ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 13 แปลก
ตอนที่ 13
[ อย่างที่แปดคือยิ่งมองยิ่งหวาดเสียวยิ่งกลัวพลัดตก รอบข้างว่างเปล่ามองเห็นเพียงสีทะเลที่ไม่ได้สะท้อนแสง ส่วนอย่างสุดท้ายคือเคลื่อนที่ลำบากไม่ได้เดินแต่เป็นการสะบัดดิ้นให้ลอยเหนือพื้น จะเข้าด้านในโดยส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนเครื่องแบบ ส่วนความถูกต้องของอย่างที่ 9 คือ H ]
“สะบัดดิ้นให้ลอยเหนือพื้น พร้อมทั้งเปลี่ยนเครื่องแบบเหรอ ?“
เทียร์ร่าพึมพำขณะเอียงคอพลางดูเวลาในมือถือ
”เหลืออีกแค่ 10 นาทีเองอะ แบบนี้ใครจะไปหาทันกัน นี่แกล้งกันเล่นไหมเนี่ย“
เทียร์ร่าพึมพำขณะอ่านกระดาษในมือ เพราะที่ผ่านมาทั้งสองแทบจะเป็นกลุ่มแรกที่เจอคำใบ้มาโดยตลอดมีคนเจอก่อนอยู่บ้างประปราย ยืนยันได้จากตัวพชรที่เลอะ เขอะไปด้วยแป้งและสี ขนาดทั้งคู่ที่นำคนอื่น ๆ มาโดยตลอดยังมีสีกับแป้งเต็มตัวขนาดนี้ ยังทำไม่เสร็จแถมยังเหลือเวลาเพียงสิบนาที จะมีหรือที่คนอื่นจะผ่านได้
“เฮ้อ แค่วิเคราะห์คำใบ้ก็น่าจะกินเวลานานแล้ว…”
พชรนั่งลงกับม้านั่งกุมคางพึมพำขณะที่สาวงามมองรอบ ๆ ซึ่งเห็นผู้คนนั่งพักเหนื่อยบ้าง ดื่มน้ำบ้าง วิ่งวุ่นบ้าง บรรยากาศตอนนี้วุ่นวายสุด ๆ จนดูไม่เหมือนโรงเรียน
รอบข้างวิ่งไปมาราวกับหนีอะไรสักอย่าง เทียร์ร่ามองพวกเขาแล้วส่ายหัว เธอพึมพำคำใบ้คนอยู่เดียวสักพัก ไม่นานก็ต้องร้องอ๋อ
”นี่ นายพชร สะบัดดิ้นให้ลอยเหนือพื้นนี่หมายถึงว่ายน้ำไหม ? นอกจากนี้ยังต้องเปลี่ยนเครื่องแบบอีก ฉันคิดว่าเครื่องแบบที่เปลี่ยนน่าจะเป็นชุดว่ายน้ำ… เพราะงั้นฉันว่าคำใบ้มันน่าจะ…”
“สระว่ายน้ำใช่ไหม ?”
“คิดว่านะ”
“สุดยอด ถ้างั้นเราไปกันเลย !“
พชรลุกขึ้นรีบวิ่งไปยังสระว่ายน้ำที่อยู่อีกฝั่งจากที่ตนอยู่ ปัจจุบันพวกเขาอยู่อาคาร 4 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นในขณะที่จุดต่อไปพวกเขาต้องไปอาคารหนึ่งที่ลึกเข้าไปในโรงเรียนซึ่งอยู่ห่างจากพวกเขาถึง 200 เมตร
ในขณะที่คิดพวกเขาก็กินเวลาไป 3 นาทีแล้ว ซึ่งเวลาก็เหลือเพียง 7 นาทีในการวิ่งไปอาคารหนึ่งที่อยู่ข้างโรงอาหาร ซึ่งแค่วิ่งก็กินเวลาไปเกือบนาทีแล้ว แถมพอมาถึงยังต้องให้สาวงามพักอีกเพราะร่างกายไม่เคยผ่านการออกกำลังกายอย่างหนักมาก่อนแม้ระหว่างทางเธอบอก “ล่วงหน้าไปก่อนเลย”
แต่พชรกลับไม่ได้สนใจ เขาเพียงแค่ค่อย ๆ วิ่งตามจังหวะของสาวงามไปเรื่อย ๆ ทั้งอย่างนั้นแล้วบอกปิดท้าย “ไม่เป็นไร”
จนพอผ่านมาถึงหน้าอาคาร 1 ที่มีผู้คนอยู่ประปรายเขาก็พูดขึ้นอีกรอบ “เล่นมาด้วยกัน เราก็ต้องผ่านมันไปด้วยกันดิ” ทำเอาสาวงามขมวดคิ้ว ”นี่นายตั้งใจจะให้ฉันฝืนร่างกายตัวเองหรือไง เราวิ่งมาทั้งวันแล้วนะ ฉันเหนื่อยจะตายแล้ว ถ้ารออยู่แบบนี้เดี๋ยวก็โดนทำโทษกันทั้งคู่หรอก”
พชรมองสาวงามแล้วยกริมฝีปากเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก พักกันก่อนก็ได้”
“นี่นาย ถ้าเกิดเราทำไม่เสร็จเราจะโดนทำโทษกันทั้งคู่นะ“
”โทษที ฉันเองก็ชักเหนื่อยเหมือนกันแล้วสิ“
”นี่ ! ฉันไม่ได้อยากโดนทำโทษนะ ถ้าเกิดจะโดนก็โดนคนเดียวไปเลย”
สาวงามพยายามลุกขึ้นไปหาคำใบ้ต่อคนเดียวขณะแสดงท่าทีขึงขังทำเอาพชรหัวเราะในลำคอเอ็นดูเจ้าตัว เธอคงไม่อยากให้ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่าเขาเข้าใจดี
แต่ตอนนี้เธอวิ่งมาทั้งวันจนหมดแรงแล้ว จะวิ่งต่อก็มีแต่จะแข้งขาอ่อนแรงเปล่า ๆ แถมด้านหน้ายังเป็นสระว่ายน้ำที่ซึ่งยังไงพชรก็คาดการณ์ไว้ว่ายังไงก็ต้องกระโดดน้ำ จึงไม่ได้ไปต่อ
“ที่ทำมาทั้งหมดเธออยากจะผ่านกิจกรรมนี้ให้ได้จริง ๆ เหรอ ?”
พอพชรถาม สาวงามพลันขมวดคิ้ว
“ก็ใช่ไง นี่เป็นกิจกรรมแรกที่ฉันได้เข้าร่วมแล้วจริงจังกับมันเลยนะ”
”แน่ใจ ? แค่ผ่านกิจกรรมอย่างเดียวนะ“
”นี่นายตั้งใจจะพูดอะไร“
”…“
พชรไม่ได้ตอบอะไรแต่ยื่นแขนค้ำด้านหลังแล้วมองท้องฟ้ายามเย็นที่แดดอ่อนลงแล้ว
เทียร์ร่าไม่เข้าใจอีกฝ่าย เธอเอียงคอมองพชรอยู่อย่างนั้นสักพักไม่นานก็ยอมนั่งลงอีกรอบแต่โดยดีในที่สุดราวกับนึกอะไรขึ้นได้
เธอหลี่ตาก่อนถอนหายใจอย่างแรง
“ไม่เข้าใจ สรุปนายอยากให้ฉันพัก อยากพาฉันผ่านกิจกรรม หรือไม่อยากตอบคำถามฉันกันแน่”
“ไม่รู้สิ ทั้งหมดมั้ง ?”
กับคำตอบอีกฝ่ายทำเอาสาวงามชะงัก ไม่ใช่เพราะทั้งหมด แต่เพราะบางจุดซึ่งเป็นที่เธอต้องการมากที่สุด อีกฝ่ายกลับไม่อยาก เทียร์ร่าขมวดคิ้วจนแทบชนกันเพราะความหงุดหงิด
ทั้งหมดที่ทำมาตลอดทั้งบ่าย วิ่งวุ่น ให้ความร่วมมือทุกอย่างแทบไม่ปริปากบ่นมาโดยตลอด แต่พอมาถึงตอนนี้กลับจะบอกให้ล้มเลิกเพราะไม่อยากทำในสิ่งที่สัญญาน่ะเหรอ ?
“เพ้อเจ้ออะไร นายคิดว่านั่งให้เวลาผ่านไปอย่างนี้เราจะผ่านได้หรือไง อย่ามาทำตัวโลภมากไปหน่อยเลย”
“ฮ- เฮ้ อย่าเพิ่งโกรธเซ่”
พอได้ละสายตาจากจากท้องฟ้าแล้วหันมองสาวงามพองแก้มจ้องเขาตาเป็นมัน ไม่ใช่จะจีบหรือตกหลุมรักแน่นอนพชรรู้ได้ทันทีตามสัญชาตญาณ
”ตอนนี้เหลือเวลาแค่ 3 นาทีแล้ว“
”อะไร ? คือจะบังคับฉัน ?”
“อา โธ่ นายมันไม่สุภาพบุรุษเอาซะเลย ก็ได้งั้นฉันจะไปต่อ”
ระหว่างนั่งก็มีแรงพอสมควรแล้ว เธอฝืนร่างกายลุกขึ้นเดินเข้าไปในตัวอาคารทั้งอย่างนั้นปล่อยพชรนั่งคนเดียวอยู่แบบนั้น
“เหลือแค่ 3 นาทีอะนะ จะเข้าไป”
พชรนั่งถอนหายใจมองอีกฝ่ายวิ่งหายลับข้างในก่อนถอนหายใจ เขามองภาพสาวงามผู้จริงจังกับกิจกรรมอย่างไม่เคยได้ยินมาก่อนสักพักก็ตัดสินใจเข้าไปด้านในตามสาวงามหลังผ่านไป 1 นาที
“เดี๋ยวนะ เธอทำอะไรล่ะนั่น“
พอพชรเข้ามาด้านในก็พบสาวงามลงไปยังสระว่ายน้ำแล้ว ทั้งตัวของเธอตอนนี้เปียกโชก เธอพยายามเดินใต้น้ำไปยังกล่องสีดำกลางสระที่เห็นได้อย่างชัดเจน
พชรพอเห็นท่าทางเจ้าตัวก็อดหัวเราะลั่นไม่ได้
”ว่ายน้ำไม่เป็นยังกล้าลงไปอีกนะ“
”ถ้าไม่อยากทำตามสัญญาก็เงียบไปเลย“
”…“
ขณะที่เธอเดินไปยังกล่องกลางน้ำเวลาก็เดินจนเหลือเพียงไม่ถึงนาทีแล้ว พชรถอนหายใจก่อนนั่งลงริมสระทั้งอย่างนั้น สำหรับตอนนี้ต่อให้เธอพยายามมากแค่ไหน เร่งเวลามากเท่าไหร่เธอก็คงกลับขึ้นมาจากสระไม่ทันเวลาอยู่ดี
ถ้าเกิดเธอว่ายน้ำเป็นคงพอมีโอกาส แต่ตอนนี้เธอกำลังพยายามใช้เท้าเดินตามพื้นอย่างช้า ๆ เพราะน้ำอยู่ลึกเทียบลำคอจึงเดินเร็วไม่ได้ เพราะคลื่นกับความหนาแน่นของน้ำ
พอสาวงามเดินไปสักพักก็ถึงกล่องสี่เหลี่ยมสีดำกลางสระ เธอสูดลมพองแก้มมือปิดจมูกกลั้นหายใจก่อนดำลงน้ำแล้วหยิบกล่องนั้นขึ้นมา
“หยิบได้แล้วจะทำไงต่อ ?”
“ก็อ่านไง”
“เหรอ ?“
”นายเป็นบ้าไปแล้วหรือไง หยิบขึ้นมาขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่อ่านจะหยิบขึ้นมาทำไม“
”แน่ใจ ?“
”…“
สาวงามเงียบราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ พชรมองหน้าอีกฝ่ายก็หัวเราะ เขายิ้มอ่อนให้เทียร์ร่าก่อนพูดความจริงออกไปทำลายความพยายามของสาวงามให้แหลก
”ตอนนี้หมดเวลาแล้-“
พูดยังทันจบ เสียงออดทั่วโรงเรียนก็ดังเรียกความสนใจจากนักเรียนทุกคนให้หยุดการกระทำทุกอย่างรวมไปถึงสาวงามที่ยังอยู่ในน้ำ แต่ดูเหมือนสาวงาม ณ ขณะนั้นจะยังไม่อยากยอมแพ้ เธอพูด ”ตอนนี้ยังพอมีเวลาก่อนไปรวมกลุ่มอยู่…“
”ถามจริง ? นี่ยังไม่หมดหวังอีกเหรอ ?“
”พูดบ้าอะไร ฉันน่ะต่อให้ตายยังไงก็ไม่มีทางหมดหวังหรอก หรือต่อให้เป็นแบบนั้นจริง ๆ ฉันคงหมดไปตั้งแต่ 5 ปีแรกแล้วมั้ง“
“นี่เธอตามหามาโดยตลอดเลยเหรอ”
สาวงามไม่ได้ตอบอีกฝ่ายแต่พยายามเปิดกล่องสีดำดูคำตอบข้อสุดท้ายทั้งที่ตนยังไม่ทันได้ขึ้นจากน้ำ เธอพยายามแงะมันสุดแรง
‘นักเรียนที่ยังอยู่ตามอาคารรีบไปรวมกลุ่มที่โดมใหญ่ภายใน 5 นาที !’
“หมดเวลาแล้วแน่ะ-”
“ไม่ไป !”
“หา !?”
จู่ ๆ จะมางอแงอะไรเนี่ย ? พชรเอียงคอไม่เข้าใจสาวงามผู้ไม่ยอมขึ้นจากสระ เขามองเจ้าตัวที่อยู่กลางสะพลางถอนหายใจ
“น่า เทียร์ร่า ขึ้นมาเถอะ อย่ามาทำตัวงอแงตอนนี้เดะ เดี๋ยวเราโดนซ่อมเสริมกันทั้งคู่นะ“
“ใครสน ! ถ้านายอยากให้ขึ้นก็บอกมาเดี๋ยวนี้เลย !”
“บอก ? บอกเรื่อง ?”
พชรเอียงคอขณะมองสาวงามในสระน้ำผู้ตัวเปียกทั้งตัวเหมือนจะไม่ยอมขึ้นในเร็ววัน
“ตอนนี้หมดเวลากิจกรรมไปแล้วไง ไหนล่ะคำสัญญาอะ ลืมไปแล้วหรือไง !”
อะไรจะขนาดนั้น แค่หาเด็กผู้ชายคนนึงถึงขั้นยอมงอแงใส่ใครก็ไม่รู้เลยไง ? พชรหัวเราะในลำคอมองสาวน้อยในสระ เขามองนาฬิกาในมือที่เดินเหลือเวลาน้อยลงเรื่อย ๆ ก่อนถอนหายใจแล้วลงสระตามสาวงามแล้วจับแขนพยายามลากเจ้าตัวขึ้นมา
“ป- ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ ! ฉันไม่ได้สนิทกันกับนาย ถ้าเกิดจับมากกว่านี้ฉันโพสต์ประจานแน่ !“
“นี่ ช่วยเงียบหน่อยเถอะ ขอร้องล่ะ ที่ทำก็เพื่อให้พวกเราไม่โดนลงโทษนะ“
”เหอะ อย่ามาใช้คำว่าเราให้สวยหรูเลย จริง ๆ แล้วนายก็แค่ไม่อยากโดนลงโทษเท่านั้นแหละ ถ้าเกิดนายสนใจฉันจริง ๆ คงบอกมาแล้วว่าคนวาดรูปนั้นเป็นใคร“
”เธอเนี่ยหัวรั้นจริง ๆ เลยนะเป็นโรคเจ้าหญิงหรือไง“
”ร- โรคเจ้าหญิง…? พชร เพชร พัฒ… รัตนากร… อือ…”
การพึมพำรอบนี้พชรได้ยินเต็มสองหู เขาแปลกใจจนต้องมองสาวงามที่ยอมทำตามหลังจากเขาพูดแดกดัน
จะว่ายอมทำตามก็ไม่เชิง เจ้าตัวเพียงแค่เหม่อจนไม่สนใจพชรในตอนนี้ต่างหาก สายตาเธอเหม่อมองด้านหน้าขณะที่ปากพึมพำข้อมูลต่าง ๆ ในหัวออกมาทำเอาพชรขนหัวลุกซู่ในความแม่นของสาวงาม
เขาไม่รู้ว่ามีคำพูดอะไรทำให้สาวงามปิ๊งทุกอย่างขึ้นมาจึงเอียงคอเงียบ ๆ
“อืม…”
พอนึกบางอย่างขึ้นได้ก็ทิ้งกล่องดำในมือออกข้างแล้วมองพชรที่อยู่ข้าง ๆ สักพักก็เขย่งเท้าดึงคอเสื้อพชรลงดูผิวหนังช่วงไหล่ของพชรหน้าตาเฉยเสียอย่างนั้น
“…”
“ท- ทำอะไรของเธอเนี่ย”
กับการดึงแขนเสื้อแบบไม่ให้สัญญาณของสาวงามทำพชรแก้มเปลี่ยนสีด้วยความอาย เขาดึงมืออีกฝ่ายออกเบา ๆ ซึ่งเทียร์ร่าให้ความร่วมมืออย่างดีเพียงแต่ตอนนี้เจ้าตัวกลับเหม่อยิ่งกว่าเดิมหลังดึงคอเสื้อพชร
’เดี๋ยวก็เหม่อ เดี๋ยวก็หงุดหงิด อะไรของยัยนี่กันเนี่ย‘
พอมาถึงริมสระ พชรก็ขึ้นก่อนแล้วค่อยจับมือสาวงามระหว่างเกาะบันไดขึ้นมา น่าแปลกใจที่คราวนี้เจ้าตัวเงียบแล้วยื่นมือให้จับแต่โดยดี
“แล้วเราจะเอายังไงกับชุดนี้ดีเนี่ย…”
ตอนนี้ชุดสีดำทั้งคู่แทบแนบชิดกับลำตัวให้เคลื่อนไหวลำบาก พชรมองสาวงามที่เงียบเหม่ออยู่คนเดียวก็เอียงคอ
“นี่เราต้องไปรวมกลุ่มกับคนอื่น ๆ ในสภาพนี้จริงดิ ?“
”พชร…“
อยู่ ๆ สาวงามก็เรียกชื่อห้วน ๆ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงอย่างไม่เคยทำมาก่อน
”อะไร ? ว่า ?“
”… ไม่มีไร”
พอพชรมองหน้าระหว่างเดินอยู่ ๆ ใบหน้าเจ้าตัวก็แดงก่ำแล้วเบือนหน้าหนีเสียอย่างนั้น พชรไม่เข้าใจอีกฝ่ายจึงเดินต่อเงียบ ๆ ขณะที่มือยังจับแขนสาวงามทั้งอย่างนั้น