ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1534 แช่แข็ง
ตอนที่ 1534 แช่แข็ง
…………….
สองตาของฉู่หลิวเยว่จ้องเขม็ง หัวใจเองก็เต้นระรัวขึ้นมาอย่างรุนแรงในทันใด!
ก๊อกๆ
เสียงเคาะรัวเป็นจังหวะทั้งรวดเร็วและมีพลัง ทั้งยังจุไว้ซึ่งรูปแบบเฉพาะตัวบางอย่าง
เลือดร้อนระอุไหลโกรกอยู่ในแก้วหูฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะค่อยๆ บังเกิดเป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่แล่นปราดขึ้นมา
รู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าเหมือนกับมีคนถือเอาขวานมาทุบศีรษะของนางอย่างบ้าคลั่ง ด้วยอยากหลบหนีเป็นอิสระอย่างไรอย่างนั้น!
เลือดภายในกายนางไหลเวียนพลุ่งพล่าน ความรู้สึกเจ็บปวดที่ว่าเองก็รุนแรงขึ้นทวีคูณ!
“กี๊!”
ทันใดนั้นเอง สุ้มเสียงร้องก้องกังวานสายหนึ่งพลันดัง
ใจของฉู่หลิวเยว่ตื่นตระหนกยิ่ง นางได้สติขึ้นมาโดยพลัน!
ทั่วทั้งร่างนางสั่นเทิ้มน้อยๆ ในหัวฉายถึงภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ นางถึงได้ตระหนักขึ้นมาได้ว่าตัวเองเกือบถูกเสียงเคาะแปลกประหลาดควบคุมเข้าให้แล้ว!
อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น…
หว่างคิ้วของฉู่หลิวเยว่ขมวดเป็นปม ในใจยังคงหวาดผวา
สตินึกคิดของนางมั่นคงมาแต่ไหนแต่ไร น้อยมากที่จะมึนงงสับสนจากวิธีการเช่นนี้
หากแต่เมื่อครู่ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ นางก็เกือบติดกับดักเข้าแล้ว
เห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งเพียงใด!
หากมิใช่เพราะถวนจื่อเตือนสติของนางกลับมาได้ทัน ต่อไปจะเป็นอย่างไร…สุดแต่จะคาดเดาได้โดยแท้
ฉู่หลิวเยว่สะกดกลั้นลมหายใจ พยายามปรับหัวใจที่เต้นระรัวให้กลับมาสงบ
ก๊อกๆ!
เมื่อลองฟังอีกรอบ สุ้มเสียงนั่นก็มิต่างอันใดกับเสียงเคาะทั่วไปแล้ว
ฉู่หลิวเยว่เองก็ไม่มีความตระหนกหลงเหลืออยู่ในใจอีก
แกร๊ก!
ทันใดนั้นเอง สุ้มเสียงพังทลายแผ่วเล็กพลันแว่วดังเข้ามา
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีในบัดดล!
นางจ้องมองตามไป ก่อนจะพบว่าบนก้อนหินที่อยู่ข้างใต้พลันปรากฏรอยแตกร้าวขึ้นมา!
รอยแตกนั้นยาวเพียงหนึ่งชุ่น ทั้งยังตื้นบางยิ่งนัก
ทว่าเมื่อภาพฉากนี้ฉายชัดในตาฉู่หลิวเยว่ กลับทำให้นางหวั่นกลัวเข้าไปอีก!
ไอเย็นหนาวยะเยือกแผ่กระจายออกมาจากรอยแตกนั่นในทันใด!
ชั่วพริบตา ไอเย็นสายนี้ก็เข้าห่อหุ้มทั่วทั้งร่างของฉู่หลิวเยว่ไว้
นางสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะรีบกระตุ้นพลังปราณดั้งเดิมในร่างตนทันที!
กลุ่มเปลวเพลิงสีทองพวยพุ่งออกมาจากมือนางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะแผ่ปกคลุมทั่วทั้งร่างของนางโดยพลัน
รอกระทั่งไอเย็นสายนั้นถูกเปลวเพลิงอันน่าหวาดหวั่นตัดขาด ฉู่หลิวเยว่ถึงได้ก้มลงมองเบื้องล่าง
บนรอยแตกร้าวมีเกล็ดน้ำแข็งชั้นบางๆ เคลือบเอาไว้อยู่
เพียงแต่เกล็ดน้ำแข็งที่ว่ากลับฉาบด้วยสีแดงเลือด!
ดูแล้วเหมือนกับรูบี้สวยสดที่แตกร้าว ทั้งยังดูราวกับไข่มุกโลหิตแช่แข็งก็มิปาน
งดงาม ทว่าแปลกประหลาดนัก
ไม่ช้า ด้านข้างพลันปรากฏรอยแตกร้าวรอยที่สอง
ด้านบนเองก็ปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งสีเลือดเหมือนกันไม่มีผิด!
กลิ่นคาวเลือดจางๆ แผ่กระจายออกมาจากตรงนั้น
เพราะว่าน้ำในตาน้ำมิใช่น้ำของจริงแต่อย่างใด แต่เป็นของเหลวบริสุทธิ์ที่กลั่นและควบแน่นจากพลังแห่งสวรรค์และโลก ดังนั้นฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ด้านในตาน้ำจึงหายใจได้เป็นปกติ
กลิ่นคาวเลือดสายนั้นลอยอวลมาแตะจมูกนาง
ใจของนางพลันกระตุกเฮือก!
จะให้ของสิ่งนี้แตกไม่ได้เด็ดขาด!
ในสมองของฉู่หลิวเยว่ปรากฏความคิดหนึ่งแล่นผ่าน
นางกัดฟันกรอด สองมือถือกระบี่ ก่อนจะฟันลงไปบนก้อนหินนั้นโดยตรงในทันที!
จังหวะนั้นเอง เกล็ดน้ำแข็งสีเลือดพลันแตกกระจาย!
ทว่าครู่ต่อมา ไข่มุกโลหิตกลมเล็กพวกนั้นก็กลับไปยังตำแหน่งเดิม ก่อนจะรวมตัวเข้าหากันใหม่
ชิ้ง
สุ้มเสียงเสียดสีแสบแก้วหูพลันดังแว่วมา
หินก้อนนั้นถูกกระบี่ชื่อเซียวกรีดเข้าเป็นรอยยาวรอยหนึ่ง
หากแต่น่าเสียดายที่เมื่อเทียบกันแล้ว รอยกรีดนี้ตื้นบางแลจางกว่ารอยที่แตกขึ้นมาจากข้างในหินอยู่มากโข
ฉู่หลิวเยว่กัดฟันกรอด
คิดจะหยุดยั้งมิให้สิ่งที่อยู่ด้านในออกมา คงต้องพึ่งพาพลังอันแข็งแกร่งจากภายนอกมาช่วยสะกด
นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดหลายปีมานี้ ผู้อาวุโสสำนักถึงได้ล่อทัณฑ์สวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนให้เข้ามาที่นี่อยู่ตลอด
โชคไม่ดีที่ก่อนหน้านี้พลังของทัณฑ์สวรรค์ถูกถวนจื่อกลืนกินไปไม่น้อย มันจึงนำมาสู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
มาบัดนี้ หากคิดจะกอบกู้สถานการณ์ หนทางเดียวที่มีคือใช้ค่ายกลปิดผนึกหินก้อนนี้เสีย ใช้พลังที่แข็งแกร่งของมันยับยั้งเอาไว้!
แต่ด้วยพลังของนางในตอนนี้ คิดจะเปิดใช้งานค่ายกลถือเป็นเรื่องที่ทำได้ลำบากมาก
ดังนั้นนางจึงคิดออกแรงสลักค่ายกลลงบนหินโดยใช้กระบี่ชื่อเซียว
ทว่าน่าเสียดายที่สมบัติล้ำค่าอันสูงส่งอย่างกระบี่ชื่อเซียวยังต้องพ่ายแพ้แก่หินก้อนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จนถึงตอนนี้ กระทั่งค่ายกลหนึ่งในสี่ส่วนยังมิทันได้สลัก หินก้อนนี้ก็แตกออกจากด้านในเสียแล้ว!
ดูเหมือนว่าครานี้จะยิ่งลำบากขึ้นไปอีก
รอยแตกบนหินยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บนรอยแตกแต่ละสายล้วนปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งสีเลือดที่แปลกประหลาด
ก่อนจะค่อยๆ กลายเป็นลวดลายที่คุ้นตาเหล่านั้นอยู่ไม่น้อย…เหมือนกับลายที่ปรากฏบนผิวน้ำแข็งก่อนหน้านี้ทุกระเบียดนิ้ว!
ฉู่หลิวเยว่จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองกวัดแกว่งกระบี่ไปทั้งหมดกี่รอบแล้วกันแน่
ทุกครั้งที่นางแกว่งกระบี่ ล้วนแต่ใช้แรงทั้งหมดที่มีทั้งสิ้น
เคร้ง!
ในที่สุด ปลายกระบี่ก็ปักลงบนหินก้อนนั้นได้ กระแสพลังสะท้อนกลับ ตัวกระบี่สั่นไหว ง่ามมือของนางแตกออกอย่างไร้สุ้มเสียง!
โลหิตสีแดงเข้มหลั่งไหลออกมา ทว่ายังไม่ทันจะหยดลงเบื้องล่างก็จับตัวแช่แข็งกันเสียแล้ว
ในไม่ช้า สองมือของฉู่หลิวเยว่ก็ปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งบางๆ ชั้นหนึ่ง
ไอเย็นสายนั้นหลั่งไหลเข้าปากแผลสู่ภายในกายนางอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเริ่มกัดกินไปทั่วร่างกาย!
นัยน์ตาของฉู่หลิวเยว่หดลงในพลันด้วยรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี จึงรีบเตรียมจะก้าวถอยหลังในทันใด!
ทว่ามันกลับสายไปเสียแล้ว!
ด้วยราวกับว่ามีกรงเล็บแหลมคมที่มองไม่เห็นปราดบุกเข้ามาในร่างของนายด้วยความเร็วและความว่องไวอันน่าหวาดหวั่น ทั้งยังเริ่มดึงเส้นลมปราณของนางอย่างรุนแรง!
ความเจ็บปวดแสนสาหัสแล่นปราดไปทั่วร่างกาย!
เปลวเพลิงสีทองรอบตัวนางเริ่มเผาไหม้ในความเร็วระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
ไม่ช้า ร่างของฉู่หลิวเยว่ก็ถูกฝังไว้ในไอเย็นหนาวยะเยือกถึงกระดูกภายในตาน้ำโดยสมบูรณ์!
เกล็ดน้ำแข็งสีเลือดบนมือของนางเองก็เริ่มแผ่ขยายไปทั่ว
เพียงชั่วครู่ ทั้งแขน ไหล่ แลลำคอของนางล้วนถูกห่อหุ้มด้วยเกล็ดน้ำแข็งชั้นหนึ่งแล้ว
ฉู่หลิวเยว่พยายามเงื้อมือขึ้นมาหวังจะกวัดแกว่งกระบี่ชื่อเซียวอย่างยากลำบาก
ทว่าในตอนนี้ สองมือของนางกลับมิอาจควบคุมไว้ได้ ทั้งยังเริ่มแข็งทื่อขึ้นมาหาสิ่งใดเปรียบมิได้
เพียงช่วงเวลาหนึ่งก้านธูป มือของนางก็ไร้เรี่ยวแรงจะหยิบจับได้อีก
กระบี่ชื่อเซียวร่วงหล่นลงไปอย่างเงียบงัน แหวกเอาคลื่นเล็กๆ ภายในตาน้ำ ก่อนจะร่วงลงไปบนหินก้อนนั้นที่อยู่เบื้องล่าง
ไอเย็นไหลพรู เกล็ดน้ำแข็งสีเลือดจัดการเคลือบเอากระบี่ชื่อเซียวทั้งเล่ม
ฉู่หลิวเยว่สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกบนดวงหน้าของตนเอง
นางรู้ว่าเป็นไอเย็นสายนั้นที่แผ่ขยายมาถึงใบหน้าของตัวเองแล้ว
ลมปราณที่ชวนให้คุ้นเคยแต่ก็แปลกสิ่งทำให้เสี้ยวหนึ่งในใจของนางสั่นระริกน้อยๆ
โชคร้ายที่พลังสายนี้แข็งแกร่งเกินไป นางจะดิ้นรนต่อต้านอย่างไรก็ล้วนแต่ปวกเปียกไร้ประโยชน์
ภายในตาน้ำอันลึกล้ำแลใสกระจ่างปรากฏสีเลือดเข้มข้นชั้นหนึ่งค่อยๆ แพร่กระจายออกไป
นั่นมิใช่โลหิตที่ติดเชื้อแต่อย่างใด หากแต่เป็นเกล็ดน้ำแข็งสีเลือดที่ค่อยๆ มารวมตัวกันจากก้นบึ้งที่ลึกที่สุดของตาน้ำ
ความรู้สึกนึกคิดของฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ พร่ามัวลงเรื่อยๆ
ไอเย็นที่ปกคลุมทั่วเข้าห่อหุ้มตัวนางอย่างหนักหน่วง
เปลือกตาของนางเริ่มหนักอึ้ง
หนาวจัง รู้สึกง่วงนัก…
ภายในตาน้ำแห่งนี้ ทั่วทุกทิศต่างก็เงียบสงัดไร้เสียง
ราวกับสุ้มเสียงของทุกสรรพสิ่งล้วนถูกกลืนกิน เงียบสงัดจนน่ากลัว
ภายในคลื่นน้ำใสสะอาดพลันมีกระแสคลื่นใหญ่ถาโถม
ทั่วทั้งร่างของฉู่หลิวเยว่ถูกเกล็ดน้ำแข็งสีเลือดห่อหุ้มโดยสมบูรณ์
ยามมองไปก็ดูราวกับงานแกะสลักที่ใช้หยกสีเลือดเป็นประกายแวววาวระยับมาบรรจงแกะสลัก
แกร๊ก!
รอยแตกรอยสุดท้ายพลันปรากฏ!
ลวดลายอันสมบูรณ์พร้อมอันหนึ่งปรากฏขึ้นบนหินก้อนนั้น!
ทันใดนั้นเอง ไอเย็นอันน่าหวาดหวั่นพลันระเบิดขึ้นมาประหนึ่งน้ำป่าไหลหลาก!
ตูม!
…………….