ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 14 ตามติด
ตอนที่ 14
กว่าทั้งสองจะกลับมาถึงก็เกือบ 5 นาที พชรวาดสายตามองรอบข้างที่กำลังรวมตัวอยู่กับกลุ่มสภานักเรียนบ้าง นั่งจับกลุ่มใหญ่ ๆ กันบ้าง บ้างก็นั่งถอนหายใจไม่ก็พักเหนื่อยอยู่เป็นคู่ ๆ บ้าง
บรรยากาศภายในโดมฝไม่ได้ผ่อนคลายแต่เป็นเคร่งเครียดขั้นสุด พชรพอเดาได้ว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่คงหาคำใบ้ไม่ครบจึงนั่งรอการลงโทษจากรุ่นพี่ เขายิ้มเจื่อนขณะเดินผ่านพวกเขาโดยให้กำลังใจในใจเงียบ ๆ
“เดี๋ยวนะ เราโดนจ้องเยอะกว่าปกติหรือเปล่า ? แค่ตัวเปียกเองนะ”
พชรรู้สึกอึดอัดกับสายตาแปลก ๆ ไม่รู้สาเหตุที่โดนจ้อง พชรไม่ทำเป็นสนใจระหว่างดึงแขนสาวงามไปยังจุดที่คนส่วนใหญ่รวมตัวกันซึ่งน่าจะเป็นจุดตอบคำถามของคำใบ้ทั้งหมด
พอมาถึงก็พบเหล่าคณะสภานักเรียนที่คอยมอบกระดาษบางอย่างให้นักเรียนรุ่นน้อง พชรรับกระดาษนั้นมาก็พบกระดาษเปล่าที่มีตัวอักษรพิมพ์ไว้อยู่ 2 หัวข้อใหญ่ ๆ
[ สถานที่ที่เจอคำใบ้พร้อมคำตอบ ]
[ คำตอบสุดท้าย ]
“อืม… อันนี้เราน่าจะตอบกันถูกนะ โชคดีที่แค่ถามแบบนี้ ค่อยสบายใจหน่อย“
พชรพึมพำขณะหยิบปากกาที่เหล่ารุ่นพี่เตรียมให้ พอพชรหยิบปากกาขึ้นมาก็แข็งทื่อราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้
‘นี่เราจับแขนเธอมาโดยตลอดเลยเหรอวะ… ชิบหายละ แล้วทำไมเธอไม่ทักเลยเนี่ย’
พชรมองสาวงามซึ่งยืนเหม่อเงียบ ๆ มาตั้งแต่ก่อนหน้า เขาไม่เข้าใจเจ้าตัวเท่าไหร่จึงปล่อยไว้แบบนั้นแล้วหันมาสนใจกระดาษ เขียนคำตอบลงไปอย่างละเอียด ในส่วนคำตอบสุดท้ายก็เขียนเป็น THE Victory เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วนำส่งคณะสภา
“เดี๋ยวพวกเราจะให้คำตอบทีหลังนะ พวกเธอเก่งมาก ไปนั่งพักได้แล้วล่ะ”
พชรมอบกระดาษให้ก็เห็นใบหน้ารุ่นพี่สาวเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขายกริมฝีปากขึ้นถอนหายใจออกมาอีกรอบ แล้วไปนั่งรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ เขาเดินกลับไปหาเพื่อนของตน 3 คนที่แยกมารวมกลุ่มกินขนมปังกันริมโดม
“อ้าว ว่าไงสหาย หวัดดี- เดี๋ยวนะ”
“อะไร ?- ห้ะ ?“
หัวหน้ากำลังจะทักทายพชรตามปกติแต่พอมองไปด้านหลังก็ต้องชะงัก ในตอนแรกพชรก็แปลกใจที่เพื่อนของตนแปลกไป แต่พอหันหลังกลับไปก็พบเทียร์ร่าที่ยังคงเดินเกาะติดเขาอยู่อย่างนั้น
”น- นี่ เธอไม่แยกไปเปลี่ยนชุดสำรองหรือทำธุระส่วนตัวเหรอ ?“
”ไม่“
“… คือเธอจะมาพักกับพวกเรา ?“
”ไม่ แค่กับนาย“
”ห้ะ ?“
พชรมองหน้าเจ้าตัวก็ไม่เข้าใจ ตอนนี้เธอกำลังมองหน้าเขาอย่างเปิดเผยด้วยสายตาที่แปลกไป พชรไม่เข้าใจทำไมเจ้าตัวถึงทำอย่างนั้น แต่เพื่อบรรยากาศของเพื่อน ๆ ก็ยอมย้ายที่ก่อน
“โทษที ดูเหมือนจะต้องแยกไปสักพักว่ะ”
พชรถอนหายใจพาสาวงามแยกออกมานั่งกันสองคนข้างเสาใหญ่ของโดมที่มีซีเมนก่อล้อมรอบเป็นเสาใหญ่ ตอนแรกจุดที่ทั้งสองอยู่มีหลายคนทำท่าเหมือนจะมานั่งด้วย แต่พอเห็นเทียร์ร่า พวกเขาก็แยกกันออกไปแล้วมองอยู่ห่าง ๆ จนเหลือเพียงสองคนนั่งกันอยู่ในตอนนี้
“รอยแผลเป็นนั่น…”
“ห้ะ ?”
“นายไปโดนอะไรมา”
“หืม ? ก็…”
พชรมองท่าทีสาวงามที่ดูเป็นห่วงเกินกว่าปกติก็แปลกใจ พักนี้ท่าทางเธอดูแปลกไปตั้งแต่ที่อยู่สระว่ายน้ำแล้ว เขาทำได้เพียงวิเคราะห์เจ้าตัวในใจเงียบ ๆ ขณะจ้องมองอีกฝ่ายที่หางคิ้วตกอย่างเป็นกังวลอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“อืม… อันนี้เป็นรอยโดนกิ่งไม้ขูดเมื่อตอน 7 ขวบน่ะตอนนั้นฉันกำลังวิ่งเล่นกับเพื่อนที่บ้านคุณปู่…“
พชรให้คำตอบตามปกติขณะที่สาวงามนัยน์ตาทอประกายจนริมฝีปากเจ้าตัวยกขึ้นขณะหนึ่งแต่ก็กลับมาเรียบเฉยตามเดิมในเวลาไม่นาน
หลังจากได้คำตอบจากพชรพลันบรรยากาศรอบตัวเธอเปลี่ยนไปยิ่งกว่าเดิมขั้นสุด
”อืม อืม เข้าใจแล้วล่ะ“
เธอพยักหน้าหงึก ๆ พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ ทำเอาพชรมีเครื่องหมายคำถามมากขึ้นกว่าเดิม เขาไม่เข้าใจเจ้าตัวจึงทำได้เพียงตั้งคำถามในใจ ’เธอรู้อะไร ตั้งแต่อยู่สระว่ายน้ำแล้ว…‘
’อย่าบอกนะว่าเธอคอยสังเกตฉันมาโดยตลอดเลยน่ะ’ พอนึกถึงก่อนหน้า ตั้งแต่วันแรกมาจนถึงตอนนี้ เขาเห็นหน้าเธอแทบจะบ่อยกว่าเพื่อนร่วมห้องบางคนเสียอีก
’ไม่จริงน่า เป็นไปไม่ได้ ถ้างั้นเธอจะตามมาด่าทำไม ไม่สมเหตุสมผลเลย‘
ความคิดมากมายตีกันในหัวพชรทำเอาเขาทำหน้าปั้นยากขณะมองสาวงามเป็นพัก ๆ เทียร์ร่าเธอรับรู้ได้ถึงสายตาของพชรทำได้เพียงเอียงคอไม่เข้าใจ
“มีอะไรเหรอ ?”
”ป- เปล่า ไม่มีไร“
“เหรอ ? ถ้ามีอะไรถามได้นะ”
”… ถามจริง ?“
”ก็… อือ“
เธอพยักหน้าเบา ๆ ขณะตอบกลับพชรด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานลงอย่างเห็นได้ชัด จากตอนแรกที่เจอกันเป็นน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ผ่านมาสักพักเป็นน้ำเสียงเรียบเฉย พอมาถึงกิจกรรมล่าสุดก็เป็นน้ำเสียงเด็กผู้หญิงทั่วไปที่พูดปกติ พอมาถึงตอนนี้ก็เป็นน้ำเสียงอ่อนหวานขึ้นไปอีกขั้นจนน่าแปลก
ยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้สาวงามเปลี่ยนไป พชรทำได้เพียงนั่งมองนั่นดูนี่ระหว่างรอให้เวลาไหลผ่านไปโดยภาวนาให้เริ่มกิจกรรมต่อไปเสียทีจะได้ออกจากบรรยากาศอึดอัดนี่
“นี่“
ผ่านไปแล้ว 5 นาทีรุ่นพี่ก็ยังไม่ประกาศว่าจะทำอะไรต่อ พชรถอนหายใจก่อนเอ่ยปากทักสาวงามที่จ้องเขามาสักพักแล้ว เธอชะงักเล็กน้อยหลังจากมีเรียกของพชร
”มีอะไรเหรอ ?“
”ทำไมอยู่ ๆ แปลกไป เป็นอะไรหรือเปล่า ? ไข้ ? กินยาไหม ?“
“ไม่รู้…”
เหมือนจะไม่ใช่แค่พชรที่ความคิดตีกันในหัว แต่ดูเหมือนสาวงามคนนี้ก็เหมือนกัน เธอมองหน้าพชรอยู่ก็จริง แต่บางครั้งก็เหมือนไม่ได้มองอยู่
พอพชรเปิดปากชวนคุยก็หลบหน้าแล้วทำหน้ามุ่ยอยู่ในโลกความคิดของตัวเองเสียอย่างนั้นทำเอาต้องนำตัวเองออกมาจากโลกความคิดของตัวเองแล้วสนใจเทียร์ร่าแทน
เขาถอนหายใจระหว่างมองเหล่านักเรียนที่กำลังตอบคำถามซึ่งจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ใกล้จะหมดเต็มที
‘ยัยนี่ก็กลายเป็นสาวอ๊องไปแล้ว…’
พชรมองหน้าเจ้าตัวเป็นพัก ๆ แล้วถอนหายใจ
”อือ…“
“อะไร ?”
คราวนี้เปลี่ยนเป็นพชรเป็นคนถาม สาวงามมองหน้าเขาไม่พักแถมยังเปล่งเสียงราวกับพิจารณาตัวเขาอยู่
พชรไม่ค่อยถูกโฉลกเวลามีสาวมองหน้าในระยะประชิดอยู่แล้ว ยิ่งกับสาวงามผู้มีข่าวลืมว่าเย็นชาสุด ๆ คนนี้ยิ่งแล้วใหญ่ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกดีที่มีสาวงามคนนี้ให้ความสนใจถึงไม่รู้เพราะอะไรก็ตาม
พชรมองกลับเข้าไปยังนัยน์ตาตาที่ทอประกายของสาวงามที่ซึ่งจ้องมองเมื่อไหร่ เธอก็มักหลบตาในทันทีทั้งที่ก่อนหน้าจะเขม่นใส่แล้วพูดแดกดัน
“…”
ท่าทางเทียร์ร่าเหมือนจะยังไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ทุกการกระทำของเธอตอนนี้ต้องระมัดระวังในบางเรื่องจนไม่กล้าทำอะไรหลาย ๆ อย่าง พชรจึงเห็นภาพที่เทียร์ร่าพยายามจะเปิดปากพูดแต่ก็หยุดกลางคันไปก่อนอยู่บ่อยคร้้ง
จะถามอะไรบางอย่างแต่ก็เก็บเงียบไว้ก่อน ท้ายที่สุดทั้งคู่จึงทำได้เพียงนั่งนิ่งกับพื้นซีเมนต์อยู่แบบนั้นจนเวลาล่วงเลยไปจนถึงช่วงประกาศคำตอบโดยพี่ ๆ สภานักเรียน
“เอาล่ะ ๆ จับคู่แล้วรวมกลุ่มกันครับน้อง ๆ ทุกคน สำหรับกิจกรรมวันนี้ทุกคนให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีขอยอมรับเลย เท่าที่มองดูไม่มีกลุ่มไหนไม่เอนจอยเว้นแต่กลุ่มใหญ่ 50 คนที่จับคู่ไม่ทันซึ่งได้เล่นเกมแยกแค่กลุ่มเดียว…”
ในตอนนี้กลุ่มตัวเปียกที่กระโดดน้ำได้ถูกจับแยกกับคนอื่น ๆ คู่พชรกับเทียร์ร่ารวมกับอีก 50 กว่าคนถูกจับแยกอีกแถว ตอนแรกจะถูกจับแยกชายหญิง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ทั้งคู่ยังได้อยู่ด้วยกัน
ในระหว่างที่รุ่นพี่หนุ่มหล่อจากฝ่ายปกครองที่คอยคุมพฤติกรรมนักเรียนประกาศอยู่ เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึง 16:30 ครึ่ง ซึ่งแดดได้อ่อนลงแถมยังมีเมฆก้อนใหญ่ลอยบนฟ้าทำให้พื้นด้านล่างกลายเป็นร่มใหญ่ที่มีลมพัดจาง ๆ กระทั่งพชรยังรู้สึกหนาว
“ไหวหรือเปล่า ?”
“น- หนาวอะ ไม่ไหว…”
”อืม… ไม่คิดว่าจะได้โดดน้ำด้วยสิ”
“… เพราะงั้นบทลงโทษของวันนี้สำหรับผู้ที่ตอบคำถามไม่ได้คืออยู่ต่อด้วยกันจนถึง 4 ทุ่มนะ !“
“โอ้ !!”
เพราะในใบอนุญาตผู้ปกครองมีเขียนไว้ชัดเจนว่าจะให้อยู่ต่อถึง 4 ทุ่ม แต่โดยส่วนใหญ่คณะสภาจะให้นักเรียนกลับบ้านก่อนเวลา แต่มาวันนี้เหมือนพวกเขาจะมีกิจกรรมบางอย่างตอนดึกที่เป็นช่วงหลักจริง ๆ ของวันจึงให้รุ่นน้องทำกิจกรรมฆ่าเวลาหาคำตอบเล่น ๆ
“ยังไงก็ตามถึงจะเป็นเกมที่ไม่สามารถผ่านได้ แต่ดูเหมือนจะมีกลุ่มที่เกือบผ่านไปอยู่เหมือนกัน พวกเขาผิดแค่ตัวอักษรเดียวจากทั้งหมด ทั้งตำแหน่ง ทุกอย่างถูกต้องหมด น่าเสียดายจริง ๆ ที่เวลาหมดเสียก่อน ถ้าเหลือเวลาอีกสัก 1 นาทีคงผ่านไปแล้ว…”
“หืม ? เราตอบไม่ถูกเหรอ ? เอ๊ะ ? ทำไมรุ่นพี่พูดอย่างกะอยู่ในสถานการณ์เลย… อย่าบอกนะว่าทุกจุดมีคนเฝ้า…”
พชรมีคำถามมากมายในหัว พอมาคิดทีหลังก็ได้คำตอบในใจของตนก็คือ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่รุ่นพี่จะเฝ้าทุกจุดเพื่อความปลอดภัยกับเหตุผลอื่น ๆ ทว่าเขากลับนึกไม่ถึง
พอนึกไปถึงช่วงด่านสุดท้ายที่เขากับเทียร์ร่าจับมือกันในสระแล้วพูดคุยกันเสียนานนั้นพลันแก้มเริ่มเปลี่ยนสี คงถูกถ่ายรูปจากรุ่นพี่ไปแล้วแน่ ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น
“พชร… เราโดนเรียกแล้วนะ เฮ้ ! พชร !”
พชรตกอยู่ในห้วงความคิดขณะที่สาวงามผู้ยืนอยู่ข้าง ๆ กำลังเรียกสติ เธอดึงชายเสื้อพชรเบา ๆ เรียกสติเจ้าตัวกลับมา
“อ- เอ๊ะ ? หืม ? เมื่อกี้ว่าไงนะ ?“
”เมื่อกี้รุ่นพี่เรียกพวกเราให้ขึ้นไปบนเวทีเพราะตอบคำถามได้ใกล้เคียงที่สุด“
”ห้ะ ? นี่เราตอบไม่ถูกจริง ๆ เหรอ ?“
”ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น…“
”… อย่าบอกนะว่าตัวสุดท้ายเป็นตัว S แทนที่จะเป็น Y”
“ใช่”
“เฮ้อ…”