ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 33 บุกบ้าน
ตอนที่ 33
“นี่เหรอ บ้านเพชร”
“พี่รินกลับบ้านไปเลยนะคะ เดี๋ยวก็โดนดุหรอก”
“หืม ? ไม่ใช่ว่าเทียร์ร่าหรอกเหรอที่จะโดนดุ ไม่ใช่ว่าหลายปีมานี้คุณน้าเค้าแปลกไปเหรอ ?”
“ต- แต่วันนี้คุณพ่อไม่ได้อยู่สักหน่อย แถมพี่รินต่างหากต้องรีบกลับ นอกจากนั้นวันนี้ต้องเรียนเสริมไม่ใช่เหรอคะ ?”
พอทั้งสองถูกมาพาส่งบ้านพชร แต่ละคนต่างกรูลงจากรถโดยไม่ฟังทับทิมที่เป็นคนชับรถกับพลอยที่เตือนทั้งสองด้วยประโยคเดียวกัน ’ริน/เทียร์ร่า เราต้องรีบกลับนะ’ เลยแม้แต่น้อย แต่ละคนต่างมุ่งหน้าเดินเข้าบ้านพชรราวกับเป็นเจ้าของบ้านโดยไม่ได้สนใจพชรที่กำลังโค้งหัวขอโทษผู้ดูแลทั้งสองเลยแม้แต่น้อย
พอทั้งสองเข้าไปยังบ้านก็พบน้ำที่นั่งกอดเข่าดูหนังที่ห้องโถง ในตอนแรกน้ำเอียงคอมองรินอยู่สักพักไม่นานก็ลุกขึ้นโผลใส่ริน กอดแน่นแล้วตะโกนเสียงดัง “พี่ริน ! ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะคะ ! อ้ะ พี่เทียร์ร่าด้วย สวัสดีค่ะ ! เอ่อ วันนี้คุณแม่ไม่กลับบ้าน อาจไม่มีอะไรต้อนรับ ขอโทษนะคะ”
เป็นอีกรอบที่พชรไม่เข้าใจน้องสาวที่ดูจะสนิทกับทุกคนที่พชรรู้จัก พอน้ำกอดริน รินก็ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างอ่อนโดยนแล้วพูดกับอีกฝ่าย “เราก็คิดถึงน้ำเหมือนกัน ไม่ได้เจอตั้งหลายปีแน่ะ ดีใจที่ได้เจออีกครั้งนะ” ในขณะที่เทียร์ร่ากล่าวทักทายน้ำเสร็จก็เดินออกมานอกบ้านจับแขนพชรอย่างสนิทสนมแล้วพูด
“เพชชี่ ๆ ได้เวลาพากันไปทัวร์ห้องเพชชี่แล้วนะคะ ! ไปกัน !”
เธอพูดโดยไม่ได้สนใจผู้ดูแลทั้งสองที่กำลังนั่งฟังในรถเลยแม้แต่น้อย เธอจับมือพชรอีกข้างที่ไม่ได้ถือร่ม ชำเลืองมองอย่างคาดหวังด้วยรอยยิ้มกว้างแทบปริแตกทำเอาพชรยิ้มเจื่อนในขณะที่พลอยกับทับทิมกุมขมับส่ายหัวกับคุณหนูทั้งสอง
“ท้ายที่สุดก็ลงเอยอีหรอบนี้”
“นั่นสินะ ดูเหมือนพวกเราจะไม่ได้กลับกันแล้วล่ะวันนี้ เราไปซื้ออะไรกินไปพลางกันดีไหม ?”
“อืม น่าสนใจ ยังไงวันนี้คุณหนูของเราก็ไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว เราแค่คอยระวังไม่ใช่พวกเขาทำอะไรเกินเลยก็พอ นอกนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไรหรอก”
พลอยพยักหน้าให้คำพูดของทับทิมแล้วตอบ ’นั่นสินะ ถ้างั้นเราไปหาซื้ออะไรกินรอแล้วกัน‘
ว่าแล้วรถที่มาส่งทั้งสามก็พูดประโยคทิ้งท้ายกับพชรก่อนออกตัว
“พชร ถ้าเกิดทำให้คุณหนูของพวกเราแปดเปื้อนล่ะก็ คงรู้ผลที่จะตามมาอยู่แล้วใช่ไหม ?”
โดยปกตินักเลงอย่างพชรไม่ได้หวาดกลัวแรงกดดันใด ๆ อยู่แล้ว แต่พออีกฝ่ายกดเสียงต่ำพร้อมส่งสีหน้าไม่เป็นมิตร แถมผนวกเข้ากับทับทิบที่ยกนิ้วกรีดคออย่างน่าหวั่นเกรงนั่นแล้ว ทำเอาพชรตัวแข็งทื่อแล้วตอบอย่างแข็งขัน “ครับ !” แค่นั้น ในขณะที่เทียร์ร่าพองแก้ม “พี่พลอย ! ห้ามดุเพชชี่ของหนูนะคะ ! ฮึ่ม !”
แค่นั้นก่อนรถสุดหรูจะออกตัวลับสายตาไป
‘ดูเหมือนวันนี้จะเป็นวันที่หนักหนาซะแล้วสิ’
“เพชชี่คะ ? ไปกัน ! ตอนนี้พี่รินนำหน้าเราเข้าไปแล้วนะคะ”
“อ- โอเค ยืนอยู่ตรงนี้ก็มีแต่จะเปียกเสียเปล่า ถ้างั้นก็เข้าไปกันเถอะ”
“อื้อ !”
เทียร์ร่าชอบใจกับคำชวนเข้าบ้านของพชร เธอยกฝีปากขึ้นแล้วยิ้มอย่างพอใจขณะเดินเข้าบ้านพร้อมพชร
“อ้าว เข้ามากันแล้วเหรอ นั่งกันก่อนสิ”
ดูเหมือนตอนนี้ บ้านของพชรจะถูกยึดโดยรินแล้ว พอทั้งสองเข้ามาด้านในก็เชื้อเชิญให้นั่งขณะที่ตนเดินสำรวจบ้านอย่างสนอกสนใจเสียอย่างนั้น
เทียร์ร่าพอเห็นรินสำรวจก็ดูจะกลัวเสียเปรียบ เธอเดินแยกไปหารินแล้วพูด
“บ้านเพชชี่แคบจังเลยเนอะ พี่รินว่าไหม ?”
“นั่นสินะ จริง ๆ เราว่าตรงนี้ก็เสาตรงนี้ก็วางแปลก ๆ ด้วย พรุ่งนี้เราเรียกสถาปนิกประจำตระกูลเรามาออกแบบผังบ้านใหม่ดีมั้ย ?“
“ก็น่าสนใจเหมือนกันนะคะ บ้านหนูก็มีวิศวกรที่สนิทด้วยอยู่ ถ้าจะวานให้มาก็ไม่ยากหรอกค่ะ แต่ อ้ะ ! ทำไมชั้นหนังสือของอัจฉริยะของพวกเราถึงมีหนังสือน้อยจังล่ะ”
“อืม… จริงด้วย ถ้างั้นพรุ่งนี้เราซื้อหนังสือมาด้วยดีมั้ย ?”
“หนูว่าดีนะคะ เพชชี่จะได้ขยายขอบเขตความรู้ของตัวเองให้กว้างขึ้นด้วย”
ทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเดินไปทั่วห้องรับแขกหยิบจับนู่นนี่นั่นแล้วพูดกันด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนจะเอาจริงทำเอาพชรยิ้มเจื่อน
กับเทียร์ร่า พชรพอเข้าใจทำไมเธอถึงได้ทุ่มเทให้เขานัก แต่กับรินเนี่ยแปลก ความรู้สึกคุ้นชินอย่างน่าประหลาดเวลามองเจ้าตัวนั้นช่างทำให้พชรสงสัยยิ่งกว่าเทียร์ร่าเสียอีก เพราะนอกจากเธอจะรู้จักเขาดีพอ ๆ กันกับเทียร์ร่าแล้ว เธอยังดูสนิทกับน้ำยิ่งกว่าเทียร์ร่าเสียอีก เพราะตั้งแต่ที่เข้ามา น้ำก็จะเกาะติดเธออยู่ตลอด
พชรนั่งลงโซฟาแล้วถอนหายใจปล่อยให้ทั้งสองสำรวจบ้านทั้งอย่างนั้น
บ้านของพชรก็เป็นบ้านชนชั้นกลางราคาไม่กี่ล้านเหมือนครอบครัวอื่น ๆ ตัวบ้านสะอาดเอี่ยมจัดวางทุกอย่างเป็นระเบียบ ซื้อของใช้ทุกอย่างที่พอมีราคา ทว่าพอคุณหนูทั้งสองเห็นดูจะยังไม่พอใจ ไหนจะบอกว่าบ้านเล็กเอย หนังสือน้อยเอย ของตกแต่งไม่พอเอย ต่าง ๆ นานาที่สามารถวิจารย์ได้ พวกเธอก็จะพูดออกมาแล้วสรุปความกันเองทำเอาพชรกุมขมับเข้าไปใหญ่
ไม่รู้ว่าเขาไปทำอะไรในอดีตมาถึงได้สนิทกับทั้งสองขนาดนั้น กับรินที่จำได้ก็แค่เรื่องไม่กี่เดือนก่อนในสถาบันเรียนเสริมเท่านั้น นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลย แม้จะยังไม่แน่ใจว่ารินชอบตนหรือเปล่า แต่ท่าทีของรินที่ไม่เกรงใจหรือหวั่นเกรงในการเข้ามาในบ้านของเขาแล้วมันก็อดคิดไม่ได้จริง ๆ
“อืม… เดี๋ยวนะ จะขึ้นชั้นสองเลยเหรอ ?“
พอเห็นทั้งสองที่เดินพร้อมกันกับน้ำกำลังจะขึ้นบันไดไปยังชั้นสองที่มีห้องนอนเขาก็อดเอ่ยเสียงทักออกไปไม่ได้
”อื้อ“
ทั้งสองตอบกันอย่างพร้อมเพรียงขณะเดินขึ้นชั้นสองพร้อมกับน้ำ พชรถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เพราะในบ้านของเขาหากน้ำต้องการทำอะไร เธอก็จะทำทันทีโดยไม่สามารถห้ามได้ ดูเหมือนที่ทั้งสองขึ้นไปชั้นสองได้ก็คงเป็นเพราะน้ำเชยชวนอย่างไม่ต้องสงสัย
”เพชรพาเราไปห้องของเธอหน่อยสิ“
”อื้ม ๆ อยากเห็นห้องนอนเพชชี่เหมือนกัน“
“หืม ? พี่ ๆ จะไปห้องนอนพี่หนูเหรอ ! ได้สิคะ ถ้าอย่างนั้นทางนี้ ๆ !”
เจ้าตัวซนอย่างน้องสาวพชรชอบใจ พอพชรเดินตามหลังมาก็จับมือคุณหนูสองคนเดินตามทางเดินมุ่งหน้าไปยังห้องพชรที่อยู่มุมสุด เธอเปิดห้องพี่ชายของตัวเองแล้วเชื้อเชิญคุณหนูทั้งสองเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจความรู้สึกพี่ชายตัวเองเลยสักนิด
พชรมองน้องสาวแสนร่าเริงไม่นานก็ถอนหายใจ เขาไม่สามารถห้ามน้องสาวตัวเองกับคุณหนูทั้งสองได้อยู่แล้ว เมื่อทั้งสามตัดสินใจเข้าห้องพชรไปแล้ว เจ้าของห้องอย่างพชรก็มีแต่จำเป็นต้องเข้าไปด้วยอีกคน
”อ้ะ ! ดูเหมือนบะหมี่ที่หนูลวกไว้จะสุกแล้ว ถ้าอย่างนั้นหนูขอไปกินก่อนนะคะ !“
ว่าแล้วน้องสาวตัวป่วนก็เดินออกจากห้องแล้วปิดประตูวิ่งหายไปเหลือเพียงทั้งสามในห้องนอนพชร รินตัวแข็งทื่อขณะที่เทียร์ร่ามองรอบห้องด้วยความใคร่รู้ก่อนกระโดดขึ้นเตียงพชรทิ้งตัวลงนอนอย่างอารมณ์ดีแล้วปล่อยคำพูดแสนผ่อนคลายออกมา “เตียงเพชชี่หอมจัง~” ขณะที่รินเดินเข้าหาพชรแหงนหน้าสบตาด้วยส่วนสูงที่น้อยกว่า เธอพูด
“เอ่อ เพชร เตียงนอนน่ารักจัง…”
“ครับ ?”
พชรมองเตียงนอนลายการ์ตูนหุ่นแมวสีฟ้าโทนสีสว่างสดใสทำเอาพชรหัวเราะแห้งเพราะเซ็ทเตียงนอนของเขามันสดใสจริง ๆ
“ไม่นึกมาก่อนว่าจะได้เข้ามาในห้องนอนเพชร อืม กลิ่นหอมจัง แถมยังสะอาดด้วย ตอนแรกเรานึกว่าห้องเพชรจะแบบว่ารก เต็มไปด้วยแผ่นกระดาษข้อสอบทั่วห้องเสียอีกแน่ะ”
“ก็ช่วยไม่ได้นี่ ไม่ได้ชอบให้ห้องรกด้วยสิ“
”แบบนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้น อืม… อันนี้พชรทำทุกวันเลยเหรอ“
รินย่อตัวลงหยิบดัมเบลขนาด 15 กิโลที่พชรใช้ออกกำลังกายทุกวัน เธอส่งเสียง “อือ…” ออกมาขณะพยายามยกดัมเบลมันขึ้นมาด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
“หนักจัง…”
เธอยกได้เพียงแป๊บเดียวก็วางกลับที่เดิมแล้วเดินชมจุดอื่น ๆ อย่างสนอกสนใจ
“อันนี้… อ้ะ หนังสือการ์ตูนโรแมนติกนี่-”
พอเดินอยู่นานก็พบหนังสือมังงะของพชรวางบนโต๊ะเรียน เธอหยิบขึ้นมายังไม่ทันได้เปิดอ่าน พชรก็แย่งมันจากมือเธอเสียก่อน
“เอ่อ อันนี้มัน… คือว่าจริง ๆ มันเป็นปกหลอก…”
“หืม ? หืม ? หืม ? นั่นมัน…“
พอเห็นท่าทีพชร รินก็ยกริมฝีปากขึ้นผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมาราวกับสังเกตบางอย่างได้จากตัวพชร รอยยิ้มขี้แกล้งของเธอพลันผุดขึ้นมาในรูปแบบเดียวกันกับเทียร์ร่าขณะที่พยายามเข้าประชิดแล้วแย่งหนังสือจากมือพชร
”หนังสือเล่มนั้นจะต้องมีเนื้อหาผู้ใหญ่แน่ ๆ เพชรเป็นเด็กนิสัยไม่ดี ไหน เอามาให้พี่สาวคนนี้ตรวจสอบเลยนะ~“
เธอพยายามแย่งหนังสือจากตัวพชร แต่พชรเพียงแค่ยกหนังสือขึ้นเหนือหัวสาวงามก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เธอพยายามยกมือเขย่งเท้ายืดตัวขึ้นสุดเพื่อแย่งแต่ก็ด้วยความสูงที่น้อยกว่า ท้ายที่สุดก็แย่งมาไม่ได้ พชรพยายามปั้นหน้าให้นิ่งเก็บความเขินอายไว้ด้านในพยายามตีหน้านิ่งกับสาวงามที่พยายามเข้าใกล้แย่งหนังสือ แม้เธอจะเว้นระยะห่างไม่ให้โดนตัว แต่ในระยะที่ใกล้ขนาดนี้มันก็อดเขินไม่ได้อยู่ดี
”อะไรล่ะนั่น อยู่ ๆ ก็ทำตัวสมวัยไปได้”
“ก็… ตอนนี้เราไม่ได้อยู่ด้านนอกนี่นา เราก็มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนเทียร์ร่านะ เพราะงั้น…”
“อือ…”
ระหว่างพูดคุยเทียร์ร่าก็นั่งกอดหมดพชรบนเตียงส่งเสียงขู่ออกมาอย่างน่ารักน่าชัง เธอหลี่ตาจ้องทั้งสองแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจนทำเอาพชรยิ้มเจื่อน
“ฉันก็อยู่ตรงนี้นะคะ…“
ฝั่งรินพอรู้ว่าอีกฝ่ายมองก็ผละตัวออกจากพชรแล้วหัวเราะเจื่อนออกมาขณะเปล่งเสียง “อ้ะ” ออกมาอย่างเขินอาย
‘เฮ้อ รอดไปที‘ พอเทียร์ร่าเรียกความสนใจจากรินได้ก็ถือโอกาสนำหนังสือมังงะวางไว้บนตู้สูงไม่ให้รินหยิบได้ เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอ่านหนังสือ
”ว่าแค่กลิ่นเพชรเป็นยังไงบ้างเหรอ เห็นสูดดมมานานแล้วนะ“
”เอ่อ… ก็ ดีค่ะ ! แต่ไม่ให้พี่รินทำด้วยหรอกนะคะ“
”ไม่เอา ! ไหน ขอด้วยสิ~“
คุณหนูทั้งสองทิ้งตัวลงบนเตียงพชรอย่างไร้ยางอาย ไม่มีซึ่งความเป็นกุลสตรีที่ทุกคนพึงมีหรือมารยาทได้รับการเข่นเขี้ยวจากชั้นเรียน เทียร์ร่ากับรินกลิ้งบนเตียงพชรพยายามแย่งหมอนข้างพชรทั้งอย่างนั้นทำเอาเจ้าของห้องทำตัวไม่ถูก
เป็นใครต่างก็ต้องมีความคิดชั่วร้ายในหัวถ้าเกิดมีสาวงามมาอยู่ในห้อง ยิ่งตอนนี้มีถึงสองคน และทั้งสองก็เป็นลูกคุณหนูที่ขึ้นชื่อในด้านความยากในการเข้าหา พวกเธอไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงหรือหวาดกลัวที่อยู่ในห้องผู้ชายเลยแม้แต่น้อยทำเอาพชรพยายามขั้นสุดในการข่มอารมณ์ที่ชายหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ทุกคนมี เขาพยายามละสายตาจากเทียร์ร่ากับรินโดยหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่าน
ทว่าระหว่างนั้นกลับมีเสียงของทั้งสองดังอยู่ตลอด ”พี่ริน ! อย่าแย่งหมอนหนูสิ ถ้าอยากได้ก็ไปเอาอันอื่นนู่น ! แถมหนูยังเจอเพชชี่ก่อนนะคะ เพราะงั้นหนูเป็นเจ้าของโดยชอบธรรม พี่ไม่มีสิทธิมาแย่งของของหนูนะคะ !“
”ไม่จริง เราเจอกับพชรก่อนที่จะเจอกับเทียร์ร่าตั้งหลายเดือน เพราะงั้น… เอ่อ เทียร์ร่าไม่มีสิทธิ์ครอบครองไว้คนเดียวนะ“
“แต่ยังไงก็ตาม คนที่จีบเพชชี่ก่อนก็คือหนู เพราะงั้นคนที่มีสิทธิ์ในการครอบครองเพชชี่จะต้องเป็นหนูคนเดียว !”
’อะไรกันล่ะนั่น นี่คุณหนูสองคนกำลังแย่งฉันเหรอ ? อืม พอมองแบบนี้ก็น่ารักกันดีแฮะ’
พอได้มองสองสาวกลิ้งไปมา แสดงความต้องการครอบครองพชรเป็นของตัวเองเพียงคนเดียวออกมา พชรก็อดเอ็นดูไม่ได้ เขาหัวเราะในลำคอไม่ได้หันมองทั้งสอง เขาละสายตาจ้องมองตัวหนังสือมาตั้งนานแล้ว ที่เขาสัมผัสได้ก็แค่เสียงทั้งสองเถียงกันไปมา
กระทั่งแย่งตัวพชร ทั้งสองยังไม่มีทีท่าจะใช้ความรุนแรงใด ๆ คงเป็นเพราะครอบครัวสนิทกัน หรือเป็นเพราะทั้งสองมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันทั้งคู่ ที่ทั้งสองทำจึงแค่เถียงกันเบา ๆ ไปมาขณะมือก็ดึงผ้าห่มพชรแย่งกันบนเตียงนุ่ม ๆ แค่นั้น
“หือ ? เทียร์ร่าแค่จีบเองเหรอ ?”
“ห- หือ ? ทำไมอยู่ ๆ พี่ยิ้มแบบนั้น…”
“จริง ๆ ตอนฝนตกไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า เพชรน่ะเข้ามาในห้องของเราระหว่างที่เราเปลี่ยนชุดด้วยแน่ะ…“
”อ้ะ… แบบนั้นมัน… พี่รินไร้ยางอาย หนูจะบอกเรื่องนี้กับคุณอากับคุณน้าแน่ว่าพี่เปลือยระหว่างที่ผู้ชายอยู่ในห้อง !“
”แน่ใจเหรอ ถ้าเทียร์ร่าไปบอกครอบครัวเราแบบนั้นเพชรจะถูงสั่งให้รับผิดชอบทันทีเลยนะ“
”บ- แบบนั้นมันขี้โกงอะ ! พี่รินขี้โกง !“
‘เฮ้อ คุณหนูสองคนนี่ก็ร่าเริงกันดีแฮะ‘
วันนี้อัพให้ก่อนนะครับ อาจแปลกใจหน่อย แต่ก็ต้องรีบหน่อยเพราะตอนเย็นติดเกม Rov ครับ ฮาาาาา ใครจะจอยก็จัดมาได้เลยนะครับ ชื่อ พชรพรชะเพชรชะพร นี่เลยครับ