ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1573 อาศัย
ตอนที่ 1573 อาศัย
…………….
คำพูดนี้เป็นประโยคที่เรียบง่าย แต่กลับเป็นการเปิดเผยข้อมูลจำนวนมาก และยังทำให้ผู้คนที่อยู่ในจัตุรัสนั้นตกตะลึงไป
พาพวกนางไปที่หุบเขาเฟิ่งหวง?
หุบเขาเฟิ่งหวงเป็นสถานที่พักผ่อนของเผ่าหงส์ทองคำทั้งหมด
หากจะให้หงส์ทองคำตัวใหม่ไปที่นั่นเพียงตัวเดียวก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่เหตุใดถึง… มีชื่อของซั่งกวนเยว่ด้วยเล่า?
อี้หรานคิดว่าตนเองหูฝาดจึงถามกลับอย่างลังเลว่า
“พวกนาง?”
อี้เจาพยักหน้าสีหน้าเรียบนิ่ง เหมือนกับไม่ได้ใส่ใจว่าคำพูดประโยคนี้จะสร้างความปั่นป่วนมากเพียงใด
“ซั่งกวนเยว่จะอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งเดือน”
เขาชะงักไป
“จัดที่พักชั่วคราวให้พวกนางก็พอแล้ว”
แม้ว่าเขาอยากจะส่งซั่งกวนเยว่กลับไปใจจะขาด เมื่อเห็นความใกล้ชิดของนางกับถวนจื่อรู้สึกแสลงใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ในเมื่อได้ทำข้อตกลงกันไปแล้ว เขาก็ไม่สามารถเสียใจภายหลังได้
ในกรณีนี้ให้พวกนางอยู่ด้วยกันจะเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด
บริเวณโดยรอบตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงปกคลุมด้วยความเงียบ
ไม่ว่าอย่างใดพวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของท่านประมุข!
บางคนกวาดสายตามองคนรอบข้าง และเขาก็พบว่าทุกคนล้วนตกตะลึงจนอ้าปากตาค้างเบิกกว้าง
ไม่ใช่ว่า… จะให้นางยกเลิกพันธสัญญาไม่ใช่หรือ?
ที่ให้นางปรากฏตัวที่นี่เพราะอยากจะสั่งสอนนางสักเล็กน้อยไม่ใช่หรือ?
ท่านประมุขรังเกียจเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ใช่หรือ?
แล้วตอนนี้มันคืออันใดกันแน่!
ซั่งกวนเยว่เดินออกจากตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงอย่างไร้รอยขีดข่วน และกำลังจะไปหุบเขาเฟิ่งหวงอีกด้วย?
ท่านประมุขบ้าไปแล้วหรือ?
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าถามคำถามนี้ออกมา
ทุกคนต่างเงียบเสียงเป็นเวลานาน
“อี้หราน เจ้ายังจะเหม่ออันใดอยู่?”
ผู้อาวุโสอี้อวี่เปิดปากพูดเป็นคนแรก เป็นการพูดทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัด
“เจ้าคุ้นเคยกับหุบเขาเฟิ่งหวงเป็นอย่างดี จัดการหาที่พักที่สงบๆ ให้พวกนาง เข้าใจหรือไม่?”
อี้หรานสำลักไปจากนั้นก็หันไปมองผู้อาวุโสอี้กงที่อยู่ด้านข้างอย่างไม่รู้ตัว
ผู้อาวุโสอี้กงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ใบหน้ากลับสู่เรียบเฉยอย่างรวดเร็ว
“ท่านประมุขให้เจ้าทำอันใด เจ้าก็ทำไปเถอะ”
อี้หรานอ้าปากขึ้น
“…ขอรับ”
เขาสะกดกลั้นอารมณ์ที่พวยพุ่งขึ้นมาภายในใจอย่างยากลำบาก และพยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุด ก่อนจะหันไปมองฉู่หลิวเยว่เป็นครั้งแรก
เมื่อครู่นี้ตอนที่อยู่ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ผู้อาวุโสอี้กงเคยพูดเรื่องนี้กับเขามาก่อน ตอนนั้นประมุขพูดอย่างตรงไปตรงมาว่าจะให้พวกนางยกเลิกพันธสัญญา อีกทั้งยังจะมอบความลำบากให้อีกด้วย
แต่ในตอนนี้… เหตุใดสถานการณ์ถึงเปลี่ยนไปได้ล่ะ?
และเขาก็ไม่สามารถเอ่ยปากถามได้
อี้เจามองไปทางฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาราบเรียบ
“อี้หรานเป็นคนหนุ่มของเผ่าที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด เรื่องส่วนใหญ่ล้วนเป็นเขาที่จัดการ ในช่วงนี้หากเจ้ามีเรื่องอันใดก็ไปหาเขาได้เลย”
อี้หรานขมวดคิ้วขึ้น
ผู้อาวุโสอี้กงพูดแย้งขึ้นมาเป็นคนแรก
“ท่านประมุข ช่วงนี้อี้หรานกำลังเตรียมตัวเพื่อเลื่อนขั้นทะลวงด่าน เกรงว่าเรื่องนี้อาจจะไม่สามารถจัดการได้…”
ผู้อาวุโสทั้งหลายมีสีหน้าแตกต่างกันไป
ภายในหนึ่งเดือนนี้มันจะเกิดเรื่องอันใดได้?
แล้วอีกอย่างภายในช่วงเวลานี้ซั่งกวนเยว่คงยุ่งอยู่กับการทะลวงด่าน นางจะมีเวลาไปยุ่งเรื่องอื่นได้อย่างใด
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาพูดให้กับอี้หราน เขาก็ไม่ได้พูดอันใดแบบนี้
แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามีเรื่องยุ่งยากมากขึ้น…
แม้ว่าเขาจะพูดน่าฟัง แต่ความเป็นจริงแล้วเขาแค่ไม่อยากจะเสียเวลาและกำลังมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้
สีหน้าของอี้เจาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสอี้อวี่กลับพูดลองเชิงว่า
“พิธีกราบไหว้บรรพบุรุษกำลังจะมาถึงแล้ว อี้หรานคงกำลังยุ่งอยู่กับการฝึกซ้อม หากถูกเรื่องนี้ทำให้ต้องล่าช้า มันคงจะไม่ดีแน่ และช่วงนี้ข้าก็ว่างอยู่พอดี ถ้าเช่นนั้น… ให้ข้าเป็นคนดูแลพวกนางเองเป็นอย่างใด?”
แม้ว่าเขาจะเป็นหนึ่งในห้าผู้อาวุโส แต่เรื่องสำคัญล้วนแบ่งให้กับอี้กงและอี้ซังจัดการทั้งหมดแล้ว ดังนั้นจึงเหลือเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
ท่าทางของเขาผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
สีหน้าของผู้อาวุโสอี้กงเปลี่ยนไป
“ท่านประมุขข้ากับอี้หรานไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น…”
แต่อี้เจากลับเมินเฉยแล้วเหลือบสายตาไปมองอี้อวี่ก่อนจะพยักหน้า
“เช่นนั้นเจ้าก็พาพวกนางไปเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่ตอบรับหนึ่งเสียง ก่อนจะหันไปโค้งตัวคำนับผู้อาวุโสอี้อวี่พร้อมรอยยิ้ม
“รบกวนผู้อาวุโสอี้อวี่แล้ว”
ความจริงแล้วผู้อาวุโสอี้อวี่ไม่ได้รู้สึกไม่ดีต่อฉู่หลิวเยว่
สำหรับเขาแล้วนางสามารถพาไก่ฟ้าเก้าสีตัวหนึ่งมาอยู่ในจุดนี้ได้ก็นับว่ามีฝีมือไม่เลว
อีกทั้งดูจากเรื่องราวก่อนหน้านี้ นางก็ดีต่อถวนจื่อเป็นอย่างมาก
ความจริงแล้วเรื่องเหล่านี้ก็ยอดเยี่ยมมากแล้ว
ผู้อาวุโสอี้อวี่เชิดคางขึ้นเล็กน้อย
“ตามข้ามา!”
เมื่อพูดจบเงาร่างของเขาก็วูบไหวไปทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว!
ขณะที่ฉู่หลิวเยว่กำลังเคลื่อนไหว ถวนจื่อก็บินตรงไปด้านหน้าอย่างกะทันหัน
นางลากมันกลับมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่ใช่ว่าข้าไปเองไม่ได้เสียหน่อย เจ้าอยู่เฉยๆ ก็พอแล้ว”
ล้อเล่นน่ะ
ต่อหน้าหงส์ทองคำจำนวนมากมายขนาดนี้ จะให้เหยียบบนหลังของถวนจื่อแล้วบินไป นางคงอยากตายมากสินะ?
เมื่อถวนจื่อได้ยินดังนั้นก็กลับมาอย่างเชื่อฟัง
ฉู่หลิวเยว่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สะกิดปลายเท้าเล็กน้อย แล้วรีบพุ่งตัวตามผู้อาวุโสอี้อวี่ไปทันที!
ภายใต้การจ้องมองของสายตาจำนวนนับไม่ถ้วน ในที่สุดเงาร่างของพวกเขาก็ค่อยๆ หายไปจากสันเขา
จนกระทั่งแผ่นหลังของพวกเขาลับตาไป ทุกผู้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ถึงจะดึงสติกลับคืนมาได้
ซั่งกวนเยว่ผู้นั้นจะ…จะอยู่ที่นี่หรอกหรือ?
อีกทั้งยังอยู่กับหงส์ทองคำตัวนั้นด้วย!
เดิมทีพวกนาง… ยังไม่ยกเลิกพันธสัญญากันสินะ?
อี้เจากวาดสายตามองไปรอบๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ยังจะมองอันใดอยู่อีก? ไม่นานก็จะถึงงานพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษแล้ว พวกเจ้าเตรียมตัวแล้วหรือยัง?”
เมื่อได้ยินดังนั้นฝูงชนก็แตกฮือไปในทันที!
ผู้อาวุโสทั้งหลายต่างขอตัวลา เพื่อกลับไปจัดเตรียมงานพิธีกราบไหว้บรรพบุรุษ
อี้เจาไม่ได้พูดอันใด เขาหมุนตัวแล้วกลับเข้าไปในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวง
สถานที่อันคึกคักกลับเงียบลงในทันที
อี้หรานอดหันไปมองทางผู้อาวุโสอี้กงไม่ได้
“อาจารย์ นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?”
…………….