ยอดหญิงแห่งวังหลัง - ตอนที่ 67.4
ตอนที่ 67-4 บวชชี
ฮูหยินรองยิ้มกว้างและกล่าวว่า:
“คุณหนูใหญ่ สิ่งที่ท่านพ่อของเจ้าตัดสินใจนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าได้มีเวลาไตร่ตรองเรื่องราวทั้งหมดที่ได้ทำลงไป!”
ไตร่ตรองสิ่งที่ทำลงไปเช่นนั้นหรือ?
หากจะไตร่ตรองก็สามารถทำได้ที่บ้านตระกูลหลี่ เหตุใดจะต้องไปบวชชีด้วย?
บิดาจะส่งนางไปวัด แต่มิได้บอกกล่าวว่า นางจะได้กลับมาเมื่อใด?
หากเป็นเช่นนั้น บิดาอาจจะทิ้งนางไว้ที่นั่นตลอดชีวิต!
จางเล่อรีบร้อนวิ่งเข้าไปหาหลี่เสี่ยวหรันและจับเท้าของบิดาเอาไว้อย่างหมดหวัง และกล่าวว่า:
“ท่านพ่อ! อย่า! อย่าส่งข้าไปที่นั่น! ลูกถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม! ลูกมิได้ทำผิดอันใด!”
หลี่เสี่ยวหรันจ้องมองไปที่ใบหน้าอันงดงามเป็นพิเศษของนาง ซึ่งเป็นเหมือนดอกบัวที่บอบบาง
ความหม่นหมองปรากฏในสายตาของเขาขณะที่ยื่นมือออกไปราวกับว่า ต้องการที่จะลูบผมของบุตรสาว
หลี่เว่ยหยางจ้องมองอย่างเย็นชา
ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านตระกูลลิ้มแห่งนี้ ทั้งมารดาและบุตรสาวคู่นี้พยายามวางแผนที่จะทำร้ายนางทุกย่างก้าว
หากนางถูกใส่ร้ายจากสองคนนั้น และถูกบังคับให้จากไป นางคิดว่าหลี่เสี่ยวหรันคงจะมิใส่ใจเท่านี้
เขามิเต็มใจที่จะลงโทษหลี่จางเล่อ
แต่ว่า…บุตรสาวคนโปรดได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงในครั้งนี้และเป็นเรื่องที่มิสามารถให้อภัยได้
หลี่เสี่ยวหรันต้องเด็ดเดี่ยว! นางจ้องมองไปอย่างเงียบ ๆ และเกิดแสงเย็นส่องผ่านดวงตาที่ชัดเจนของนาง
แน่นอนว่า ในที่สุดหลี่เสี่ยวหรันกำหมัดแน่นและกล่าวอย่างเย็นชา:
“ออกไป”
หลี่หมินเฟิงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ดวงตาของเขาแดงก่ำ:
“ท่านพ่อ ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด เหตุใดท่านจึงมิเชื่อนาง แล้วยังบังคับให้นางไปอยู่ในที่แบบนั้นอีก?!”
การจ้องมองที่เย็นชาของท่านผู้อาวุโสหลี่กวาดตามองไปที่หลี่หมินเฟิง เพราะนางทุ่มเทความรักให้กับหลานชายผู้นี้อย่างสุดใจ
แต่เขาช่างโง่เขลา และเพิกเฉย อีกทั้งยังเอาแต่ใจและอวดดีเหมือนกับมารดาของเขา และตอนนี้ยังกล้ากล่าวเช่นนี้อีก หลานชายผู้นี้ช่างมิมีมารยาทเอาเสียเลย!
นางถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า:
“จางเล่อ ท่านพ่อของเจ้าต้องการให้เจ้ามีชีวิตที่ปลอดภัยในตอนนี้เท่านั้น
มิต้องรอช้า รีบให้คนพาคุณหนูใหญ่ออกไปเก็บข้าวของตนเอง!”
ใบหน้าของฮูหยินใหญ่แข็งกร้าวขึ้น และทันใดนั้นนางได้ลุกขึ้นจากพื้นทันที:
“ท่านแม่ อย่างน้อยก็ควรให้ข้าได้มีโอกาสร่ำลาบุตรสาวของตนเองบ้าง”
ท่านผู้อาวุโสหลี่มองไปที่นางและขมวดคิ้ว
“ดีมาก”
หลี่เสี่ยวหรันเห็นว่า ฮูหยินใหญ่กำลังปลอบโยนบุตรสาวซึ่งเขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง
และหลังจากที่ตั้งสติได้อีกครั้ง เขาจึงสั่งผู้ใดบางคนที่อยู่ด้านข้างตนเองว่า
“ผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการค้นหาในวันนี้นอกเหนือจากคนตระกูลหลี่แล้ว ให้ก้าวออกมาด้านหน้าให้หมด…”
หลี่เว่ยหยางยืนอยู่ไกลพอสมควร แต่ยังสามารถได้ยินในสิ่งที่เขากล่าว
จึงลดสายตาลงทันที หลี่เสี่ยวหรันต้องการกำจัดบ่าวที่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นที่นี่
แต่คนในห้องโถงล้วนเป็นสมาชิกของตระกูลหลี่ ซึ่งมิสามารถละทิ้งความมั่งคั่งและชื่อเสียงของตนเอง โดยการเผยแพร่เรื่องนี้ได้
แต่คนรับใช้เหล่านั้นแตกต่างออกไป เพราะพวกเขาสามารถขายเจ้านายของตนเองได้ทุกเมื่อ
แม้แต่ท่านหมอเฉินก็มิมีข้อยกเว้น
ฮูหยินใหญ่ประคองร่างของหลี่จางเล่อให้ยืนขึ้น นางแสร้งทำเป็นว่าจะแก้ทรงผมของบุตรสาว แต่มีความรู้สึกเร่งด่วนในสายตาของนาง
“ท่านแม่…”
หลี่จางเล่อร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าเสียใจ
“อย่าร้องไห้..อย่าร้องไห้จางเล่อ…”
ฮูหยินใหญ่สวมกอดนางแน่น
“ท่านพ่อของเจ้าอารมณ์เสียไปชั่วขณะเท่านั้น เขายังรักเจ้าและจะไปรับเจ้ากลับบ้านหลังจากทุกอย่างสงบลงแล้ว เจ้าต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี…”
ผู้เป็นมารดาอดมิได้ที่จะร้องไห้เช่นเดียวกันและสะอื้นขณะที่นางกล่าวว่า:
“ข้าเคยบอกเจ้าก่อนหน้านี้แล้วว่าเจ้าต้องระวังตัวให้ดี อย่าเปิดโอกาสให้หญิงที่ต่ำต้อยผู้นั้นคิดร้ายกับเจ้าได้
ผู้ใดจะคิดว่า เจ้าจิตใจดีเกินไป จึงต้องมาทนทุกข์เช่นนี้…”
หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างเย็นชา ในท้ายที่สุดฮูหยินใหญ่ก็ยังมิลืมที่จะพูดจาใส่ร้ายนาง
หลี่จางเล่อยืนพิงไหล่ของมารดาตนเอง และร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ขณะที่ภายในใจของนางเกิดความเกลียดชังหลี่เว่ยหยางลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
แต่นางมิกล้าเปิดเผยเรื่องนี้ และรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับการตัดสินใจของหลี่เสี่ยวหรันในครั้งนี้
คราวนี้นางกำลังจะจากไปโดยมิรู้ว่า เมื่อไหร่นางจะได้กลับมา
หากบิดาของนางเชื่อท่านย่า หรือหลี่เว่ยหยางและมิยอมให้นางกลับมา ชีวิตของนางก็คงจะต้องจบลงเพียงแค่นี้
บางทีหากนางมิได้ปรากฏตัวในเมืองหลวงเป็นเวลานาน ผู้คนทั้งหลายก็จะลืมนางไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่านางจะมีความงดงามมากที่สุดในแคว้น แล้วมันจะใช้ประโยชน์อันใดได้?
เรื่องนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับหลี่เว่ยหยางอย่างแน่นอน!
นางมิสามารถควบคุมตนเองได้แล้วในตอนนี้ หากมีมีดอยู่ในมือ นางเลือกที่จะตายไปพร้อมกับหลี่เว่ยหยางทันที
ในขณะนี้ฮูหยินใหญ่กระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของหลี่จางเล่อ ขณะที่สายตาเย็นชาของนางหันไปหาหลี่เว่ยหยาง
“เจ้าควรดูแลตนเองให้ดี”
หลี่เว่ยหยางสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ แต่มิสามารถกล่าวได้ว่ามันคืออันใด
ตอนที่ 67-4 บวชชี
ฮูหยินรองยิ้มกว้างและกล่าวว่า:
“คุณหนูใหญ่ สิ่งที่ท่านพ่อของเจ้าตัดสินใจนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้เจ้าได้มีเวลาไตร่ตรองเรื่องราวทั้งหมดที่ได้ทำลงไป!”
ไตร่ตรองสิ่งที่ทำลงไปเช่นนั้นหรือ?
หากจะไตร่ตรองก็สามารถทำได้ที่บ้านตระกูลหลี่ เหตุใดจะต้องไปบวชชีด้วย?
บิดาจะส่งนางไปวัด แต่มิได้บอกกล่าวว่า นางจะได้กลับมาเมื่อใด?
หากเป็นเช่นนั้น บิดาอาจจะทิ้งนางไว้ที่นั่นตลอดชีวิต!
จางเล่อรีบร้อนวิ่งเข้าไปหาหลี่เสี่ยวหรันและจับเท้าของบิดาเอาไว้อย่างหมดหวัง และกล่าวว่า:
“ท่านพ่อ! อย่า! อย่าส่งข้าไปที่นั่น! ลูกถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม! ลูกมิได้ทำผิดอันใด!”
หลี่เสี่ยวหรันจ้องมองไปที่ใบหน้าอันงดงามเป็นพิเศษของนาง ซึ่งเป็นเหมือนดอกบัวที่บอบบาง
ความหม่นหมองปรากฏในสายตาของเขาขณะที่ยื่นมือออกไปราวกับว่า ต้องการที่จะลูบผมของบุตรสาว
หลี่เว่ยหยางจ้องมองอย่างเย็นชา
ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาในบ้านตระกูลลิ้มแห่งนี้ ทั้งมารดาและบุตรสาวคู่นี้พยายามวางแผนที่จะทำร้ายนางทุกย่างก้าว
หากนางถูกใส่ร้ายจากสองคนนั้น และถูกบังคับให้จากไป นางคิดว่าหลี่เสี่ยวหรันคงจะมิใส่ใจเท่านี้
เขามิเต็มใจที่จะลงโทษหลี่จางเล่อ
แต่ว่า…บุตรสาวคนโปรดได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงในครั้งนี้และเป็นเรื่องที่มิสามารถให้อภัยได้
หลี่เสี่ยวหรันต้องเด็ดเดี่ยว! นางจ้องมองไปอย่างเงียบ ๆ และเกิดแสงเย็นส่องผ่านดวงตาที่ชัดเจนของนาง
แน่นอนว่า ในที่สุดหลี่เสี่ยวหรันกำหมัดแน่นและกล่าวอย่างเย็นชา:
“ออกไป”
หลี่หมินเฟิงลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ดวงตาของเขาแดงก่ำ:
“ท่านพ่อ ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิด เหตุใดท่านจึงมิเชื่อนาง แล้วยังบังคับให้นางไปอยู่ในที่แบบนั้นอีก?!”
การจ้องมองที่เย็นชาของท่านผู้อาวุโสหลี่กวาดตามองไปที่หลี่หมินเฟิง เพราะนางทุ่มเทความรักให้กับหลานชายผู้นี้อย่างสุดใจ
แต่เขาช่างโง่เขลา และเพิกเฉย อีกทั้งยังเอาแต่ใจและอวดดีเหมือนกับมารดาของเขา และตอนนี้ยังกล้ากล่าวเช่นนี้อีก หลานชายผู้นี้ช่างมิมีมารยาทเอาเสียเลย!
นางถอนหายใจออกมาและกล่าวว่า:
“จางเล่อ ท่านพ่อของเจ้าต้องการให้เจ้ามีชีวิตที่ปลอดภัยในตอนนี้เท่านั้น
มิต้องรอช้า รีบให้คนพาคุณหนูใหญ่ออกไปเก็บข้าวของตนเอง!”
ใบหน้าของฮูหยินใหญ่แข็งกร้าวขึ้น และทันใดนั้นนางได้ลุกขึ้นจากพื้นทันที:
“ท่านแม่ อย่างน้อยก็ควรให้ข้าได้มีโอกาสร่ำลาบุตรสาวของตนเองบ้าง”
ท่านผู้อาวุโสหลี่มองไปที่นางและขมวดคิ้ว
“ดีมาก”
หลี่เสี่ยวหรันเห็นว่า ฮูหยินใหญ่กำลังปลอบโยนบุตรสาวซึ่งเขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง
และหลังจากที่ตั้งสติได้อีกครั้ง เขาจึงสั่งผู้ใดบางคนที่อยู่ด้านข้างตนเองว่า
“ผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการค้นหาในวันนี้นอกเหนือจากคนตระกูลหลี่แล้ว ให้ก้าวออกมาด้านหน้าให้หมด…”
หลี่เว่ยหยางยืนอยู่ไกลพอสมควร แต่ยังสามารถได้ยินในสิ่งที่เขากล่าว
จึงลดสายตาลงทันที หลี่เสี่ยวหรันต้องการกำจัดบ่าวที่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นที่นี่
แต่คนในห้องโถงล้วนเป็นสมาชิกของตระกูลหลี่ ซึ่งมิสามารถละทิ้งความมั่งคั่งและชื่อเสียงของตนเอง โดยการเผยแพร่เรื่องนี้ได้
แต่คนรับใช้เหล่านั้นแตกต่างออกไป เพราะพวกเขาสามารถขายเจ้านายของตนเองได้ทุกเมื่อ
แม้แต่ท่านหมอเฉินก็มิมีข้อยกเว้น
ฮูหยินใหญ่ประคองร่างของหลี่จางเล่อให้ยืนขึ้น นางแสร้งทำเป็นว่าจะแก้ทรงผมของบุตรสาว แต่มีความรู้สึกเร่งด่วนในสายตาของนาง
“ท่านแม่…”
หลี่จางเล่อร้องไห้สะอึกสะอื้นด้วยความเศร้าเสียใจ
“อย่าร้องไห้..อย่าร้องไห้จางเล่อ…”
ฮูหยินใหญ่สวมกอดนางแน่น
“ท่านพ่อของเจ้าอารมณ์เสียไปชั่วขณะเท่านั้น เขายังรักเจ้าและจะไปรับเจ้ากลับบ้านหลังจากทุกอย่างสงบลงแล้ว เจ้าต้องรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี…”
ผู้เป็นมารดาอดมิได้ที่จะร้องไห้เช่นเดียวกันและสะอื้นขณะที่นางกล่าวว่า:
“ข้าเคยบอกเจ้าก่อนหน้านี้แล้วว่าเจ้าต้องระวังตัวให้ดี อย่าเปิดโอกาสให้หญิงที่ต่ำต้อยผู้นั้นคิดร้ายกับเจ้าได้
ผู้ใดจะคิดว่า เจ้าจิตใจดีเกินไป จึงต้องมาทนทุกข์เช่นนี้…”
หลี่เว่ยหยางยิ้มอย่างเย็นชา ในท้ายที่สุดฮูหยินใหญ่ก็ยังมิลืมที่จะพูดจาใส่ร้ายนาง
หลี่จางเล่อยืนพิงไหล่ของมารดาตนเอง และร้องไห้อย่างสิ้นหวัง ขณะที่ภายในใจของนางเกิดความเกลียดชังหลี่เว่ยหยางลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
แต่นางมิกล้าเปิดเผยเรื่องนี้ และรู้สึกผิดหวังอย่างมากกับการตัดสินใจของหลี่เสี่ยวหรันในครั้งนี้
คราวนี้นางกำลังจะจากไปโดยมิรู้ว่า เมื่อไหร่นางจะได้กลับมา
หากบิดาของนางเชื่อท่านย่า หรือหลี่เว่ยหยางและมิยอมให้นางกลับมา ชีวิตของนางก็คงจะต้องจบลงเพียงแค่นี้
บางทีหากนางมิได้ปรากฏตัวในเมืองหลวงเป็นเวลานาน ผู้คนทั้งหลายก็จะลืมนางไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่านางจะมีความงดงามมากที่สุดในแคว้น แล้วมันจะใช้ประโยชน์อันใดได้?
เรื่องนี้ต้องมีความเกี่ยวข้องกับหลี่เว่ยหยางอย่างแน่นอน!
นางมิสามารถควบคุมตนเองได้แล้วในตอนนี้ หากมีมีดอยู่ในมือ นางเลือกที่จะตายไปพร้อมกับหลี่เว่ยหยางทันที
ในขณะนี้ฮูหยินใหญ่กระซิบอย่างแผ่วเบาที่ข้างหูของหลี่จางเล่อ ขณะที่สายตาเย็นชาของนางหันไปหาหลี่เว่ยหยาง
“เจ้าควรดูแลตนเองให้ดี”
หลี่เว่ยหยางสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ แต่มิสามารถกล่าวได้ว่ามันคืออันใด