ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1525 ผนึกตารางชิงอวิ๋น!
ตอนที่ 1525 ผนึกตารางชิงอวิ๋น!
…………….
แบ่งพรรคแบ่งพวกกันเห็นๆ ชัดเจนในรักเสียยิ่งกระไร!
คำพูดของหรงซิวนั้นฟังดูสุภาพ แต่ถ้าแปลกันโต้งๆ ก็คือ นั่นคือคนของข้า เกิดเรื่องขึ้นมา ข้าจัดการเอง คนอื่นไม่ต้องมาสอด!
ฉู่หลิวเยว่ใจกระตุกเบาๆ ก่อนจะเอียงศีรษะไปมองหรงซิว
ไม่รู้ว่าในหัวกำลังคิดสิ่งใด แต่จู่ๆ นางก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ริมฝีบางสวยยกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม
ราวกับรับรู้ถึงการจ้องมองของนาง หรงซิวเองก็หันไปประสานสายตาเช่นกัน
ดวงตาทั้งสี่ประสาน เสมือนโหยหากันมานานนับพันปี
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นไหวประหนึ่งถูกบางสิ่งกระแทกเข้าให้ ความรู้สึกบางอย่างตีตื้นขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ สัมผัสรสเปรี้ยวอมหวานแผ่ซ่าน กลืนกินนางเข้าไปในห้วงความคิดอันลึกซึ้ง
แม้แต่ลมหายใจยังแผ่วเบาลงกว่าเดิม
ราวกับภาพเบื้องนางทั้งหมดเป็นเพียงความฝัน หากขยับตัวเพียงเล็กน้อย อาจทำให้มันแตกสลายหายไปได้
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันตลอด ทว่ายามยืนใกล้กันเช่นนี้ กลับรู้สึกราวไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน
มีเพียงความรู้สึกยามถูกปกป้องและถูกรักเท่านั้น ที่ยังวนเวียนอยู่ในจิตใจเสมอ
นานนับตั้งแต่อดีตกาลจนถึงตอนนี้ ความรู้สึกนั้นก็ยังเหมือนเดิม
หรงซิวกวักมือเรียกนาง
“เยว่เออร์ มานี่สิ”
เสียงทุ้มต่ำแลอ่อนโยนของบุรุษดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ มันคือความอ่อนโยนละมุนละไมที่คนอื่นไม่เคยได้พบเห็น
ฉู่หลิวเยว่ขยับปลายเท้า เตรียมเดินไปหาหรงซิว
แต่ทันทีที่ก้าวขาออกไป ก็ดันมีสุ้มเสียงคมชัดดังมาจากด้านล่าง
ฉู่หลิวเยว่พลันก้มมองด้านล่าง รูม่านตาหดตัวลง!
ตาน้ำผุดบนยอดเขาหมื่นเมรัยบ่อนั้น ถูกแช่แข็งโดยสมบูรณ์!
น้ำแข็งใสราวอัญมณีปกคลุมไปทั่วตาน้ำพุ และก่อตัวเป็นชั้นน้ำแข็งหนา
ครั้นปรายตามองก็จะเห็นแสงระยิบระยับและเย็นยะเยือกที่สะท้อนออกมา
ราวกับว่าสังเกตเห็นสีหน้าที่แปลกไปของนาง หรงซิวพลันใจกระตุกวูบ แล้วก้มลงมองด้านล่าง
ไอเย็นเฉียบแวบผ่านนัยน์ตาของเขา!
เปรี๊ยะ!
เกิดรอยแตกร้าวยาวหนึ่งชุ่นขึ้นบนพื้นน้ำแข็งที่ปกคลุมตาน้ำพุไว้!
เมื่อได้ยินเสียงนี้ ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ก็หันมามองอย่างว่องไว
ครั้นเห็นว่าตาน้ำพุถูกแช่แข็งจนหมด สีหน้าของใครหลายคน ก็เปลี่ยนไปทันที!
“เร็วเข้า! รีบเรียกทัณฑ์สวรรค์ออกมา!”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตะโกนอย่างร้อนรน!
ก่อนห้นานี้พวกเขาเอาแต่สนใจนังหนูเยว่เออร์ จนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปชั่วขณะ!
“ไม่ทันแล้ว!”
ผู้อาวุโสโอวหยางหันไปมองตาน้ำพุที่ว่างเปล่า ใบหน้าของชายชราซีดเผือด
“ทัณฑ์สวรรค์จากการกลั่นอาวุธธรรมดา ใช้กับเจ้านี่ไม่ได้”
ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาน่าเสียวน่าขวานเช่นนี้ ใครมันจะยังมีกระจิตกระใจเรียกทัณฑ์สวรรค์ออกมากัน!
ความจริงแล้วตาน้ำพุบ่อนี้ น่าจะถูกแช่แข็งไปนานแล้ว แต่ระหว่างนั้นฉู่เยว่กลับทะลวงขั้นพลังปราณ ทำให้ทัณฑ์ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏตัวขึ้นมา และทำให้ทุกอย่างล่าช้า
แต่ยามนี้ทัณฑ์อันศักดิ์สิทธิ์หายไปแล้ว เหลือเพียงตาน้ำพุบ่อนี้…
ไม่มีใครหยุดมันได้อีกแล้ว!
แกรก!
ถัดจากรอยแตกแรก ปรากฏรอยแตกที่สองขึ้น
ซึ่งรอยแตกนี้ไม่เพียงปรากฏบนพื้นผิวน้ำแข็ง แต่ยังปรากฏที่ด้านล่างด้วย
แผ่นน้ำแข็งแตกร้าว รอยแตกแยกกระจายตัวออกไปด้วยความยาวที่ต่างกัน
แต่รอยแตกสองเส้นที่ปรากฏตอนนี้ กลับมีความยาวเท่ากันและเป็นเส้นตรง
ถึงจะพูดว่ารอยแตก แต่มันดูเหมือนมีมีดที่มองไม่เห็น เฉือนลงบนแผ่นน้ำแข็งจนเป็นรอยแตกเสียมากกว่า
ไม่นานก็มีรอยเส้นที่สามปรากฏขึ้นด้านข้าง
เส้นนี้ตวัดโค้งเล็กน้อย เผยให้เห็นเส้นโค้งที่สมบูรณ์แบบ
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเพราะถูกควบคุมจาพลังปราณภายนอกต่างหาก!
หรงซิวขมวดคิ้วฉับ แล้วรีบจัดการทันที!
เปลวไฟสีทองบินพุ่งทะยานออกไปอย่างไว!
ยามนี้ไม่มีทัณฑ์สวรรค์ที่ฟาดฟันลงมาอย่างต่อเนื่องแล้ว และเหมือนว่าจะไม่มีค่ายกลโปร่งใส ที่คอยปิดกันตาน้ำจากทัณฑ์สวรรค์แล้วด้วย
เปลวไฟสีทองสายนั้น พุ่งตรงไปยังชั้นน้ำแข็ง!
ทว่าแม้นเปลวไฟจักลุกไหม้เพียงใด แต่ก็เหมือนว่าชั้นน้ำแข็งด่านล่างจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
รอยแตกปรากฏบนแผ่นน้ำแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับค่อยๆ ก่อตัวเป็นลวดลายบางอย่าง
เปลวไฟสีทองที่ลุกไหม้ดับลงอย่างรวดเร็วและสลายไปอย่างเงียบๆ
หัวใจของหรงซิวจมดิ่ง พลันตวัดสายตาไปมองฉู่หลิวเยว่
ยามนี้นางกำลังจ้องมองตาน้ำ ดวงตากลมมืดแสง เสมือนกำลังเข้าสู่การห้วงแห่งจิตใต้สำนึก
หรงซิวแอบรู้สึกแปลกๆ พลันขยับตัวและบินไปหาฉู่หลิวเยว่ในทันที!
เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก เพียงพริบตาก็มาอยู่ตรงหน้าฉู่หลิวเยว่แล้ว
เขาคว้าหมับเข้าที่มือบางของฉู่หลิวเยว่
“เยว่เออร์!”
ฉู่หลิวเยว่พลันได้สติอีกครั้ง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา
“…หรงซิว”
น้ำเสียงของนางแผ่วเบา ทว่าหนักแน่นในความรู้สึก
“ข้าต้องลงไป”
หรงซิวบีบกระชับมือนางทันที!
ข้างล่างนั้นอันตรายเพียงใด นางเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้!
แม้ว่าตอนนี้นางจะได้อาณาเขตเซียนเทพกลับคืน และทะลวงขึ้นสู่ระดับเทพขั้นสูงได้แล้ว แต่ถ้าหุนหันพลันแล่นออกไป ก็อาจเสี่ยงต่อชีวิตได้เช่นกัน!
“ข้าจะไปแทนเจ้า!”
หรงซิวกล่าวเสียงเข้ม
ฉู่หลิวเยว่ระบายยิ้มบางเบา สอดนิ้วประสานเข้ากับมือหนาของเขา
“เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะข้า แน่นอนว่าควรเป็นข้า ที่ต้องรับผิดชอบ”
ถ้าถวนจื่อไม่ได้กลืนกินพลังของทัณฑ์สวรรค์เหล่านั้นเข้าไป เรื่องราวต่างๆ คงไม่บานปลายเช่นนี้
“ข้าจะรีบกลับมา”
นางเอ่ยเช่นนั้น พลางมองหรงซิวด้วยสายตาแน่วแน่
หรงซิวยังคงจับมือนางไว้แน่น ดวงตาเรียวคมราวปักษาดำมืด!
“ครั้งก่อนเจ้าก็พูดแบบนี้!”
แต่เรื่องราวหลังจากนั้น มันยิ่งกว่าตายทั้งเป็นเสียอีก!
ตัวเขานั้นทั้งเบิกฟ้าดำดิ่งใต้พสุธาค้นหานาง ไม่ง่ายเลยกว่าจะพานางกลับมาได้ แต่ตอนนี้ไม่ทันที่เขาจะได้กอดนางสักครา กลับถึงคราต้องเสียนางไปอีกครั้ง!
เขาไม่มีวันยอมเด็ดขาด!
“ถึงไม่มีเจ้า ไม่ช้าก็เร็ว ตาน้ำพุนี่ก็จักระเบิดอยู่ดี!”
สีหน้าของหรงซิวเย็นชายิ่งยวด น้อยครั้งที่จะเห็นเขาเป็นแบบนี้
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาพยายามอย่างหนัก แม้กระทั่งผนึกวิญญาณและความทรงจำของนางไว้ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เดียวกันนี้ เกิดขึ้นซ้ำสอง
แต่…
ความเร็วในการฟื้นตัวของนาง เกินความคาดหมายของเขาไปมาก
มากเสียจนก่อนที่ปัญหาของตาน้ำพุจะคลี่คลาย นางก็ระลึกได้เสียก่อนแล้ว!
“แต่สุดท้ายก็เป็นเพราะข้า ที่สร้างปัญหาให้ทุกคน”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหัวยิ้มๆ
หัวใจของหรงซิวค่อยๆ จมลงทีละนิด
แกรก!
รอยแตกร้าวปรากฏบนชั้นน้ำแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนจ้องมองลวดลายที่ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างของมัน ในใจแอบคุ้นเคยแปลกๆ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
ความคิดในหัวตีรันฟันแทงไปมา พยายามนึกให้ออกว่ามันคืออะไร แต่กลับมีเพียงความว่างเปล่าผุดขึ้นมาในหัว
อายเย็นค่อยๆ แผ่กระจายออกมาจากตาน้ำ
บนยอดเขา ชั้นน้ำแข็งบางๆ ค่อยๆ แผ่ขยายและปกคลุมไปทั่วตาน้ำพุ
ราวกับเกล็ดหิมะสีขาวที่ตกลงมาในยามเช้าตรู่ของต้นฤดูหนาว
และไม่นาน ก้อนหินบนเขาก็แข็งตัว ต้นไม้พลันเหี่ยวเฉา
ทุกสรรพสิ่งบนภูเขาหมื่นเมรัยราวถูกเกล็ดหิมะสีขาว พรากเอาพลังชีวิตไปอย่างง่ายดาย
ต้นไม้ใบหญ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา และตายไปอย่างรวดเร็ว
ไม่นานเกล็ดหิมะสีขาวก็แผ่กระจายจากยอดเขาสู่กลางภูเขา และไล่ลงมาถึงเชิงเขา
เงียบสงบไร้สุ้มเสียง แต่กลับน่ากลัวแปลกๆ!
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ต่างหน้าถอดสี
ทันใดนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ก้าวไปข้างหน้า
เดิมทีนางกับหรงซิวยืนอยู่ใกล้กันมาก แต่ตอนนี้คนทั้งสองนั้นใกล้กันจนแทบสัมผัสได้ถึงอีกคน
จากนั้นนางก็คว้าคอเสื้อของหรงซิว แล้วดึงเขามันลง
ปลายเท้าเล็กเขย่งขึ้น พลางเชิดใบหน้านวล แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของเขา
นุ่มนวลและเย็นเฉียบ
“หรงซิว”
นางขยับปากเอื้อนเอ่ย ก่อนจะเค้นพูดผ่านไรฟันทีละคำ
“ปลดผนึกตารางชิงอวิ๋นเถอะ”
…………….