ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1596 การเผชิญหน้า
ตอนที่ 1596 การเผชิญหน้า
……….
อี้เจาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วจ้องมองไปทางถวนจื่อตาเขม็ง
เมื่อสามารถสัมผัสได้ถึงสายตาของเขา ทุกคนก็รู้สึกตกตะลึงไป
ภายในใจของผู้อาวุโสอี้กงมีความไม่สบายใจพวยพุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง
“ท่านประมุข…”
อี้เจาไม่ได้สนใจเขา และพูดต่อว่า
“แม้ว่าถวนจื่อจะยังเด็กนัก แต่มันก็มีสายเลือดบริสุทธิ์ อีกทั้งยังสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แล้ว และเปิดเส้นชีพจรที่สี่ได้ ตำแหน่งนายน้อยนี้… นางสมควรได้รับมัน!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ทั่วทั้งจัตุรัสเกิดความเงียบงัน!
แม้กระทั่งฉู่หลิวเยว่ก็ยังเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความตกใจยากจะเก็บงำ แล้วหันไปมองทางอี้เจา
คาดไม่ถึงว่าถวนจื่อจะได้แต่งตั้งเป็นนายน้อยแห่งเผ่าหงส์ทองคำ?
นี่มัน… เป็นเรื่องล้อเล่นใช่หรือไม่?
ความจริงแล้วใช่ว่าฉู่หลิวเยว่จะไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน
หากว่าตามตรงแล้วถวนจื่อสามารถแสดงฝีมือและพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมออกมา ซึ่งเป็นการบดขยี้คู่แข่งทั้งสนามได้แล้ว
แต่ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย ฉู่หลิวเยว่เองก็รู้ว่าการที่ถวนจื่อผูกพันธสัญญากับนางอยู่ ตำแหน่งนายน้อยนี้ ก็เป็นเพียงแค่ดวงจันทร์ในเงาน้ำ บุปผาในกระจก
หากลองเปลี่ยนความคิด ถ้านางเป็นประมุขเผ่าหงส์ทองคำ นางก็สามารถเตะถวนจื่อออกจากตัวเลือกได้ในทันที
แต่นางคิดไม่ถึงว่าอี้เจาจะเลือกเช่นนี้!
หรือว่าเขาจะ… ไม่รู้สึกกังวลเลยว่าจะโดนคนประชดประชันเสียดสี หรือเขาจะไม่กังวลเลยว่านางจะสนับสนุนให้ถวนจื่อทำสิ่งที่อันตรายต่อเผ่าพันธุ์?
หรือทำสิ่งที่มากกว่านั้น…
เมื่อเขาทำเช่นนี้จะต้องทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน!
แต่สีหน้าของเขายังสงบนิ่ง เหมือนกับว่า… ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย
ถวนจื่อจับมือนางแน่น แล้วกะพริบตาปริบๆ เหมือนกับว่ายังไม่ค่อยเข้าใจว่ามันเกิดอันใดขึ้น
เมื่อเห็นว่าบรรยากาศโดยรอบแปลกไป นางก็ไม่ได้ใส่ใจอันใดมากนัก ได้แต่ลูบมวยผมของตนเองอย่างเบื่อหน่าย
… นางไม่ได้มีความสนใจตำแหน่งนายน้อยอันใดนั่นเลย นางแค่ต้องการจะอยู่กับอาเยว่เท่านั้น
เมื่อใดจะได้ออกเดินทางกันแน่นะ…
เมื่อสัมผัสถึงความคิดของถวนจื่อ หางตาของฉู่หลิวเยว่ก็กระตุกขึ้นมา
เดินทาง?
เกรงว่าวันนี้จะไม่สามารถเดินทางได้แล้ว!
…
“ท่านประมุข เรื่องการเลือกตำแหน่งนายน้อย ท่านจะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน!”
ผู้อาวุโสอี้กงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาสงบสติอารมณ์ของตนเองลงอย่างยากลำบาก
แต่น้ำเสียงและท่าทางของเขาดูเป็นกังวลอย่างยิ่ง ไม่เหมือนกับใบหน้าที่สงบราบเรียบเลย
“ถวนจื่อมีพรสวรรค์ไม่เลวเลย แต่ท่านอย่าลืมนะว่า นางทำพันธสัญญากับมนุษย์ไปแล้ว! ดังนั้นจะให้นางรับตำแหน่งนายน้อยได้อย่างใด!”
นั่นไม่เท่ากับว่าเผ่าหงส์ทองคำทั้งหมดกลายเป็นทาสของซั่งกวนเยว่หรอกหรือ?
ซึ่งเขาไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน!
แม้กระทั่งผู้อาวุโสอี้กงที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้อาวุโสอี้ซังมาโดยตลอด ในตอนนี้ก็ขมวดคิ้วแน่น หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง เขาก็พูดออกมาว่า
“สิ่งที่ผู้อาวุโสสูงสุดพูดใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล ท่านประมุข เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก ท่านพิจารณาอีกรอบเถอะ?”
อย่างใดก็ตามท่าทางของอี้เจายืนหยัดหนักแน่นเป็นอย่างมาก
“ที่เรียกว่าตำแหน่งนายน้อยนั้น คือการเลือกคนรุ่นเยาว์ที่มีความโดดเด่นมากที่สุด หรือว่าพวกเจ้าคิดว่าถวนจื่อไม่ใช่คนที่เหมาะสมหรอกหรือ? หากตอนนี้เจ้าสามารถหาคนที่แข็งแกร่งมากกว่านางได้ ข้าก็จะเปลี่ยนใจ”
ทุกคนพูดอันใดไม่ออกไปครู่หนึ่ง
แล้วจะให้พวกเขาทำอย่างใดได้!
แม้กระทั่งอี้หรานก็ไม่สามารถต่อสู้กับถวนจื่อได้ คนที่เหลือยิ่งไม่มีหวัง
สายเลือดบริสุทธิ์…
ต้องใช้เวลากี่ปีถึงจะปรากฏมาได้สักคน!
แล้วพวกเขาจะไปเทียบเทียมได้อย่างใด?
“แต่ว่าท่านประมุขตำแหน่งนายน้อยนี้ คือการแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ ถวนจื่อนาง… นางสามารถเข้าออกเผ่าได้ตามใจ อยากจะทำอันใดก็ทำ หลังจากนางสามารถเปิดเส้นชีพจรที่หกได้แล้ว และหากนางต้องการจะเป็นผู้อาวุโสก็สามารถทำได้ เพียงแต่ว่าตำแหน่งนายน้อยนั้น… ไม่เหมาะสมกับนางเลยจริงๆ!”
ผู้อาวุโสอี้ซังพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ
แน่นอนว่าเขาก็ชอบถวนจื่อ
หลายปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นสายเลือดบริสุทธิ์ด้วยตาตนเอง
ภายในระยะเวลาสั้นๆ หนึ่งเดือน ถวนจื่อกลับสามารถแสดงฝีมือและพรสวรรค์ที่เกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก
ที่เผ่าของเรานั้นสามารถมีสายเลือดบริสุทธิ์ได้นั้นถือว่าเป็นพรอันยิ่งใหญ่
แต่ทว่านางกลับทำพันธสัญญากับซั่งกวนเยว่ไปแล้ว!
หากนางได้ครอบครองตำแหน่งนายน้อยจริงๆ แล้วล่ะก็ หลังจากนี้ตำแหน่งประมุขก็ต้องมีซั่งกวนเยว่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน… เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นอย่างใดได้?
ผู้อาวุโสอวี้กงสาวเท้าก้าวขึ้นไปหนึ่งก้าว แล้วพูดโต้แย้งขึ้นว่า
“ท่านประมุข ในบรรดาผู้เยาว์มีคนที่โดดเด่นอยู่จำนวนไม่น้อย บางทีในวันนี้อาจจะยังไม่สามารถเทียบเทียมกับนางได้ แต่ไม่หมายความว่าวันหน้าจะไม่สามารถทำได้! การที่ท่านเลือกนางเป็นนายน้อยโดยตรง มันเป็นการเลือกอย่างสุกเอาเผากิน!”
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามวันนี้เขาก็อับอายขายหน้ากันไปมากแล้ว และก็ยังได้ล่วงเกินท่านประมุขไปไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง
ถ้าเช่นนั้นหากเพิ่มไปอีกครั้งก็คงไม่เป็นไร
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามในวันนี้เขาก็ไม่สามารถยอมให้ตำแหน่งนายน้อยถูกแย่งไปได้เด็ดขาด!
อี้เจาหรี่สายตามอง
ผู้อาวุโสสองคนที่เหลือก็อ้าปากปรามเขาอย่างอดไม่ได้ หากพูดถึงเนื้อความแล้วพวกเขาก็มีความเห็นไม่ต่างกัน แต่ข้อคิดเห็นในการสนับสนุนนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
มีเพียงผู้อาวุโสอี้อวี่ที่ยืนกอดอกอยู่ด้านข้าง ท่าทางของเขาเหมือนกำลังครุ่นคิดอันใดบางอย่าง
แม้ว่าผู้คนในจัตุรัสจะไม่มีเสียงพูดคุยกัน แต่สีหน้าของพวกเขากลับชัดเจนแจ่มแจ้ง
แน่นอนว่าพวกเขาไม่เห็นด้วยอย่างเด็ดขาด
พวกเขายอมเลือกคนที่ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ดีกว่าให้หงส์ทองคำที่มีพันธสัญญากับมนุษย์มาเป็นนายน้อยของตนเอง!
จัตุรัสขนาดใหญ่ตกอยู่ในความเงียบ
…
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตาลงแล้วหันไปมองทางถวนจื่อ
ถวนจื่อเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงสายตาของนาง จึงเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ถวนจื่อ เจ้าอยากเป็นนายน้อยหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ถามอีกฝ่ายในใจ
มือที่จับมวยผมของถวนจื่อนั้นชะงักไปเล็กน้อย แล้วเงยหน้าขึ้นมองด้วยความมึนงง
“เป็นนายน้อยแล้ว จะได้อยู่กับอาเยว่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปาก แล้วมองไปยังดวงตาดำขลับที่ไร้เดียงสาของนาง นางไม่รู้ว่าจะต้องตอบคำถามนี้อย่างใด
ความคิดของถวนจื่อกำลังสับสน
เมื่อครู่นี้นางฟังบางอย่างเข้าใจอย่างคลุมเครือ
คนเหล่านี้ไม่ให้นางเป็นนายน้อยเพียงเพราะว่านางทำพันธสัญญากับอาเยว่
หากต้องการจะเป็นนายน้อย นางจะต้องยกเลิกพันธสัญญา
… ถ้าเช่นนั้นนางจะเป็นด้วยเหตุใดเล่า?
ถวนจื่อส่ายหน้า
“ข้าไม่เป็น”
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“เช่นนั้น… งานกราบไหว้บรรพบุรุษในครั้งนี้ เจ้าก็เข้าร่วมตามกำหนดการเถอะ ข้าเห็นว่าพวกนางเข้าร่วมการทดสอบไปทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็เข้าร่วมด้วย? รอจนกระทั่งเรื่องนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็กลับกันเถอะ ดีหรือไม่?”
……….