ยัยคนนี้จะทำให้การเปลี่ยนแปลงตัวเองของผมเสียเปล่า - ตอนที่ 12 เกม
ตอนที่ 12
“ไม่เคยเข้ามาในห้องนี้เลยนะ”
“ก็นะ มันแทบจะเป็นห้องส่วนตัวของเขาแล้วถ้าไม่นับเวลาเรียน”
พชรแปลกใจกับทักษะการสังเกตของสาวงามขั้นสุด เล่นเอาเผลอเหม่อมองสาวงามเป็นรอบที่ร้อยแปด วันนี้เป็นวันที่พชรได้เห็นด้านที่ไม่เคยเห็นจากสาวงาม ทักษะการสังเกตและเก็บข้อมูลรอบตัวของเธอนั้นอยู่ในระดับสูงแม้ท่าทางเธอเหมือนไม่สนใจก็ตาม
ทางฝั่งพชรแม้เอาแต่บ่นว่าอยากเป็นหนุ่มหล่อของสายตาสาว ๆ ทุกคน เขายังไม่นึกว่าตัวเองจะมีทักษะสังเกตมากกว่าสาวงามตรงหน้า
“ขอโทษนะที่ดูจะไม่เป็นเหมือนที่นายคิด”
“…”
อยู่ ๆ สาวงามก็พูดเหมือนอ่านอารมณ์ออกทำเอาพชรเผลอหลุดยิ้ม ทักษะจับสังเกตของเธออยู่ในระดับสูงจริง ๆ
“อืม… ถ้างั้นเราเริ่มจากตรงไหนดี ?”
พชรพยายามเปลี่ยนเรื่อง
“ก็… ไม่รู้สิ ไม่เคยมาที่นี่ นายมีไหมล่ะ ?“
“ไม่มี ถ้างั้นเริ่มกันก่อนเลยแล้วกัน เดี๋ยวค่อยคิดระหว่างหาก็ได้”
“ก็ดี”
ทั้งคู่แยกจากกันพยายามหาเบาะแสที่ไม่รู้ว่ามีหรือเปล่า
เทียร์ร่าเดินจับนู่นนี่ทีละอย่างมองหาทุกอย่างที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะขวดดำเข้มตั้งเด่นสง่าหรือแม้แต่หลังกระดานดำใหญ่หรือใต้โต๊ะทุกโต๊ะ แม้กระทั่งขาโต๊ะก็สังเกตโดยละเอียด ขณะที่พชรยืนกุมคางมองดูรอบห้องเงียบ ๆ
“คิดออกไหม ?”
เทียร์ร่าไม่มีท่าทีปรปักษ์อย่างแต่ก่อน เธอไม่ได้สนใจในเรื่องสถานะสำหรับตอนนี้ ที่ต้องการคือผ่านเกมนี้ไปให้ได้ก่อนหมดวันเพื่อให้พชรพอใจและให้คำตอบกับตน
“จริง ๆ พอได้มายืนในห้องก็ให้ความรู้สึกแปลก ๆ อยู่นะ“
”ทำไมเหรอ ?“
เทียร์ร่าที่เดินจับของนู่นนี่นั่นมาโดยตลอดเอียงคอตาแป๋ว
”ก็… ไม่รู้สิ แค่คิดว่าห้องนี้ดูสะอาดเกินไป กระทั่งฝุ่นตามพื้นยังไม่มี ไหนจะหนังสือเรียนกับโต๊ะที่เป็นระเบียบจัดให้เข้าที่ทุกตารางนิ้วนั่นอีก แล้วเธอลองดูมอนิเตอร์บนหัวนั่นสิ”
เทียร์ร่าทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมมองด้านบนตามพชรก็พบกับมอนิเตอร์ที่หันกลับด้าน แทนที่จะหันเข้าหน้าชั้นเรียนกลับหันไปด้านหลังเป็นชั้นวางหนังสือที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ดูเหมือนหนังสือพวกนี้เพิ่งซื้อมาใหม่ ๆ เพราะความวาววับกับสีระยิบระยับไร้ซึ่งรอยยับนั้นดูจะแปลกตาเสียเหลือเกิน
‘ดูเหมือนห้องนี้จะถูกรีโนเวทใหม่ทั้งหมดเลย รุ่นพี่ทุนหนาไปหรือเปล่าเนี่ย’
เจ้าตัวเพิ่งบอกให้สาวงามสังเกตด้านบนไป แต่ตัวเองดันสนใจหนังสือด้านหลังห้องเสียอย่างนั้น
“มันกลับด้าน ?”
เทียร์ร่าเปล่งเสียงเรียกสติพชรกลับมาโลกความเป็นจริงด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“อ้ะ อืม… โทษที”
“แล้วไงต่อ ? ที่ว่ามามันก็แปลกจริง ๆ นั้นแหละนะ แล้ว ? นายคิดอะไรได้ล่ะ ?”
“เธอจับจุดที่มอนิเตอร์หันหน้าไปได้ไหม ?“
”ก็เป็นโต๊ะหนังสือใหม่ ๆ ที่มีหนังสือเล่มใหม่วางอยู่- เดี๋ยวนะ ชั้นวางหนังสือนั้นมันเป็นชั้นวางตัวเดียวที่ถูกจัดวางไม่ค่อยตรงเหมือนโต๊ะอื่น ๆ ด้วย… แถมยังวางแปลก ๆ เหมือนกับตั้งใจวางให้มันกลับด้าน…”
“ฉลาดมาก”
พชรพยักหน้าหงึก ๆ พอสาวงามให้คำตามที่คาดหวัง เขายิ้มแล้วพยักหน้าหงึก ๆ ภูมิใจทำเอาเทียร์ร่าขมวดคิ้ว
อย่างไรก็ตามแม้สาวงามไม่พอใจที่อีกฝ่ายแสดงท่าทางกวนประสาทออกมาเธอก็ไม่ได้แดกดันกลับไปเหมือนก่อนจนน่าตลกสำหรับพชรผู้คอยสังเกตกริยาเจ้าตัวมาโดยตลอด
“ถ้างั้นก็ลองสำรวจเจ้าชั้นวางนี้กันก่อนดีกว่า”
แม้สาวงามไม่แสดงท่าทีใด ๆ แต่เจ้าตัวก็ยังคงเงียบทำเอาพชรยิ้มเจื่อนหัวเราะแห้งขณะเดินไปยังชั้นวางดังกล่าว เขาค่อย ๆ เลื่อนมันออกด้วยตัวคนเดียว เพราะตัวชั้นไม่ได้หนา หรือใหญ่และหนังสือไม่เยอะ ตัวชั้นวางมีเพียง 6 ชั้นยาวเลยศีรษะเขาไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น
ระหว่างเลื่อนมันด้านเดียวก็ส่งเสียง ครืน บาง ๆ
“โอ๊ะ นั่นไง !”
พอเลื่อนโต๊ะได้ประมาณนึงก็เห็นกล่องบางอย่างอยู่ด้านในที่มีช่องวางในกำแพงห้องอีกที ทว่าช่องวางดังกล่าวดันห่างไปเมตรกว่า ๆ จะยื่นมือก็ไม่ถึง พชรจึงพยายาม ๆ ออกแรงให้มากขึ้นดึงชั้นวางน้ำหนักสูงออกมาขณะที่เทียร์ร่ายืนดูเงียบ ๆ
“นายแข็งแรงมากเหมือนเขาเลยนะ- เดี๋ยวนะ พชร… เพชร… พัฒ… รัตนากร…”
อยู่ ๆ สาวงามก็นึกถึงบางอย่างได้ เธอพึมพำในสิ่งที่พชรไม่ได้ยินเพราะมัวตั้งใจออกแรงเลื่อนชั้นวาง เขาเลื่อนไปสักพักก็ได้ระยะ
“โอเค ได้ละ”
พชรกำลังจะหันไปบอกอีกฝ่ายทว่าเทียร์ร่ากลับยืนกุมคางจ้องมองเขาราวกับวิเคราะห์อะไรบางอย่างเสียอย่างนั้นทำเอาเขาเอียงคอไม่เข้าใจ
”ถ้างั้นก็…“
พชรตัดสินใจละสายตาจากสาวงามแล้วหันกลับมาสนใจกล่องที่อยู่ในช่องวางของผนังห้อง เขามุดเข้าไปในหลืบที่เปิดออกแล้วหยิบมันขึ้นมา
”กล่องมันดูแปลก ๆ แฮะ“
กล่องที่หยิบขึ้นมาเป็นกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเท่าสองฝ่ามือ เขาสำรวจมันรอบ ๆ เคาะมันในจุดต่าง ๆ ก่อนผุดยิ้มชั่วร้ายออกมา
“เทียร์ร่า อะนี่”
“เทียร์ร่า ? อ- อือ โอเค”
พออีกฝ่ายเรียกตนห้วน ๆ ก็กำลังจะตวาดกลับทว่าดันมีความรู้สึกแปลก ๆ เข้ามาเสียอย่างนั้นทำเอาทำตัวไม่ถูกแล้วยืนเหม่อทั้งอย่างนั้น
ว่าแล้วเทียร์ร่าก็ยื่นมือรับกล่องจากพชรโดยไม่คิดอะไร เธอเปิดกล่องนั้นทั้งที่ยังเหม่อหวังจะเจอคำใบ้ แต่พอเปิดออกสาวงามที่จ้องอยู่พลันมีแป้งมากมายพุ่งจากกล่องเข้ากระทบใบหน้าสวย ๆ ทำเอาเธอเผลอส่งเสียงแปลก ๆ
”อึ๊ !“
“อุ๊ปส์… โทษที ไม่นึกว่าจะมีอะไรแบบนั้นอยู่ข้างในด้วย”
ขณะที่ขอโทษก็หัวเราะไปด้วย เทียร์ร่าขมวดคิ้วจนแทบชนกันเขม่นเจ้าชายตรงหน้า
“… อือ…”
เทียร์ร่าพยายามข่มความโกรธโดยสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทำเป็นไม่ถือสาขณะที่ใจก็พยายามคิดว่าอีกฝ่ายไม่รู้ แม้แค่มองเห็นรอยยิ้มกวนประสาททำให้พอคาดเดาจากท่าทางเจ้าตัวได้อยู่ก็ตามที
”อะ เอาไปอ่าน“
”โอ๊ะ“
’ไม่โกรธแฮะ‘
พชรอดหัวเราะออกมาอีกรอบไม่ได้เมื่อได้มองหน้าขาว ๆ เต็มไปด้วยแป้งของอีกฝ่าย ไม่ใช่แค่หน้าที่เปื้อน กระทั่งเสื้อส่วนบนลากยาวไปจนถึงผมสีฟ้าอ่อนบางจุดของเธอที่เลอะสีขาวเช่นเดียวกัน คราวนี้อีกฝ่ายยิ่งพองแก้มไปด้วยยิ่งทำให้ดูน่ารักเข้าไปอีก พชรพยายามละสายตาจากอีกฝ่ายหันมาอ่านกระดาษในมือแทน
“อย่างแรกคืออาคารเริ่มต้นของโรงเรียนที่เป็นห้องใหม่เอี่ยมมาก ๆ รอบข้างสะอาดเอี่ยมมองไปทางไหนก็สบายตา อย่างที่สองคือโล่งโจ้งแดดส่องได้จากทั่วทิศทิศทาง พอไปยืนอยู่ใจกลางก็ทำเอาอยากเล่นกีฬา …และความถูกต้องของอย่างที่หนึ่งคือ T”
พชรอ่านออกเสียงให้สาวงามได้ยินด้วย พอสาวงามได้ยินก็พยักหน้าหงึก ๆ เพราะมีกฏห้ามล้างหน้าหรือเช็ดหลังถูกกับดัก จึงทำให้ใบหน้าเจ้าตัวขาวโพลนทั้งอย่างนั้น พอเธอพยักก็เกิดเอฟเฟคฝุ่นควันอย่างน่าตลก
”ดูเหมือนที่ที่เรามาจะถูกต้องแล้วนะ ทักษะการสังเกตของเธอเนี่ยสุดยอดจริง ๆ“
พชรเอ่ยปากชมอีกฝ่ายขณะนำมือถือขึ้นมาถ่ายแล้วเก็บซองกระดาษเข้ากล่องนำเข้าที่เดิมตามเกมอย่างที่ควรจะเป็น แม้จะเก็บกวาดแป้งกับทำให้กับดักคืนสภาพเดิมไม่ได้ แต่การค้นหาก็นับว่ายังหาดูได้ยากอยู่หากไม่สังเกต
“จากที่ฟังแล้วดูเหมือนเนื้อหาจะบอกเป็นตัวเลขตรง ๆ เลยนะ“
”ก็ดีแล้วนี่ จะได้ไม่ต้องสับสนไง”
“อืม ก็จริงแหละนะ ถ้างั้นตามที่กระดาษบอก ที่ต่อไปคงเป็นนอกอาคารเรียนสินะ ที่โล่ง ๆ แสงสาดส่องจากทุกจุด“
พชรทบทวนข้อมูลที่ได้มาในกระดาษคนเดียว
“อืม…”
“หืม ?”
ระหว่างนึกสถานที่ต่อไป สาวงามก็จ้องมองพชรด้วยสายตาแปลก ๆ ทำเอาเขาเอียงคอมองเจ้าตัวกลับ
“มีอะไรติดหน้าฉันเหรอ ?”
“ไม่รู้สิ ทำไมเวลาอยู่ใกล้ ๆ นายแล้วมันรู้สึกสบายใจแปลก ๆ ตั้งแต่ก่อนหน้าที่เจอกันครั้งแรกแล้ว… ไม่เข้าใจเลย…”
“ห้ะ ? นี่เธอล้อเล่นหรือเปล่า จะจีบกันหรือไง ?”
“เหอะ เสียสติไปแล้วหรือไง ฉันเนี่ยนะตกหลุมรักนาย ต่อให้เกิดตายเป็นร้อยชาติก็ไม่มีทางหรอก !”
คำตอบแบบแทบจะฉับพลันพร้อมใบหน้าเหยเกทำเอาพชรยิ้มเจื่อน
“โอ๊ะ เหมือนจะมีคนมาที่นี่แล้วแฮะ”
ว่าแล้วพชรก็นำทางสาวงามออกจากห้องเดินไปยังคำใบ้ต่อไปซึ่งยังไม่มั่นใจว่าอยู่ตรงไหน
ระหว่างหาคำใบ้ต่อไปเรื่อย ๆ ทั้งสองเหมือนจะผ่านแต่ละอย่างไปได้อย่างราบรื่นด้วยการนำทางและวิเคราะห์ของพชรผนวกกับทักษะสังเกตสาวงาม
แม้การร่วมงานระหว่างทั้งสองดูเหมือนจะไม่ค่อยราบรื่นเพราะลักษณะนิสัยที่แตกต่าง แต่ทุกอย่างก็ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นเพราะความร่วมมือจากสาวงามที่หวังผลประโยชน์จากพชรให้ได้สิ่งที่ตนคาดหวัง
หลังจากผ่านคำใบ้แรก คำใบ้สอง ผ่านไปเรื่อย ๆ ก็รวบรวมคำตอบไว้ในมือพอประมาณแล้ว
ไม่ว่าจะอยู่ในห้องเรียน กลางโล่งแจ้ง บนต้นไม้ บนดาดฟ้า ทุกอย่างล้วนอยู่ห่างกันคนละโยด
”T H E V T R I C O…”
“แค่นี้ก็ดูเหมือนจะเดาคำตอบได้แล้วนะ”
“นั่นสิ ดูเหมือนจะเป็นการต่อคำทั่วนั่นแหละนะ จริง ๆ ถ้าเป็นแบบแค่ให้คำตอบคงเดินไปตอบได้ง่าย ๆ แต่คงระดับคณะสภาคงไม่ทำอะไรง่าย ๆ ท้ายที่สุดก็ต้องเดินตามเกมไปเรื่อย ๆ ล่ะนะ“
ทั้งสองเดินกลางถนนที่ไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน ระหว่างเดินทั้งสองก็โดนจับจ้องจากรอบข้างอยู่ตลอด เพราะเกมหาคำใบ้จะทุกจุดมักจะมีกับดักเสมอ ซึ่งทั้งสองที่พบเจอเป็นอันดับต้น ๆ มาโดยตลอด จึงโดนกับดักมันทุกจุด ทำให้สภาพพชรตอนนี้เลอะเปรอะไปด้วยแป้งและสี
ขณะที่เทียร์ร่าโดนกับดักแค่จุดเดียว คือจุดที่ 1 จนถึงตอนนี้แป้งที่เลอะหน้าและลำตัวของเธอเริ่มหลุดออกหมดแล้วทำให้ตอนนี้ใบหน้าที่น่ารักของเธอเริ่มเห็นได้ชัดขึ้น ดูน่ามองยิ่งกว่าเก่า
ไรท์: ให้เวลา 2 วันในการเดา !