด้วยการเป่ายิ้งฉุบ และผลที่ได้คือพชรชนะ ทำให้ทั้งสองตัดสินใจวาดแมวพันธุ์ทางโดยให้พชรหาแบบมา
พชรค่อนข้างใส่ใจรายละเอียด เพราะแมวพันธุ์ทางที่ว่าคือแมวในอดีตของเขาเองจึงใช้รูปแมวตัวนั้นในมือถือเป็นแบบแล้วตัดสินใจวาดมันเองขณะที่หัวหน้าคอยให้กำลังใจอยู่ใกล้ ๆ คอยถามตลอดเวลาว่าต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า
จนในท้ายที่สุดพชรก็วาดเสร็จด้วยตัวคนเดียว นับว่าหลายชั่วโมงทีเดียว ทว่าพอได้เห็นรูปที่พชรวาดหลังจากได้เห็นโครงร่างในช่วงแรกที่พอเดาผลลัพธ์ได้อยู่แล้วก็ต้องถอยหายใจขณะตอบคำถามอีกฝ่าย
“1 เต็ม 10 วาดเห้ไรวะนั่น ดูยังไงให้เป็นแมวก่อน แค่หน้ายังเบี้ยวขนาดนั้น ไม่บอกนี่นึกว่าสัตว์ต่างดาว”
“…“
เพราะเปิดเรียนเข้าสัปดาห์ที่สอง ทั้งคู่ได้เจอกันทุกวันจึงสนิทกันจนถึงขั้นพูดกันสนิทสนมได้ หลังจากวันที่พชรเข้าช่วยเทียร์ร่าเก็บผ้าเช็ดหน้าจากท่อระบายน้ำก็เหมือนอีกฝ่ายจะเข้ามาตีสนิทเป็นพิเศษจนสัมผัสได้ ความสัมพันธ์ทั้งคู่จึงได้มาถึงจุดนี้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน
ท้ายที่สุดรูปที่พชรวาดก็ต้องขยี้แล้วโยนมันออกนอกหน้าต่างห้องชั้น 3 อย่างช่วยไม่ได้ เพราะคะแนนทุกวิชาสำคัญสำหรับเด็กนักเรียนห้องคิงอย่างทั้งสอง รูป หรือผลงานอะไรที่ไม่ดีมักถูกเขี่ยทิ้งอย่างง่ายดาย ขณะที่พชรบ่น ‘เฮ้ ฉันตั้งใจวาดมากเลยนะเว้ย‘
อนึ่งที่ถูกเขี่ยทิ้งไม่ได้มีแค่ผลงาน แต่รวมไปถึงเหล่านักเรียนด้วย เพราะการแข่งขันสูง จึงมีบ่อยครั้งที่ห้องเรียนพวกเขาถูกสับเปลี่ยนระหว่างเทอม
ถัดจากนั้นในท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ได้รูปที่สวยกว่า ดูดีกว่าแมวต่างดาวของพชรอย่างทาบไม่ติด เป็นผลงานของหัวหน้าห้องที่ใช้เวลาวาดหลายชั่วโมงเช่นเดียวกันแต่เร็วกว่า ภาพตรงหน้าทั้งสองมองยังไงก็ดูออกว่าเป็นสิงโต รายละเอียดทุกอย่างชัดเจน เฉียบคม จนถึงว่าเป็นสิงโตของจริงในกระดาษ
”เป็นไง“
”เอิ่ม ก็ดี“
”… ทั้งที่สวยขนาดนี้ได้แค่คำว่าก็ดีแค่นี้เหรอวะ“
”มันก็ดี แต่ว่าแมวของฉันอะ ทิ้งไปได้ไงวะ นอยนะเว้ย ใช้เวลาตั้งหลายชั่วโมง“
”… ก็จริงนะ แต่ว่าผลงานมันเห้ตั้งขนาดนั้นเลยนะ ยังจะเก็บไว้อีกเรอะ ! ถ้าอยากได้รูปแมวตัวนั้น มา เดะวาดให้ดู“
ว่าแล้วหัวหน้าที่ยึดโต๊ะพชรแล้วให้เจ้าของโต๊ะลากโต๊ะของไอซ์มานั่งก็แย่งมือถือจากพชรมาวาดรูปแมวพันธุ์ทางของพชร เขาพยายามขีดเขียนอย่างนั้นจนถึง 6 โมงเย็นก็เสร็จแล้วยื่นมันให้แก่พชร
“โคตรเหมือน !”
พอดูรูปวาดของหัวหน้าขึ้นมาก็ออกปากชมจนอีกฝ่ายกอดอกเชิ่ดหน้าอย่างอารมณ์ดี ทว่าขณะที่ชม มือของพชรก็ขยี้รูปหัวหน้าแล้วปาออกนอกกำแพงตาม ๆ กันไปทำเอาคราวนี้หัวหน้ามีรูปแบบการแสดงออกเหมือนกันเปี๊ยบ
“เฮ้ ฉันวาดตั้งนานเลยนะเว้ย“
”โอ๊ะ หลุดมือว่ะ โทษที“
”…”
“อึ๊ก อะไรเนี่ย ใครเค้าใช้ให้โยนกระดาษลงตึกแบบนี้”
ถัดลงมาจากตึกสูง ด้านล่างที่เป็นถนนทางเดินระหว่างอาคารซึ่งตลอดทางมีฟุตบาทที่มีที่บังแดดให้อย่างดีทว่าขณะที่สาวงามกำลังจะขึ้นรถที่มีคนขับมารับกลับมีกระดาษที่โดนขย้ำตกใส่หัวเสียอย่างนั้น
เธอกำลังจะโยนทิ้งกลับพอว่ามีลายเส้นบางอย่างด้านใน พอลองคลี่กระดาษด้วยความรู้สึกแปลก ๆ บางอย่างก็พบภาพวาดแมวง่อย ๆ ตัวนึงที่แทบดูไม่ออกทำเอาสาวงามขมวดคิ้ว
ทว่าโดยปกติคนทั่วไปพอเห็นรูปนี้พวกเขาก็ต้องทิ้งมันแน่นอน
ใครมันจะเก็บรูปนี้กัน ทว่าสาวงามกลับไม่ใช่อย่างนั้น คิ้วที่ขมวดลงของเธอไม่ได้ขมวดด้วยความหงุดหงิด
“อ- เอ่อ รูปนี้มัน…”
“…เช้าวันนี้หลังเข้าแถวเสร็จ นักเรียน ม.4 ทุกชั้นอย่าเพิ่งขึ้นห้องเรียนนะ”
“ประกาศวันรับน้องนักเรียน ม. 4 สินะ”
เพราะสัปดาห์ที่แล้วเป็นของ ม.1 สัปดาห์ต่อมาก็น่าจะเป็น ม.4 กันต่อ พชรพอเดาได้จึงพยักหน้าเงียบ ๆ ในแถวระหว่างพิธีหน้าเสาธง
“นี่ ๆ พวกเราจะได้รับน้องกับเขาแล้วเหรอ”
เหมือนไอซ์ก็รู้เช่นเดียวกัน เธอที่ยืนอยู่หน้าแถวเพราะถูกจัดด้วยอาจารย์เช่นเดียวกันถามพชรทำลายบรรยากาศความเงียบ
“เหมือนจะใช่นะ เมื่อวานพอได้ยินพี่รินเค้าหลุดปากมาอยู่ แล้วก็ปีนี้เหมือนพวกเราจะไม่ได้ถูกรับน้องกับรุ่นพี่ตัวแทน ม.5 ทุกชั้น แต่เป็นแค่กลุ่มสภานักเรียนร่วมกับคณะอาจารย์ที่ปรึกษาสภาเท่านั้น ที่ได้ยินอะนะ“
“หือ… ปีนี้พี่สภานักเรียนจะมาทำหน้าที่รับน้องแทนเหรอ อืม…”
“หืม ? มันทำไมเหรอ ?“
”อืม…“
อยู่ ๆ สาวงามก็ทำหน้าปั้นยาก ทำเอาพชรรู้สึกแปลก ๆ กับใบหน้านั้นไปด้วย
”พี่ฉันเคยโดนพี่สภารับน้องมาก่อนน่ะสิ วันนั้นสภาพพี่ตอนกลับบ้านอย่างกับคนตายเลยอะ”
”ห้ะ ? มันขนาดถึงต้องทำเสียงน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”
ท่าทางโอเว่อแบบนั้นใครจะเชื่อได้ล่ะนั่น เผลอ ๆ จะแกล้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ ในท้ายที่สุดพชรก็ปล่อยไว้อย่างนั้น ก่อนจะพบความจริงในเวลาต่อมา
ในเช้าวันเสาร์ พชรแต่งตัวในชุดไปรเวทแต่งหน้าตามประสาหนุ่มฮ็อต สวมนาฬิกาอัจฉริยะที่คอมือกับคอสวมจี้เครื่องรางเสริมความงาม ภาพลักษณ์หนุ่มหล่อตอนนี้อยู่หน้ากระจกบานใหญ่ภายในห้องนอน เขายกริมฝีปากขณะส่งเสียงหัวเราะในลำคอออกมา
”คนอะไรหล่อได้ขนาดนี้กัน“
เขาเสยผม มองตัวเองในมุมต่าง ๆ พอสมใจก็รีบวิ่งออกจากบ้านทั้งอย่างนั้นจนมีน้องสาวตะโกนตามหลัง
“นี่ พี่ ! ข้าวเช้าอะ ข้าว !“
น้องสาวเรียกตามหลังที่ไม่ฟังซึ่งวิ่งออกหน้าบ้านผ่านประตูออกไปแล้ว เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนจึงใช้เวลาเพียงไม่ถึง 15 นาทีก็วิ่งถึงหน้าโรงเรียนในตอนเช้า
วันนี้เป็นวันที่เงียบ คณะอาจารย์ และนักเรียนถูกสั่งงดเข้ามาโรงเรียนทั้งวันในเสาร์-อาทิตย์นี้ จึงไม่มีใครเลยนอกจากเหล่า ม.4 ทั้งชั้นที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน รวมทั้งเทียร์ร่าเช่นกันที่เดินเข้ามาพร้อมกับพชรราวกับนัดไว้
หลังจากที่เขาได้เข้าช่วยสาวงามเก็บผ้าเช็ดหน้าจากท่อระบายน้ำ ก็ไม่ได้พูดคุยกันอีกเลยมาจนถึนปัจจุบัน
“อรุณสวัสดิ์”
“โอ๊ะ อรุณสวัสดิ์”
เพราะการช่วยเหลือรอบนั้น บวกกับได้เห็นท่าทางไม่ปกติของสาวงามจนไม่เหลือความกลัว- ไม่สิ ความรำคาญ บวกกับก่อนหน้าที่ได้คุยเรื่องเกี่ยวกับสาวงาม เขาก็ได้เปลี่ยนความคิดพร้อมหาวิธีรับมือมาพอประมาณแล้ว
“อ้าว นายขี้แพ้ในที่สุดก็กล้าพูดแล้วเหรอ”
“หืม ? อ๋อ ตอนแรกก็กะจะไม่หรอก แต่เงียบไปตลอดก็กลัวเธอเหงาน่ะ”
”หา !? ฉันเนี่ยเหรอเหงา พูดเพ้อเจ้ออะไร คนเข้าหาฉันเยอะกว่านายเยอะนายขี้แพ้”
“อืม ก็จริง“
พชรพยักหน้าแล้วเดินจากเงียบ ๆ ขณะที่สาวงามไม่ยอมอย่างนั้น เธอวิ่งเตาะแตะตามหลังพชรจนในที่สุดก็คว้าหลังอีกฝ่ายเพราะพชรไม่มีท่าทีจะหยุด
”นี่ จะไปไหน ฉันอุตส่าห์เข้ามาทักทายเลยนะ !“
”อา ครับ ก็น่าดีใจนะ ขอบคุณ“
”ย- อย่าเพิ่ง ! ขอเวลาก่อน“
พออีกฝ่ายมีท่าทีจะหนีก็เปลี่ยนเป็นจับแขนด้วยสองมือแล้วดึงสุดแรงแทนจนพชรต้องหยุดอย่างช่วยไม่ได้
“หือ ? มีไร”
“อือ… ถ้างั้นรูปนี้ นายพอรู้ไหมว่าใครวาด“
สาวงามยื่นมือถือที่ถ่ายรูปกระดาษให้พชรวาดทำเอาพชรหน้าถอดสีโดยที่ยังไม่รู้สาเหตุที่ถาม ทว่าก็พอเดาได้อยู่ว่าถามเพราะอะไร
‘เอิ่ม จะบอกว่าหัวหน้าเป็นคนโยนลงดีไหมหว่า แต่เดี๋ยวเดะ เธอถามหาคนวาดไม่ใช่เหรอวะ ชิบหายละ’
”อืม… ไม่ร-“
”อาจารย์นฤมลจะมอบหมายงานให้แต่ละห้องไม่เหมือนกันจัดตามความสามารถ กับแยกไม่ให้ปะปนกัน ซึ่งห้องพวกนายจับสลากได้วาดรูปสัตว์ในกระดาษ A0 แถมวันนั้นจุดที่กระดาษล่วงลงมายังตรงกับห้องของพวกนายด้วย…”
“…”
’เดี๋ยวนะ รู้ได้ไงเนี่ย เรื่องนี้อาจารย์บอกจะเก็บเป็นความลับนี่‘
“เพราะงั้นนายต้องรู้แน่เพราะที่นั่งของนายอยู่ริมหน้าต่าง วันนั้นคนที่อยู่ในห้องตอนช่วง 6 โมงเย็นมีแค่ 7 คน 5 คนบอกแล้วว่าไม่ได้วาด เหลือแค่นายที่อยู่ริมหน้าต่างกับคนที่เรียกตัวเองว่าหัวหน้า”
”เอิ่ม เดี๋ยวนะ ทำไมถึงสืบขนาดนั้-”
“เพราะฉันอยากเจอกับคนที่วาดเจ้านี่ เขาเป็นคนสำคัญของฉัน“
‘ห้ะ ? คนสำคัญ สำคัญอะไรวะ โกหกชัวร์ ถ้าบอกไปล่ะก็-’
ขณะคิดว่าอีกฝ่ายโกหกเขาก็พบใบหน้าสุดแสนจริงจังของอีกฝ่ายที่คอยคำตอบอย่างคาดหวังราวกับคำตอบจากปากเขาจะเป็นคำชี้ชะตาชีวิต พชรกลืนน้ำลายลงคอสบตาสาวงามผู้กำลังคาดหวังด้วยความไม่เข้าใจ
“อืม ความรู้สึกแปลก ๆ นี่มันอะไรกัน“
เพราะอีกฝ่ายยังเงียบ สาวงามจึงจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วครุ่นคิดในหัว
”ถึงบรรยากาศจะต่างออกไป แต่ว่า… เอ๊ะ ? นายพชร นายเปลี่ยนชื่อเข้ามาสินะ“
‘ห้ะ ? เธอรู้ได้ไง‘