ยอดอาจารย์มหาเมตตา - ตอนที่ 607 แค่นี้หรือ
สีหน้าของฉีฮวนเปลี่ยนไปเมื่อเขาเห็นกระบวนท่าของกู้จวิน เขา ไม่คาดคิดว่าจะเป็ นเช่นนี้ในเวลาหนึ่งเดือนสั้น ๆ
กู้จวินได้เข้าใจพลังเทพเจ้าบุปผาโรยรา ของมรดกบุปผา ซากศพแล้ว
ในเวลาไม่ถึงอึดใจ กู้จวินก็ได้ยื่นมือของเขาออกแล้วโบกไปมา เถาวัลย์แห่งความตายจานวนนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากความมืดและ คว้าไปที่หยาหยา ต้องการที่จะขังนางไว้เหนือทะเลเมฆ
เมื่อเห็นฉากนี้ฉีฮวนกังวลมากจนเหงื่อออกเย็นเยียบ เขาสงสัย ว่าหยาหยาได้เรียนรู ้เคล็ดวิชาเซียนใด ๆ หรือไม่ นางสามารถจัดการ กับการโจมตีครั้งนี้ได้หรือไม่
ผู้อาวุโสอื่นก็ยิ่งกังวลเช่นกัน
ณ ช่วงเวลาที่ตึงเครียดนี้ หยาหยาเป็ นคนที่สงบที่สุดท่ามกลาง ผู้คนในปัจจุบัน
“ฮ่าฮ่า บุปผาโรยราหรือ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาแสดงเคล็ดลับอัน หยาบกระด้างต่อหน้ายอดฝีมือ ไร ้สาระ มรดกบุปผาซากศพอะไรกัน ข้าคิดว่ามันจะดีกว่าที่จะเรียกมันว่ามรดกหมูกับหมา”
หยาหยาเมินเฉยต่อการโจมตีนับพันของกู้จวินด้วยการเย้ยหยัน นางไม่ได้เร็วหรือช ้า อาจกล่าวได้ว่านางผ่อนคลาย
ถ้าเป็ นเมื่อก่อน นางคงไม่กล้าพูดว่าทนการโจมตีนี้ได้ อย่างไรก็ ตาม มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากฝึกฝนเคล็ดวิชาเพลิงกรรม บงกชแดงเป็ นเวลาหนึ่งเดือน ความมั่นใจของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก การโจมตีนี้เหมือนเรื่องตลกในสายตาของนาง
หยาหยาเย้ยหยันในขณะที่เถาวัลย์พันรอบตัวนาง ทันใดนั้น นาง กางมือขวาของนางออก และเปลวไฟก็ปะทุขึ้นอย่างน่าตกใจ พลังที่ พุ่งทะยานนั้นไม่มีใครสามารถหยุดได้ เถาวัลย์ที่ปกคลุมท้องฟ้ าถูก เพลิงกรรมเผาจนหมดสิ้นในทันที
“อะไรกัน!”
เพียงเสี้ยวลมหายใจ สถานการณ์ก็พลิกกลับ ทุกคนตกตะลึง และใบหน้าของคู่มู่ไห่ก็มืดลงในขณะที่เขาเปล่งเสียงเย็นชา “เคล็ด วิชาเพลิงกรรมบงกชแดง! เป็ นไปได้อย่างไร”
ขณะนี้ เขารู ้สึกตกใจ เขาไม่เคยคิดว่าเคล็ดวิชาเพลิงกรรม บงกชแดงในต านานจะมาปรากฏในมือหยาหยา
นางเรียนรู ้เคล็ดวิชาท้าทายสวรรค์นี้ได้อย่างไรกัน? ภูมิหลังของ นางไม่คู่ควรกับเคล็ดวิชาเซียนดังกล่าวด้วยซ้า คาอธิบายเดียวคือเย่ ชิวสอนนาง
“ไม่!” เมื่อรู ้สิ่งนี้ คู่มู่ไห่ก็ตื่นตระหนก หยาหยาคว้าเคล็ดวิชา เพลิงกรรมบงกชแดงและรวมเข้ากับเพลิงหัวใจในร่างกายของนาง นางเหมือนปลาในน้า ศักยภาพของนางเพียงพอที่จะคุกคามตาแหน่ง ของเขาในมรดกบุปผาซากศพ
ในขณะนี้ เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์และตื่นตระหนกได้อีก ต่อไป เขาไม่เชื่อว่าเป็ นเรื่องจริง
กู้จวินซึ่งอยู่ตรงข้ามกับหยาหยาก็ไม่อยากเชื่อเช่นกัน สาวน้อย คนนี้ซึ่งถูกเขาข่มเหงมาตลอดถึงกับเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายใน วันนี้ ความไม่เต็มใจและความอัปยศอดสูในหัวใจของเขาพลุ่งพล่าน ทันที
“แค่นี้หรือ” ภายใต้สายตาโกรธเกรี้ยวของเขา หยาหยาเย้ยหยัน และเยาะเย้ย
“ดูเหมือนสิ่งนี้ที่เรียกว่ามรดกบุปผาซากศพไม่มีอะไรมาก ข้าแค่ ขว้างลูกบอลไฟแอะเดียวก็มลายสิ้น เจ้าเองก็อ่อนแอยิ่งนัก เจ้าก็ควร หยุดบ่มเพาะแล้วกลับบ้านไปเลี้ยงหมู เจ้ากาลังสร ้างความอับอายให้ ตนเอง เจ้ารู ้หรือไม่”
การเยาะเย้ยนี้ได้รับการสืบทอดอย่างลึกซึ้งจากเย่ชิว ด้วยคาพูด เพียงไม่กี่คา นางก็สร ้างความโกรธให้กับอาจารย์และลูกศิษย์ของ มรดกบุปผาซากศพอย่างสมบูรณ์
“บัดซบ!” กู้จวินโกรธจัด ฉับพลัน แผ่นจานก็ปรากฏในมือของ เขา เขาพูดอย่างอาฆาตว่า “เจ้าถึงกับล้าท าให้ข้าอับอาย เจ้าก าลัง รนหาที่ตาย”
ฉับพลัน แผ่นจานนั้นก็ห่อหุ้มท้องฟ้ าเหนือหยาหยา กู้จวินโจมตี อย่างรวดเร็ว และอักขระนับพันก็หลั่งไหลออกมา พลังที่กลืนกินอย่าง น่าตกใจมาจากแผ่นจาน ในขณะนั้นเอง รอยยิ้มบนใบหน้าของหยา หยาก็หายไปในที่สุด
ฉีฮวนยิ่งตกใจเข้าไปอีก เขาหันตัวกลับและมองไปที่คู่มู่ไห่ที่เย็น ชาอย่างโกรธจัด เจ้าเฒ่านี้ถึงกับสอนกู้จวินเคล็ดวิชาลับบุปผา เคลื่อนไม้ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังส่งผ่านสิ่งประดิษฐ ์เซียนระดับกลาง ล้อลั่วเซิง ไปให้อีกด้วย
ในตอนแรก พลังของสิ่งประดิษฐ ์เซียนนี้ยิ่งใหญ่ เมื่อใช ้ร่วมกับ เคล็ดวิชานี้ ไม่ต้องพูดถึงยอดยุทธ แม้แต่ราชันยุทธก็ไร ้ประโยชน์เมื่อ เทียบกับพลังดังกล่าว
ฉีฮวนโกรธมาก แต่เขาทาอะไรไม่ถูกเพราะนี่คือการแข่งขัน เขา ไม่สามารถแทรกแซงได้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหยาหยาค่อย ๆ หายไปเมื่อนางดูการ โจมตีของแผ่นจาน
นางไม่คาดคิดว่ากู้จวินจะมีเช่นนี้ซ่อนในแขนเสื้อ นางประหลาด ใจ ขณะที่แผนจานส่งพลังที่กลืนกินเข้ามา
นางรู ้สึกได้ว่าพลังวิญญาณในร่างกายของนางเริ่มหายไปอย่าง รวดเร็ว หากเป็ นเช่นนี้ต่อไป นางคงแห้งเหี่ยวแน่ ๆ ในเวลานั้น นาง จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอนและชีวิตของนางอาจตกอยู่ในอันตราย ด้วยซ้า
ในขณะนี้ เสียงหนึ่งดังขึ้นในความคิดของนาง “ศิษย์เอ๋ย ไม่ต้อง ตกใจไป ข้าจะสอนเคล็ดวิชาที่จะสังหารเขาได้ให้กับเจ้า”
นี่คือเสียงอาจารย์ของนาง! ในขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น รอยยิ้มบน ใบหน้าของหยาหยาก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง อาจารย์ออกมาจากการปิด ด่านแล้ว
หยาหยารู ้สึกปลื้มใจจนสะเทือนใจ นางกาลังจะยอมแพ้แล้ว แต่ นางไม่คาดคิดว่าอาจารย์ของนางจะเคลื่อนไหวในช่วงเวลาที่สาคัญ เช่นนี้
“นี่คือวิชาบุปผาเคลื่อนไม้ เป็ นเคล็ดวิชาต้องห้ามโบราณที่มี ความสามารถในการกลืนกินฟ้ าดิน มันสามารถกลืนกินทุกสิ่งใน โลก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเคล็ดวิชานี้จะแข็งแกร่ง ก็มีข้อบกพร่อง ร ้ายแรง นั่นคือ… มันไม่เลือกกิน เมื่อใช ้เคล็ดวิชานี้ ไม่ว่าจะมีพลัง อะไร มันก็จะกินเข้าไป หากดูดซับพลังที่ดี เขาก็จะสามารถพัฒนา ตนเองได้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามันดูดซับสิ่งไม่ดี ฮิฮิฮิ… เขากาลังหาที่ ตาย”
เย่ชิวยิ้มและเปิดเผยข้อบกพร่องของเคล็ดวิชาลับนี้ ดวงตาของ เขาเฉียบคมอย่างมาก ในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ เขาก็มองเห็น ข้อบกพร่องของเคล็ดวิชาลับนี้ อย่าลืม เขามีกายาเต๋าปฐมกาลใน ต านานและมีความใกล้ชิดกับเต๋าโดยก าเนิด แล้วเหตุใดเขาจะมองไม่ เห็นเคล็ดวิชาต้องห้ามที่หยาบกระด้างเช่นนี้
เพียงไม่กี่คา เย่ชิวส่งเสียงต่อไป “เจ้าไม่จาเป็ นต้องทาอะไร เจ้า เพียงแค่ต้องเปลี่ยนพลังทั้งหมดในร่างกายของเจ้าให้เป็ นเพลิงกรรม แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายดูดซับมัน”
“นี่” เมื่อหยาหยาได้ยินดังนั้น นางก็อึ้งไปครู่หนึ่งและไม่เข้าใจ แต่ เมื่อนางคิดเกี่ยวกับมัน ประเดี๋ยว…
ถ้านางจาไม่ผิด เคล็ดวิชาเพลิงกรรมบงกชแดงนี้ได้ชื่อว่า สามารถเผาผลาญทุกสิ่งในโลก กระบวนการการบ่มเพาะนั้นยาก มาก และมันไม่ง่ายที่จะถูกกิน หากกู้จวินดูดเพลิงกรรมนี้เข้าไปและ ไม่สามารถกินมันได้ ถ้าอย่างนั้น…
คิดได้เช่นนี้ หยาหยาเหมือนเข้าใจอะไรบางอย่างและดีใจมาก
“ขอบคุณท่านอาจารย์ ข้าเข้าใจแล้ว” หยาหยาดีใจใจทันที นาง ผลักมือออก และในชั่วพริบตา พลังที่พลุ่งพล่านในร่างกายของนางก็ เริ่มเผาไหม้อย่างรวดเร็ว ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็ นเปลวไฟแห่งกรรมที่ปก คลุมท้องฟ้ า
“ฮึ่ม เจ้าชอบดูดกลืนรึ ข้าจะให้เจ้าดูดมากเท่าที่ต้องการ”
ฉับพลัน เปลวเพลิงก็พุ่งเข้าหากู้จวิน อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เขายังไม่ตระหนักถึงความร ้ายแรงของปัญหา เมื่อเผชิญหน้ากับการ โต้กลับของหยาหยา เขาคิดว่านางกาลังต่อสู้ครั้งสุดท้ายและรู ้สึก ยินดี จะเป็ นการเสียเปล่าที่จะไม่ดูดซับพลังที่ส่งมาเช่นนี้ เขาควบคุม แผ่นจานและกินลูกบอลเพลิงกรรมทันที
ขณะที่เพลิงกรรมเข้าไปในร่างกายของเขา ร่องรอยของความ เจ็บปวดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด ก่อนที่เขาจะ ดับไฟแห่งกรรมในร่างของเขาได้ หยาหยาก็ปล่อยเพลิงแห่งกรรมเข้า ใส่อีกครั้ง
กู้จวินไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงในร่างกายน้อยลงและเริ่มดูดมัน อีกครั้ง ในเวลาไม่ถึงอึดใจ ร่างกายของเขาก็เริ่มขยายตัวอย่าง รวดเร็ว
“ไม่ดีแล้ว… ” สีหน้าของคู่มู่ไห่เปลี่ยนไป เขามีความรู ้สึกเป็ นลาง ไม่ดีขึ้นมา