ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1639 เจ้านี่น่ารำคาญมาก
ตอนที่ 1639 เจ้านี่น่ารำคาญมาก
……….
เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ความจริงแล้วก็เกินความคาดหมายของหนานอวี่สิงและคนอื่นไปอย่างมาก
ในขณะนั้นที่หนานอีอีถูกคำพูดของหรงซิวแทงใจดำ นางรู้สึกรับไม่ไหวอย่างรุนแรง จึงร้องไห้แล้ววิ่งหนีไป
หลังจากที่หนานอวี่สิงติดตามไปแล้ว พวกเขาก็เห็นว่าหนานอีอีวิ่งเข้าไปในอาณาเขตของป่าวิญญาณสีชาดโดยไม่รู้ตัวแล้ว
ภายในใจของเขารู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก และต้องการรีบไปนำตัวนางกลับมา
เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วป่าวิญญาณสีชาดแห่งนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่ผ่านไปยาก แต่ด้วยสถานการณ์ของหนานอีอีในตอนนี้ การเข้าไปคนเดียวจะเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก!
เดิมทีหนานอวี่สิงจะโน้มน้าวให้นางออกมา จากนั้นพวกเขาค่อยเข้าไปพร้อมกับผู้อาวุโสทั้งสองคน
แต่หนานอีอีสติแตกเป็นอย่างมาก วิ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่าวิญญาณสีชาดอย่างไม่คาดคิด
ความจริงแล้วหลังจากนั้นไม่นานหนานอวี่สิงก็สามารถไล่ตามนางได้ทัน
แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ ตอนที่หนานอีอีวิ่งเข้าไปในป่าวิญญาณสีชาด พลังปราณดั้งเดิมบนร่างกายเดือดพล่านเป็นอย่างยิ่ง
และนั่นก็นับว่าเป็นการก่อเรื่องใหญ่เลยก็ว่าได้
เมื่อผู้อาวุโสไป๋ถงและผู้อาวุโสอูเผิงติดตามมาถึง บรรยากาศรอบข้างก็ผิดปกติไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ใบไม้เหล่านั้นก็เริ่มร่วงหล่น และเข้าโจมตีหนานอีอี!
บาดแผลบริเวณไหล่ของนาง ก็ได้มาจากช่วงเวลานั้นนั่นเอง
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ต้องรับมือกับอันตรายนี้ไปด้วย และวิ่งพุ่งทะยานออกไปด้านนอกพร้อมกัน
โชคดีที่ผู้อาวุโสทั้งสอง รวมถึงหนานอวี่สิงมีฝีมือไม่อ่อนด้อยจึงสามารถเดินทางมาถึงที่นี่ได้
ดังนั้นกว่าจะเห็นผู้คนได้ก็ยากลำบากยิ่ง พวกเขาจึงต้องการจะขอความช่วยเหลือ
คิดไม่ถึงว่าเมื่ออีกฝ่ายได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา พวกเขาจะรีบวิ่งออกไปเช่นนี้!
หนานอวี่สิงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก หลังจากมองเห็นใบหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจนแล้ว อารมณ์ของหนานอวี่สิงก็พุ่งสู่จุดสูงสุด
“เหตุใดถึงเป็นพวกเจ้าได้?”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที แม้กระทั่งฝีเท้าก็ช้าลงไปหนึ่งส่วน
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกขำขึ้นมาในใจ
เห็นได้ว่าพวกเขาเป็นคนวิ่งมาที่นี่เอง แล้วยังพาอันตรายที่ร้ายแรงติดตัวมาอีกด้วย คาดไม่ถึงว่าเขายังจะกล้าถามคำถามแบบนี้ออกมาอย่างไม่ละอาย?
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา!”
องค์ปฐมกษัตริย์หันกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าใบไม้สีชาดเหล่านั้นไล่ติดตามมาอย่างบ้าคลั่ง คิ้วก็ขมวดแน่นขึ้นเป็นปม ก่อนจะเริ่มวิ่งให้เร็วขึ้น
เมื่อเห็นว่าพวกเขาวิ่งหนีออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง หนานอวี่สิงก็ยิ่งรู้สึกโมโหมากกว่าเก่า
ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายรังแกอีอี พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างใด!
เดิมทีทุกอย่างก็เตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาไม่หยุดหย่อน!
ป่าวิญญาณสีชาดยากจะต่อกรมากเพียงใด ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้!
หนานอวี่สิงกัดฟันกรอด
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ลากพวกเขาลงน้ำไปด้วยกันเลยดีกว่า!
หากเขาออกไปไม่ได้ อย่างนั้น… อีกฝ่ายก็จะต้องอยู่ที่นี่ด้วย!
เมื่อคิดได้ดังนั้น หนานอวี่สิงก็รีบเพิ่มความเร็ว!
ครั้งนี้ลมปราณดั้งเดิมในร่างกายของเขาเข้มข้นมากกว่าเดิม!
แม้กระทั่งใบไม้ที่อยู่โดยรอบก็เริ่มร่วงหล่นลงมา จากนั้นก็พุ่งมาโจมตีเขา!
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ทางด้านหลัง หรงซิวก็หันกลับไปมอง ในแววตามีจิตสังหารพาดผ่าน
เขาขยับฝ่ามือเล็กน้อย แต่ก็ถูกองค์ปฐมกษัตริย์ห้ามเอาไว้
“หรงซิว! ห้ามโคจรพลังปราณดั้งเดิมเด็ดขาด!”
พวกเขากำลังจะออกจากที่นี่ได้แล้ว หากลงมือในตอนนี้ ทุกอย่างจบสิ้นแน่นอน!
ขณะนั้นเองหนานอวี่สิงวิ่งพุ่งตรงมาทางด้านหน้าของพวกเขาแล้ว
พรึ่บๆ!
ร่างกายของเขาถูกใบไม้เหล่านั้นกรีดเป็นแผลหลายจุด เลือดไหลออกมา
แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลย
ลำแสงเย็นยะเยือกสว่างวาบ กระบี่เล่มยาวปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือของเขา จากนั้นก็พุ่งตรงไปที่หรงซิว!
อย่างใดก็ตามเมื่อกระบี่เล่มนั้นกำลังจะแทงเข้าที่ร่างของหรงซิว ทันใดนั้นหนานอวี่สิงก็เปลี่ยนทิศทาง หันไปโจมตีทางฉู่หลิวเยว่อย่างกะทันหัน!
เดิมทีเขาหมายจะโจมตีฉู่หลิวเยว่อยู่แล้ว!
ทันใดนั้นเองแววตาของหรงซิวก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่นที่ปั่นป่วน!
ในตอนที่เขากำลังจะลงมือ ทันใดนั้นด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็มีแสงสีทองคำชาดสว่างวาบขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
ในตอนนั้นหนานอวี่สิงรู้สึกว่าตนเองตาพร่าไป เมื่อหันกลับไปมองเขาก็เห็นว่าเด็กหญิงอายุสามสี่ขวบปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา
เด็กหญิงคนนั้นตัวเล็กมาก นางสวมกระโปรงใบบัวเปล่งประกายสีทองคำชาด เท้าเล็กๆ ทั้งสองข้างเปลือยเปล่า บนศีรษะมีมวยผมอยู่สองข้างพร้อมผูกด้วยเชือกแดงกระดิ่งสีทอง
นางงดงามมาก และน่ารักยิ่ง
ดวงตาสีดำขลับกลมโต ดูๆ ไปแล้วไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก
หนานอวี่สิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เหตุใดเด็กผู้หญิงคนหนึ่งถึงปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันล่ะ?
หรือว่าจะเป็นลูกของทั้งสองคนนี้?
แต่ว่าหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วก่อนหน้านี้พวกเขาซ่อนเด็กคนนี้เอาไว้ที่ใด…
“เจ้าน่ารำคาญมากเลยนะ”
ทางเขายังไม่ทันได้ครุ่นคิดอย่างชัดเจน คำพูดของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าก็เข้ามากระทบโสตประสาทอย่างกะทันหัน
นางยกมือเล่นกับกระดิ่งที่อยู่บนศีรษะ สีหน้าไร้เดียงสา แต่กลับมีความเกียจคร้านแฝงอยู่หลายส่วน และมีท่าทีที่เมินเฉย
หนานอวี่สิงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีประกายจิตสังหารปรากฏขึ้นบนใบหน้า
ไม่ว่านางจะเป็นใคร!
ในเมื่อนางติดตามพวกคนเหล่านี้ เขาก็จะฆ่าทั้งหมด!
การกระทำของเขายังไม่หยุดชะงัก กระบี่อันแหลมคมก็แทงตรงไปยังฝ่ายตรงข้าม!
หากกระบี่แทงลงไปมันจะต้องทะลุหัวใจเด็กหญิงคนนี้อย่างแน่นอน!
ในที่สุดถวนจื่อก็เลิกสนใจกระดิ่งบนศีรษะ แล้วมองตรงไปด้านหน้า
ปลายกระบี่อยู่ห่างจากระหว่างคิ้วเพียงแค่เอื้อม!
ปลายผมของนางปลิวไสวไปตามลมหนาว ชายกระโปรงก็ปลิวตามไปด้วย
มุมปากของหนานอวี่สิงปรากฏรอยยิ้มเยาะเย้ยถากถาง
อย่างใดก็ตามในวินาทีต่อมา สีหน้าของเขากลับแข็งค้าง
เพราะว่า… กระบี่ของเขานั้น มันหยุดลงอย่างกระทันหัน!
ปลายกระบี่ที่แหลมคมถูกนิ้วเล็กๆ อวบอ้วนจับเอาไว้
ในตอนนั้นหนานอวี่สิงไม่สามารถตอบสนองได้ชั่วขณะ ‘เด็ก เด็กผู้หญิงคนนี้สามารถใช้มือขัดขวางการโจมตีของเขาได้?’
เป็นไปได้อย่างใด!
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้แรงเต็มสิบส่วน แต่ก็ทุ่มแรงไปถึงเจ็ดแปดส่วน!
แต่เด็กเล็กๆ เพียงคนหนึ่ง เหตุใดถึง…
กร๊อบ!
เสียงแตกละเอียดดังขึ้นอย่างชัดเจน
หนานอวี่สิงเบิกตากว้างมองกระบี่ของตนเอง คาดไม่ถึงว่ามันจะถูกทำลายโดยเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
วินาทีต่อมา เขายังไม่ทันได้ตอบสนองอันใด แต่ร่างเล็กนั้นกลับพุ่งตัวเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว!
เร็วมาก!
หนานอวี่สิงรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
เดิมทีเขาไม่สามารถสังเกตได้ถึงระลอกคลื่นพลังปราณดั้งเดิมจากร่างกายของอีกฝ่ายเลย!
เหตุใดนางถึงมีท่าทางที่รวดเร็วเช่นนี้!
แต่ เขาไม่มีเวลาไปคิดเรื่องเหล่านี้แล้ว
ตู้ม!
เสียงหนึ่งดังขึ้น
ความเจ็บปวดที่รุนแรงลุกลามจากท้องน้อยของเขาแล้วแผ่กระจายอย่างรวดเร็ว!
แต่ถวนจื่อขยับเข้ามาหาเขาโดยตรง หมัดของนางก็ต่อยเข้าที่ร่างกายของเขา!
หนานอวี่สิงปล่อยมือออกโดยไม่รู้ตัว กระบี่จึงหล่นลงพื้นเสียงดัง “เกร้ง”
ในขณะเดียวกันนั้นเองร่างของเขาก็ลอยกระเด็นออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระแทกพื้นอย่างแรง!
“พี่ใหญ่!”
“คุณชายใหญ่!”
หนานอีอีและคนอื่นๆ ที่มองสถานการณ์เหล่านั้นอยู่ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เนื่องจากความเจ็บปวด หนานอวี่สิงจึงต้องขดงอตัวเป็นกุ้ง
เขารู้สึกว่ากระดูกในร่างกายของเขาน่าจะหักไปหลายท่อน อีกทั้งอวัยวะภายในก็ถูกบีบรัด ความเจ็บปวดอันแสนสาหัส ไม่รู้ว่ามีอันใดแตกร้าวหรือไม่
ใบหน้าของเขาซีดขาว เหงื่อเย็นๆ ไหลท่วมร่างกาย จนแทบจะเป็นลมสลบลงไป
ท่ามกลางความมึนงง ภายในสมองของเขา มีเพียงความคิดหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาเท่านั้น
เด็กหญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่ คาดไม่ถึงว่า… คาดไม่ถึงว่าจะมีพลังการต่อสู้แข็งแกร่งขนาดนี้!
กร๊อบ…
ได้ยินเพียงเสียงกร๊อบแกร๊บ
หนานอวี่สิงก็ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก จากนั้นก็ต้องตกใจที่มองเห็นใบไม้สีชาดจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังพุ่งเข้ามาโจมตีตนเอง!
“อ๊าก…”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องทั่วป่า
ถวนจื่อกางแขนสองข้างออกแล้วยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“บอกแล้วว่าเจ้ามันน่ารำคาญ”
……….