ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 962 งั้นพวกเจ้าก็เบิกตามอง
ตอนที่ 962 งั้นพวกเจ้าก็เบิกตามอง
ทุกคนคิดว่าฉู่หลิวเยว่บ้าไปแล้ว
นางจะเปิดม่านพลังนี้หรือ?!
เกรงว่านางจะต้องไปนอนฝันเอาแล้วล่ะ!
หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง
ถานไถเฉินหัวเราะออกมาทันที
“ฮ่า! จักรพรรดิหยวนซีอยากจะให้ข้าได้เปิดหูเปิดตาหรือ? ฉากนี้มีครั้งเดียวในรอบพันปีเลยทีเดียว”
ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจคำเยาะเย้ยของเขาเลย ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความงดงามและสูงส่ง
ต่อมานางก็ยกมือขึ้นมา!
“กระบี่หลงหยวน!”
พริบตาเดียว ลมพายุก็โหมกระหน่ำ!
ลมปราณที่หนาแน่นรวบรวมเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง!
กระบี่เล่มยาวสีดำ ปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือของนาง!
กระบี่เล่มหนาทื่อไร้คม ลักษณะโบราณโดดเด่น โดยเฉพาะตรงกลางนั้น มีร่องสีเงินอยู่
ทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้น เหมือนว่าแสงสว่างที่อยู่รอบข้างก็ดูดกลืนไปอย่างรวดเร็ว
แรงกดดันบีบคั้นอย่างถึงที่สุด จนทำให้ทุกคนตกใจอย่างมาก!
ฉู่หลิวเยว่พลิกข้อมือของตัวเองขึ้นมา
โฮก…
ทันใดนั้นเหมือนมีเสียงมังกรคำรามดังลั่นขึ้น!
ลมพายุพัดกระจาย! ลมปราณรุนแรง!
ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีทันที!
นี่มัน…อาวุธศักดิ์สิทธิ์!?
“หรือว่านี่จะเป็นกระบี่หลงหยวนของบรรพบุรุษราชวงศ์เทียนลิ่ง?”
เสียงซุบซิบดังมาจากในกลุ่มคน
“ใช่แน่นอน! หรือว่าบนโลกนี้จะมีกระบี่หลงหยวนเล่มที่สองหรือ?!”
“จริงสิ ก่อนหน้านี้ข้าได้ยินมาว่า ซั่งกวนเยว่สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้อีกครั้งก็เพราะกระบี่หลงหยวนเล่มนี้…”
“นี่เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของจริงเลยนี่นา…”
ทันทีที่เห็นกระบี่หลงหยวน สีหน้าของถานไถเฉินก็แข็งค้างไปทันที ริมฝีปากยกยิ้มอย่างฝืนๆ
แต่ในตอนนั้น เขาก็แค่นหัวเราะอย่างเย็นชาออกมา
“มีอาวุธศักดิ์สิทธิ์แล้วอย่างใด? ข้ายังไม่เชื่อหรอก ว่าแค่คนที่ระดับหกขั้นสูง จะสามารถเปิดม่านพลังนี้ได้!”
อาวุธศักดิ์สิทธิ์จะแสดงอิทธิฤทธิ์ได้มากเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและความแข็งแกร่งของเจ้าของ
หากเป็นยอดฝีมือแล้วก็ช่างเถิด แต่ถ้าแข็งแกร่งไม่พอ อาศัยเพียงแค่พลังของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ มันคงช่วยอันใดไม่ได้!
เรื่องอื่นคงไม่ต้องพูดถึงเลย!
สำหรับถานไถเฉินแล้ว ที่ฉู่หลิวเยว่เอากระบี่หลงหยวนออกมานั้น ถือว่าเปล่าประโยชน์!
เห็นได้ชัดว่ากงซุนเซียว หนิงหยวน และคนอื่นๆ ก็คิดแบบนั้นเช่นเดียวกัน สีหน้าของพวกเขาดูไม่ค่อยดีนัก
“ท้ายที่สุดแล้วก็ยังเด็กอยู่…”
กงซุนเซียวหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง แล้วพูดพึมพำ
หนิงหยวนไม่ได้พูดอันใด เพียงแต่ตอนที่กวาดสายตามองกระบี่หลงหยวน เขากลับชะงักไปเล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่เมินเฉยต่อเสียงวิจารณ์รอบข้าง
“ไท่จู่ ครั้งนี้ข้าต้องขอรบกวนให้ท่านลงมือแล้ว”
นางพูดขึ้นในใจ
องค์ปฐมกษัตริย์หัวเราะเสียงดัง
“แค่ม่านพลังเท่านั้น มีอันใดให้รบกวนกัน! นังหนูแค่ดูก็พอแล้ว!”
ทันใดนั้นเอง ลมปราณที่ทรงพลังก็แผ่กระจายออกมา พลังที่ว่านั้นมันพวยพุ่งออกมาจากกระบี่หลงหยวน!
“อันใดหรือ?!”
ถานไถเฉินและคนอื่นๆ ก็สามารถสัมผัสถึงพลังที่ผิดปกตินี้ได้ พวกเขาจึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
แม้กระทั่งหนังตาของผู้อาวุโสฮวาเซียนก็กระตุกอย่างรุนแรง!
ลมปราณนี่มัน…ลมปราณแบบนี้!
คาดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งกว่าเขาหลายเท่า!
นั่นหมายความว่า…
“เปิดเดี๋ยวนี้!”
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ถือกระบี่หลงหยวนด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมง้างมือขึ้นสูง แล้วฟันลงอย่างแรง!
ลำแสงใบมีดสีดำกระจายไปอย่างรวดเร็ว!
พรึ่บ!
ความว่างเปล่าถูกแยกออกเป็นสองส่วนทันที!
รอยแยกสีดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ ระลอกคลื่นนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น!
ชั่วพริบตาเดียว ปราณกระบี่สีดำนั้นก็พุ่งไปสู่ม่านพลังนั้น!
ตู้ม!
ราวกับว่ารู้สึกได้ถึงแรงกดดัน ระลอกคลื่นจึงแผ่กระจายระลอกคลื่นออกมา ในขณะเดียวนั้นมันก็คำรามดังขึ้น
พลังทั้งสองเริ่มต่อสู้กันอย่างรุนแรง!
คาดไม่ถึงว่ามันจะมีพลังไล่เลี่ยกัน!
เมื่อเห็นฉากนี้ ทุกคนก็เบิกตากว้างอ้าปากค้าง
แต่สำหรับฉู่หลิวเยว่แล้ว มันยังไม่เพียงพอ
นางจะต้องหาโอกาสได้เปรียบ และทำลายม่านพลังนี้ให้สำเร็จ!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หัวใจของนางก็เต้นแรง กระบี่หลงหยวนก็มีประกายเปลวเพลิงสีแดงฉานลุกไหม้ขึ้น!
ตู้ม!
ลูกเพลิงพุ่งออกไป! พลังที่สองปะทะกันอย่างดุเดือด!
แกร๊ก!
เสียงแตกที่คมชัด ทันใดนั้นบนม่านพลังสีสันสดใสก็เกิดรอยร้าวขึ้น!
แววตาของฉู่หลิวเยว่เปล่งประกาย!
แต่อย่างใดก็ตาม พลังที่อยู่รอบข้างก็เข้ามาเสริมและซ่อมแซมรอยร้าวนั้นอย่างรวดเร็ว!
ถานไถเฉินและคนอื่นๆ ที่เห็นฉากนั้น ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
ยังดี…ยังดีที่ยังไม่แตก…
ถ้าฉู่หลิวเยว่สามารถบุกเข้าไปในม่านพลังนั้นจริงๆ แล้วละก็ พวกเขาจะมีหน้าอยู่ได้อย่างใด?
แต่อย่างใดก็ตาม นางสามารถทำให้ม่านพลังมีรอยร้าวได้ ก็น่าทึ่งมากแล้ว
…
น้ำเสียงขององค์ปฐมกษัตริย์เคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย
“ม่านพลังนี้อยู่มาพันปีแล้ว แต่ได้รับพลังหล่อเลี้ยงจากหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวง ไม่สามารถทำลายได้ง่ายดาย หากต้องการจะเข้าไป จำเป็นจะต้องแยกมันออกมาโดยตรง!”
เพียงแค่รอยแตกร้าวรอยหนึ่ง มันไม่เพียงพออย่างแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“เยว่เอ๋อทราบแล้ว”
ในเมื่อเป็นเช่นนั้น นางก็กลั้นลมหายใจตั้งสมาธิ พร้อมรวบรวมลมปราณที่อยู่ในร่างกายอีกครั้ง!
ไข่มุกธาราภายในตันเถียนวิ่งหมุนวนอย่างรวดเร็ว!
หลังจากนั้น พลังที่แข็งแกร่งกว่าเมื่อครู่นี้ ก็มารวมตัวกันที่กระบี่หลงหยวน!
สายฟ้าสีเงินที่เหมือนกับมังกรลอยพาดผ่านกระบี่หลงหยวนไปอย่างรวดเร็ว!
“นั่นมันทัณฑ์สวรรค์!”
ในที่สุดกงซุนเซียวก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ พร้อมเบิกตากว้างจ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง!
นางเป็นแค่จอมยุทธ์ระดับหกขั้นสูงไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงมีพลังระดับนี้ได้!
โดยทั่วไปแล้วจอมยุทธ์ระดับเจ็ดขึ้นไปถึงจะสามารถบรรลุระดับพลังขั้นนี้ได้!
แต่กงซุนเซียวและคนอื่นๆ กลับไม่รู้ว่าแรงกดดันของทัณฑ์สวรรค์นี้ ไม่ได้มีผลอันใดกับนางเลย
ท้ายที่สุดแล้วในวันที่นางหลอมกระบี่เทพเมฆาสำริด ทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นนางก็เป็นคนเรียกออกมาเอง
กระบี่ลงหยวนยอมรับนางเป็นเจ้านาย ดังนั้นทุกอย่างจึงอยู่ภายใต้การควบคุมของนาง!
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าจริงจัง พร้อมลงดาบครั้งที่สอง!
เมื่อเห็นว่าฉู่หลิวเยว่ไม่ยอมแพ้ ถานไถเฉินก็อดที่จะแค่นหัวเราะเสียงเย็นไม่ได้
“บ้าไปแล้ว…”
เขายังพูดไม่ทันจบ เสียงของเขาก็หยุดลงอย่างกะทันหันเหมือนมีใครมาอุดที่ลำคอ!
อีกทั้งคนอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ ก็มีสีหน้าเหลือเชื่อเช่นกัน
…คาดไม่ถึงว่าตำแหน่งตรงกลางของม่านพลังจะถูกแยกออกจนเป็นรูจริงๆ!
แต่ไม่มีเสียงอันใดเล็ดลอดออกมาเลย!
กระบี่เล่มนั้นฟันลงไปอย่างไร้เสียง ไร้ร่องรอย คาดไม่ถึงว่าจะแยกม่านพลังออกมาได้โดยตรง!
หากสังเกตอย่างละเอียดก็จะพบว่าขอบที่ถูกแยกออกจากกันนั้นมีเปลวไฟสีแดงลุกโชนขึ้น!
เหมือนว่าจะเป็นเพราะเปลวเพลิงเหล่านั้นที่ทำให้ม่านพลังเหล่านั้นไม่สามารถกลับมาประสานกันได้!
แต่ในทางกลับกันทำให้รูนั้นขยายกว้างมากขึ้นอีกด้วย!
ผู้อาวุโสฮวาเซียนและคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้าง ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก!
ในตอนที่กระบี่หลงหยวนถูกดึงออก ม่านพลังนี้ก็ถูกทำลายอย่างไร้เสียง!
แม้กระทั่งแรงกดดันที่อยู่บนตัวของพวกเขาก็ลดลงไปมาก!
ทุกคนต่างเงียบกริบ และมองไปยังผู้หญิงชุดแดงที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยแววตาตกใจ
รูปร่างผอมเพรียว สูง ปอยเส้นผมปลิวสลวย เสื้อผ้าพริ้วไสว
นางถือกระบี่เล่มยาวสีดำเอาไว้ในมือ เปลวเพลิงลุกโชน ราวกับเทพเจ้าแห่งสงครามที่เพิ่งออกมาจากนรก!
ในตอนนั้นเอง แรงกดดันที่อยู่รอบตัวของนางก็หนักขึ้น จนทำให้คนอื่นต้องยอมจำนนอย่างห้ามไม่ได้!
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่รูที่ฉีกขาดบนม่านพลังนั้น พร้อมถอนหายใจออกมาในใจ
นางหมุนตัวกลับไป เบี่ยงสายตาไปมองถานไถเฉิน ริมฝีปากยกยิ้มขึ้น เป็นรอยยิ้มที่โอ้อวดตนเอง!
“จักรพรรดิไหวเหริน ท่านเป็นคนบอกให้ข้าช่วยเบิกตาให้ท่านไม่ใช่หรือ? เมื่อครู่นี้…ท่านมองมันอย่างชัดเจนแล้วหรือยัง?”
ถานไถเฉินกระอักเลือดออกมาเต็มริมฝีปาก