ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 4 รอด และไม่รอด
ตอนที่ 4
“เอ่อ”
เพลงชาติกำลังเตรียมขับร้อง เหล่ารุ่นพี่สภานักเรียนยืนรอให้ทั้งสองเดินขึ้นบันไดไปชักธง ทว่าทั้งคู่กลับไม่ทำอะไรสักที
บรรยากาศแถวที่มีนักเรียนหลายพันถูกจัดเรียงเป็นระเบียบใต้โดมขนาดยักษ์นั้นเงียบกริบรอพิธีเริ่ม ตอนนี้มันควรถึงเวลาที่ทั้งสองต้องขึ้นไปชักธงแล้วเริ่มขับร้องตามปกติเพื่อให้พิธีดำเนินการต่อ ทว่าคู่ชายหนุ่มกลับไม่ทำอะไรสักที
พชรพยายามหาทางออกสุดขีด เขารีบใช้สมองอันชาญฉลาดนึกหาทางออกขณะที่โดนกดดันโดยรุ่นพี่ เขาพยายามมองไปด้านหลังทว่าทำไม่ได้ แต่ก็รู้สึกได้ถึงสายตาของริน ผู้เป็นสภานักเรียนกำลังคาดหวังและให้กำลังใจทั้งสองอยู่
เทียร์ร่านิ่งกริบ ในหัวเธอก็หางทางออกเช่นเดียวกัน เพราะไม่เคยชักธงมาก่อน โดยปกติอย่าว่าแต่เข้าแถวเลย ตอนอยู่โรงเรียนก่อนที่เป็นโรงเรียนลูกคุณหนุขนานแท้ของเธอนั้นไม่ได้มีพิธีหน้าเสาธงด้วยซ้ำ
“อ้ะ เหมือนจะนึกได้แล้ว”
พชรค่อย ๆ ก้าวเท้าขึ้นนำหน้าสาวงาม เทียร์ร่าทำตัวไม่ถูก เธอมองพชรที่เดินนำขึ้นไปเงียบ ๆ
“ขึ้นมาเร็ว”
พชรแนบมือกับลำตัวให้สุภาพพยายามก้าวเท้าให้ช้าที่สุด เขากระซิบสาวงามเบา ๆ ขณะที่มือซึ่งกำลังแนบลำตังนั้นกำลังกวักสาวงามอยู่
เทียร์ร่ามองเห็นมือนั้นก็กลืนน้ำลายก่อนเดินตามพชรขึ้นไป เพราะมีรอบข้างคอยจับจ้อง สาวงามสมบูรณ์แบบเช่นเธอจึงต้องห้ามทำเรื่องผิดพลาด เธอลืมวางแผนล่วงหน้าเสียสนิท
ก่อนหน้าเธอรู้แล้วว่าต้องออกมาชักธงด้านหน้าแถว แต่ไม่รู้ว่าต้องทำมันร่วมกันกับพชร จากตอนแรกที่กะจะเตรียมตัวก่อนเริ่มกิจกรรมดันกลายเป็นลืมเสียสนิท ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้เสียได้
ทั้งคู่แทบไม่ต่างกัน พชรอ่านนิยายกับมังงะมาเยอะแถมตอนเรียน ม.ต้น ยังมีโอกาสมองเห็นภาพที่นักเรียนในชักธงนั้นดูจะไม่ยาก เพราะก็แค่เดินมา ดึงธงข้างนึงลงมาแล้วรอใครสักคนขับร้องแล้วดึงขึ้นไปอีกรอบ แค่นั้นจบ
ทว่าพอเอาเข้าจริง ๆ กลับกลายเป็นว่าวันแรกที่ได้เข้าแถวหน้าเสาธงในโรงเรียนกลับต้องขึ้นมาชักธงแถมในมือสาวงามยังถือฐานวางธงบนมือทั้งสองข้างอีก เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อหลังจากขึ้นมาบนแท่นเสาธงแล้ว
สายตารอบข้างยังคงกดดัน ทั้งสองดูน่าเป็นห่วงทำเอารินรู้สึกผิดที่ไม่ทันติวทั้งสอง แค่มองดูท่าทีเก้ ๆ กัง ๆ ก็ดูออกแล้วว่าไม่เคยทำมาก่อน
“ก่อนอื่น ด้านบนไม่มีธง เราก็ต้องดึงมันลงมาก่อนสินะ ธงจะอยู่ฝั่งขวาเสมอ เข้าใจแล้ว เราต้องดึงฝั่งขวาลงม- เดี๋ยวนะ เธอจะเข้ามาด้วยทำไมเนี่ย“
“ก็ไม่รู้นี่”
พชรเดินเข้าไปยังเสาธงโดยมีสาวงามเดินตามติด ๆ เสียอย่างนั้นทั้งที่ควรทิ้งระยะห่างออกจากเสาธงอีกหน่อย นักเรียนรอบข้างที่เห็นทั้งสองพลันเริ่มตั้งคำถาม ’พิธีแบบใหม่ ?‘ ขณะที่อาจารย์ค่อย ๆ กุมขมับ
“อา เข้าใจแล้ว ในเมื่อเข้ามาประชิดขนาดนี้ก็เริ่มมันตรงนี้แหล- เอ๊ะ ธงมันผูกยังไงวะ มันมีหัวท้ายหรือเปล่าเนี่ย โอโห ละพับมาซะดี“
เป็นอีกรอบที่พชรต้องกุมขมับ เขาดึงเชือกลงมาจนเห็นปมที่มีไว้ให้ผูก 2 จุดแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของสาวงามที่ต้องผูกเชือกธง เข้ากับเชือกตัวหลัก ทว่า
”ร- เราต้องทำอะไรต่อเหรอ“
เทียร์ร่ายืนนิ่งถือฐานวางธงในมือข้างกันกับพชร เธอถามออกมาอย่างลนลานเพราะเวลาผ่านมานานจนน่าจะเกินช่วงพิธีไปแล้ว พชรพยายามนึกหาทางออก เขาถือเชือกในมือ ขณะที่เทียร์ร่าถือฐานวางธงในมือ ในตอนนี้เทียร์ร่าถือฐานวางอยู่ เธอไม่น่าจะผูกได้ ถ้างั้นตอนนี้หน้าที่ผูกเชือกคงเป็นเขา
พชรมองหาเชือกในธงที่ถูกพับมา เขาจับเชือกบนฐานที่สาวงามถือขึ้นมาผูกเข้ากับเชือกใหญ่ พออันแรกเสร็จ เขาก็ผูกอีกอันตามสัญชาตญาณเอาตัวรอด พอผูกเสร็จก็นิ่งนึกหาทางออกอีกรอบ
กว่าทั้งสองจะทำได้ทีละอย่างทำเอารุ่นพี่สภานักเรียนตัวเกร็งตามไปด้วย ความเงียบของนักเรียนนับพันควรทำให้สงบใจ กลับไม่เสียอย่างนั้น ทุกคนที่อยากอยู่หน้าเสาธงไม่เว้นแม้แต่รินเริ่มมีเหงื่อไหลออกจากหน้าผาก ทั้งเรื่องฐานวาง ทั้งตำแหน่งยืนผิดจุด ไหนจะเรื่องที่เทียร์ร่าเดินตามพชรขึ้นบันไดเสาธงตามพชรไปโดยไม่ทันได้มอบมันให้รุ่นพี่อีกคนตามขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าความผิดพลาดครั้งนี้คงไม่ทำให้เหล่าสภานักเรียนเติบโต
แต่จะทำให้คะแนนเหล่ารุ่นพี่ทั้งหลายถูกหักแทนเสียกว่า
“เอิ่ม ฐานอันนั้น“
พชรมองฐานวางอันว่างเปล่าบนมือเทียร์ร่า เขาไม่รู้ว่าควรเอาไปเก็บไว้ที่ไหน เขาไม่เคยเห็นใครที่ถือฐานวาง ขณะที่จับเชือกคู่กับฝ่ายชายไปด้วย จึงไม่รู้ว่าควรทำไงกับฐานนั่น
”เอิ่ม ถ้างั้น…”
“ด- เดี๋ยว ถอยออกมาก่อน…”
ห่างออกมาอีกนิด รินพยายามเรียกช่วยสุดฝีมือด้วยน้ำเสียงเบา ๆ เพื่อไม่ให้อาจารย์ข้าง ๆ ได้ยิน ทว่าไม่ทันได้ส่งเสียงไปถึง ภาพที่เห็นก็ต้องทำให้กุมขมับ
พชรหยิบฐานวางมาแนบข้างลำตัวแล้วเอาแขนหนีบ จากนั้นยื่นเชือกอีกข้างให้เทียร์ร่าจับ เขากำลังจะดึงขึ้นกลับกลายเป็นว่าจับเชือกผิดฝั่ง แทนที่จะชักขึ้นกลับกลายเป็นชักลงทำเอาเหล่านักเรียนหลายคนเผลอหลุดขำ พลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลาดแล้วพลาดอีกแทบไม่มีจุดจบ พชรยิ้มแก้เขินก่อนเปลี่ยนเชือกกับสาวงามอีกรอบ
พชรกำลังจะชักขึ้น แต่คราวนี้เชือกกลับพันเข้ากับธงอีกอัน เขาพยายามสะบัดให้ธงหลุดออกจากเชือก จนในที่สุดก็สำเร็จ ทว่าแทนที่จะเป็นไปได้สวย ธงผืนนั้นกลับอยู่ต่ำจนสะบัดตามลมม้วนกับลำตัวเทียร์ร่าอีก พชรหลี่ตาเป็นเครื่องหมายเท่ากับทันที พออีกอย่างเสร็จก็มีอีกอย่างตามมา ปัญหาไม่จบไม่สิ้น เทียร์ร่าแทนที่จะดึงธงให้หลุดกลับยืนจับเชือกนิ่ง ๆ ปล่อยธงม้วนกับตัวเองทั้งอย่างนั้น
“สองคนนั้นคงไม่ได้เล่นตลกกันใช่ไหม”
อาจารย์ที่เริ่มทนรอไม่ได้เดินเข้าหารินแล้วเปล่งน้ำเสียงปกติถามพร้อมเผยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร ด้วยแววตาไม่เป็นมิตรสุด ๆ เหล่าสภานักเรียนขนลุกซู่กันเป็นแถบ ๆ กับการเอ่ยถามอาจารย์ที่ปรึกษาสภา
“อ- เอ่อ ค่ะ”
“เฮ้อ พลาดไม่รู้จบเลย น่าอายเป็นบ้า”
พิธีหน้าเสาธงผ่านไปได้อย่างยากลำบาก เวลาเลิกเข้าแถวล่าช้าไป 5 นาทีเพราะการชักธงของคู่หนุ่มหล่อสาวสวย พอพิธีหน้าเสาธงจบละ เขากับเทียร์ร่าถูกสั่งขึ้นห้องเรียนทันที ขณะที่เหล่ารุ่นพี่โดนครูที่ปรึกษาสภานักเรียนเรียกให้อยู่ก่อน
พชรไม่ต้องนึกได้ให้ยาก แค่มองหน้ารินที่เหงื่อแตกพลั่กพร้อมทำหน้าปั้นยากก็พอรู้แล้วว่าจะเป็นอะไรต่อ เขาทำได้เพียงขอโทษรุ่นพี่ในใจแล้วเดินจากออกมา การชักธงครั้งนี้คงเป็นการชักธงครั้งแรก และครั้งเดียวในชีวิตของเขาแล้วล่ะ
“พวกนายทำอะไรกันวะน่ะ โคตรเท่ ! ยื้อเวลาเรียนได้ตั้ง 5 นาที โคตรสุด !“
ทั้งโคตรเท่บ้าง โคตรสุดบ้าง คำชมต่าง ๆ นานาจากหัวหน้ากลุ่มผู้ชายในห้องหลุดจากปากไม่หยุด พอถึงช่วงพักเที่ยงก็ถูกถามไถ่เรื่องหน้าเสาธงตลอด ทำไมถึงทำยังอย่างนั้น ทำอย่างนี้ ไม่กลัวอาจารย์ดุเหรอ ? คอนเทนต์ ? นู่นนี่นั่นมากมากจนพชรปวดหัวกับการตอบคำถามสหายในห้องเรียน
“อะฮะฮะ พวกนายนี่น่าตลกชะมัด นอกจากนี้คุณเทียร์ร่าดูลนลานสุด ๆ เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย ต้องเป็นพรสวรรค์ของนายแน่ ๆ เลยว่ะพวก”
“พรสวรรค์กับเรื่องที่ทำพลาดอะนะ … แปลกชะมัด นายคงไม่ได้จะด่าทางอ้อมหรอกนะ“
“ป- เปล่าสักหน่อย คิดมากน่า”
หัวหน้าตบไหล่พชรแปะ ๆ อย่างอารมณ์ดี แผดเสียงหัวเราะลั่นกลางโรงอาหารโดยไม่กลัวอะไรสักนิด
“เห้ ใจเย็นหน่อย เสียงดังมากไปแล้ว”
ไมค์กล่าวเตือนทั้งสองระหว่างตักข้าวเข้าปาก พวกสมองกล้ามเนื้ออย่างเขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ ระหว่างกิน กับที่ทั้งสองคุยเรื่องต่าง ๆ ในหัวของไมค์นึกถึงแต่เรื่องออกกำลังกาย วันนี้วิ่งกี่กิโลดี ? บริหารหน้าท้อง หรือวิดพื้นเอาซิกแพ็คให้ใหญ่ขึ้นดี ? เรื่องพวกนี้อยู่ในหัวเต็มไปหมด
ขณะที่หนุ่มเแว่นกลมหน้าติ๋มอีกคนที่อยู่ด้วยมีท่าทีลนลาน มองรอบข้างตลอดเวลา ราวกับกลัวโดนผู้คนเข้ามารมกระทืบเพราะเสียงของหัวหน้าที่ดังไม่เกรงใจใครเลย
แม้จะเป็นแบบนั้น หรือกังวลไปแบบนั้นแต่เรื่องพวกนั้นก็ไม่เกิดขึ้นอย่างที่หัวคิด โรงเรียนนี้เหมือนจะมีพวกไม่สนใจสิ่งรอบข้างอยู่เยอะสินะ
พชรเก็บข้อมูลในหัวเงียบ ๆ