ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 21 สองอารมณ์
ตอนที่ 21
หลังจากดูหนังเสร็จก็ไปเที่ยวที่อื่นกันต่อ ที่แรกที่ไปหลังจากดูหนังเสร็จก็เป็นร้านอาหาร พชรอยากพาสาวงามนั่งกินข้าวข้างทาง แต่เทียร์ร่าเปิดเผยหน้าตาไม่ได้จึงได้ไปร้านแพง ๆ แล้วจองห้องส่วนตัวแทน
หลังกินข้าวเสร็จก็ไปคาเฟ่แมวกันต่อ ภายในคาเฟ่แมว เทียร์ร่าก็จะเป็นฝ่ายเดินเล่นกับแมวอย่างอารมณ์ดี ฮัมเพลงไปมา หยิบจับแมวตัวนี้มาหาพชรแล้วบอกว่ามันน่ารักบ้าง อยากนำกลับไปเลี้ยงที่บ้านบ้าง
พอเสร็จจากคาเฟ่แมวเทียร์ร่าก็ซึมอยู่นานกว่าจะทำใจจากได้ก็มาถึงพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันต่อ พอมาถึงก็อีหรอบเดิม เทียร์ร่าวิ่งนำพชรไปยังจุดต่าง ๆ อย่างร่าเริงแล้วชี้นู่นถามนี่
พอพบว่าพชรรู้เรื่องปลาก็พาเจ้าตัวไปดูปลาตัวนู่นทีนี่ที ถามหาประวัติความเป็นมาไปเรื่อย ๆ อย่างร่าเริงทำเอาพชรรู้สึกดีไปด้วยพอได้เห็นรอยยิ้มนั้นของเจ้าตัว
“นี่ ๆ เพชชี่ ปลาตัวนั้นน่ะ…”
ประโยคสุดฮิตเวลาอยู่ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เพราะคำถามทุกคำพชรสามารถตอบกลับได้ทั้งหมดเจ้าตัวยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ คำถามมากมายในหัวที่คิดได้ล้วนถูกเปล่งออกไปแทบจะทันที
การเยี่ยมชมนั้นถูกสวมบทบาทด้วยการที่พชรเป็นไกด์และเทียร์ร่าก็คือนักท่องเที่ยวตัวจ้อย พชรเป็นคนตอบ การเที่ยวเล่นด้วยกันสองคนดูจะทำให้เทียร์ร่าชอบพอสมควรทั้งที่หลาย ๆ อย่างก็แค่เรื่องง่าย ๆ
แทบไม่มีอะไรหวือหวาเลยสักนิดในแต่ละที่ที่ไป พชรแทบไม่มีการแสดงออกที่หวือหวาหรือเว่อวัง เขาทำแค่ยืนนิ่ง ๆ คอยดูปฏิกิริยาของเทียร์ร่าเท่านั้น แต่ถึงจะทำแค่นั้น เทียร์ร่าก็มีความสุขมากทีเดียว
เพราะสิ่งที่ปรารถนาของเธอไม่ใช่รักที่หวือหวาแต่เพียงเป็นรักธรรมดาง่าย ๆ ด้วยการแค่มีพชรอยู่ด้วยข้างกาย คอยตอบสนองในสิ่งที่เธอทำแค่นั้นเป็นพอ ความสุขของเธอเลยเกิดขึ้นได้โดยง่ายด้วยการที่พชรตอบคำตอบและแสดงความสนใจกับตัวเธอแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“อยากอยู่กับเพชชี่ต่อ… ไม่อยากกลับบ้านเลยอะ…”
พอตกเย็นถึงช่วงแยกจากกันโดยมีพี่สาวคนขับรถมารับถึงหน้าพิพิธภัณฑ์ เทียร์ร่าพลันไม่อยากขึ้นรถคันนั้นเสียอย่างนั้นทำเอาพชรยิ้มเจื่อน
“ไม่เป็นไร วันจันทร์ค่อยมาเจอกันก็ได-”
“ที่โรงเรียนก็เจอได้เหรอคะ !”
“เธอก็น่าจะรู้นี่ ข่าวลือของเธอในโรงเรียนมันแรงแค่ไหนน่ะ“
”นั่นสินะคะ ถ้าอย่างนั้น วันจันทร์ฉันจะไปหาเพชชี่นะ”
“อืม”
“เย่ ! ขอบคุณค่ะ ! แล้วก็ ๆ … เอ่อ”
พอจะพูดประโยคต่อไปพลันมีท่าทีอึกอัก เธออยากพูดอะไรบางอย่างออกไป แต่ได้แค่ก้มหัวจิ้มนิ้วชี้อย่างเป็นกังวล ท่าทางอย่างนั้นเจ้าตัวเพียงแค่มองก็ดูออกแล้วว่าต้องการอะไร จึงหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนพูดต่ออย่างไม่ทันไตร่ตรอง
“จะโทรมาตอนไหนก็ได้ ชิลล์”
“อ- เอ๊ะ ? ได้เหรอคะ”
”ก็ ถ้าไม่ใช่ตอนหลับล่ะก็นะ“
”อื้อ ! ขอบคุณค่ะ ! วันนี้สนุกมากเลย ขอบคุณเพชชี่ที่ยอมเสียเวลาให้นะคะ จะจดเรื่องพวกเราในวันนี้ลงไดอารี่ให้ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ !”
พอพชรตอบรับในสิ่งที่คาดหวังพลันยิ้มร่า เธอแทบจะกระโดดกอดพชรตามความเคยชิน แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเองไว้ก่อนเพราะหากพชรเกิดไม่ชอบขึ้นมาล่ะก็ เธอคงยอมรับมันไม่ได้แน่
เทียร์ร่าโค้งหัวให้พชรอย่างสุภาพก่อนโบกมือลาแล้วขึ้นรถก่อนออกรถก็ยังอุตส่าห์ลดกระจกลงเพื่อบอกลาพชรอีกครั้งทำเอาเขายิ้มเจื่อน
”เดินทางกลับปลอดภัยนะคะ !“
ไม่รู้ว่าเพราะเธอชอบมาก ๆ หรือแค่คิดถึงที่ไม่ได้เจอกันนาน ตลอดวันเธอมักมีรอยยิ้มที่สดใส แถมเวลาไปไหนมาไหนเธอก็จะเป็นคนเปิดปากชวนอยู่ตลอด ทั้งวันพชรเป็นฝ่ายตามให้เจ้าตัวไปในที่ที่ต้องการทั้งหมด
พชรไม่รู้เหตุผลที่ตัวเองยอมทำตามสาวงาม ทั้งที่เขาเพิ่งมารู้จักเธอจริง ๆ แค่ไม่กี่วันแต่ดันยอมออกมาเที่ยวด้วยง่าย ๆ เสียอย่างนั้น แถมยังปฏิบัติกับเธอเหมือนคนสนิทอีกทั้งที่ในหัวคิดอยู่ตลอดว่าเพิ่งรู้จัก
ทั้งที่ยืนกรานแบบนั้นอยู่ตลอดแต่ร่างกายกลับขยับไปเองในหลาย ๆ ครั้งราวกับเป็นการตอบสนองโดยสัญชาตญาณ พอนึกถึงช่วงก่อนหน้าที่ตนได้เที่ยวเล่นกับสาวงามก็พลันผุดรอยยิ้มขึ้นมา
”น่ารักจริง ๆ นะ เฮ้อ แบบนี้แย่แน่“
”สนุกขนาดนั้นเชียว ?“
กลับมาทางฝั่งเทียร์ร่าพอขึ้นรถเสียงทักจากพลอยดังขึ้นหน้ารถ
“อื้อ สนุกมากค่ะ ! เพชชี่ก็ยังคงเป็นเพชชี่เหมือนเดิม น่ารักมากเลย…“
”เป็นแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะนะ“
พลอยมองดูใบหน้าเทียร์ร่าผ่านกระจกหลัง เธอยกริมฝีปากขึ้นเมื่อได้ยินรอยยิ้มน่ารักน่าชังผ่านใบหน้าเทียร์ร่า ใบหน้าแบบนี้น้อยครั้งที่ได้เห็นสำหรับพลอย เธอเอ็นดูเด็กคนนี้มากจนแทบจะเก็บมาเลี้ยงเองแล้วพอนึกถึงช่วงที่เทียร์ร่าอยู่บ้าน
”อือ… พี่พลอย หนูจะมีวันหยุดอีกเมื่อไหร่เหรอคะ ?“
”อืม ไม่รู้สินะ แต่ที่แน่ ๆ ก็ ในเร็ววันนี้ก็คงไม่มีหรอกมั้ง”
พอพลอยพูดความจริงออกมาก็เงียบ เทียร์ร่าถอนหายใจพอนึกถึงช่วงที่ตนต้องเอาแต่ทำงาน ทำงานมาโดยตลอดจนแทบไม่ได้พัก เธอผุดยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายน่าหนักใจเมื่อนึกถึงช่วงที่ตนต้องทำงานในวันหยุด
”ที่ผ่านมาหนูทำดีมาโดยตลอดเลยใช่ไหมคะ ?“
”หืม ?“
รถเลื่อนเคลื่อนล้อหมุนไปตามถนนผ่านตึกไปเรื่อย ๆ ในยามเย็น ซึ่งโดยปกติเวลากลับบ้านอย่างเช่นตอนนี้ เทียร์ร่ามักจะชวนคุยเรื่อยเปื่อยไปตามประสาเด็กทั่วไป แต่มาวันนี้อยู่ ๆ เทียร์ร่าก็เริ่มในหัวข้อที่แปลกไป
”ก็ทำได้ดีเกินมาตรฐานมาโดยตลอดนะ“
”ใช่ไหมล่ะคะ เพราะงั้นวันหยุดของหนูอะ“
”คงไม่ได้หรอกมั้ง หมู่นี้คุณท่านตอบรับงานทุกงานที่เข้ามาเลย ถ้าไม่ติดว่าเทียร์ร่ายังเรียนอยู่คงได้ทำวันปกติไปด้วย…“
“อือ… อยากไปหาเพชชี่อะ พี่พลอยพาไปหาเพชชี่หน่อย…”
อยู่ ๆ ก็มาทางงอแงทำเอาพลอยส่ายหัว
“ไม่ได้หรอก นั่นจะรบกวนฝ่ายนั้นเกินไปนะ“
”ไม่ค่ะ เพชชี่จะต้องเข้าใจแน่“
”… ทำแบบนั้นถ้าเกิดคุณท่านรู้ขึ้นมาจะโดนจับแยกเอานะ“
”… ชิส์“
เทียร์ร่าเดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์มองออกนอกหน้าต่างรถอย่างเหงาหงอย เพราะวันหยุดจะมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เพียงแค่นึกถึงช่วงทำงานแทนที่จะได้ใช้เวลากับพชรก็เหนื่อยใจแล้ว เธอถอนหายใจรอบที่หลายสิบแล้วตั้งแต่ขึ้นรถ
”คุณหนูเทียร์ร่า เปลี่ยนท่าโพสต์หน่อยนะ ซ้ายนิด… อีกนิดนึง…“
”แบบนี้เหรอคะ ?“
ในวันอาทิตย์เทียร์ร่าก็ตื่นแต่เช้าลุกขึ้นแต่งหน้าแบบง่าย ๆ แล้วออกเดินทางไปยังสตูดิโอแต่เช้า เธอเข้ามาเตรียมตัวเปลี่ยนชุด กินอาหารเช้าอย่างดีที่แผนกจัดเลี้ยงเตรียมมาให้
ตลอดเวลาในกองถ่ายเธอจะถูกปฏิบัติด้วยอย่างดี ภายในกองถ่ายนี้ เพราะงั้นจึงไม่มีเรื่องทุกใจนัก เพียงแต่เธอไม่ได้ชอบ
ชีวิตที่หรูหราเป็นสิ่งที่ดี แต่ดีกว่าหากได้อยู่กับพชรตอนไหนก็ได้ ทว่าสำหรับตอนนี้เธอต้องทำงาน ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา ถ่ายหนังที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุดจนแทบกระทบชีวิตวัยเรียนเธอแล้ว
“โอ้ วันนี้คุณหนูเทียร์ร่าก็ถ่ายได้ดีเช่นเคยนะครับ”
“เอ่อ ค่ะ”
‘ก็แค่ชมเพื่อให้ตอบรับงานต่อไป‘
คำเชยชมจากผู้กำกับไม่ได้ทำให้สาวงามรู้สึกดี แต่ทำได้เพียงแค่ให้เธอคิดมากขึ้นก็เท่านั้น สิ่งที่เธอตอบรับอีกฝ่ายก็แค่ยกริมฝีปากขึ้นเพียงเล็กน้อยแล้วกล่าวลา ค้อมศีรษะให้ทุกคนก่อนออกจากสตูดิโอ
“วันนี้ทำได้ดีมาก ไม่มีข้อผิดพลาดอะไรอีกเหมือนเคย สมบูรณ์แบบมาก ถ้าเกิดคุณท่านรู้เรื่องนี้จะต้องปลื้มแน่”
“จะหางานเพิ่มให้มากกว่าอะ”
เทียร์ร่าถอนหายใจหลังขึ้นรถที่มีพลอยนั่งรออยู่แล้ว วันนี้สตูดิโอที่ถ่ายอยู่ไม่ไกล จึงกลับบ้านเร็วกว่าปกติ พอมาถึงบ้านทรงคฤหาสน์สุดหรูหรากว้างสุดลูกหูลูกตามีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินเข้าออกราวกับเป็นนักการเมือง รถสุดหรูที่เทียร์ร่านั่งเคลื่อนมาจอดยังหน้าประตูบานใหญ่ เธอลงจากรถเดินเข้าบ้านอย่างเหนื่อยใจ
เธอเข้ามาถึงห้องรับแขกหวังจะกินข้าวเงียบ ๆ คนเดียวเพราะห้องไม่กว้าง ทว่ายังไม่ทันได้ก้าวเท้าเข้าห้อง ก็ดันพบชายวัยกลางคนที่นั่งเก้าอี้หัวโต๊ะ กับกลุ่มคนมากมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ดูเหมือนจะประชุมบางอย่างกันอยู่ เธอค้อมศีรษะให้ทุกคนกำลังจะออกจากห้องแต่โดนเอ่ยถึงเสียก่อน
“ว่าแต่ตอนนี้คุณหนูเทียร์ร่ากำลังมีข่าวลือแปลก ๆ ในโรงเรียนอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ?”
“อ๋อ เรื่องที่ว่า… ไม่สิ ขอโทษทีครับ”
อยู่ ๆ เรื่องของสาวงามก็ถูกพูดถึงโดยคนแปลกหน้าทำเอาเธอขมวดคิ้วย่น เฉกเช่นเดียวกันกับชายที่นั่งหัวโต๊ะปล่อยบรรยากาศทางออกมาขมวดคิ้วจ้องเทียร์ร่าจากตรงนั้นทำเอาเธออึดอัดจนอยากออกจากห้องเสียเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ทันทีทันใด
“หืม ? เทียร์ร่า กลับมาแล้วสินะ ถ่ายงานมาคงเหนื่อยมากใช่ไหม ออกไปพักเถอะ พรุ่งนี้ต้องรีบไปโรงเรียนด้วยสิ”
เป็นคำพูดที่ดูเหมือนเป็นห่วง แต่เทียร์ร่ากลับทำหน้าปั้นยากก่อนค้อมหัวให้ทุกคนในห้องแล้วเดินออกจากห้องรับแขกไปนั่งเล่นบนโต๊ะอาหารโต๊ะใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากห้องรับแขกแทน
พอเธอนั่งลงก็มีแม่บ้านเข้ามาทักทายยามเย็น เทียร์ร่าพูดกับทุกคนในคฤหาสน์อย่างสุภาพ เธอจึงเป็นที่รักของคนภายในคฤหาสน์พอสมควร หลังจากมาถึงได้ไม่นานก็มีอาหารเย็นมาให้กินถึงที่ เธอกล่าวขอบคุณทุกคนแล้วนั่งกินข้าวคนเดียวภายในห้องอาหารอันกว้างใหญ่
“คิดถึงเพชชี่จัง”
ทั้งที่วันถัดไปก็จะได้เจอกันแล้วแต่ก็อดคิดถึงไม่ได้ เธอหัวเราะคิกคักปรับอารมณ์กลับมาปกติอย่างรวดเร็วพอนึกถึงตอนที่ตนไปเที่ยวกับพชรก็อารมณ์ดีขึ้นทันตา
”ก่อนที่คุณพ่อจะประชุมเสร็จ รีบกินข้าวรีบขึ้นห้องโทรหาเพชชี่ดีกว่า…“