ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1597 ทำตามขั้นตอนเถอะ
ตอนที่ 1597 ทำตามขั้นตอนเถอะ
……….
นางยืนยันว่าจะพาถวนจื่อกลับไป ที่นางมาในครั้งนี้ก็เพื่อมาทำความรู้จักกับบรรพบุรุษ เพราะหลังจากนี้ก็นับว่าเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว
แม้ว่าในตอนนี้ สถานที่แห่งนี้จะสามารถเรียกว่า “บ้าน” ได้หรือไม่นั้นก็ยังไม่ทราบ แต่การทำความเคารพบรรพบุรุษนั้นสำคัญที่สุด
ไม่อย่างนั้นจะถือว่ามาเสียเที่ยวแล้วไม่ใช่หรือ?
“อ่า? อื้อ ดีเลย ดีมากเลย!”
ถวนจื่อได้ยินว่าสามารถจากไปได้แล้ว ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
แค่ทำตามขั้นตอนไม่น่าจะมีอันใดยุ่งยาก! ไม่ว่าอย่างใดหากสุดท้ายแล้วสามารถออกจากที่นี่ได้ก็จะดีอย่างยิ่ง!
ฉู่หลิวเยว่ลูบศีรษะของอีกฝ่ายเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มคนไม่กี่คนที่ยังแข็งค้างอยู่ที่เดิม
“ท่านประมุขอี้เจา ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาที่ท่านมีให้ เพียงแต่ว่าตอนนี้ถวนจื่อยังเด็กเกินไป อีกทั้ง… อีกนานหลังจากนี้นางน่าจะต้องติดตามข้าไป ตำแหน่งนายน้อยนี้ เกรงว่านางจะไม่สามารถรับเอาไว้ได้ ข้าว่าท่าน… ถอนคำพูดเสียจะดีกว่า”
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนหันมามองนางเป็นตาเดียว อารมณ์ของพวกเขาซับซ้อนสับสนเป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วเรื่องนี้ คนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุด นอกจากถวนจื่อแล้วก็คือซั่งกวนเยว่
นางเป็นเจ้านายของถวนจื่อ หากถวนจื่อสามารถรับตำแหน่งนายน้อย เช่นนั้นตำแหน่งของนางก็จะสูงขึ้น อย่างน้ำขึ้นเรือย่อมสูง
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงหากหลังจากนี้ถวนจื่อได้เป็นประมุข
เมื่อถึงเวลานั้นภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงทั้งหมดก็จะต้องติดตามนางไปด้วย
ทุกคนเชื่อฟังถวนจื่อ ส่วนถวนจื่อก็จงรักภักดีต่อนาง
เท่ากับว่าเผ่าหงส์ทองคำทั้งหมดกลายเป็นผู้สนับสนุนอันทรงพลังของนาง!
ซั่งกวนเยว่ไม่มีทางไม่เข้าใจเรื่องนี้
แต่คาดไม่ถึงว่านางจะปฏิเสธโดยตรง…
อี้เจาขมวดคิ้วแล้วมองหน้านาง ความรู้สึกที่อยู่ภายในใจก็เปลี่ยนไปหลายส่วน
… ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ ไม่เหมือนกับมนุษย์ผู้อื่นจริงๆ
สิ่งเย้ายวนขนาดใหญ่มาวางอยู่ตรงหน้า มีใครบ้างที่จะสามารถปฏิเสธมันได้?
เมื่อพิจารณาจากความใกล้ชิดของถวนจื่อ ขอเพียงแค่นางสั่งให้ถวนจื่อไปแย่งชิงมา ถวนจื่อจะต้องตอบตกลงอย่างไม่อิดออดแน่นอน
แต่นางกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น นางปฏิเสธตำแหน่งเหล่านั้นแทนถวนจื่อ
ดวงตาดำขลับคู่นั้นเหมือนว่าจะสว่างวาบขึ้น
กระจ่างใส ไร้มลทิน ไม่มีคำพูดโกหกหรือไม่อยากละทิ้งตำแหน่งนี้
… เหมือนว่านางไม่ได้สนใจตำแหน่งเหล่านี้จริงๆ
อี้เจาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง
“ถวนจื่อก็คิดเช่นนั้นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มแล้วก้มหน้ามองถวนจื่อ
ถวนจื่อเงยหน้าขึ้น แล้วพูดอย่างชัดเจนว่า
“ตำแหน่งนายน้อยมันมีอันใดดีกัน? ข้าอยากจะติดตามอาเยว่ไปต่างหาก!”
สีหน้าของนางนั้นบริสุทธิ์และผ่อนคลาย แต่ทุกคำที่พูดออกมาล้วนจริงใจ
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
ถวนจื่อดูเหมือนว่าอายุยังน้อย แต่ความจริงแล้วอีกฝ่ายติดตามนางมาหลายปี เรื่องราวส่วนใหญ่ มันก็รู้อย่างชัดเจน
แต่มันยังคงเลือกทำเช่นนี้อย่างไม่ลังเล
แล้วนางจะไม่รู้สึกซาบซึ้งได้อย่างใด?
ยังดีที่เรื่องราวเหล่านี้น่าจะสามารถแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตอนนั้นนางจะได้พาถวนจื่อออกไปจากที่นี่ได้
หลังจากนี้จะได้มีชีวิตอยู่อย่างผ่อนคลายแล้ว
เมื่อทุกคนได้ยินถวนจื่อพูดเช่นนี้ พวกเขาจึงมีสีหน้าแตกต่างกันออกไป
คนจำนวนไม่น้อยลอบสบสายตากัน
มีบางคนรู้สึกเสียดาย บางคนก็ดูแคลน บางคนประชดประชัน และบางคนที่คิดจะคัดค้าน
พวกเขาคิดว่าการที่ถวนจื่อติดตามซั่งกวนเยว่ต่อไป และปฏิเสธตำแหน่งนายน้อย เป็นเรื่องโง่เขลาอย่างไม่ต้องสงสัย
คนมากมายต้องการแย่งชิงตำแหน่งนี้ แต่นางกลับสละสิทธิ์
นี่มัน… โง่อย่างไม่มีทางรักษาได้!
…
ผู้อาวุโสอี้กงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ท่านประมุข ในเมื่อถวนจื่อพูดออกมาเองเช่นนี้แล้ว ท่านยังจะยืนหยัดต่อไปหรือ?”
ผู้อาวุโสอี้ซังเหลือบสายตาหันไปมองซั่งกวนเยว่อย่างลึกซึ้ง
ไม่รู้ว่าแม่นางคนนี้มีความสามารถระดับไหนกันแน่ คาดไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้ถวนจื่อยอมติดตามต่อไปอย่างเต็มใจ อีกทั้ง… ยังยินยอมที่จะเสียสละโอกาสอันล้ำค่านี้อย่างไม่ลังเล
การที่มีสายเลือดบริสุทธิ์แต่ไม่สามารถเป็นนายน้อยได้นั้น มันช่าง… น่าเสียดายจริงๆ
“ในเมื่อเจ้าไม่อยาก… ก็ตามใจเจ้าก็แล้วกัน”
แน่นอนว่าคำพูดนี้เขากำลังพูดกับถวนจื่อ
คนจำนวนไม่น้อยได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกลังเลขึ้นมา
ท่านประมุขนี้ชอบถวนจื่อจริงๆ เลยนะ… แม้กระทั่งคำพูดแบบนี้ก็ยังพูดออกมาแล้ว
เขาแทบจะถวายตำแหน่งนายน้อยให้ แต่คาดไม่ถึงว่าถวนจื่อเพียงแค่พูดว่าไม่เอาหนึ่งประโยค และยังไม่ไหวหน้าเขาเลย เขานั้นก็ไม่โกรธ สุดท้ายคาดไม่ถึงว่าเขามีเพียงแต่ความเสียใจเท่านั้น
แต่หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่อยู่ในจัตุรัสแห่งนี้ เขาจะสามารถได้รับการปฏิบัติเช่นนี้หรือไม่?
อย่างใดก็ตามมีบางคนก็คิดขึ้นมาได้ว่า สายเลือดบริสุทธิ์มีความแตกต่างกันจริงๆ ด้วย
เดิมทีพวกเขาก็ไม่สามารถเทียบกับถวนจื่อได้อยู่แล้ว ท่านประมุขจะลำเอียง ก็เป็นเรื่องปกติ
ก่อนหน้านี้ที่เขาปฏิบัติต่ออี้หราน ก็ดูใจกว้างเหมือนกันไม่ใช่หรือ?
เพียงแต่ว่าถวนจื่อได้ทำพันธสัญญากับมนุษย์
“ท่านประมุขอี้เจา ครั้งนี้ข้าจะพาถวนจื่อกลับไปด้วย ซึ่งเหตุผลว่าเหตุใดนั้น ท่านน่าจะรู้ดีที่สุด ในเมื่อตอนนี้การพนันของพวกเราเสร็จสิ้นลงแล้ว เช่นนั้น… ข้าก็หวังว่าถวนจื่อสามารถเข้าร่วมพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษได้อย่างราบรื่น ถือว่าเป็นการกลับเผ่าอย่างเป็นทางการ”
ฉู่หลิวเยว่พูดความต้องการของตนเองออกมาอย่างเรียบง่าย
อี้เจาเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ
แม้ว่าจะไม่ได้เป็นนายน้อย แต่ถวนจื่อก็มีสายเลือดบริสุทธิ์ที่หาได้ยากของเผ่าหงส์ทองคำ หนึ่งพันปีจะมีสักครั้ง ไม่ว่าอย่างใดก็ตามก็สมควรที่จะต้องกลับมา
“ข้าเองก็คิดเช่นนี้อยู่พอดี”
อี้เจาเก็บซ่อนความรู้สึกเสียดายในใจเอาไว้ ก่อนจะยกมือชี้ไปทางสัญลักษณ์ที่อยู่ตรงกลางจัตุรัส
“ถวนจื่อ ทุกคนเขาได้ทดสอบกันไปพอประมาณแล้ว เจ้าเองก็ไปบ้างเถอะ”
ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ทุกคนก็ได้เห็นถวนจื่อเปิดเส้นชีพจรที่สี่กับตาตัวเอง การทดสอบครั้งนี้ ก็ทำเพียงตามขั้นตอนเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าถ้าประมุขยอมแพ้แล้ว คนจำนวนไม่น้อยก็ลอบถอนหายใจออกมา
ในที่สุดความตึงเครียดก็ลดลง
ถวนจื่อเองก็ไม่ได้ใส่ใจอันใดมาก นางเดินออกไปด้วยขาสั้นๆ
เท้าขาวเปลือยเปล่าเหยียบลงไปที่สัญลักษณ์โดยตรง
จากนั้นนางก็ก้มหน้าลงมอง
อี้เจากล่าวเตือนว่า
“ถ่ายทอดเปลวเพลิงที่อยู่ในร่างกายของเจ้าลงไปก็เพียงพอแล้ว”
เมื่อดูจากท่าทางเหมือนว่าเขาต้องการจะลงมือชี้แนะด้วยตนเอง
ฉู่หลิวเยว่จึงอดก้มหน้าลงไม่ได้ เพราะนางเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาแล้ว
ภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ไม่ว่าอย่างใดนางก็คิดไม่ถึงว่า ท่านประมุขที่ดูเหมือนเย็นชาสูงส่งท่านนี้ จะสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ขนาดนี้…จะว่าอย่างใดดี ตอนนี้เขาเห็นว่าถวนจื่อเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขาไปแล้ว
เป็นความรู้สึกที่ว่า “จะถือไว้ในมือก็กลัวตก จะอมไว้ในปากก็กลัวละลาย”
ดังนั้นทำให้รู้สึกว่าแตกต่างจากครั้งแรกที่พวกนางมาถึงที่นี่โดยสิ้นเชิง
โชคดีที่หลังจากงานกราบไหว้บรรพบุรุษเสร็จสิ้นถวนจื่อก็จะจากไปพร้อมกับนาง
ถ้าหากหลังจากนี้ถวนจื่อยังอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าท่านประมุขอี้เจาจะเอาใจนางอย่างใด?
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเหนื่อยใจแทนทุกคนในจัตุรัสแห่งนี้
ถวนจื่อฉลาดมาก เมื่อลองเพียงครั้งเดียวก็ได้แล้ว
นางยกมือที่เต็มไปด้วยเนื้อขึ้น
ตู้ม!
เปลวเพลิงสีทองคำชาดปรากฏขึ้นในทันที!
อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
คนจำนวนไม่น้อยแสดงสีหน้าตกใจออกมา
เปลวเพลิงของสายเลือดบริสุทธิ์ เหมือนว่าจะมีความร้อนและบริสุทธิ์มากกว่าเปลวเพลิงของพวกเขา
พรึ่บ!
ได้ยินเพียงเสียงสะท้อนเล็กน้อย จากนั้นเหนือสัญลักษณ์เส้นที่หนึ่งก็มีเปลวเพลิงส่องประกายในทันที!
สีหน้าของผู้อาวุโสอี้ซังเปลี่ยนแปลงไปอย่างอดไม่ได้
“รวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”
การตอบสนองของสัญลักษณ์นี้ เหมือนจะอ่อนไหวมากกว่าการทดสอบครั้งก่อนหน้า
ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ประกายเพลิงสายที่สองก็ถูกจุดขึ้น!
ต่อมา ก็เป็นสายที่สาม!
เสียงอึกทึกครึกโครมที่อยู่รอบข้างก็ทยอยจางหายไป สายตาของทุกคนจับจ้องมาทางนี้อย่างไม่รู้ตัว
ตอนที่ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้น เห็นว่าประกายไฟสายที่สี่ถูกจุดติดขึ้นพร้อมเสียงดัง “พรึ่บ”!
……….