ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 26 อย่างกับโดดเรียนแน่ะ
ตอนที่ 26
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ ด้วยอารมณ์อะไรไม่อาจแน่ใจ รินพาพชรเดินออกจากร้านอาหารมุ่งหน้ามายังสถาบันเก่าซึ่งเป็นจุดที่เจอครั้งแรก รินมองภาพอาคารใหญ่สีขาวสะอาดตาด้วยความนึกถึง เธอยกริมฝีปากขึ้นยิ้มอย่างอ่อนหวานแล้วพูดคุยกับพชรหน้าประตูทางเข้าอาคารนั้น
”ว่าแล้วก็คิดถึงเนอะ“
”เอ่อ…? ก็… ครับ“
”ตอนนั้นเธอรู้ตัวหรือเปล่า วันแรกที่เข้ามาเรียนแล้วแสร้งทำเป็นยิ้มแย้มร่าเริงแล้วทำตัวเป็นมิตรกับทุกคนน่ะ“
”ยังไงนะครับ ?“
อยู่ ๆ รินก็เปิดปากพูดในสิ่งที่เข้าใจยากสำหรับพชร เธอเปล่งเสียงออกมาด้วยน้ำเสียงคล้ายเวลาใครสักคนในหนังพูดถึงบรรยากาศในช่วงนี้ผ่านมาชวนให้หวนนึกถึง แม้พชรไม่เข้าใจเท่าไหร่ก็เคลิ้มตามน้ำเสียงนั้น เขาพูดต่ออีก ”แต่ผมว่าผมก็ปกติดีนะครับ“
รินยิ้มแล้วส่ายหัว ”เธอเป็นเด็กเก็บอารมณ์เก่งพอ ๆ กับเทียร์ร่าเลยนะพชร เธอน่ะ อยากให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นไปตามที่ตัวเองคาดการณ์ทุกอย่าง แล้วก็เธอรู้ตัวมั้ย อะไรที่เธอไม่แน่ใจ เธอก็จะไม่ทำแหละ“
อยู่ ๆ ก็พูดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย พชรเอียงคอไม่เข้าใจที่รินพูด “ครับ ?”
“อืม… จนถึงตอนนี้เธอยังไม่เปลี่ยนไปเลยนะ อ- ฮะฮะ แต่ เฮ้อ~… ยังไงก็เถอะน้า เราไม่อยากให้พชรเศร้านะ”
“ตอนนี้ผมก็แฮปปี้ดีนะครับ“
”ใช่แล้วล่ะ แบบนั้นแหละนะที่เราต้องการน่ะ เราว่าตอนนี้เธอน่ะ เลือกได้ถูกต้องแล้วนะ เธอเป็นเด็กที่เก่ง แบบเดียวกันกับเทียร์ร่าเลย หลังจากนี้น่ะถ้ามีอะไรก็มาหาเราได้ตลอดเวลาเลยนะ เหมือนอย่างวันที่เธอเรียนไม่ทันเพื่อนในสถาบันนั่นไง อะฮะฮะ ว่าแล้วก็คิดถึงเนอะ”
ช่วงนี้พชรโดนคำพูดที่ทำให้คิดหนักอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เท่าตอนนี้ เขาพยายามอย่างมากที่จะวิเคราะห์คำพูดของริน เธอต้องการพูดถึงอะไร แล้วเธอรู้อะไรจากตัวเขา เป็นเพราะเธออ่านเขาใจเขาได้ในระดับลึก หรือเป็นเพราะเธอรู้จักเขามาก่อนจึงพูดแบบนั้น
พชรไม่เข้าใจรินอย่างมหันต์แต่ก็ตอบ “ครับ” โดยที่ไม่เข้าใจอะไรเลย รินสังเกตท่าทางตึงเครียดจากพชรที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองปล่อยบรรยากาศอันน่าหนักใจออกมาผ่านสีหน้าที่ซึ่งขมวดคิ้วย่น เธอหัวเราะคิกคักยกนิ้วชี้เรียวงามจิ้มหน้าอกพชรเบา ๆ แล้วพูด
“ไม่ต้องคิดมากก็ได้หรอก เราแค่พูดหยอกแหละน่า ! อืม… จริง ๆ วันนี้ก็กะจะพามาเดินเล่นแค่นี้แหละน้า แต่เวลาดันยังเหลืออีกตั้ง 1 ชั่วโมงแหน่ะ”
แม้จะพูดประโยคชวนให้พชรสงสัย แต่พอเห็นท่าทางพชรก็ปรับเปลี่ยนวิธีพูด น้ำเสียงเธอสูงขึ้นกว่าปกติเล็กน้อยแต่ก็ยังคงความอ่อนโยนอยู่
รินพาพชรเปลี่ยนที่หลังได้เห็นท่าทางนั้นของพชร เธอพาพชรขึ้นแท็กซี่กลับไปยังห้างสรรพสินค้าเดิมแล้วพาพชรไปยังโซนเครื่องเล่นเกมแล้วซื้อโทเคนพร้อมเล่นเสร็จสรรพ
ทางด้านพชรตอนแรกที่พบว่าสาวงามผู้เฉลียวฉลาดเรียนดีพาตนมาเล่นเกมเวลาเรียนแบบนี้เขาก็อดคิดในใจไม่ได้ ‘อย่างกับถูกพาโดดเรียนมาเล่นเกมเลยแฮะ ถึงจะมีใบอนุญาตก็เถอะ‘
“เธออยากเล่นอะไรเป็นพิเศษไหม ๆ ? เราน่ะ ไม่เคยมาที่แบบนี้เวลาเรียนมาก่อนเลย ถึงจะมีใบอนุญาต แต่ก็ตื่นเต้นแปลก ๆ เนอะ อะฮะฮะ”
รินหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีลากพชรไปเล่นเครื่องเล่นต่าง ๆ ในร้านเกม ขับรถคู่กันบ้าง ยิงปืนบ้าง ต่อสู้กันบ้าง เรียกได้ว่า 1 ชั่วโมงทั้งสองเล่นกันซะคุ้ม
พชรเป็นผู้ตามที่ดี เขาตามทุกที่ที่รินพาไป ขณะที่รินก็เป็นผู้นำที่ดี เธอมักถามความเห็นพชรทุกครั้งเวลาทำบางอย่าง เธอคอยถามว่า สนุกหรือเปล่า ? ชอบไหม ? อยากเล่นอะไรอีกไหม ?
เธอปฏิบัติตัวกับพชรราวกับเป็นผู้ปกครองคนหนึ่ง คอยถามความรู้สึก ถามความต้องการ และตอบสนองให้โดยไม่ได้คิดมาก แม้เธอเล่นเกมได้ไม่เก่ง เป็นคู่ที่ดีให้พชรไม่ได้ แต่เธอก็พาพชรเล่นไปทั้งอย่างนั้น สุดท้ายผลลัพธ์จึงอยู่ที่ว่าพชรเป็นฝ่ายนำเวลาเล่นเกม
ตลอดเวลาที่เล่นด้วยกัน พชรไม่ได้ขัด หรือบ่นถึงฝีมือสุดอ่อนของริน เขาเล่นด้วยคอยตอบสนองต่อคำถามจากรินไปด้วย บรรยากาศทั้งสองที่ปล่อยออกมาไม่ใช่ความร่าเริง สุขสันอย่างวัยเดียวกันทำ แต่เป็นบรรยากาศสุดแสนสงบเสงี่ยม ไม่มีซึ่งเสียงดังรบกวนรอบข้าง มีเพียงเสียงพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แสดงถึงเป็นกันเองจากริน
“เฮ้อ~… ได้ผ่อนคลายแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ เครียดมาตั้งนานแน่ะ“
พอเล่นเครื่องเล่นสุดท้ายเสร็จ รินก็เหยียดแขนบิดตัวด้วยท่าทีดึงดูดสายตา เล่นเอาพชรเบือนหน้าไปอีกฝั่ง
“ถ้างั้นวันนี้เราขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์ออกมาเดินเล่นด้วยกัน”
“ไม่เป็นไรครับ เป็นประธานสภานักเรียนมาตั้งแต่ ม.4 คงมีเรื่องเครียดไม่น้อย ผมว่าออกมาผ่อนคลายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน”
“นั่นสิน้า… อืม พชร…”
ทั้งสองพูดคุยระหว่างเดินออกนอกห้างสรรพสินค้า ขณะที่พชรวาดสายตาสังเกตรอบข้างที่มีคนเดินไปมา ผ่านร้านค้าต่าง ๆ รินก็เหมือนต้องการพูดอะไรบางอย่าง นัยน์ตาเธอทอประกายด้วยอารมณ์ต่างจากปกติ พชรเพียงแค่หันมองเจ้าตัวชั่วครู่ก็สัมผัสได้ เขาตอบกลับ “ครับ ?” แล้วรออีกฝ่ายที่ทำท่าคิดหนักส่งเสียง “อือ…” ระหว่างคิดอะไรบางอย่าง
เวลาล่วงเลยไปแบบนั้นเช่นเคย ไม่รู้เป็นเพราะเขาดึงดูดผู้คนชอบวิเคราะห์หรือเปล่า เขามักเห็นภาพสาวงามสองคนซ้อนทับกันเวลาทำท่าคิดหนักแบบนี้
พอได้เห็นบ่อยก็พอคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงปล่อยเวลาผ่านไปอย่างนั้นจนลงมาชั้นล่างสุด จนขึ้นแท็กซี่ไปแล้วรินจึงออกมาจากโลกความคิดแล้วพูดในสิ่งที่คาดเดาไว้ก็คือ ”ไม่มีอะไร“
ปล่อยเงียบซะยาว พชรเผลอหลุดหัวเราะออกมา รินที่เป็นคนอ่านอารมณ์ออก ชำนาญเรื่องการอ่านอารมณ์ความรู้สึกของพชร แต่พอเห็นอีกฝ่ายอยู่ ๆ ก็หัวเราะเธอก็เอียงคอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะอยู่บนรถที่มีคนขับอยู่ด้านหน้า
ทั้งสองเงียบบนรถจนกระทั่งลงจากรถจึงมีฝ่ายเปิดปาก พชรพูดเป็นคนแรก “รุ่นพี่ก็มีมุมน่ารัก ๆ อ๊อง ๆ อยู่เหมือนกันนะครับเนี่ย”
“น- น่ารัก… เหรอ ?”
“หือ ?”
อยู่ ๆ รินพลันใบหน้าแดงก่ำพูดเสียงสั่นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
“รุ่นพี่เป็นอะไรไหมครับ ?”
“ม- ไม่เป็นไร เหมือนแดดจะแรงเกินไปนิดหน่อย…“
”อย่างงั้นเหรอครับ ?“
ถ้าอีกฝ่ายว่าแบบนั้นก็ดีไป พชรเดินไปส่งรินที่ห้องสภานักเรียนในยามเย็นที่เป็นช่วงเลิกเรียนตอนเย็นแล้ว เขาบอกลาเจ้าตัวอย่างสุภาพ ซึ่งรินก็โบกมือให้แล้วบอกลาอย่างอ่อนโยนเช่นเดียวกัน
”วันนี้ขอบคุณที่ไปซื้อของด้วยกันนะ ช่วยได้เยอะมากเลย เรื่องที่เราพูดก็อย่าเก็บไปคิดมากล่ะ มันไม่มีอะไรหรอก”
พชรพอเข้าใจที่รินจะสื่อ เขาจึงพยักหน้าอย่างอย่างง่ายโดยที่ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือเปล่า ทว่าเขายังไม่ทันได้ก้าวขาออกจากห้องห้องสภานักเรียน สาวงามก็ยังอุตส่าห์พูดอีกรอบ “จริง ๆ นะ มันไม่มีอะไรเลย…“ ทำเอาพชรส่ายหัว หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู
เป็นรุ่นพี่ที่เทคแคร์ดูแลคนอื่นเก่งมาก พชรนับถือเจ้าตัวจึงตอบ ”ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ใช่พวกคิดมากสักหน่อย“
พชรตอบกลับอีกฝ่ายโดยเดินออกจากห้องสภานักเรียนเพียงไม่กี่ก้าวก็พบสาวงามผมฟ้ายืนเท้าสะเอวพองแก้มจ้องมองทิ่มแทงเขาอย่างเปิดเผยโดยไม่สนสายตารอบข้างที่จับจ้องเลยสักนิด
พชรเพียงแค่ได้เห็นสาวงามก็พอคาดเดาได้ว่าเธอเห็นอะไรบ้างจึงหัวเราะแห้งแล้วเดินไปหาสาวตัวที่ส่งเสียงขู่ “ฮึ่ม !” ออกมาอย่างน่ารักน่าชัง
”เป็นอะไรล่ะนั่น“
“ถึงเราจะยังไม่ได้เป็นแฟนกันก็เถอะ แต่เล่นไปไหนมาไหนกับพี่รินสองต่อสองแบบนี้ฉันก็น้อยใจเหมือนกันนะคะ”
เป็นเหมือนครั้งก่อน สาวงามคนนีมักแสดงความหึงหวงออกมาอย่างเปิดเผยเวลาเห็นพชรไปกันกับหญิงอื่น บางทีอาจเป็นเพราะไม่อยากเสียคนที่ตนรักเพียงคนเดียวไป ไม่สิ มันเป็นเช่นนั้นแน่นอนอยู่แล้ว เทียร์ร่าจึงได้รีบตามพชรมาทันทีหลังได้เห็นอย่างตอนนี้
ความเหงาของเทียร์ร่าแสดงออกมาตรง ๆ เธอจิ้มนิ้วชี้ตัวเองทั้งที่ยังไม่พอใจชายหนุ่มอยู่ ระหว่างรออีกฝ่ายตอบก็หลุบตาไปมา
ท่าทางสาวงามคนนี้น่ารักจริง ๆ สมกับเป็นไอดอลที่มีคนติดตามเยอะ พชรแทบอยากยกมือลูบหัวเทียร์ร่า แต่ติดที่ว่าทำไม่ได้เพราะรอบข้างจับจ้องกันซะไม่กะให้ทำไรเลย
พชรถอนหายใจแล้วตอบกลับอีกฝ่าย
“ฉันนับถือพี่รินเป็นรุ่นพี่ที่ดีนะ… อืม… ถ้าเธอยากรู้ว่าเราไปทำอะไรกัน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังก็ได้”
นั่นเป็นความจริง พชรไม่ได้ต้องการเอาใจสาวงามตรงหน้า แต่ด้วยอารมณ์ไหนไม่รู้ เขารู้สึกไม่สงบใจเท่าไหร่เวลาเห็นสาวน้อยคนนี้กังวล จึงได้รีบเปิดปากออกไปเพื่อให้สาวงามคนนี้สบายใจ
ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เมื่อพชรตอบกลับตามที่ตนต้องการก็ยกริมฝีปากขึ้น ยิ้มร่าอย่างพอใจแล้วพยักหน้าหงึก ๆ
“อื้อ ! ถ้าอย่างนั้นฉันไม่เกรงใจนะคะ”